bloggang.com mainmenu search


ใครเคยสอบได้ที่1บ้าง


ผมอ่านเรื่องจากในเว๊ปบอร์ด ... ได้ความคิดว่า “การเป็นที่ 1 ตลอดไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย”



มีหลายคนทีเดียวที่เรียนเก่ง ได้ที่ 1 เมื่อเรียนชั้นประถม ....แต่พอโตขึ้น ต้องเปลี่ยนโรงเรียน มีเพื่อนที่เก่งๆจากที่อื่นมาร่วมเรียนด้วย วิชาก็เปลี่ยนไป ความถนัดก็เปลี่ยนไป นิสัยก็เปลี่ยนไป เวลาว่างก็เปลี่ยนไป สภาพความเป็นอยู่ก็เปลี่ยนไป ...การรักษาระดับการเรียนการสอบให้ได้ที่ 1 ของห้อง จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ



แม้ตนจะไม่ได้ลดความเก่งลง แต่คู่แข่งที่เก่งขึ้น วิชาที่ไม่ถนัดเข้ามาอยู่ในบทเรียน แล้วอะไรล่ะ จะเกิด....





002




Palmy ถามว่า :

เพื่อนๆ ใครเคยสอบได้ที่หนึ่งกันบ้างคะ?


ปาล์มมี่ เคยสอบได้ที่ 1 ตลอด ตั้งแต่ป.1 ถึงป.6 มันทำให้เกิคความผยอง คิดว่าตัวเองเป็นเลิศในปฐพีไม่มีใครเทียบ จนเข้า ม.1 ในโรงเรียนดังประจำจังหวัด สอบเทอมแรกออกมาได้ที่ 15 จากนักเรียนในห้องทั้งหมด 40 คน รู้สึกตกใจค่ะ และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยสอบได้ที่ 1 อีกเลยค่ะ


มันเป็นการเปิดโลกทัศน์ครั้งยิ่งใหญ่ในตอนนั้นว่า ในโลกนี้ ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกเยอะ เราเป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น แล้วคุณล่ะ....




003




ชาลีนี

ไม่เคยสอบได้ที่หนึ่งค่ะ แบบว่าตกเลขกับพละตลอด


ยิ่งพละนี่...ครูให้ผ่านเพราะรำคาญ ไม่อยากเห็นหน้าตอนมาแก้ศูนย์...เลขนี่ ยังพอกล้อมแกล้มได้บ้าง อาศัยลอกคนโน้นคนนี้ตอนสอบ.... แต่พละนี่ ลอกมะได้เลย




Basic Mouse

ผมเคยคับ บ่อยด้วย 4.00 ก็เคย เมื่อก่อนเรียนเก่งมั่ก แต่ทุกวันนี้ ขอแค่เอาตัวรอดไปวันๆ




004




Thaiguy

เหมือนกันเลยครับ เรียนชั้นประถม ได้ที่ 1 มาตลอด แต่พอขึ้น ม.1 ต้องไปเรียนที่ใหม่ เจอคนที่แน่กว่า จ๋อยไปเลย มีเพื่อนร่วมห้องอยู่คน ไม่รู้มันเรียนยังไง ได้ 4 ทุกวิชา เพื่อนคนนี้พอเรียนจบ ม.3 มันก็ย้ายไปเรียนที่อื่น แต่ผมยังอยู่โรงเรียนเดิม


พอขึ้น ม.4 ต้องเลือกสายการเรียน ผมเลือกสายวิทย์ แล้วก็ต้องย้ายห้องให้ตรงสายที่เลือก ทำให้ได้เพื่อนใหม่ แล้วก็ได้เจอคนเก่งอีกคนแระ มันเรียนได้ 4 ทุกวิชาเหมือนกัน (ตอนนี้มันเป็น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สอนอยู่ที่มหาลัยแห่งหนึ่ง) โห....ทำไมเจอแต่คนเก่งๆทั้งนั้นเนี่ย ตูเรียนแทบตาย ทำยังไงก็ไม่ได้ ... 4 ทุกวิชา


แต่ถึงแม้จะไม่ได้เกรด ...4 ทุกวิชาเหมือนพวกโคตรเก่ง แต่ผมก็ยังภูมิใจนะครับ ที่อย่างน้อยคะแนนสอบภาษาอังกิดของผม ก็ติดอันดับหนึ่งเกือบทุกเทอม ได้เห็นชื่อตัวเองติดอยู่บนบอร์ดข่าวสารของโรงเรียน แล้วปลื้มจาย....อิอิ




Want2PlugBeam

เหมือนผมเลยครับ ตั้งแต่ม.1 - ม.3 เกรดสูงที่สุดในห้องตลอด คือได้ไม่ต่ำกว่า 3.8 ทุกเทอม แต่พอขึ้นม.ปลาย ติดเพื่อน ติดแฟน การเรียนดรอปลงมา แต่ไม่ได้หล่นวูบนะครับ.... ยังอยู่ 1-10 ของห้องอยู่


ปัจจุบันก็พอไหวครับ เรียนเข้าใจ ความจำดี แต่ว่าห่วยแกรมม่า พอถึงวิชาที่ต้องเขียนทีไร ตายเพราะแกรมม่าทุกที เนื้อหาสาระที่เขียน มานผ่านหมด ครบทุกเม็ด แต่แกรมม่า พาผมตายจริง ๆ




005





ROCK

สำหรับผม อยู่ท๊อปทรี ตลอดอ่ะ แต่ผมว่างั้นๆแระ เพราะบางครั้ง คนที่เรียนดีใช่ว่าจะแก้ไขปัญหาชีวิตได้ดีครับ




Poseidon

ไม่เคยเลย อิอิ เพราะระบบที่เรียนไม่มีการวัดผลเป็นลำดับ แต่เกรดที่ได้ก็อยู่ในเกณฑ์สูงมาตลอด


เห็นคนที่ได้เกรด 4.00 แล้ว สงสารเขานะคับ ชีวิตนี้มีเพื่อเรียนจริงๆ ไม่มีเรื่องอื่นเลย ส่วนผมน่ะ ครบเกือบทุกเรื่อง สนุกกับชีวิตมาก เกรดก็เลยไม่เคยถึง 4.00 สักที แค่เกือบๆน่ะคับ




006





LikeAviRgiN


เคยครับ... สอบได้ที่ 1 ตั้งแต่ อนุบาล1 - ป.6 ตลอด แต่พอโตขึ้นๆ เริ่มขี้เกียจ ก้อค่อยๆ ห่างออกมาๆ อิอิ




Wit

คล้ายๆ กันครับ โตขึ้น โลกกว้างขึ้น คู่แข่งมากขึ้น มีคนเก่งขึ้นจริงๆครับ




007





Pasta

พาสต้าไม่เคยสอบได้ที่ 1 เลยอะ มีแต่คนเก่งกว่าทั้งนั้น เคยได้สูงสุดแค่ที่ 2 อะ แต่ก็เฉยๆอะฮะ ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไหร่ เพราะถึงเราจะเก่งยังไงยังไง ในแผ่นดินนี้ก็ต้องมีคนที่เก่งกว่าเราอยู่ดีอะ ขอทำตัวน่ารักพอดีๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ ดีกว่าอะ




jeo_elf


ตอนผมอยู่ ป.1-ป.6 สอบได้ที่ 30 กว่าๆ ตลอดเลย ไม่เคยสัมผัสเลขตัวเดียว แต่พอมาอยู่ ม.ปลาย ท๊อป 5 ตลอด แต่ก็ยังไม่ได้ที่1 อยู่ดี อิอิ แต่จะได้ที่เท่าไหร่ มะสำคัญ ขอเป็นเด็กดีก็พอครับ




008





talbot

เด็กๆจำได้ว่าได้ที่เลขหลักเดียวก็หรูแล้วค่ะ ไม่ต้องได้ที่ 1 ก็ได้ค่ะ ได้แล้วคงจะคัน




cozyNERD

ตอนประถม เรียนด้วยความสนุก อยากรู้ ได้ 4.0 ตลอด

ม.ต้น ก็ยังพอสนุกอยู่ ได้ 3.8

ม.ปลาย เริ่มไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องเรียนบางวิชาด้วย ได้ 3.6

มหาลัย เบื่อหน่าย รู้ว่าหลายๆอย่าง ทั้ง สูตรกับทฤษฎีมากมายเหล่านั้น ไม่มีทางได้ใช้แน่ๆ ในอาชีพและในชีวิตนี้ (แต่ก็ต้องเรียน) เกรดเหลือ 2 กว่าๆ ! ความมั่นใจสูญสิ้น..


ผมต้องโทษตัวเอง ที่ไม่มีความสามารถพอ ที่จะเรียนให้ได้ดี


ปล. เคยถามรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว ทุกคนบอกกับผมว่า กว่า 90% ของที่เรียนมาน่ะ ไม่ได้ใช้หรอก ผมเองเรียนจบมาทำงาน ก็ยืนยันได้ว่า จริง




009





chalee1983

เคยครั้งหนึ่งค่ะ แปลกใจมากเลย ได้มาได้อย่างไร พ่อเดี้ยนยิ่งแปลกใจค่ะ พาไปทำบุญใหญ่เลยค่ะ เดี้ยนก็ยังงงงง จะพาไปทำไม แต่ตั้งแต่เรียนประถมนู่แหละค่ะ.....




ole69

มันเป็นอดีตสมัยประถมครับ พอขึ้นมัธยม ผมก็ไม่เคยได้สัมผัสมันอีกเลย รู้จักแต่เลขสาม กับเลขสี่ ครับ




010





dapper

ได้ที่ 1 สลับกับที่ 2 มาตลอด ตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยมคับ โดนจับให้เป็นหัวหน้าชั้นบ่อยจนเบื่อ แต่ไม่เคยติด TOP 10 ตอนเรียนปริญญาตรีที่คณะวิศวะคับ


ยอมรับเลยว่า ที่เรียนน่ะไม่ชอบ แต่อยากจบมาแล้วได้เงินเดือนเยอะๆ เลยทนเรียนให้จบ ตอนนี้ก็สมปรารถนาคับ ไม่มีอะไรยากเกินความพยายามคับ




Guanteen

สอบได้ที่ 2 เพราะนั่งใกล้กับคนสอบได้ที่ 1




011





Dajiahao

ผมเคยได้ ที่ 1 แต่เป็นรายๆ วิชาไปอ่ะครับ ถ้าคะแนนรวมทุกวิชา มันจะมีพวกวิทย์คณิต มาฉุดลงอ่ะ ก็เลยไม่ได้ที่ 1 ของห้องซะที …แต่ก็ top5 top10 ไม่เคยหลุดจากนี้


ไอ้ที่ 1 ที่ว่านี่ จะเป็นพวก วิชาภาษาอังกฤษครับ ตอนประถมได้ที่ 1 ของสายชั้นมาตลอด ทุกปีเลย เข้ามัธยม ก็ยังที่ 1 ของสายชั้นอยู่เหมือนเดิมครับ 1 ในตองอูเลย ภูมิใจ .....แต่วิทย์คณิตนี่ ก็ห่วยสุดๆเช่นกัน 55555




Patcher

ก้อเคยสอบได้ที่ 1 กับเค้าบ้างเหมือนกันครับ แต่ไม่รู้ว่าทำไมกราฟผลการเรียนของผมตั้งแต่เริ่มเข้ามัธยมปลาย มันกลายเป็นกราฟขาลง ก็ไม่รู้เหมือนกัน


ตั้งแต่ อนุบาล จนถึง ป.4 สอบได้ที่ 1 ของห้องมาตลอด พอ ป.5 - ป.6 ย้ายไปเรียนที่เชียงใหม่ ด้วยความฟิตหรือบ้าพลังอะไรก้อไม่รู้ ขยับจากที่ 1 ของห้องขึ้นไปเป็นที่ 1 ของระดับชั้น สองปีรวดเลย แถมสอบ pre-ประถมปลาย ได้คะแนนวิชาสังคมเป็นที่ 1 ของภาคเหนืออีกต่างหาก (ดีใจมั่กๆ)


แต่...พอกลับมาเรียนมัธยมต้นที่กรุงเทพ เกรดเทอมแรกที่ได้คือ 2.67(จะเป็นลมตาย) ก้อเลยฟิตเรียนพิเศษกันสุดๆ จนไต่กลับขึ้นมาอยู่ตำแหน่งเดิมได้ พิสูจน์ได้จากการสอบ pre - ม.ต้น ได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 7 ของประเทศ(อันนี้ดีใจกว่าเมื่อกี้อีก)


เอาแล้วครับ...กราฟขาลงของการศึกษาของผมได้เริ่มขึ้นแล้ว


ด้วยความสนุกสนานและความเพลิดเพลิน(จนเกินเหตุ) ในการทำกิจกรรมของผม ทั้งงานกีฬาสี งานกรรมการนักเรียน จนทำให้เกรดตกลงมาเรื่อยๆ ลงมาตั้งแต่ 3.5 ไล่ลงมา 3.2 และจบมัธยมปลายด้วยเกรด 3.0 ครับท่าน


เท่านั้นยังไม่พอ พอเข้าอยู่ในมหาวิทยาลัย ก้อด้วยนิสัยเดิมๆอีกนั่นแหละครับ รู้สึกว่าจะมีเพียงแค่ 2 เทอมเท่านั้น ที่เกรดผมโผล่พ้นระดับ 3.00 มาได้ ส่วนใหญ่จะเกาะอยู่ระดับ 2. กว่าๆ มาตลอดเลย...ร่วงไปถึง 1 ต้นๆ ก้อเคยมีมาแล้ว...(ช่วงนั้นอกหักรักคุด...ไม่เรียนมันซะเลย)


แต่สุดท้ายก้อจบออกมาได้ครับผม...ถึงจะมี D มี F เอาไว้ประดับบน Transcript บ้าง ก้อช่างมันเถ๊อะ อิอิ .....บ่นมาเยอะละ ว่าแต่อย่าลืมไปลงประชามติกันด้วยนะคร๊าบบ




012





pepee

รับประกันค่ะว่าเครียดสุดๆ แต่บังเอิญมีหัวทางเรียนหนังสือ แต่ก็ทำให้มีนิสัยไม่ดีติดตัวมาจนเดี๋ยวนี้ คือ ยอมแพ้ไม่ค่อยได้น่ะค่ะ


ขนาดมาทำงานแล้ว พอมีการแข่งขัน คนอื่นเขา ไม่ได้ที่หนึ่งก็ไม่เป็นไร แต่อิฉันเป็นค่ะ นายถามเลยว่า ไม่ได้ที่หนึ่งนี่จะตายไหมเนี่ย ตอบง่ายๆค่ะ ไม่ตายหรอกค่ะ แต่จะอายจนต้องลาออก ...โชคดีไปไม่ต้องลาออก


ความจริงก็รู้นะคะว่า วันหนึ่งก็จะต้องมีคนขึ้นมาแทนเรา แต่มันทำใจย้ากกกกกกก ยาก แก่จนปูนนี้ นิสัยนี้ ยังแก้ไม่ได้เลยค่ะ.....




TH

เคยครับ ตั้งแต่ป.1 ถึง ม.6 ส่วน ป.ตรี ตกกระป๋อง เพราะเทอมหนึ่งเข้าเรียนไม่กี่ครั้ง ยกเว้นวิชาที่ อ.บังคับ เช็คชื่อครับ ส่วน ป. โท ติดทอป 10 ครับ เลือกวิชาเลือกผิดคิดจนตัวตาย ไม่อย่างนั้น ทอป 5 แหงๆ






013






หมายเหตุจากจขบ. ... จะสอบได้ที่หนึ่งหรือไม่ ผมคิดว่า อยู่ที่ความเข้าใจในวิชาที่เรียนแล้วตอบข้อสอบให้ได้ดี ...และคนอื่นก็ต้องตอบข้อสอบได้ไม่เอาไหนด้วย



แต่ชีวิตคนเรา ก็ใช่ว่าจะฝากไว้เฉพาะการแข่งขันจากการสอบอย่างเดียว ..อย่ากังวลเกินไปนักเลยกับการสอบให้ได้ที่ 1




เพื่อนของผมคนหนึ่งครับ เรียนเก่งมาก เรียนเก่งมาตั้งแต่ปีที่ 1 เรียนเก่งมาตลอดทั้ง 4 ปี เธอได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง อาจารย์ก็อ้าแขนรับเป็นอาจารย์ที่คณะ และมีโอกาสได้ไปเรียนต่อเมืองนอกและจบด๊อกเตอร์ แล้วก็กลับมาสอนที่คณะ ..แต่เธอออกจะเป็นผู้หวงวิชาครับ เพราะตอนเรียน เธอไม่ค่อยชอบติวให้เพื่อนๆ เธอสอนนิสิตก็สอนแบบไม่ค่อยอธิบายทำให้นิสิตเข้าใจยาก นิสิตจึงไม่ค่อยชอบเธอ งานสอนของเธอจึงไม่เวิร์ค



สุดท้ายเธอก็เบื่องานสอน เลยลาออกไปแต่งงานอยู่กับสามีที่บ้าน แต่ก็อยู่กินกันได้ไม่นานอีก เพราะเธอมีอีโก้ค่อนข้างสูง สุดท้ายได้ข่าวว่าเธอย้ายออกมาอยู่คนเดียว ทำธุรกิจเองคนเดียว แต่ท่าทางจะไม่ค่อยรุ่ง มั๊ง? เพราะเพื่อนๆไม่เคยเจอข่าวใดๆของเธอทางสื่อมวลชนเลย แม้การสังสรรค์กับเพื่อนเก่า เธอก็ไม่เคยมาร่วมกับเพื่อน




ผมเองมีความคิดว่า การเรียนและการสอบ ไม่ควรจะมุ่งหวังเป็นที่หนึ่งหรือมุ่งหวังของการเป็นเลิศตลอดเวลา ....ไม่มีความสุขหรอกหากอยู่ในสภาพทั้งกดทั้งดันเช่นนั้น ... เพื่อนๆก็ไม่ค่อยจะมี ...ก็เพราะตนเองนั่นแหละเป็นคนตัดเพื่อน






แม้ใครจะเก่ง จะฉลาด และเรียนได้เป็นเลิศ แต่ผมอยากจะชี้แนะว่า ควรจะหวังเป็น ตั้งแต่ที่ 3 – ที่10 ก็พอแล้ว



เพราะการเป็นที่หนึ่งจะต้องเครียดมากๆ กลัวคนอื่นจะขึ้นมาแซงหน้าตลอด ต้องอ่านหนัก ต้องทำรายงานหนัก ต้องมีสมาธิอย่างหนัก เที่ยวก็ไม่ได้ ไปสายก็ไม่ได้เพราะจะอดนั่งแถวหน้า กินแทบจะไม่เป็นอันกิน เรื่องออกกำลังกายนั้นไม่ได้ทำเลย เพราะมัวแต่มุ่งจะอ่านจะเรียนอย่างเดียว ถ้าบังเอิญผู้อื่นทำคะแนนล้ำหน้าไปนิดหน่อย ตนเองก็จะเครียดเพิ่มขึ้น กินแทบจะไม่ได้กิน นอนแทบจะไม่ได้นอน




และที่สำคัญ มนุษยสัมพันธ์กับผู้อื่นจะเสีย เพราะใครจะมาขอลอกแลคเชอร์ ตนก็จะไม่ให้ ใครจะมาขอร่วมทำรายงาน ตนก็จะรังเกียจ ใครจะมาถามอะไร ตนก็จะบอกให้ไปค้นหาเอาเอง แบบนี้ก็มีแต่เพื่อนๆหงุดหงิดและรำคาญ




แต่หากการเรียน เรียนไปพร้อมๆกับเพื่อนๆ ติวไปด้วยกัน เล่าสู่ความรู้ความเข้าใจต่อกันก่อนสอบ ตอนเรียนก็แบ่งเวลาเรียนไปด้วย ทำกิจกรรมไปด้วย ช่วงกลางคืนก็อ่านทบทวนบ้าง แล้วนอนหลับให้สนิท ตื่นขึ้นมา หากมีธุระไปเรียนสาย เพื่อนๆก็จะช่วยจองที่นั่งไว้ให้ หรือให้ลอกแลกเชอร์ ถึงทีเพื่อนมาสายบ้าง ตนก็เป็นฝ่ายช่วยเหลือเพื่อนตอบแทน





014






การเรียน การทำรายงาน และการทำกิจกรรม หากได้ทำเป็นทีม ผลัดกันช่วยเหลือ ก็จะไม่เหนื่อยไม่เปลืองแรง ชีวิตที่ไม่ตึงเกินไป จะมีแต่ความสุข และจะเรียนจบออกมาได้คะแนนเทียมเท่ากับเพื่อนๆที่ร่วมติวด้วยกันมา และยังจะมีเพื่อนๆพึ่งพาต่อกันได้ ในชีวิตการทำงานต่อไป




ที่สำคัญ ได้สร้างทัศนคติการทำงานแบบรวมกลุ่ม และได้สร้างทัศนคติการมีชีวิตแบบไม่จำเป็นต้องเป็นที่หนึ่ง ในสังคมของโลกใบนี้...




ความสุขสงบก็จะอยู่รอบๆตัวผู้นั้น











Create Date :23 สิงหาคม 2550 Last Update :23 สิงหาคม 2550 21:35:54 น. Counter : Pageviews. Comments :55