Group Blog
 
<<
มกราคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
18 มกราคม 2549
 
All Blogs
 
จอมจักรพรรดิ์ ฮั่นอู่ตี้ ภาค 1 - ตอนที่ 9, 10


สารบัญ | ตอนที่แล้ว | ตอนที่ 9 | ตอนที่ 10 | ตอนถัดไป
ตอนที่ 9 จับดีไม่จับดี

ตีพิมพ์ครั้งแรก :
ปรับปรุงแก้ไข :



ที่ศาลากลางของเมืองเยี่ยนชื่อ

ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์การทำร้ายจางเชียนได้นำร่างของจางเชียนมาร้องขอ
ความเป็นธรรมต่อเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อ ให้ช่วยจัดการนำตัวคนร้ายมาลงโทษ
เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อถามขึ้นว่า “แล้วผู้เสียหายล่ะ”
หลิวอี้เดินเข้าไปในกลุ่มชาวบ้าน เห็นร่างของจางเชียนนอนอยู่จึงตรวจดูลมหายใจ
ของจางเชียนแล้วตอบกลับมาว่า “เสียชีวิตแล้ว”
“กลางวันแสกๆ ยังกล้าฆ่าคนในเขตพื้นที่ของข้า ช่างบังอาจนัก”
เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห แล้วร้องบอกหลิวอี้ให้ไปตามจับตัวคนร้าย
มาให้ได้

**********

หลิวอี้พร้อมทหารพาพยานที่อยู่ในเหตุการณ์คนหนึ่งไปตามจับตัวคนร้ายด้วยกัน แต่
ผู้ต้องสงสัยแต่ละคนที่จับมาได้ก็หาใช่คนที่ฆ่าจางเชียนไม่ หลิวอี้จึงเอ่ยถามพยาน
“เจ้ารู้ชื่อของคนร้ายหรือไม่”
“ดูเหมือนคนร้ายจะถูกเรียกว่า จิ่วเกอ พยานตอบ
“เจ้าว่าไงนะ จิ่วเกอรึ” หลิวอี้เอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ

**********

ที่ห้องพักของไท่จื่อซึ่งอยู่ชั้นสองของตัวตึก
ไท่จื่อพูดกับอ๋องกระต่ายที่จับมาได้ว่า “ไม่ต้องกลัว เจ้ากระต่ายน้อย ข้าไม่ทำร้ายเจ้า
หรอก แต่ค่ำวันนี้ ข้าจะพาเจ้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง นำเจ้าไปมอบให้เป็นของขวัญแก่
สาวงามคนหนึ่ง เมื่อเค้าเห็นเจ้าจะต้องชอบเจ้า กอดเจ้าและก็จูบ(亲亲)เจ้า ดูแล
เจ้าเหมือนกับเป็นลูกสาวสุดที่รัก(掌上明珠) ไม่แน่นะอาจจะนำเจ้าไปนอนด้วยก็ได้”

“แต่ว่า งานนี้ข้าคงต้องพึ่งพาเจ้า เพราะข้าคงจะทำด้วยตนเองไม่ได้ เจ้าต้องใกล้ชิดนาง
จูบและก็สูดกลิ่นหอมๆบนเส้นผมของนางแทนข้า เข้าใจหรือเปล่า”
ไท่จื่อพูดไปยิ้มไป

กัวเส่อเหรินวิ่งเข้ามาบอกไท่จื่อ จิ่วเกอ จางทังหงุดหงิดมากๆเลยล่ะตอนนี้”
ไท่จื่อละความสนใจจากอ๋องกระต่ายหันไปคุยกัวเส่อเหรินว่า
“หงุดหงิดไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะยังไงข้าก็ต้องการให้เค้าไปกับข้า”
“ข้าเห็นด้วย”
“ตั้งแต่นับถือเป็นพี่น้องกันมา เมื่อมีทุกข์ก็ต้องร่วมทุกข์ มีสุขก็ต้องร่วมสุขด้วยกัน
เจ้าว่าอย่างงั้นไหม กัวเส่อเหริน

“ข้าก็ว่าอย่างงั้น” กัวเส่อเหรินพูดสนับสนุน
ไท่จื่อเอ่ยต่อไปว่า “ข้าอยากจะดูสิว่า คนใจแข็งอย่างจางทัง เวลามีสาวงามมาอยู่ใน
อ้อมกอด ใจของเค้าจะหลอมละลายจนอ่อนปวกเปียกหรือไม่”

“ต้องใจอ่อนอย่างแน่นอน” กัวเส่อเหรินตอบแล้วก็หัวเราะคิกคักไปกับไท่จื่อ

ทันใดนั้นเองอ๋องกระต่ายก็วิ่งกระโดดหนีออกไปที่นอกหน้าต่าง ไท่จื่อเห็นเข้ารีบวิ่งกระโดด
ตามไปหมายจะจับตัวอ๋องกระต่ายให้ได้ แต่ก็พลาด กัวเส่อเหรินตกใจที่เห็นไท่จื่อกำลังจะ
ร่วงหล่นไปที่ด้านล่าง จึงร้องโวยวายเสียงดังให้คนช่วย พร้อมกับวิ่งเข้าไปดึงตัวไท่จื่อไว้ได้
ทัน หลี่หลิงกับก้วนฟูได้ยินเสียงเอะอะ จึงรีบวิ่งเข้ามาช่วยดึงตัวไท่จื่อไว้ได้อีกสองแรง

แทนที่ไท่จื่อจะห่วงชีวิตของตนเองกลับโวยวายขึ้นว่า “พวกเจ้ามารั้งตัวข้าไว้ทำไมกัน
ดูสิอ๋องกระต่ายหนีไปแล้ว พวกเจ้าทั้งสามคนรีบไปตามจับกลับมาเดี๋ยวนี้เลย”


**********

ภายในจวนของเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อ
หลิวอี้กำลังรายงานเรื่องราวให้เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อทราบ
“พบที่หลบซ่อนตัวของฆาตกรแล้ว ทำไมเจ้าไม่คุมตัวกลับมาด้วย” เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อถามขึ้น
“ท่านพ่อ ลูกไม่กล้าลงมือ”
“เจ้าไม่ต้องกลัว ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ในเมื่อฆ่าคนก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต(杀人偿命)”
“แต่ว่าท่านพ่อ คนผู้นี้เป็นคนที่ท่านได้เอ่ยถึงเมื่อวานนี้เอง”
“เจ้าว่าไงนะ” เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อมีน้ำเสียงตกใจเล็กน้อย
หลิวอี้บอกรายละเอียดเพิ่มเติมว่า“พวกเค้ามีกันแค่สี่ห้าคน การจะจับตัวมานั้นไม่ยากเลย
แต่ที่จะลำบากก็คือการปล่อยตัวนี่สิ”

“พวกเจ้าทำอะไรให้พวกเค้ารู้ตัวหรือเปล่า”
“เปล่า”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อเอ่ยขึ้นพร้อมกับครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป
หลิวอี้ร้อนใจเอ่ยถามขึ้น “ท่านพ่อคิดว่า ควรจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรดี”
“เจ้าให้คนคอยจับตาดูพวกเค้าไว้หรือเปล่า”
“เพียงแต่ท่านพ่อคิดอยากจะจับตัวแล้วล่ะก็ คนพวกนั้นไม่มีทางหนีรอดไปได้(插翅难飞)”
หลิวอี้ตอบพร้อมทั้งเสนอความเห็นต่อไปว่า “เอาอย่างนี้ไหมท่านพ่อ พวกเราช่วยสงเคราะห์
พวกเค้าด้วยการส่งตัวออกไปที่นอกเมือง แค่นี้ก็เรียบร้อย”

เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อถอนหายใจ “จะจับตัวก็ไม่ได้ จะปล่อยตัวก็ไม่ได้ ตัดสินลำบากจริงๆ”

“ท่านเจ้าเมืองข้าขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย ยินดีด้วยจริงๆ”
จู่ๆบุรุษลึกลับก็โผล่เดินเข้ามาแสดงความยินดีกับเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อ
[บุรุษในชุดสีดำคนนี้ ยังไม่ทราบว่ามีชื่อแซ่ว่าอะไร แต่ทว่าเป็นคนเดียวกันกับคนที่เคยมาหา
เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อในครั้งที่แล้ว และเป็นคนของอ๋องเหลียงหวังที่ถูกส่งมาเพื่อคอยติดตาม
การเคลื่อนไหวของไท่จื่อ]

หลิวอี้เอ่ยถามขึ้น “เจ้าเข้ามาในนี้ได้อย่างไร”
เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อยกมือห้ามหลิวอี้ แล้วหันไปพูดกับบุรุษลึกลับด้วยความสงสัย
“ท่านแสดงความยินดีกับข้าในเรื่องอะไรหรือ”
“ข้ายินดีที่ท่านไม่ได้ทำให้ความหวังของอ๋องเหลียงหวังต้องสูญเปล่า ที่ในที่สุดไท่จื่อก็ถึง
คราวต้องสิ้นชื่อ นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าแสดงยินดีหรอกรึ”

เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อถอนหายใจเอ่ยขึ้นว่า “ข้ายังไม่รู้จะจัดการอย่างไรเลย ยังไงเค้าก็เป็นถึง
องค์รัชทายาท”

“เพียงแค่ท่านทำให้เค้ายอมรับให้ได้ว่าตนเองคือองค์รัชทายาท เรื่องนี้ก็จบแล้ว” พอบุรุษลึกลับ
พูดจบหลิวอี้ก็เอ่ยขึ้นบ้างว่า “ท่านพ่อ หากจะทำให้เค้ายอมรับว่าเป็นองค์รัชทายาทนั้นง่าย
นิดเดียว เพียงแค่ข้าไปจับตัวกลับมาสอบสวนก็ทราบเรื่องแล้ว”

เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อตวาดกลับไปว่า “เจ้าพูดจาเหลวไหล ขุนนางผู้น้อยกระทำการแบบนี้เท่ากับ
ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อเบื้องสูง มีโทษหนักเลยทีเดียว ไม่ได้ยังไงก็จับตัวเค้ามาไม่ได้”


**********

หลังจากที่อ๋องกระต่ายวิ่งหนีหายไปแล้ว ไท่จื่อเองก็มืดแปดด้านไม่รู้ว่าจะไปตามหาตัวได้ที่ไหน
แต่ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า มีอยู่คนหนึ่งที่น่าจะบอกได้ว่าอ๋องกระต่ายตอนนี้หลบหนีไปอยู่ที่ใด จึงรีบ
เดินทางไปหาคนผู้นั้นทันที




ตอนที่ 10 ไท่จื่อถูกจับ

ตีพิมพ์ครั้งแรก :
ปรับปรุงแก้ไข :


คนที่ไท่จื่อต้องการจะพบในตอนนี้ก็คือตงฟางซั่ว เมื่อไปถึงเห็นตงฟางซั่วยืนอยู่ที่หน้าร้าน
ไท่จื่อแทบจะกระโดดเข้ากอด รีบเข้าไปเอ่ยถามด้วยความร้อนใจว่า
“ท่านซินแสตงฟาง ท่านช่วยทำนายให้ข้าทีสิ ว่าตอนนี้อ๋องกระต่ายวิ่งหนีไปหลบอยู่ที่ไหน”
“ขอโทษด้วยคุณชาย วันนี้ข้าให้คำทำนายไปครบสามรายแล้ว คงทำนายให้ท่านไม่ได้”
“ท่านอย่ามาอ้างโน่นอ้างนี่เลยดีกว่า ท่านทำนายไม่ได้ก็บอกมาเถอะ” ไท่จื่อพูดดูถูกเล็กน้อย
ตงฟางซั่วเอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้มือไปที่เก้าอี้ว่า“งั้นท่านมองดูที่ตรงนั้นสิ ว่านั่นคืออะไร”
ไท่จื่อมองตามไปยังโต๊ะที่ตงฟางซั่วชี้ เห็นสิ่งขาวๆบนโต๊ะเข้าก็เอ่ยขึ้นด้วยความดีใจว่า
“ใช่แล้ว อ๋องกระต่าย”
“กระต่ายตัวนี้ ข้าว่าคงต้องคิดราคาค่าทำนายหนึ่งร้อยตำลึงทอง” ตงฟางซั่วพูดแหย่ขึ้นเล่นๆ
แต่ไท่จื่อพูดสวนขึ้นว่า “ข้าให้ท่านหนึ่งพันตำลึงทอง”
“ท่านไม่ต้องจ่ายเงินจำนวนมากมายขนาดนั้นหรอก” ตงฟางซั่วพูดปรามไท่จื่อ
“ข้ารู้สึกดีใจ และข้าก็เต็มใจที่จะให้ท่าน”
“ในเมื่อท่านชอบกระต่ายตัวนั้น งั้นข้าขอมอบให้ท่านละกัน”
ไท่จื่อรู้สึกดีใจ วิ่งเข้าไปหาอ๋องกระต่ายแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ว่ายังไง เจ้าทำเอาข้าเหนื่อยจนหมดแรง
เลยทีเดียว วิ่งหนีอีกสิ ถึงหนียังไงก็หนีไม่พ้นมือข้าหรอก”
พูดจบก็หันมาบอกตงฟางซั่วว่า
“ซินแสตงฟาง สำหรับเงินหนึ่งพันตำลึงทอง พรุ่งนี้ตอนเช้าตรู่ข้าถึงค่อยนำมาให้ท่าน
ต้องลำบากท่านให้มารอข้าหน่อยนึง”

“ข้าเกรงว่า จะเป็นการนัดเก้อนะสิ”
“ทำไมล่ะ พรุ่งนี้ท่านไม่มาเหรอ” ไท่จื่อถามด้วยความสงสัย
“เป็นท่านต่างหากที่ไม่สามารถมาได้” ตงฟางซั่วพูดเป็นปริศนา
ไท่จื่องงกับคำพูดที่ได้ยิน จึงจับกระต่ายขึ้นมาจากโต๊ะ เดินเข้าไปหาตงฟางซั่ว
“ท่านกลัวว่าข้าจะไม่รักษาคำพูด(食言)ที่ให้ไว้หรืออย่างไร แค่เงินหนึ่งพันตำลึงทองเป็นเรื่อง
จิ๊บจ๊อยมากสำหรับข้า ข้าคงไม่หนีท่านไปไหนหรอก”

ตงฟางซั่วดูแล้วเห็นทีท่าว่าไท่จื่อคงจะลืมอะไรบางอย่างไป จึงพูดตัดบทขึ้นว่า
“ข้าจำได้ว่า ได้เคยทำนายดวงชะตาให้ท่าน”
“ใช่ ท่านทำนายให้ข้าเมื่อวานนี้เอง มีอะไรหรือ”
“ท่านอย่าลืมล่ะ พรุ่งนี้ก็เป็นวันที่สามแล้ว”
“แล้วยังไงหรือท่าน”
“ก็ท่านจะมีเคราะห์ถึงขั้นต้องติดคุกติดตาราง”
“ใช่ท่านทำนายให้ข้าไว้ว่าอย่างนั้น แต่ว่าตอนนี้ข้าก็ยังอยู่ดีนี่ และยังมายืนอยู่ที่นี่คุยกับท่าน
ได้อย่างสบายๆไม่ใช่หรือ”

“นั่นเป็นเพราะเวลานั้นยังมาไม่ถึง”
“แล้วเวลาไหนล่ะ ถึงเป็นเวลาที่ท่านได้ทำนายไว้”
“ข้าได้บอกให้ท่านทราบแล้วไงว่า พรุงนี้เช้าท่านไม่สามารถมาที่นี่ได้”
“ยังไงข้าก็ต้องมา ท่านจำคำพูดของข้าไว้ละกัน พรุ่งนี้ตอนเช้าตรู่ ข้าจะนำเงินหนึ่งพันตำลึงทอง
มาให้ท่าน ถึงแม้ว่าคำนายของท่านจะไม่ถูกก็ตาม”


**********

ที่จวนของเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อ

เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อรู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมาก ตัดสินใจไม่ถูก เกิดอาการลังเลว่าควรจะจัดการ
กับไท่จื่ออย่างไรดี จะจับตัวมาลงโทษดีมั๊ยหรือว่าปล่อยตัวไปดี แต่เมื่อยังฟันธงลงไปไม่ได้ ก็
เลยต้องอาศัยโชคลาง การพยากรณ์เข้ามาเป็นตัวช่วย โดยเลือกใช้วิธีการเสี่ยงเสียมซีมาช่วย
ในการตัดสินใจ

ณ ขณะนี้เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อกำลังเสี่ยมเซียมซีครั้งที่สามอยู่กับหลิวอี้ หลังจากที่ได้ทำการเสี่ยง
เซียมซีไปแล้วถึงสองครั้งด้วยกัน ผลเป็นอย่างไรมาดูกัน

“ไอ๊หย่า” เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อร้องออกมาทันทีพร้อมกับส่ายหน้ากลุ้ม หลังจากที่รู้ผลของการเสี่ยง
เซียมซีครั้งที่สาม “ครั้งแรก ผลออกมาก็ดีที่สุด(上上) ส่วนครั้งที่สอง ผลออกมาตรงข้ามกับครั้ง
แรกคือแย่สุดสุด(下下) แต่ครั้งสุดท้ายนี่สิ ผลที่ได้กลับออกมาอยู่กลางๆ(中中)ไม่ดีที่สุดและก็
ไม่แย่ที่สุด เฮ้อ”
พูดจบก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นก็เอ่ยต่อไปอีกว่า “แม้แต่เทพยดา(神仙)
เองก็ยังตัดสินใจลำบากเลย”

หลิวอี้เอ่ยขึ้นว่า “คนของอ๋องเหลียงหวังได้พูดประโยคหนึ่งไว้ ไม่ทราบว่าท่านพ่อจำได้หรือไม่”
“ประโยคไหนเหรอ”
“ประโยคที่ว่า เพียงแค่เค้ายอมรับว่าตนเองคือองค์รัชทายาท
“เรื่องนี้เกี่ยวกับความเป็นความตาย ยังไงเค้าก็ต้องยอมรับอยู่แล้ว”
“ท่านพ่อ มันก็ไม่แน่นักหรอก บางทีสิ่งที่อ๋องเหลียงหวังต้องการก็คือผลลัพธ์อันนี้นั่นเอง”
[ที่หลิวอี้พูดมา ท่านผู้อ่านงงกันหรือไม่ ผลลัพธ์อะไรที่อ๋องเหลียงหวังต้องการ
ลองตีความกันดู มีให้เลือกระหว่าง
1. ไท่จื่อยอมรับว่าตนเองเป็นองค์รัชทายาท
2. ไท่จื่อไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นองค์รัชทายาท
3. อื่นๆ (สำหรับผู้อ่านที่มีความคิดเห็นต่างไปจากสองข้อข้างบน)
ร่วมแสดงความเห็นของคุณได้ที่ comment ด้านล่าง]


**********

ที่สำนักนางคณิกาไห่ถังชุน

เนี่ยนหนูเจียวกำลังแต่งตัวให้ตนเองอย่างสวยงามเลยทีเดียว เพราะคืนนี้นางมีนัดไว้กับไท่จื่อ
ผู้จัดการสำนักฯเดินเข้ามาร้องเรียกหานางถึงในห้องว่า ไต้เท้าหลี่กับไต้เท้าหวังกำลังรอนางอยู่ที่
ข้างล่างพร้อมกับถามนางว่า ต้องการที่จะไปพบไต้เท้าทั้งสองหรือไม่
“ไม่” เนี่ยนหนูเจียวตอบออกไปโดยไม่ลังเลใจ
“อ้าว ทำไมล่ะ ถ้าเจ้าไม่ต้องการพบแขก แล้วเจ้าแต่งหน้า แต่งตัวอย่างสวยงามไปทำไม
คงไม่ใช่แต่งให้ตนเองดูคนเดียวหรอกนะ”
ผู้จัดการสำนักฯพูดเหน็บเนี่ยนหนูเจียว
“เผอิญค่ำนี้ข้ามีนัดไว้แล้ว” เนี่ยนหนูเจียวบอกเหตุผลให้ผู้จัดการสำนักฯทราบ

**********

ระหว่างการเดินทางไปยังสำนักนางคณิกาไห่ถังชุน ไท่จื่อไม่ลืมที่จะนำอ๋องกระต่ายอุ้มติดตัวไป
ด้วย จางทังเอ่ยกับไท่จื่อด้วยความเป็นห่วงว่า
จิ่วเกอ เรื่องเที่ยวผู้หญิงเป็นธรรมดาของผู้ชาย(风流潇洒) ข้าไม่กล้าขัดท่านหรอกนะ แต่ว่า
นางคณิกาก็แค่ต้อนรับปรนนิบัติแขกเท่านั้น แขกเก่าไปแขกใหม่ก็มา นางไม่มีความรักที่แท้จริง
ให้กับผู้ใดหรอก ยังไงท่านก็อย่าหมกมุ่นลุ่มหลง(沉溺其中)จนเกินไปนัก นอกจากจะถอนตัว
ลำบากแล้ว รังแต่จะทำให้ตนเองจะเจ็บปวดเปล่าๆ”

“ข้าไม่ใช่คนประเภทใช้เงินซื้อความสุขจากนางคณิกา เหมือนชายหนุ่มทั่วไปหรอก เจ้าไม่ต้อง
เป็นกังวลจนเกินไป คิดซะว่ามาเดินสำรวจสถานที่เป็นเพื่อนข้าล่ะกัน”

ทันใดนั้นเองก็มีตาข่ายจากด้านบนตกลงมาคลุมร่างทั้งสองไว้ พร้อมกับเสียงร้องบอกให้จับตัว
กลับไป


หากท่านมีคำวิจารณ์หรือคำแนะนำโปรดไปเขียนไว้ที่หน้าสารบัญ


Create Date : 18 มกราคม 2549
Last Update : 12 มกราคม 2550 10:57:26 น. 2 comments
Counter : 1409 Pageviews.

 
เป็นข้าก็อยากทราบว่าท่านอ๋องประสงค์สิ่งใด


โดย: YuBing วันที่: 24 เมษายน 2549 เวลา:19:22:02 น.  

 
ผมคิดว่า ถ้า
รับจะโดยลงโทษว่าแอบอ้าง
ไม่รับจะโดยลงโทษฐานฆ่าคน
ตอบแบ่งรับแบ่งสู้กลายเป็นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก


โดย: VoidOne IP: 58.136.96.177 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:40:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

WangAnJun
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add WangAnJun's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.