bloggang.com mainmenu search
คุยกันเล่น #24 : สงสัยต้องใช้มุขนี้ซะแล้ว

ช่วงประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่านมานี้ หลังจากได้ไปถอยกล้อง Canon 650D มาใหม่ พร้อมกับเลนส์ Pancake 40 mm. F 2.8
และก็ตั้งใจไว้ว่าจะใช้กล้องตัวนี้คู่กับเลนส์ตัวนี้ แบบที่คิดว่าจะไม่ถอดเลนส์ออกเลย (เราจะไม่พรากจากกัน)

กลัองตัวนี้กับเลนส์ตัวนี้ เมื่อนำมาใช้คู่กันแล้ว
หันมาใช้ที่ mode Tv อย่างเดียวเลย
ด้วยที่เราสามารถถือกล้องถ่ายภาพนิ่งๆ ได้ที่ speed อย่างน้อย 1/60
เลยมาตั้งค่าไว้ที่ประมาณนี้ 1/60 - 1/80
แล้วค่าที่เหลือ เช่นค่า F ก็ปล่อยให้กล้องจัดการเอง
และรวมถึงค่า ISO ด้วย ที่ปล่อยเป็น Auto ไปเลย

ลองใช้กล้องตัวนี้กับเลนส์ตัวนี้ถ่ายภาพเล่นๆ แบบไม่คิดอะไรอีกแล้ว
เพราะดูว่ากล้องกับเลนส์ทำหน้าที่คู่กันได้ดีๆ
แต่ก็ติดตรงที่ช่วงเลนส์ 40 mm. เป็นช่วงระยะที่ถ่ายภาพค่อนข้างยากๆ อยู่เหมือนกัน

ช่วงที่เอามาใช้ถ่ายภาพ จนพอรู้ระยะการใช้งาน แล้วก็รู้สึกว่า สนุกดีเหมือนกัน
หลายๆ ภาพ ถ่ายภาพแบบไม่ต้องคิดอะไร ก็พอได้ภาพกลับมาแบบที่ถูกใจอยู่

จะมีก็แต่เมื่อมาถ่ายภาพแบบกล้องคอมแพค ที่เปิด Live View แล้วมองตัวแบบ หรือจัดองค์ประกอบการถ่ายภาพด้วยการมองที่จอ LCD อย่างเดียว แทบไม่เคยมองผ่านช่อง Viewfinder เลย


จนเมื่อเร็วนี้ มีโอกาสติดกล้องมาถ่ายภาพงานๆ หนึ่ง ที่พอจะมีพริตตี้นางแบบให้ถ่ายภาพกันได้อยู่
หลังจากถ่ายภาพกันแบบทั่วๆ ไปแล้ว
คิดอยากจะเห็นภาพการถ่ายภาพตัวเอง
เลยหมุนจอ LCD กลับด้านมา ให้คนถ่ายภาพมองเห็นภาพตัวเองได้
จากนั้นก็ยื่่นกล้องให้น้องพริตตี้เค้าลองถ่ายภาพตัวเอง
ตอนแรกก็หวังว่าจะได้มุมภาพซะเกือบครึ่งตัว
แต่พอไปดูภาพที่จอ LCD แล้ว ได้ภาพแค่ head shot
น้องพริตตี้ ก็บอกว่าได้ภาพแค่ส่วนหน้าเท่านั้น


น้องเค้าถ่ายมาภาพเดียว

พอกลับมาดูภาพแล้ว แอบชอบใจเหมือนกัน
ภาพคมชัดดี ฝีมือน้องเค้าถ่ายภาพดีๆ ด้วยเช่นกัน

เห็นภาพกันแบบนี้แล้ว
ชวนให้คิดไปเลยว่า ต่อไปนี้เจอแบบคนไหนใบหน้าสวยๆ
จะยื่นกล้องให้เค้าถ่ายภาพตัวเอง Self Portrait มาด้วยเลยดีกว่า

เพราะจะเข้าไปถ่ายภาพเอง แล้วให้ได้ภาพ head shot แบบนี้
ดูว่าจะใกล้ชิดกันเกินไป เพราะคงอยู่จะห่างกันแค่ 50 ซม.
ถ้าน้องนางแบบเค้าไม่เกร็ง คนถ่ายนี่ล่ะครับที่จะเกร็ง 5555

ไว้ลองดูกันต่อไปว่า จะได้ภาพสวยๆ แบบนี้ จาก Pancake มาให้ชมกันอีกหรือเปล่า

ขอบคุณน้องนางแบบ พริตตี้ที่ถ่ายภาพตัวเองได้สวยมากๆ ไว้ด้วยครับ

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่แวะมาชมภาพถ่ายที่ blog และเพื่อนๆ ที่ได้แวะมาพูดคุยทักทายกันที่ blog ด้วยครับ






****** คุยกันเล่นท้าย Blog

ไม่แน่ใจว่าเคยเขียนเล่าเรื่องนี้ไปหรือยัง อาจจะเขียนไปบ้างนิดหน่อย
แต่ไม่เป็นไร เอามาเล่าสู่กันฟังใหม่อีกรอบก็ได้ หากว่าเล่าไปแล้ว

มีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง ถึงจะไม่สนิทกันมาก แต่ก็พอพูดคุยเรื่องการถ่ายภาพสู่กันฟังได้
เพื่อนคนนี้ไม่มีกล้อง DSLR เป็นของตัวเอง
และมาเล่าให้ฟังว่า ตอนที่ไปเที่ยวต่างประเทศ พกกล้อง DSLR ที่ยืมจากเพื่อนของเค้ามาอีกที
จากที่ไม่เคยใช้กล้อง DSLR มาเลย และก็ไม่ได้เป็นคนถ่ายภาพบ่อยๆ
เลยต้องไปหาคนที่ปรึกษา มาช่วยแนะนำการถ่ายภาพให้กับเค้าก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ

เพื่อนคนนี้ได้ครูดี ครับ
เป็นช่างภาพถ่ายภาพข่าวแนวอาชญกรรม ของหนังสือพิมพ์ค่ายหนึ่ง
เพื่อนเค้าเล่าว่า ครูคนนี้ของเค้า สอนให้ใ้ช้กล้องอยู่ mode เดียว คือ S ในกล้อง Nikon ถ้าเป็น Canon ก็ Mode Tv

เพื่อนเค้าไม่ได้เล่าให้ฟังมาหมดว่า ครูสอนเค้าอย่างไร
แต่ประมาณว่า ให้รู้จักว่าเหตุการณ์ไหน ควรจะตั้งค่า Speed เท่าไร

เพื่อนเล่ามาต่อว่า ผมใช้อยู่แค่ 2-3 speed เท่านั้น
1/60 1/125 1/250

ตอนทีุ่คุยกันครั้งแรกนี้ ก็รับฟัง เพราะยังไม่ได้เห็นภาพที่เพื่อนถ่ายภาพมา
แต่เพื่อนก็เล่าว่า ไปเที่ยวครั้งนี้ประทับใจมากๆ ได้เที่ยวเองอย่างที่ต้องการ เพราะเป็นการขับรถเอง ได้เที่ยวแบบลุยๆ ไปเที่ยวตามแผนที่ที่ได้วางไว้ และศึกษามาก่อนแล้ว

และที่สำคัญได้ภาพสวยถึงสวยมาก กลับมาไว้เป็นที่ระลึก


....ฟังไปแบบนี้ ก็ต้องบอกว่า ไว้คราวหน้าติดรูปมาให้ชมกันหน่อย
แหม อยากเห็นภาพถ่ายที่เล่ามาให้ฟังซะจริง
เพราะตัวเองกับ mode S / Tv ก็นึกถึง และนำมาใช้ตอนถ่ายภาพประเภท Action แนว Sport ซะเป็นส่วนใหญ่
ไม่เคยคิดจะใช้ mode นี้กับการถ่ายภาพท่องเที่ยวเลยสักครั้ง

พอหลังจากนั้นได้ขมภาพถ่ายของเพื่อนแล้ว
ต้องยอมรับเลยว่า ครั้งแรกของการใช้กล้อง DSLR ของเพื่อน กับการไปเที่ยวต่างประเทศ
ได้ภาพมาสวยงามอย่างประทับใจทีเดียว บางภาพกับวิวต่างประเทศ ที่่ตัวเองไม่เคยเห็น
ยังแอบคิดไปเลยว่า ภาพของ Pro ชัดๆ

......เอาเป็นว่า เขียนมาถึงตรงนี้ ถึงแม้จะไม่ได้เล่าให้ลงไปในรายละเอียดว่าเพื่อนเค้าตั้งค่าไหน ถ่ายภาพอะไร ถ่ายภาพแนวไหน
เชื่อว่าคนที่พอถ่ายภาพเป็นแล้ว คงพอจะนึกตามได้ว่า ค่า speed ไหน ควรใช้ถ่ายภาพในช่วงไหนๆ ได้บ้าง


แต่กับ concept ของตัวเองที่เขียนใน blog นี้
เป็นการถ่ายภาพนิ่งๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็ใช้ Speed แค่ 1/60 - 1/80 นี้เท่านั้น

ถึงแม้จะเคยเล่าว่าไปถ่ายภาพการแสดงมาบ้าง
ก็จะเป็นการปรับ speed เพิ่มขึ้นไป แบบที่ว่าพอดูภาพตัวอย่างที่ถ่ายภาพมาแล้ว เป็นภาพที่พอหยุดตัวแบบได้นิ่งๆ ก็พอใจแล้ว ไมไ้ด้คิดปรับตั้งค่าเหมือนที่ตัวเองเคยถ่ายภาพแต่อย่างใด

เรียกว่า ลองใช้ mode Tv ไปอย่างเดียวเรื่อยๆ ไปก่อนครับ
Create Date :17 ตุลาคม 2555 Last Update :17 ตุลาคม 2555 17:10:14 น. Counter : 2410 Pageviews. Comments :7