จอคอมแต่ละแบบมีอะไรบ้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์ในด้านของมัลติมีเดีย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ถูกปรับปรุงพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ตลอดจนอุปกรณ์คอพิวเตอร์เกือบทุกชนิด อย่างเช่น จอคอม ก็ถูกพัฒนาตามกันไปเรื่อยๆ เพื่อให้การรับการแสดงภาพที่ชัด เหมือนจริงมากขึ้น ทำให้ในตลาดมี จอคอม มีการผลิตออกมาหลากหลายแบบให้เลือกซื้อ คนส่วนมากอาจจะยังไม่รู้ว่า จอชนิดไหนเหมาะกับการใช้งานของเรา วันนี้เราจึงเอาจอคอมพิวเตอร์แต่ละชนิดมาให้เรียนรู้กัน เพื่อจะได้เลือกซื้อได้อย่างตรงความต้องการและลักษณะการใช้งาน
 1. จอ LCD (Liquid Crystal Display)จอคอมพิวเตอร์ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาจากจอ CRT ใช้การแสดงผลแบบดิจิทัล มีรูปร่างแบน บาง และยังมีดีไซน์ที่สวยงาม โมเดิร์นทันสมัย และหรูหรา อีกทั้งยังราคาไม่แพง ทำให้ได้รับความนิยมมากๆ ในยุคปัจจุบัน จุดเด่นของหน้าจอคอมชนิดนี้คือ ถนอมพลังงานเยอะ แต่มีจุดด้อยตรงที่ไม่สามารถมองจอภาพได้จากทั่วทุกทิศทุกทาง แง่คิดการเห็นภาพนั้นจะค่อนข้างจะแคบ เหมาะกับการใช้งานทุกชนิด 2. จอ LED (Light Emitting Diode)จอ LED หรือที่คนส่วนมากเรียกกันว่า จอ OLED (Organic Light Emitting Devices) เป็นจอมอนิเตอร์รุ่นล่าสุดที่ถูกวิวัฒน์ให้เกิดภาพและสีที่คมและชัดเจนกว่าจอคอมพิวเตอร์แบบอื่นๆ และมีตำแหน่งการตอบสนองของภาพรวดเร็วกว่าจอคอมแบบอื่นๆ และยังไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของมุมมองและอัตราการสนองของภาพยังเร็วกว่าจอ LCD และยังช่วยถนอมพลังงานได้ดีกว่าด้วย แต่ข้อด้อย คือ ยังมีราคาที่แพงอยู่หากเทียบกับจอ LCD3. จอ IPS (In-Plane Switching)เชื่อว่าหลายคนเมื่อไปซื้อคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กมักจะเห็นคำนี้อยู่ด้วย เนื่องจากกำลังแพร่หลายและได้รับความชื่นชมอย่างเต็มที่ จอชนิดนี้ใช้เทคโนโลยีในการผลิตจอแบบ LED แต่ตามที่เป็นจริงแล้วคือ มอนิเตอร์ LCD แต่ใช้ black light เป็น LED นั่นเอง ซึ่งจอ IPS จะมุ่งเน้นในหัวข้อความแม่นยำของสีเป็นพิเศษจึงถึงที่เหมาะกับการทำงานที่ให้ความสลักสำคัญกับในเรื่องของภาพ เช่น การทำงานกราฟฟิก ตัดต่อ เป็นต้น
ข้อดีของจอ IPS คือ อดออมไฟ ให้ White balance ที่เป็นธรรมชาติ ให้สีสัน ความแน่นอนของสีที่สูงและสมจริงกว่าจอชนิดอื่นๆ ไม่ค่อยมีขีดจำกัดในเรื่องของการเห็น และยังมีการตอบสนองที่โดยฉับพลัน ให้ความละเอียดภาพที่สูง ซึ่งแม้อดีตจะมีราคาที่สูง แต่ปัจจุบันได้ถูกปรับเพลาลงมา ทำให้ผู้คนเข้าถึงได้เพิ่มมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านี้ ผู้ผลิตจอคอมในสมัยนี้ยังให้ความสำคัญกับผู้ใช้งาน จึงใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา อย่างเช่น เทคโนโลยีตัดแสงสีฟ้า (Low Blue Light) เพื่อทะนุถนอมสายตาของผู้ใช้งานให้ใช้งานได้สบายตาขึ้น ลดอาการอ่อนล้าของสายตาที่เกิดจากสเปคตรัมแสงสีฟ้า แต่ข้อบกพร่องของมันคือ ภาพที่เห็นจะออกเป็นโทรเหลืองกว่าปกติ
เหนือจากการตัดแสงสีฟ้าแล้ว อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยในการถนอมสายตาได้ก็คือการปรับระดับแสงและอุณหภูมิสีอัตโนมัติให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพื่อลดอาการล้าของสายตาเมื่อต้องใช้งานเป็นช่วงเวลานาน ๆ เพื่อให้สายตาไม่รับการงานหนักจนเกินไป
| Create Date : 16 สิงหาคม 2562 |
| Last Update : 16 สิงหาคม 2562 18:26:18 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 4042 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
