เรารักในหลวง ชม คลิปวิดิโอ เฉลิมพระเกียรติ ประทับใจมาก ๆ ครับ
Create Date :20 มกราคม 2550
Last Update :21 มกราคม 2550 20:20:18 น.
Counter : Pageviews.
Comments :48
- Comment
โดย: STAR ALONE (STAR ALONE
โดย: นาขวัญ IP: 58.147.70.80 20 มกราคม 2550 8:56:07 น.
ทรงพระเจริญ
โดย: พจมารร้าย IP: 203.113.61.198 20 มกราคม 2550 9:10:51 น.
ทรงพระเจริญ
โดย: spaceship
รักในหลวงเช่นกันค่ะ ดีใจที่ได้เกิดบนผืนแผ่นดินนี้
โดย: fonrin
โดย: N_BEE810
โดย: ญิ๋งจ๋าเองจร้า.. (น้องจ๋าแก้มป่อง
โดย: ตังเมโว๊ย 406 หลังเขียว IP: 58.147.81.196 21 มิถุนายน 2550 17:06:53 น.
โดย: อร IP: 124.121.61.242 4 ธันวาคม 2550 0:29:30 น.
ธ ดั่งชลไหลมา ดับทุกข์
มนุษย์ล้วนเทวา ชูเชิด
ประชาไทยเกษมสุข ทั่วหล้าสดุดี
โดย: พอเพียง IP: 125.26.207.76 19 พฤศจิกายน 2551 11:01:47 น.
สองพระบาทที่ก้าวไปไทยสุขสันต์
สองพระเนตรพบปัญหาทรงฝ่าฟัน
สองพระกัณฑ์ทรงทราบทุกข์มอบสุขแทน
โดย: มิ้น IP: 125.26.207.76 19 พฤศจิกายน 2551 11:03:30 น.
ทรงครองชาติ ครองชน พันกาลสมัย
ทุกย่างพระบาท ประกาศก้อง เพื่อผองไทย
ทรงครองธรรม นำชัย เพื่อปวงชน
โดย: อ้น IP: 125.26.207.76 19 พฤศจิกายน 2551 11:04:47 น.
ชนเหล่าราษฎร์ร่วมมา กราบไหว้
ประสิทธิ์ประสาท ประเสริฐบุญญา
องค์เอกมิ่งขวัญไร้ สิ้นโรคภัยพาน
ภูมิธรรม ธ ปกเกล้า ชาวสยาม
ภูเบศวร์ปกเขตคาม ปิ่นเหล้า
ภูมินทร์ปิ่นพระนาม ทรงศักดิ์
ภูมิพลปิ่นฟ้า เทิดไท้ถวายพร
โดย: thai IP: 125.26.207.76 19 พฤศจิกายน 2551 11:05:59 น.
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
มหิตลาธิเบศร รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร
เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2489
เป็นพระมหากษัตริย์ องค์ที่ 9 แห่ง พระบรมราชจักรีวงศ์
และได้ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการว่า
"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493
ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าตลอดระยะเวลาที่ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นาปัปการ เพื่อพสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่า ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติและนับถือศาสนาใด พระองค์ทรงเสียสละทุ่มเทพระวรกายดูแลทุกข์สุขของอาณาประชาราษฎร์อย่างมิเห็น แก่เหน็ดเหนื่อย
จากพระราชกรณียกิจนานัปการ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราช สมบัติ 60 ปี เพื่อพสกนิกรของพระองค์ ก่อให้เกิด ความสงบสุขร่มเย็น ความเจริญก้าวหน้าแก่ชาติไทย ทัดเทียมนานาอารยะประเทศจนมีคำกล่าวว่า “คนไทยโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ” หรือ “ธ ทรงเป็นยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์"
โดย: เรารักในหลวง 162 IP: 118.173.242.178 28 พฤศจิกายน 2551 10:09:31 น.
โอนนิรุติอันรส รื่นร้อย
บูรณ์อาศิรพจน์ เพียงพาทย์
ทุกท่วง มธุรสถ้อย เทิดหล้าราชัน
พระเสโทท่วมพื้น ถึงพรหม
ล้านราชกิจวิกรม ดั่งฟ้า
ตรากตรำพระกายตรม เพื่อผสก
ภูมิพลังแห่งหล้า หลักแก้วโกสินทร์
ยินแต่ทวยราษฎร์ซ้อง สดุดีพระเอย
เกริกพระเกียรติบารมี กึกก้อง
น้อมมนัสปฐพี รองบาท-บงสุ์พ่อ
ขอพระชนม์ดลพ้อง ผ่องถ้วนจิรันดร์เทอญ
โดย: เรารักในหลวง 162 IP: 118.173.242.178 28 พฤศจิกายน 2551 10:12:14 น.
๖๐ ปี ทรงครองธรรม ดับลำเค็ญ ไผทเย็น นิราศไร้ เภทภัยพาล
“ เศรษฐกิจพอเพียง” ตามรอยพ่อ รู้เพียงพอ ก่อสุข ทุกสถาน
ทรงเสียสละ มากล้น พ้นประมาณ ๖๐ ล้าน ดวงใจ ถวายพระพร ฯ
โดย: เรารักในหลวง 162 IP: 118.173.242.178 28 พฤศจิกายน 2551 10:13:29 น.
๖๐ ปี ทรงครองราชย์ ชาติงดงาม โลกลือนาม คารวะ สดุดี
ธ บำรุง ประชาไทย ให้เป็นสุข ธ บำราศ นิรทุกข์ ทุกถิ่นที่
พระประเสริฐ เลิศฟ้า ทั่วธานี น้อมชีวี ถวายพระองค์ ทรงพระเจริญ
โดย: เรารักในหลวง 162 IP: 118.173.242.178 28 พฤศจิกายน 2551 10:14:22 น.
พระภูมิพล ทรงฉัตร ชัชวาล ทุกหย่อมย่าน ร่มด้วยธรรม แห่งภูธร
ครบ ๖๐ ปีทอง ทรงครองราชย์ ไทยทั้งชาติ เกษมสุข สโมสร
โดย: เรารักในหลวง IP: 118.173.242.178 28 พฤศจิกายน 2551 10:16:52 น.
ทุกหย่อมหญ้า ทุกแดนดิน ถิ่นกันดาร ซึ้งในพระ ปรีชาชาญ ทุกวานวัน
๖๐ ปี เวียนบรรจบ สบสมัย ผองชาวไทย ปรีดิ์เปรม เกษมสันต์
น้อมถวาย พระพรชัย องค์ราชันย์ พระมิ่งขวัญ ขอจง “ ทรงพระเจริญ ”
โดย: เรารักในหลวง 162 IP: 118.173.242.178 28 พฤศจิกายน 2551 10:28:00 น.
พระภูมิพล ทรงฉัตร ชัชวาล ทุกหย่อมย่าน ร่มด้วยธรรม แห่งภูธร
ครบ ๖๐ ปีทอง ทรงครองราชย์ ไทยทั้งชาติ เกษมสุข สโมสร
ขอพระองค์ ทรงเจริญพระขวัญ นิรันดร สถาพร สถิตพงศ์ วงศ์จักรี
โดย: เรารักในหลวง 162 IP: 118.173.242.178 28 พฤศจิกายน 2551 10:28:47 น.
จนสห ประชาชาติ ประกาศลือ ในหลวงคือ ยอดกษัตริย์ นักพัฒนา
โดย: เรารักในหลวง 162 IP: 118.173.242.178 28 พฤศจิกายน 2551 10:29:36 น.
ภูมิพลล้นเกล้า ชาวประชา ไทยทั่วหน้า ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ
โดย: เรารักในหลวง 162 IP: 118.173.242.178 28 พฤศจิกายน 2551 10:30:33 น.
มาอำนวยอวยพรให้พร้อมกัน ทุกคืนวันปราศจากโรคพิษภัย
โดย: เรารักในหลวง 162 IP: 118.173.242.178 28 พฤศจิกายน 2551 10:31:26 น.
//region2.prd.go.th/king/weblink.htm
//kumis.cpc.ku.ac.th/nk40/nk/index.html
หากเป็นคนไทยควรร่วมถวายความจงรักภักดีแด่ประองค์ท่านด้วยความเป็นคนดี ไม่กล่าวถึงพระองค์ท่านในทางไม่ดีหรือนำพระองค์ท่านไปยุ่งกับการเมืองนะครับ
โดย: อาชาน้อย IP: 125.27.192.25 28 พฤศจิกายน 2551 15:27:41 น.
เทิดพระองค์ ทรงบิดา ประชาชาติ ประมุขศาสตร์ ศิลปิน ปิ่นสง่า
ภูมิพลล้นเกล้า ชาวประชา ไทยทั่วหน้า ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ
โดย: piroj IP: 125.25.189.37 29 พฤศจิกายน 2551 16:52:48 น.
ฃอพระองค์ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนานและทรงพระพลามัยแข็งแรง
โดย: piroj IP: 125.25.190.50 30 พฤศจิกายน 2551 15:50:21 น.
ปวงชนชาวไทยเหล่านั้นต่างรอคอยห้วงเวลาที่ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และ "สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ" เสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม เนื่องในวโรกาสครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ด้วยใจจิตที่จงรักภักดีอย่างสูงสุด
ในวันมหามงคลนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า
"ขอขอบใจทุกๆ คน จิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดี และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทุกคน ทุกฝ่าย ทำให้ข้าพเจ้าเห็นแล้วมีกำลัง ใจมากขึ้น นึกถึงคุณธรรมซึ่งเป็นที่ตั้งของความรัก ความสามัคคี ที่ทำให้คนไทยเราสามารถร่วมมือร่วมใจกันรักษาและพัฒนาชาติบ้านเมืองให้ เจริญรุ่งเรืองสืบต่อกันไปได้ตลอดรอดฝั่ง"
ทั้งนี้ตลอดเวลาอันยาวนานของการครองสิริราชสมบัติ พระองค์ทรงมี .พระบรมราโชวาท พระราชดำรัส เรื่อง "ความสามัคคีของคนในชาติ " มุ่งให้คนไทยมีความรักใคร่กลมเกลียว สมัครสมานสามัคคี มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อันจะนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง คง ความเป็นชาติไทยไว้ได้ หลายต่อหลายครั้ง เช่น
" . . . ชาติใดเสื่อมสูญย่อยยับอับปางไป ก็เพราะประชาชาติขาดสามัคคีธรรม แตกแยกเป็นหมู่คณะ เป็นพรรคเป็นพวก คอยเอารัดเอาเปรียบ ประหัสประหารซึ่งกันและกัน บางพรรคบางพวก ถึงกับเป็นไส้ศึกให้ศัตรูมาจู่โจมทำลายชาติของตนดังนี้ ข้าพเจ้าจึงขอชักชวนพี่น้องชาว ไทยทั้งหลาย ให้ระลึกถึงพระคุณของบรรพบุรุษ ซึ่งได้กอบกู้รักษาบ้านเกิดเมืองนอนของเรามานั้นให้จงหนัก แล้วถือเอาความสามัคคี ความ ยินยอมเสียสละส่วนตัวเพื่อประโยชน์ยิ่งใหญ่ของประเทศชาติ เป็นคุณธรรมประจำใจอยู่เนืองนิจ..." ... (พระราชดำรัส วันขึ้นปีใหม่ 2494 )
" พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ว่า บุคคลใดประกอบความดี คุณความดีนั้นย่อมต้องสนองตอบ ข้าพเจ้าจึงขอชักชวนแต่ละท่าน ให้พยายามบำเพ็ญ ความดีด้วยน้ำใจอันบริสุทธิ์ แม้บางโอกาสอาจจะต้องเสียสละบ้าง ก็จงมานะอย่าท้อถอย จงสมัครสมานสามัคคีร่วมใจกันให้มั่นคงด้วยดี ทั้งนี้ เพื่อความสุขสวัสดีของท่านและเพื่อความวัฒนาถาวรของประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทั้งหลาย (พระราชดำรัสในโอกาสขึ้นปี พ.ศ.2497) )
" ถ้าหากชาวไทยทั้งหลายต่างได้ประกอบกิจหน้าที่การงานของตนด้วยความสุจริต มีความซื่อตรงต่อหน้าที่ ต่อตนเอง มีศีลธรรมอันดีและ ความสามัคคีกันแล้ว จักเป็นทางช่วยให้ประเทศชาติได้มีความสงบสุข และสามารถเผชิญเหตุการณ์ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ".... (พระราชดำรัส ในโอกาสขึ้นปี พ.ศ. 2498)
" ความสามัคคีประนีประนอมซึ่งกันและกันเป็นสิ่งจำเป็นและพึงปรารถนายิ่งนัก ข้าพเจ้าขอแสดงความหวังว่า ชาวไทยทุก ๆ คนคงจะ พยายามรักษาความสามัคคีกลมเกลียวกันดังว่านั้น และตั้งใจปฏิบัติภารกิจหน้าที่ของแต่ละคนให้เป็นไปอย่างดีที่สุดที่จะพึงทำได้ ทั้งนี้เพื่อ ช่วยกันสร้างเสริมความเจริญรุ่งเรืองแก่ประเทศชาติของเราสืบไป (พระราชดำรัสในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2501)
" ภาระในการบริหารนั้นจะประสบผลด้วยดี ย่อมต้องอาศัยความรักชาติ ความซื่อสัตย์สุจริต ความสมัครสมานกลมเกลียวกัน ประกอบกับ ความร่วมมือของประชาชนพลเมืองทั่วไป " (พระราชดำรัสในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2502)
" ขอให้ท่านทั้งหลายจงช่วยกันรักษาความสามัคคี ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และร่วมกันตรวจตราระมัดระวังอย่าให้เหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้นได้ เพื่อความปลอดภัยและวัฒนาถาวรของประเทศเรา " (พระราชดำรัสในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2505)
" ท่านทั้งหลายอย่าได้มีความประมาท ขอให้มีความสามัคคีกลมเกลียวกันทุกฝ่าย มีความหนักแน่นและรอบคอบในการตัดสินเหตุการณ์ต่าง ๆ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของท่าน โดยมุ่งถึงประโยชน์ส่วนร่วมและความเจริญของประเทศชาติ " (พระราชดำรัสในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2508)
" ขอให้ทุกคนตั้งมั่นอยู่ในความสามัคคี หมั่นประกอบสัมมาอาชีพโดยความสัตย์สุจริต คิดถึงประโยชน์สุขส่วนร่วมของบ้านเมืองเสมอเป็น สำคัญ..." (พระราชดำรัสในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2511)
" . . . ขอให้ทุกคนสำนึกตระหนักว่า ความสมัครสมานสามัคคีของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะต้องรักษาไว้ให้ยั่งยืนอยู่ตลอดไป หากเรามี ความประมาท เราแตกสามัคคีกันเมื่อใด เราก็จะเป็นอันตรายย่อยยับลงเมื่อนั้น..." .... (พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ทหารรักษาพระองค์ ในพิธีตรวจพลสวนสนาม เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 3 ธ.ค. 2512 )
"...ให้แต่ละคนมุ่งมั่นประกอบหน้าที่การงานทุก ๆอย่างด้วยความอุตสาหพยายาม ด้วยความสุจริต รักษาความสามัคคีในหมู่ไทยไว้ให้แน่วแน่ โดยยึดเอาประโยชน์ส่วนรวมของชาติบ้านเมืองเป็นจุดประสงค์อันอุดม " (พระราชดำรัสในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2516)
" ทางที่เราจะช่วยกันได้ ก็คือการทำความคิดให้ถูกและแน่วแน่ ในอันที่จะยึดถือชาติบ้านเมืองเป็นที่หมาย ต้องเพลาการคิดถึงประโยชน์ เฉพาะตัว และความขัดแย้งกันในสิ่งที่มิใช่สาระลง ผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใดอยู่ ก็เร่งกระทำให้สำเร็จลุล่วงไป โดยเต็มกำลังความสามารถ ด้วย ความบริสุทธิ์ใจ ด้วยความเมตตา ด้วยความปรองดองกันและด้วยความปรารถนาดีต่อกัน ที่สุด " (พระราชดำรัสในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2520)
" ขอให้ทุกคนพยายามรักษาจิตใจใฝ่ดีใฝ่เจริญนี้ไว้ให้ถาวรหนักแน่น ถ้ามีสิ่งไรที่เป็นปัญหาขัดแย้งเกิดขึ้น ขอให้หันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำ ความเข้าใจตกลงกันให้ได้ด้วยเหตุผล ด้วยความเป็นญาติ เป็นมิตร แลเป็นไทยด้วยกัน ไม่ควรประมาทปล่อยให้เหตุการณ์ยืดเยื้อลุกลามจนเป็น เหตุให้แตกความสามัคคี ..." (พระราชดำรัสในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2526)
" ความเมตตาปรองดองและความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกันนั้นยังมีอยู่ในจิตใจคนไทย ถ้าเราทั้งหลายพยายามนึกถึงประโยชน์และความสุขความ เจริญของส่วนรวมให้มาก พยายามหันหน้าเข้าหากันและมองกันในทางดีอยู่เสมอก็จะเข้าใจกัน และร่วมมือร่วมงานกันได้เป็นอันดี " (พระ ราชดำรัสในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2531)
" ความสามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งดันเดียวกัน กับความรักใคร่เผื่อแผ่ช่วยเหลือกันฉันญาติพี่น้อง สองประการนี้ คือคุณลักษณะสำคัญ ของไทย ที่ช่วยให้ชาติบ้านเมืองอยู่เป็นอสิระ และเจริญมั่นคงมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน .." (พระราชดำรัสในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2532)
"...เมื่อเกิดปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ของประชาชน ก็ควรจะร่วมกันคิดอ่านแก้ไขให้คลี่คลาย ไปโดยไม่ชักช้า ด้วยความรู้สามารถ ความรับผิดชอบ และความสามัคคีปรองดอง (พระราชดำรัสในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2534)
" จึงเป็นธรรมดาอยู่เอง ที่จะต้องมีความขัดแย้งเกิดขึ้นบ้าง จะให้ทุกคนทุกฝ่ายมีความคิดเห็นสอดคล้องต้องกันตลอดทุก ๆ เรื่องไป ย่อมเป็น การผิดวิสัย เพราะฉะนั้น แต่ละฝ่ายแต่ละคนจึงควรจะคำนึงถึงจุดประสงค์ร่วมกัน คือความเจริญไพบูลย์ของชาติเป็นข้อใหญ่ " (พระราช ดำรัสในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2535)
" ความสามัคคีปรองดองและความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกันนั้น ยังมีบริบูรณ์อยู่ในจิตใจของคนไทย ถ้ามีเหตุการณ์อยู่ในจิตใจของคนไทย ถ้า เหตุการณ์หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้น และมีผลกระทบถึงส่วนรวมแล้วเราจะเข้าใจกัน และร่วมมือกันได้แน่นแฟ้นเสมอ " (พระราชดำรัสใน โอกาสขึ้นปีใหม่ 2539)
" ไม่ว่าจะมีเหตุไม่ปรกติหรือปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น เราควรจะได้ทำความเข้าใจและร่วมกันคิดอ่าน ปฏิบัติแก้ไขด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา ด้วย ความบริสุทธิ์จริงใจ ให้ทุกสิ่งทุกอย่างคลี่คลายลุล่วงไป เพื่อให้ประเทศชาติของเราก้าวหน้าต่อไปได้โดยสวัสดี " (พระราชดำรัสใน โอกาสขึ้นปีใหม่ 2539)
" ประเทศของเราต้องประสบกับวิกฤตการณ์ต่าง ๆติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี แต่ด้วยความรู้เท่าทันและความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคน ที่ช่วยกันประคับประคองแก้ไข บ้านเมืองของเราจึงยังมั่นคงเป็นปรกติอยู่ " (พระราชดำรัสในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2545)
"...มีความสำนึกแน่ชัดในหน้าที่ความรับผิดชอบ และตั้งใจปฏิบัติตนปฏิบัติงานให้ดี ให้ประสานสอดคล้องกันนี้ จัดเป็นความสามัคคีอย่าง หนึ่ง คือความสามัคคีในชาติ ทุกคนในชาติจะได้ตั้งตน ตั้งใจให้อยู่ในความสามัคคีดังกล่าว ประโยชน์และความสุขจะบังเกิดขึ้นพร้อมทั้ง แก่ส่วนตัว และส่วนรวม "..... (พระราชดำรัส เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2550 )
"...พูดได้ว่า หากคนไทยขาดความสำนึกในชาติ ขาดความสามัคคี ก็อาจจะประสบเคราะห์กรรมกันทั้งชาติ จึงขอให้ทหารทุกคน และชาวไทย ทุกคน ทุกหมู่ ทุกเหล่า ได้พิจารณาตัดสินใจว่า ประเทศชาติของเรานั้น สำคัญควรที่เราจะรักษาไว้ให้ยั่งยืนต่อไปหรือไม่ ถ้าเห็นว่าสำคัญ มั่นใจ ก็ขอให้สังวร ระวังกาย ใจ ให้ตั้งมั่นอยู่ในความสัตย์สุจริต พยายามลดอคติ และสร้างเสริมความเมตตา สามัคคีในกันและกัน ไม่ว่าจะทำการสิ่ง ใดให้ยึดเอาความมั่นคงปลอดภัยของชาติ เป็นที่หมายสูงสุด" ..... (พระบรมราโชวาทในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของเหล่า ทหารรักษาพระองค์ 2 ธ.ค. 2550 )
"..ทหารรักษาพระองค์ทุกคน ไม่ว่าจะประพฤติปฏิบัติการใด จะต้องระมัดระวังกาย ใจ ให้มั่นคง เที่ยงตรง ให้มีความสัตย์สุจริต และความ สมัครสมานสามัคคี มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง อดทน และอดกลั้น ถ้าทุกคนมุ่งใจปฏิบัติดังนี้ ความมีความเจริญที่จะเกิดขึ้น ทั้ง แก่ตัวท่าน แก่หมู่คณะ ตลอดถึงชาติบ้านเมือง เป็นเกียรติ เป็นศักดิ์ศรีของทหารรักษาพระองค์อย่างแท้จริงและยั่งยืน.."(พระบรมราโชวาทใน พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของเหล่าทหารรักษาพระองค์ 2 ธ.ค. 2551)
ไม่เท่านั้นพระองค์ยังมีพระบรมราโชวาท เกี่ยวกับ"สติ" อีกหลายครั้ง เช่น
"......ความรู้สึกระลึกได้ว่าอะไรเป็นอะไร หรือเรียกสั้นๆ ว่า "สติ" นั้น เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่จะทำให้บุคคลหยุดคิดพิจารณาก่อนที่จะทำ จะพูด และแม้แต่จะคิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งว่าสิ่งนั้นดีหรือชั่ว มีคุณประโยชน์หรือเสียหาย ควรกระทำหรือควรงดเว้นอย่างไร เมื่อยั้งคิดได้ ก็ จะช่วยให้พิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างอย่างละเอียดประณีตและสามารถกลั่นกรองเอาสิ่งที่ไม่เป็นสาระไม่เป็นประโยชน์ออกให้หมด คงเหลือแต่ เนื้อแท้ที่ถูกต้องและเป็นธรรม ซึ่งเป็นของควรคิดควรพูดควรทำแท้ๆ.." ... (พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่สามัคคีสมาคม ในพระบรม ราชูปถัมภ์เพื่อเชิญไปอ่านในการประชุมสามัญประจำปี ระหว่างวันที่ 16-20 กรกฏาคม 2520)
ตลอดเวลาที่พระองค์ทรงเป็นพระประมุขเหนือหัว พระองค์ทรงมีพระราชกรณียกิจในการแก้ไขปัญหาวิกฤติทางการเมืองของประเทศ หลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น วิกฤตการณ์ 14 ตุลาคม 2516 วิกฤตการณ์ 6 ตุลาคม 2519 และ 17 พฤษภาคม 2535 โดยผ่าน พระราชดำรัส และพระบรมราโชวาท ที่มีการตักเตือนและให้สติในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองมาโดยตลอด เช่น
" ... ประเทศของเรา ไม่ใช่ประเทศของหนึ่งคน สองคน เป็นประเทศของทุกคน ต้องเข้าหากัน ไม่เผชิญหน้ากัน แก้ปัญหา เพราะปัญหามีอยู่ เวลาคนเราเกิดความบ้าเลือด เวลามีการปฏิบัติ มันลืมตัว ลงท้ายเขาไม่รู้ว่าตีกันเพราะอะไร แล้วก็จะแก้ปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าจะต้องเอาชนะ แล้วก็ใครจะชนะไม่มีทาง อันตรายทั้งนั้นมีแต่แพ้ คือต่างคนต่างแพ้ ผู้ที่เผชิญหน้าก็แพ้ แล้วก็แพ้ที่สุดก็คือประเทศชาติประชาชนจะเป็น ประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ประชาชนเฉพาะใน กรุงเทพมหานคร ถ้าสมมติว่า กรุงเทพมหานครเสียหาย ประเทศก็เสียหายหมด ทั้งหมดแล้ว ก็จะมีประโยชน์อะไร ที่จะทะนงตัวว่าชนะเวลาอยู่บนกองสิ่งปรักหักพัง ..." (พระราชดำรัสวันที่ 20 พ.ค. 2535 )
"... ปัจจุบันนี้รู้สึกว่าบ้านเมืองมีปัญหาและความขัดข้องเกิด ขึ้นไม่สร่างซาเกือบทุกวงการ ... ถึงเวลาแล้ว ที่ทุกคนทุกฝ่ายจะต้องลดความถือดี และการทำตามใจตัวลง แล้วหันมาหาเหตุผล ความถูกต้องและความรับผิดชอบต่อส่วนรวมกันอย่างจริงจัง เพื่อจัดอคติ และสร้างเสริมความ เมตตาสามัคคีในกันและกัน ... ให้สัมฤทธิ์ประโยชน์สูงสุดในการธำรงรักษาอิสรภาพ อธิปไตย และความเป็นไทย ให้ยั่งยืน มั่นคงอยู่ตลอด ไป " .. (พระราชดำรัสในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธ.ค. 2535)
ในปี 2551 นี้ เป็นปีมหามงคลอีกปี ที่ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์นักปราชญ์ พระมหากษัตริย์ผู้มีความเป็น ธรรมราชา และพระมหากษัตริย์นักประชาธิปไตย ผู้ทรงได้รับการยกย่องว่าทรงเป็น "พระราชาผู้เป็นที่หนึ่งในโลก" จะทรงเจริญพระ ชนมพรรษา 81 พรรษา ราษฎรพสกนิกรจึงต้องร่วมแรงร่วมใจ ปฎิบัติตาม "คำสอนพ่อ" เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลโดยพร้อมเพรียง
อีกทั้งจากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติในปีนี้(2551) ระบุว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้ประเทศชาติ สงบสุขและต้องการสร้างความสามัคคี เพื่อถวายแด่พ่อของแผ่นดิน คือในหลวงผู้เป็นที่รักยิ่งของทุกคน โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้า หากัน สร้างความรักและร่วมมือกัน เพื่อร่วมกันฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่กำลังถาโถมเข้ามา...
....เพื่อประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทุกคน!!
{
โดย: piroj IP: 125.25.190.103 9 ธันวาคม 2551 20:36:10 น.
โดย: piroj IP: 125.25.146.202 20 ธันวาคม 2551 9:26:12 น.
การแพร่ข่าวโดยขาดความระมัดระวังหรือแม้แต่คำพูดต่างๆ เพียงนิดเดียวก็สามารถจะทำลายงานที่ผู้มีความปรารถนาดีทั้งหลายพยายามสร้างไว้ด้วยความยากลำบากเป็นเวลาแรมปี... เหมือนฟองอากาศนิดเดียว ถ้าเข้าไปอยู่ในเส้นเลือดก็จะสามารถปลิดชีวิตคนได้ทั้งคน และน้ำตาลหวานๆ ก้อนเล็กนิดเดียว ถ้าใส่ลงในถังน้ำมันรถ ก็จะทำให้เครื่องจักรดีๆ ของรถเสียได้โดยสิ้นเชิง...
จากพระราชดำรัสนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอุปมา คำพูดเล็กๆ น้อยๆ เปรียเทียบกับ ฟองน้ำ และ น้ำตาล ว่าสามารถทำลายสิ่งที่สร้างมาด้วยความยากลำบากได้ เช่นเดียวกันกับฟองอากาศและน้ำตาลแม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าฟองอากาศเข้าไปอยู่ในเส้นเลือด และน้ำตาลเข้าไปอยู่ในเครื่องยนต์แล้วทั้งเครื่องยนต์และเส้นเลือดก็จะถูกทำลายลงได้
โดย: piroj IP: 125.25.93.211 25 ธันวาคม 2551 10:56:10 น.
โดย: piroj_1962@hotmail.com. IP: 125.25.96.80 28 ธันวาคม 2551 12:44:20 น.
โดย: piroj_1962@hotmail.com. IP: 125.25.96.80 28 ธันวาคม 2551 12:46:49 น.
โดย: piroj_1962@hotmail.com. IP: 125.25.130.240 3 มกราคม 2552 6:41:24 น.
โดย: มานะ IP: 125.25.130.240 3 มกราคม 2552 6:42:27 น.
โดย: มานะ IP: 125.25.142.172 3 มกราคม 2552 6:45:36 น.
อันนี้เคยบอกว่า ความพอเพียงนี้ไม่ได้หมายความว่า ทุกครอบครัวจะต้องผลิตอาหารของตัว จะต้องทอผ้าใส่เอง อย่างนั้นมันเกินไป แต่ว่าในหมู่บ้านหรือในอำเภอ จะต้องมีความพอเพียงพอสมควร บางสิ่งบางอย่างที่ผลิตได้มากกว่าความต้องการ ก็ขายได้ แต่ขายในที่ ไม่ห่างไกลเท่าไหร่ ไม่ต้องเสียค่าขนส่งมากนัก
(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา : ๔ ธันวาคม ๒๕๔๐)
โดย: ไพโรจน์ IP: 125.24.162.232 9 กุมภาพันธ์ 2552 9:55:18 น.
(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา : ๔ ธันวาคม ๒๕๔๐)
โดย: รัตน์ IP: 125.24.162.232 9 กุมภาพันธ์ 2552 9:56:21 น.
(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา : ๔ ธันวาคม ๒๕๔๐)
โดย: สมวุฒิ IP: 125.24.162.232 9 กุมภาพันธ์ 2552 9:57:10 น.
เมื่อท่านตั้งใจดี มีแผนงานดี มีหลักวิชา มีเหตุผล มีสติรอบคอบในงานที่ทำแล้ว จะเกิดความทราบตระหนักด้วยตนเองขึ้นว่า งานที่ทำนั้น จะได้ผลดีแน่นอน แม้อาจยังไม่ปรากฏผลในปัจจุบัน ทันตาเห็น ก็จะแน่แก่ใจได้ว่าจะสำเร็จลุล่วงด้วยดีในเวลาต่อไป
(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๑๖)
โดย: รือชา IP: 125.24.162.232 9 กุมภาพันธ์ 2552 9:58:45 น.
(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา : ๔ ธันวาคม ๒๕๑๗)
โดย: มานะ IP: 125.24.162.232 9 กุมภาพันธ์ 2552 9:59:39 น.
(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา : ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑)
โดย: ศิวกร IP: 125.24.162.232 9 กุมภาพันธ์ 2552 10:00:41 น.
(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา : ๔ ธันวาคม ๒๕๑๙)
โดย: ดุจเทพ IP: 125.24.162.232 9 กุมภาพันธ์ 2552 10:01:45 น.
ทั้งนี้เพราะการกระทำใดๆ เพื่อเพิ่มพูนในด้านปริมาณแล้ว ย่อมต้องคำนึงถึงคุณภาพไว้อยู่เสมอ ข้าพเจ้าได้เคยพูดถึงความสำคัญของประเพณี เรื่องภาษา เรื่องความเป็นคน วันนี้ ใคร่ที่จะพูดถึงเรื่อง หน้าที่ เพราะหน้าที่เป็นเรื่องสำคัญมากในการปฏิบัติการงาน คำว่าหน้าที่หมายถึง กิจที่ต้องทำ ในระบอบประชาธิปไตย ประชาชน ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพสมบูรณ์ และเมื่อมีสิทธิแล้วย่อมมีหน้าที่รัฐธรรมนูญการปกครองของประเทศต่างๆ จึงได้บัญญัติถึงสิทธิและหน้าที่ของประชาชน พลเมืองไว้ให้เป็นหลักปฏิบัติ สิทธิและหน้าที่ เป็นสิ่งควบคู่กันไป
(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย: ๓ สิงหาคม ๒๕๐๔)
โดย: สายบัว IP: 125.24.162.232 9 กุมภาพันธ์ 2552 10:03:12 น.
(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย: ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๑๐)
โดย: ล้อม IP: 125.24.162.232 9 กุมภาพันธ์ 2552 10:04:08 น.
(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยศิลปากร : ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๒)
โดย: มาลัย IP: 125.24.162.232 9 กุมภาพันธ์ 2552 10:04:57 น.
(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ : ๒๘ สิงหาคม ๒๕๑๘)
โดย: ลัดดา IP: 125.24.162.232 9 กุมภาพันธ์ 2552 10:07:38 น.
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!
GOD always forgive your mistake
the one that you cant even forget,
he always does it and always being with us
to help and blesss us for us whose heart is full of him5
โดย: da IP: 124.120.5.122 19 เมษายน 2553 6:30:03 น.
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก
โปรดคุ้มครองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง
เป็นมิ่งขวัญแก่ปวงชนชาวไทยไปสืบนานเท่านาน
โดย: acolyte IP: 203.113.97.9 24 พฤศจิกายน 2553 10:21:47 น.
ทรงดำริสิ่งมีค่ามหาศาล
ยอมสละทุกสิ่งเพื่อกิจการ
ให้ทวยราษฎร์ทั่วทุกย่านได้ร่มเย็น
โดย: thaioffload IP: 203.113.97.9 24 พฤศจิกายน 2553 10:22:57 น.