bloggang.com mainmenu search



ลำปางหนาวมากกกกก........
ฉันเคยนึกขำกับวลียอดฮิตวลีนี้ ไม่คิดว่าจะได้พูดมันอย่างจริงจัง จริงใจในวันนี้
วันที่ระดับอุณหภูมิที่ปรากฏบนหน้าปัดเทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิตอลที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ระบุว่า อุณหภูมิได้ลดลงอยู่ที่ ๙.๕ องศาเซลเซียส...
ใครอย่าคิดว่าเว่อร์ล่ะ...เพราะอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของเมืองลำปางไม่ต่ำขนาดนี้
เทอร์โมมิเตอร์เสียหรือเปล่า...
ไม่เสียค่ะ จะคลาดเคลื่อนบ้างก็เล็กน้อยเต็มที บวกลบไม่เกินหนึ่งองศา
แต่ที่บ้านฉันเย็นยะเยือกกว่าใครเขาเป็นเพราะที่บ้านอยู่ติดแม่น้ำยังไงล่ะ
ไอหนาวจากลำน้ำคงพัดโชยเข้ามาในบ้าน ทำให้บรรยากาศในบ้านหนาวเย็นจับใจตลอดทั้งวัน

แม้อากาศจะหนาวเหน็บ แต่ฉันก็ตื่นแต่เช้าตามความเคยชิน
หลังจากลุกขึ้นมาสลัดแขนสลัดขาไล่ความงัวเงียออกไป หากยังไม่ได้ผล ก็ใช้น้ำเย็นลูบหน้าลูบตาเพียงเล็กน้อย รับรองว่าตื่นเต็มตาแน่ เพราะน้ำจากก๊อกตอนเช้ามืดมันเย็นจับขั้วหัวใจทีเดียว...
คว้าแจ็กเก็ตตัวโปรดมาสวมทับก่อนจะจูงจักรยานคันเก่งออกจากบ้าน มุ่งหน้าสู่ตลาดเช้า ที่อยู่ห่างจากบ้านไปประมาณสองกิโลเมตร...





ในบรรยากาศอันสลัวรางของยามเช้า ขณะที่ถีบจักรยานผ่านบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งมีควันไฟลอยอ้อยอิ่งออกมาจากด้านหลังบ้าน ใครคนหนึ่งตะโกนเรียกฉันด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก...
ฉันชะงักและจูงจักรยานเข้าไปใกล้ ๆ ...มีผู้คนอยู่ที่นั่นสามสี่คนด้วยกัน กำลังนั่งล้อมวงรอบกองไฟ เหนือกองไฟมีข้าวหลามวางพาดอยู่สี่ถึงห้ากระบอก...
คนที่เรียกฉันก็คือน้าธรรมนั่นเอง...น้าธรรมกำลังใช้มีดปอกข้าวหลามที่เผาจนสุกได้ที่แล้วอย่างขมักเขม้น
เมื่อเห็นฉันเข้าไปใกล้ น้าก็บอกว่าเดี๋ยวไปกาดมาแล้วก็มาแว่ตรงนี้เน้อ...จะฝากข้าวหลามไปแม่หนูหน่อย...
ฉันรับปาก...ก่อนจะถีบจักรยานออกมา

น้าธรรมมีศักดิ์เป็นน้าเขยของฉัน เพราะภรรยาของน้าที่เสียไปเมื่อปีกลายเป็นลูกผู้น้องของแม่...
ปกติในพื้นบ้านเราไม่มีคำว่า "น้า" เราจะเรียกทั้งน้องพ่อน้องแม่ว่า "อา" หรือ"อาว" หมด...
แต่น้าธรรมเป็นคนต่างถิ่น เมื่อมาแต่งงานกับคนบ้านเรา น้าก็ได้นำเอาวัฒนธรรมการเรียกขานแบบใหม่เข้ามาเผยแพร่...
น้าธรรมจึงเป็นคนแรกที่สอนให้พวกเราเรียก "น้า"

แต่ที่สำคัญกว่านั้น น้าธรรมเป็นครูคนแรกของฉัน ...
น้าธรรมย้ายมาเป็นครูใหญ่ในโรงเรียนประถมใกล้บ้านในช่วงก่อนเกษียณอายุราชการและรับหน้าที่สอนชั้นประถมหนึ่ง...
ในปีที่ฉันเข้าโรงเรียนพอดี และเมื่อฉันเรียนจบชั้นประภมสี่ น้าธรรมก็ปลดเกษียณ

เด็ก ๆ หลายคนร่ำลือว่าน้าธรรมดุ แต่สำหรับฉันน้าธรรมเป็นคุณน้าและคุณครูที่ใจดีที่สุดในโลก...
นอกจากพ่อแล้ว น้าธรรมมีส่วนอย่างมากที่ส่งเสริมให้ฉันเติบโตขึ้นมาเป็นคนช่างคิด ช่างฝัน และรักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ
น้าธรรมเป็นนักอ่าน ในบ้านของน้ามีหนังสือมากมาย หลายหลากประเภท
พ่อกับน้าธรรมมักจะแลกเปลี่ยนหนังสือกันอ่านอยู่เป็นประจำ ว่าง ๆ ก็จะนั่งคุยกันถึงหนังสือเล่มโน้นเล่มนี้ นักเขียนคนโน้นคนนี้
น้าไม่เคยหวงหรือกีดกัน หากบางครั้งในช่วงวันหยุดหรือปิดเทอมพวกเราจะพากันขลุกอยู่กับกองหนังสือในบ้านน้าเป็นวัน ๆ






วัยและวันผ่านไป...........
เส้นทางชีวิตพาฉันออกห่างจากบ้านไปเนิ่นนาน...พบพานผู้คนมากขึ้น
นาน ๆ ครั้งที่กลับมาบ้าน ...หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป...
น้าธรรมยังนั่งอยู่ตรงนั้น ตรงเก้าอี้โยกเก่า ๆ หน้าบ้าน บางครั้งฉันก็ได้แต่ยกมือไหว้สวัสดีหากพบหน้า...
แต่หลายครั้งฉันก็เพียงเดินผ่านไปเฉย ๆ ไม่ได้แวะเวียนเข้าไปทักทายท่าน...

ความคิดและความทรงจำใหม่ ๆ ไหลเวียนเข้ามาในคัลลองแห่งการเรียนรู้
โลกและชีวิตของฉันเปลี่ยนไป สับสน ซับซ้อนและวุ่นวาย...
จนแทบกลบและลบเลือนความทรงจำเก่า ๆ ไปเสียสิ้น...

..........

เช้าวันนี้...
ในตะกร้าหน้ารถจักรยานของฉัน นอกจากบรรดาผักสดและผลไม้ที่ฉันซื้อมาเพื่อปรุงเป็นอาหารประจำวันแล้ว...
ฉันยังเจียดตังค์ค่ากับข้าวซื้อดอกกล้วยไม้ใส่กระถางมาด้วยอีกหนึ่งกระถาง

ฉันมาแวะที่บ้านน้าธรรมตามคำบอกกล่าว...
น้าธรรมกุลีกุจอหยิบข้าวหลามที่ปอกแล้วออกมาให้ฉัน...
ฉันก็หยิบกระถางกล้วยไม้ส่งให้น้าธรรม...พร้อมกับคำขอบคุณ
ข้าวหลามสองกระบอกอุ่นระอุอยู่ในมือ...
หากรอยยิ้มของชายชราวัย ๘๕ ขณะที่รับกระถางกล้วยไม้จากมือฉันเมื่อเช้าวันนี้ อบอุ่นอยู่ในหัวใจ
และจะยังคงค้างคา ติดตรึงใจอยู่เช่นนั้น...อีกนานเท่านาน








Create Date :16 มกราคม 2552 Last Update :7 มิถุนายน 2552 14:42:15 น. Counter : Pageviews. Comments :26