|
เทคนิคการเจรจาต่อรอง สำหรับคนใจอ่อน : คนขี้เกรงใจ พูดไม่เก่งก็เจรจาต่อรองได้สำเร็จ
สวัสดีค่ะ 
ช่วงนี้ทักทายเพื่อน ๆ บ่อยสักหน่อย เพราะใกล้วันปีใหม่เข้ามาทุกที วันนี้ เราก็มีหนังสือใหม่มาแนะนำเพื่อเป็นของขวัญที่ให้ทั้งความรู้และเคล็ดลับดี ๆ ค่ะ นั่นก็คือ เทคนิคการเจรจาต่อรอง สำหรับคนใจอ่อน
หนังสือที่จะเปลี่ยนความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า คนใจอ่อน ขี้เกรงใจ ไม่กล้าปฏิเสธ ต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการเจรจาต่อรอง

เทคนิคการเจรจาต่อรอง สำหรับคนใจอ่อน โดย : TANIHARA Makoto (ทานิฮาระ มาโกโตะ) แปลและเรียบเรียงโดย : ชไมพร สุธรรมวงศ์ จำนวนหน้า 232 หน้า หมวด : การบริหาร-จัดการธุรกิจ
หากพูดถึงการเจรจาต่อรอง คนส่วนใหญ่คงจะคิดว่าคนพูดเก่ง ปากกล้า ใจกล้าเท่านั้นที่จะต่อรองได้ชนะและสำเร็จ และคิดว่าคนขี้เกรงใจ ใจอ่อน ไม่กล้าปฏิเสธ ไม่กล้าตอบโต้ จะต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบและพ่ายแพ้ในการเจรจาต่อรองอย่างแน่นอนใช่ไหมคะ
โดยเรามาลองวิเคราะห์หาจุดอ่อนของตัวเราเอง และหาคำตอบว่าคนอ่อนนั้นเจรจาได้ผลอย่างไร แล้วเรียนรู้เทคนิคการต่อรองที่ช่วยให้กลับมาเอาชนะและเทคนิคการปฏิเสธสำหรับคนที่ปฏิเสธไม่เป็น รวมไปถึงฝึกเตรียมบทสนทนาล่วงหน้าและเรื่องที่ควรเตรียมไว้ก่อนการเจรจา
นอกจากเทคนิคและเคล็ดลับแล้วยังมีตัวอย่างบทสนทนาในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ได้ทั้งในธุรกิจ การทำงาน และชีวิตส่วนตัว กลั่นกรองจากประสบการณ์ตรงของทนายความผู้มีอดีตเป็นเด็กขี้แพ้ ไม่กล้าตอบโต้ ไม่กล้าปฏิเสธคนอื่น แต่ปัจจุบันเป็นนักต่อรองฝีมือฉกาจ
เราจะขอยกตัวอย่างสัก 3 เทคนิค
เทคนิคที่ 1 คือ "ขอพัก" หรือ "ขอเริ่มใหม่" สำหรับจัดการคนพูดเก่งเป็นปืนกล
หากใครเป็นคนพูดไม่เก่ง แล้วต้องเจรจากับคนพูดเก่งเป็นปืนกล เราก็ควรทิ้งช่วงระหว่างการเจรจาด้วยการขอเวลานอก เช่น "ขอพักหน่อยนะครับ" "มีโทรศัพท์ด่วนเข้า ขอตัวสักครู่นะคะ" "ขอไปห้องน้ำหน่อยนะครับ"
เทคนิคนี้จะช่วยให้เรามีเวลาพิจารณาคำพูดของอีกฝ่าย โดยเราก็จะไม่เผลอตอบออกไปโดยไม่ได้คิดไต่ตรองให้ดี ซึ่งจะทำให้เสียเปรียบ โดยเฉพาะเวลาที่อีกฝ่ายให้ตอบตกลงทันทีหรือเวลาที่ถูกรุกเร้า มาก ๆ
เทคนิคที่ 2 ถ้าใจอ่อน จงใช้พลังอย่างอื่นขู่แทนตัวเอง
การขู่เข็ญเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการต่อรอง แต่จะให้คนใจอ่อนไปขู่อีกฝ่ายให้กลัวจนยอมทำตามเหมือนอย่างยากูซ่า (นักเลงญี่ปุ่น) ก็คงยาก
ดังนั้นการขู่ของคนใจอ่อนต้องเริ่มจากเปลี่ยนรูปแบบของการพูดขู่ มาเป็นทำนองว่า หากอีกฝ่ายพบเจอสถานการณ์นั้นจะทำให้ตัวเองเสียเปรียบ เช่น "ยอมกว่านี้ไม่ได้เลยหรือครับ ถ้าเลยวันที่ 30 มิถุนาไป เรื่องก็จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้วนะครับ" เป็นต้น ให้พูดทำนองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้มาจากความตั้งใจของเรา เช่น
"หากไม่ตัดสินใจตอนนี้ คนที่จะมาดูแลเรื่องนี้ก็จะเปลี่ยนไปเป็นผู้จัดการของสำนักงานใหญ่ ซึ่งเข้มงวดกว่าผมอีกนะครับ" เป็นต้น
และวิธีพูดขู่แบบนี้ใช้ได้ผลเหมือนกับการพูดขู่ตรง ๆ เลยค่ะ
เทคนิคที่่ 3 หมัดสวน "ครอสเคาน์เตอร์ (cross counter)" สำหรับบางคนที่ยัง Say no ไม่ได้สักที เราก็มีไม้เด็ดที่เรียกว่า "ครอสเคาน์เตอร์" มาแนะนำค่ะ
ครอสเคาน์เตอร์ เป็นเทคนิคเหมือนกับการต่อยมวยนั่นแหละค่ะ เพียงแค่ให้คู่ต่อสู้ปล่อยหมัดออกมาก่อน แล้วเราก็สวนหมัดหรือข้อเรียกร้องออกไปให้โดนอีกฝ่ายทันที เนื่องจากอีกฝ่ายมัวจดจ่ออยู่กับการเล็งหมัดให้โดนเรา การป้องกันตัวจึงน้อยลงและเปิดเป็นช่องว่างขึ้น ทำให้เรามีโอกาสและบอกข้อเรียกร้องออกไป จึงทำให้สามารถน็อกดาวน์อีกฝ่ายได้ค่ะ
เช่น หากเจอลูกค้าที่ชอบบังคับให้เราแถมของให้ด้วยคำพูดประมาณว่า "ไม่เป็นไรน่า เราค้าขายกันมาตั้งนานแล้ว ยังไงคราวหน้าผมก็จะซื้อของคุณอีก"
ก็ให้สวนหมัดกลับไป เช่น "ขอบคุณครับที่ใช้บริการของเราเสมอ สำหรับเซอร์วิสนี้ เดี๋ยวผมจะคำนวณราคาให้" หรือ "ถ้าอย่างนั้น สินค้าที่อยู่ในระหว่างการต่อรองอีกลอตหนึ่ง กรุณาสั่งภายในเดือนนี้เลยนะครับ แล้วผมจะให้เซอร์วิสนี้โดยไม่คิดราคา" เป็นต้น เราสามารถสวนกลับไปในช่องว่างนั้นด้วยการเรียกร้องสิ่งที่เราต้องการ
นอกจากเทคนิคดี ๆ แล้ว เราขอยกบางเคล็ดลับดี ๆ มาแนะนำค่ะ
เคล็ดลับที่ 1 ทิ้งเรื่องแพ้-ชนะ หากจะต่อรองให้เก่ง สิ่งแรกที่เพื่อน ๆ ควรทิ้งก็คือ เรื่องแพ้-ชนะ เพราะเราจะถูกทิฐิบังตา จนมองไม่เห็นทางออกหรือช่องทางการเอาชนะ
เคล็ดลับที่ 2 ให้อีกฝ่ายพูดในสิ่งที่ต้องการจนหมดก่อน หากจะให้สิ่งที่เราพูดซึมซับเข้าไปในหูของอีกฝ่าย เราต้องให้อีกฝ่ายพูดก่อน เพราะคนเรานั้นหากยังไม่ได้พูดสิ่งที่ตนเองต้องการ ก็จะไม่ตั้งใจฟังคนอื่นพูด และเราก็จะได้รวบรวมข้อมูลในสิ่งที่เขาพูดได้อีกด้วย
เห็นไหมคะว่า ไม่จำเป็นต้องพูดเก่ง ใจกล้า ก็มีเทคนิคและเคล็ดลีบดี ๆ อีกมากมายที่จะช่วยให้เจรจาต่อรองได้สำเร็จ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนบุคลิกหรือไม่ต้องฝืนใจเลยค่ะ ไม่ใช่เฉพาะคนใจอ่อน ขี้เกรงใจเท่านั้น สำหรับนักเจรจาต่อรองทั่วไปหรือผู้ที่เริ่มต้นการเจรจา ก็สามารถนำไปใช้ได้เช่นกันค่ะ
จริง ๆ แล้ว เราทุกคนต้องเจอะเจอสถานการณ์ที่ต้องมีการต่อรองอยู่ตลอดเวลา หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้ต่างฝ่ายต่างได้ในสิ่งที่ต้องการ โดยไม่มีใครเสียเปรียบมากเกินไป
และเวลานี้ก็เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี ซึ่งเดือนนี้มีวันหยุดหลายวัน บางคนอาจจะพักผ่อนอยู่บ้าน เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ หากใครที่ต้องเดินทางก็ขอให้เดินทางโดยปลอดภัยนะคะ
-----------------------------------------------------------------
แวะชมหนังสือใหม่ของ ส.ส.ท. ได้ที่นี่
Create Date : 09 ธันวาคม 2553 |
Last Update : 9 ธันวาคม 2553 14:18:12 น. |
|
7 comments
|
Counter : 11166 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: พ่อระนาด วันที่: 9 ธันวาคม 2553 เวลา:11:16:49 น. |
|
|
|
โดย: Junenaka1 วันที่: 9 ธันวาคม 2553 เวลา:14:20:19 น. |
|
|
|
โดย: spiyaart วันที่: 9 ธันวาคม 2553 เวลา:15:14:07 น. |
|
|
|
โดย: textbook วันที่: 9 ธันวาคม 2553 เวลา:15:29:06 น. |
|
|
|
โดย: is_ninja วันที่: 9 ธันวาคม 2553 เวลา:22:54:35 น. |
|
|
|
โดย: textbook วันที่: 23 ธันวาคม 2553 เวลา:21:49:40 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]

|
สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. สรรค์สร้างสาระสู่สังคม มุ่งมั่นผลิตตำราวิชาการและหนังสือเทคโนโลยีสาขาต่าง ๆ การบริหารจัดการ ด้านส่งเสริมการศึกษา เพื่อการพัฒนาตนเองและองค์กร สำหรับภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม
|
|
|
|
|
|
|