Group Blog All Blog
|
พาน้องเข้าถ้ำเชียงดาว(เชียงใหม่)กันจ้า มาจากมีน้องที่รู้จักกัน มาจากลพบุรี มาเที่ยวเชียงใหม่ค่ะ พอวันหยุดข้าน้อยก็เลยกะพาไปเที่ยวไกลๆ หน่อย ส่วนที่ใกล้ๆ นั้น น้องเคย์ไปเองได้ ก็เลยปิ๊งว่าน่าจะพาไปที่เที่ยวไม่ใกล้ไม่ไกลจนเกินไป พอโบกรถเช้าไปเย็นกลับได้ ก็จะพาไปถ้ำเชียงดาวนั่นเองจ้า ถ้ำเชียงดาว อยู่ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ก่อนจะไปถึงอ่างข่างสักชั่วโมง นั่งรถข้ามสองอำเภอ ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ ข้าน้อยพาเพื่อนอีกคนไปด้วย รวมกันเป็นสามชีวิต นั่งรถท่าตอน-ไชยปราการ จากอาเขตข้างเผือก คิวรถในตัวเมืองเชียงใหม่ ตกคนละ 40 บาท ออกจากท่ารถราว 10 โมง 15 ถึงที่ปากทางเข้าถ้ำเชียงดาวราวเที่ยง แวะกินข้าวและจ้างรถสองแถวให้เข้าไปส่งในระยะทางถ้ำหากไป 5 กิโลเมตร โดยจ้างเหมาแบบรอรับส่ง 300 บาท ช่วงนี้เป็นช่วงฮีทซีซั่นของเชียงใหม่ ก็เลยมีทัวร์มาลงเยอะพอสมควร อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวอ่างข่าง ก็จะแวะเที่ยวถ้ำเชียงดาวไปด้วยค่ะ ข้าน้อยเคยมาที่นี่เมื่อราว 6-7 ปีมาแล้ว ดูอะไรก็จะพัฒนาขึ้นหน่อยๆ ไม่เปลี่ยนแปลงเยอะมาก ถ้ำเชียงดาวนี่เปิดตั้งแต่เวลา 7.00-17.00 น. นะค่ะ ![]() เท่าที่ถามไกด์มา ถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบมากว่า 300 ปีมาแล้ว มีตำนานเรื่องเล่าถึงเจ้าหลวงคำแดง เจ้าหลวงแห่งเมืองน่าน ได้เดินทางมาล่าสัตว์ และพบกวางเผือกสวยตัวหนึ่ง จึงไล่จับเข้ามาถึงในถ้ำเชียงดาว ปรากฎว่านางกวางนั้น เป็นนางอัปสรของพระอินทร์ จำแลงมาเพื่อให้มาเป็นคู่ของเจ้าหลวง ทั้งคู่อาศัยอยู่ในเมืองใต้พิภพของถ้ำ และไม่ได้กลับออกมาอีกเลย...ทุกวันนี้ก็ยังมีศาลของเจ้าหลวงคำแดงตั้งไว้ที่ด่านตรวจคน ที่รอยต่อระหว่างอำเภอเชียงดาวและแม่แตงค่ะ ![]() อาคารก่อนขึ้นไปยังถ้ำ ![]() บริเวณใกล้ทางขึ้นก็จะมีสระน้ำ ที่เป็นลำธารจากต้นน้ำในป่าเชียงดาวค่ะ น้ำที่นี่ใสมากจนเห็นพื้นข้างล่างเลย ![]() ![]() ในสระก็มีเลี้ยงปลามากมาย ขนาดไซส์ L ขึ้นไป ![]() แต่ดูท่าทางปลาไม่ค่อยแย่งกินเท่าไหร่นะงับ อาหารปลาเลยลอยฟ่อนเลย (เมื่อก่อนที่ข้าน้อยมาให้ แย่งกันจะเป็นจะตาย ![]() ![]() ตรงฝั่งขวามือก็จะมีสระน้ำเหมือนกันค่ะ แต่ที่นี่จะมีประติมากรรม เรือสุพรรณหงษ์ประดับด้วย ![]() ![]() ค่าเข้าชมถ้ำคนละ 10 บาทค่ะ จะเป็นค่าบำรุงไฟฟ้าที่ใช้ส่องสว่างในถ้ำ เมื่อเราซื้อแล้วก็ต้องหย่อนตั๋วลงในตู้รับตั๋วด้วย ![]() เมื่อเข้ามาภายในถ้ำแล้ว รู้สึกถึงอากาศหนาวเย็นเลยค่ะ เพดานถ้ำจะต่ำในช่วงบันไดเดินขึ้น-ลง แต่ถ้าเดินมาถึงห้องโถงแล้วจะเปิดโล่งเลยค่ะ มาถึงที่แรก เราก็เจอกับกลุ่มพระหมู่บูชาให้กราบไหว้กันก่อน ![]() ประติมากรรมข้างบันไดทางขึ้นไปกราบพระ ![]() ประติมากรรม ถ้าไม่ใช่สิงห์ มอม ก็คงเป็นสุนัขน่ะ ![]() ![]() เหนือเพดานถ้ำขึ้นไป ก็มีกลุ่มพระพุทธรูปประดิษฐานไว้ตามซอกหลีบถ้ำค่ะ ![]() ![]() กลุ่มพระประธานใหญ่ ![]() ระฆังเก่า ทำจากทองเหลือง ![]() เมื่อเดินเข้ามาอีกนิดเดียว ก็จะมีกลุ่มพระประธานให้ได้กราบไหว้อีกค่ะ ตรงจุดนี่เองจะเป็นจุดรวมไกด์นำเที่ยว มีประมาณ 50 กว่าคน โดยไกด์หนึ่งคนจะดูแลนักท่องเที่ยว 5 คน กลุ่มไกด์นี่ก็จะเป็นชาวบ้านในเชียงดาวนี่แหละค่ะ จะสลับกลุ่มกันทำคนละวัน ช่วงไฮซีซั่นนั้นก็อาจจะนำกันคนละ 2 รอบเลยทีเดียว ในถ้ำที่เราจะไปนั้น ต้องจ้างไกด์ 100 บาท ไม่สามารถที่จะถือตะเกียงเดินไปเองได้ และไม่สามารถเลือกไกด์ได้ค่ะ จะมีเป็นคิวๆ ไป ![]() ถ้ำแรกที่เราจะไป คือถ้ำม้า ถ้ำนี่ต้องมีไกด์ไปด้วยค่ะ ห้ามนักท่องเที่ยวเดินไปเอง เพราะมีความอันตรายอยู่พอสมควร ![]() ไกด์ที่นำเที่ยวกลุ่มข้าน้อย เป็นคุณป้าใจดีอารมณ์ขัน ถามอะไรก็ตอบได้ ไม่มีกั๊ก นี่ก็เป็นสายแร่ที่เป็นประกายตามหินงอกหินย้อยของถ้ำ ![]() ทางเข้าถ้ำแต่ละที่ก็จะมีระดับที่สูงต่ำแตกต่างกันไป อย่างทางเข้าถ้ำนี่ ต้องเจาะผนังถ้ำออกบางส่วน แล้วก็ต้องย่อตัวลงลอดเข้าไปค่ะ ![]() หินงอกหินย้อยแต่ละอันก็จะมีรูปร่างที่ทำให้เกิดจินตนาการได้เหมือนกัน อันนี้เป็นหินรูปม้าค่ะ ![]() หินรูปดอกบัวตูม ![]() หินรูปสิงห์ ![]() ยิ่งถ้าเห็นมีผ้าแพรมาผูก แสดงว่าผ่านการถูกขอบนบานขอหวยมาก่อนแล้ว ![]() หินรูปพญาครุฑ (โปรดใช้เวลาในการพิจารณารูปร่างกันดีๆ) ![]() หินรูปช้างนอน ![]() หินรูปช้างเอราวัณ ![]() ลักษณะโพรงถ้ำ ![]() นอกจากต้องระวังหัวแล้ว ยังต้องระวังพื้นด้วยนะค่ะ เพราะหลุมบ่อตอผุดเยอะมากมาย มีสิทธิ์เดินสะดุดขาพลิกได้ แถมลื่นอีกต่างหาก เพราะข้างในยังมีน้ำหยดจากถ้ำลงมาตลอด ![]() นอกจากนั้นก็จะมีลักษณะหินงอกหินย้อยตามผนังถ้ำที่มีความสวยแปลกอีกเยอะแยะ (บางอันจำชื่อไม่ได้ ขออภัยด้วย ![]() ![]() ![]() แล้วเราก็มาเจอปากถ้ำลอดอีกทางค่ะ นี่เรียกว่าประตูไถ่บาป ถ้าหากใครผ่านประตูนี้ไปได้ ก็จะได้รับการไถ่บาป ปากถ้ำนี่ต้องคลานเข้า ซึ่งจะลำบากสักหน่อยกับคนที่อ้วนมากหรือตัวสูงมากค่ะ ![]() แต่ข้าน้อยก็ผ่านมาจนได้ ![]() แล้วเราก็มาเจอหินรูปสิงห์ อันนี้เหมือนกว่าอันแรกมาก ตา หู จมูก ปาก มีพร้อม ![]() ![]() หินรูปพญานาค ![]() ![]() ![]() ![]() แล้วก็ต้องมาลอดปากถ้ำประตูสุดท้ายแล้วค่ะ อันนี้ไม่ยากเท่าประตูที่สองเท่าไหร่ แต่เป็นถ้ำระดับเนิน แถมหลุมบ่อเพียบ ลื่นอีกต่างหาก ![]() ![]() ![]() ![]() ซอกหลีบถ้ำนี่ เป็นที่บำเพ็ญศีลของฤาษีตนหนึ่ง ที่เคยเข้ามาในถ้ำแห่งนี้ค่ะ ![]() ไม่ไกลนัก ก็จะมีศาลของฤาษีตั้งอยู่ เห็นได้จากของบูชาแล้ว ไกด์บอกว่ามีคนมาบูชาฤาษีเพื่อแก้บนมากมาย แสดงให้เห็นว่าท่านให้แม่นนะแล ![]() หินรูปผลมะละกอ ![]() ![]() หินรูปพญานาค ![]() หินงอกตรงพื้น เป็นรูปไข่ดาวค่ะ ![]() ไกด์บอกว่า ถ้าเอามือถูด้วย จะเป็นไข่แดง (คือถูจนเลือดออกนิ้วนะ ![]() ![]() ทางเดินระหว่างถ้ำนี่ ต้องเอียงซ้ายเวลาเข้า และเอียงขวาเวลาออกค่ะ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ส่วนตรงนี้เป็นสุดทางของถ้ำม้าค่ะ ตรงนี้ต้องเข้าไปทีละคน เดินระวังอย่างมากด้วย เพราะข้างหน้านั้นเป็นเหวลึก 25-35 เมตรค่ะ หากเผลอตกลงไป 3 วันกว่าจะขึ้นมาได้ นี่จึงเป็นสาเหตุว่าไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินเข้าไปกันเอง เพราะอาจเผลอเดินตกลงไปก็ได้ เห็นมืดๆ ก็อาจจะนึกว่าตื้น ![]() จากนั้นเราก็จะเดินกลับกันค่ะ แต่จะมีทางออกอีกทาง ไม่ใช่ทางที่เราเดินเข้ามา ผนังถ้ำตรงขวามือ ดูๆ ไปก็คล้ายหน้าคนเลยนะ ![]() แล้วนี่ก็เป็นบันไดทางลงไปยังทางออกค่ะ ลงได้ทีละคน ไกด์บอกว่า ถ้าลงช้าๆ เรียกว่าบันได ลงไวๆ เรียกว่าสไลด์เดอร์ ![]() ![]() เมื่อลงไปชั้นล่าง บนเพดานถ้ำก็จะมีฝูงค้างคาวเกาะกันตรึม ที่เป็นจุดดำๆ บนผนังถ้ำนะค่ะ ![]() เมื่อออกมาได้ ก็จะเป็นทางไปยังถ้ำแก้วค่ะ ถ้ำนี่จะเส้นทางปลอดภัย มีทางเดินราบเรียบ พร้อมไฟส่องสว่างตามผนังติดเอาไว้แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถไปเองได้ แต่กลุ่มข้าน้อยขอให้พี่ไกด์นำทางไปด้วยดีกว่าค่ะ ![]() ข้างในก็จะมีรูปหล่อหลวงปู่ทวดให้สักการะบูชา ![]() ตามทางเดิน ![]() หินรูปฮิปโป ![]() ![]() ![]() หินรูปหน้าคนนอนค่ะ ![]() แบบภาพนอนเต็ม ![]() เพราะเส้นทางนี่ไม่ต้องมีไกด์นำทัวร์ ก็เลยมีคนมือบอน เขียนฝากข้อความตามผนังถ้ำกันมากมาย ![]() ![]() หินรูปพระพุทธรูป ![]() ![]() เมื่อเรามาถึงสุดทางถ้ำแก้ว ก็มีพระนอนประดิษฐานไว้อยู่ค่ะ ![]() แต่สุดทางนั้นก็ยังมีถ้ำน้ำค่ะ ไกด์บอกว่าเป็นถ้ำที่มีน้ำไหลออกมา ในช่วงหน้าฝนนั้นจะไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าถ้ำแก้วเลย เพราะน้ำท่วมมาจากถ้ำน้ำหมด แต่ถ้าช่วงหน้าแล้งก็สามารถเข้าไปได้ค่ะ แต่ดูเหมือนไกด์แทบทุกคน จะไซโคนักท่องเที่ยวว่า ถ้ำน้ำนั่นมืดมาก อันตราย ออกซิเจนต่ำ แถมมีเหวลึกๆ อีกต่างหาก แม้เราจะถามย้ำกับไกด์ว่า ถ้าให้พาไปไปไหม? ไกด์ก็บอกว่าไปค่ะ เพื่อนข้าน้อยนั้นอยากรู้อยากเห็นและอยากไป แต่ข้าน้อยห่วงชีวิตน้องมากกว่า ก็เลยบอกไม่ไปดีกว่า ต้องไปที่อื่นอีก ก็เลยไม่ได้ไปกันค่ะ ![]() ผนังถ้ำที่ไกด์บอกว่า เพิ่งมีคนมาแก้บนจากไปขอหวยมาก่อน เห็นเป็นเลขอะไรก็ไปตีกันเอาเองเน้อ ![]() ระดับน้ำที่ขึ้นสูงในช่วงหน้าฝนค่ะ จะเห็นเป็นรอยดินติดผนังถ้ำเลย ![]() หินรูปหน้าคน ![]() พอย้อนกลับไปทางเก่า ก็เป็นอันว่าเราเที่ยวครบ 2 ถ้ำแล้วค่ะ ให้ทิปพี่ไกด์อีก 50 บาท เพราะไกด์พาทัวร์ได้สนุกและใจดีมาก ออกมาจากถ้ำ เราก็มาไหว้พระที่หลวงพ่อทันใจกัน ![]() หลวงพ่อทันใจ ได้ยินคำร่ำลือกันว่า บนบานศาลกล่าวสิ่งใด ท่านจะให้เร็วอย่างทันใจเลยทีเดียว ![]() จากนั้นเราก็นั่งรถท่าตอนกลับเข้าเมือง ด้วยราคา 32 บาท...ที่ราคาไม่เท่ากัน เพราะเราจะไปที่อื่นต่อค่ะ? ข้าน้อยพาเพื่อนไปเที่ยว พระตำหนักดาราภิรมย์ พระตำหนักของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เห็นว่าเพื่อนไม่เคยมา และเป็นทางผ่านพอดี ก็เลยพาเที่ยวเลยค่ะ อยู่ในค่ายดารารัศมี ตัวเมืองของอำเภอแม่ริม ![]() พระตำหนักหลังนี้ถือเป็นหลังที่สี่ ในจำนวนสี่พระตำหนักของเจ้าดารา ที่มีอยู่ในปัจจุบันนอกจากหลังนี้แล้ว ก็มีอีกหลังอยู่ที่เป็นกงศุลสหรัฐฯประจำเชียงใหม่ ส่วนหลังนี้เป็นหลังที่เจ้าดาราทรงประดับบ่อยที่สุดค่ะ ![]() ค่าเข้าชมคนละ 20 บาท แต่ต้องถอดรองเท้า และไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปข้างในค่ะ ![]() บันไดทางขึ้น ![]() รูปหล่อเท่าองค์จริงของเจ้าดาราค่ะ ![]() ![]() สวนเจ้าสบายนั้น เป็นอาคารหลังเก่าที่สร้างขึ้นตอนที่ทางทหารมาใช้ที่ในการทำสำนักงานค่ะ ![]() จากน้้นเราก็ขึ้นรถกลับไปบ้านข้าน้อยกัน เพราะเพื่อนจอดรถทิ้งไว้บ้านข้าน้อย ส่วนน้อง ข้าน้อยให้เธอนั่งรถกลับไปที่คิวรถเหมือนเดิม แต่แรกเราว่าจะไปถนนคนเดินต่อ แต่น้องบอกเหนื่อยมากแล้ว ก็เลยเป็นอันแคนเซิ่ลค่ะ จบการท่องเที่ยวถ้ำเชียงดาวแล้วจ้า |
สาวเหนือเซาะกิ๋น
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() สวย ถึก และบึกบึน Link |
ถ้ำเชียงดาว มีหินงอกหินย้อยสวยงามใช้ได้เลยนะครับ นี่เป็นอีกที่ที่ผมยังไม่เคยไปเลย ไว้มีโอกาสผ่านไปแถวนั้นอาจจะแวะไปชมบ้าง ..... เสียดายผนังถ้ำตรงที่มีคนมือบอนไปเขียนสลักชื่อนะครับ คนไปแกะชื่อไว้นี่แย่จริงๆ ไม่มีสามัญสำนึกกันเลย ...