20 ตุลาคม 2554 : คุยกันเล่น #15 "ภาพถ่ายซ้อมมือ ก่อนไปลองของจริง"

มีโอกาสไปลองถ่ายภาพซ้อมมือกับชิงช้าสวรรค์ ที่มีให้บริการขึ้นไปนั่งเที่ยวชมกันในบรรยากาศของงาน มหกรรมอาหารเชียงใหม่ ครั้งที่ 24 ซึ่งจัดที่ลานม่วนใจ๋ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ต พลาซ่า เชียงใหม่

ภาพชิงช้าสวรรค์หมุนติ้วๆ กันแบบในภาพที่จะได้ชมกันนี้ เคยถ่ายภาพกันมาให้ชมกันครั้งหนึ่งแล้ว
น่าจะเป็นภาพของปีก่อน ที่ถ่ายภาพจากสถานที่เดียวกันนี้

เมื่อได้ถ่ายภาพกันไว้นานๆ แล้ว และดูเหมือนจะยังไม่ถูกใจ หรือ ไม่มั่นใจกับการปรับตั้งค่าการถ่ายภาพ เลยขอมาลองถ่ายภาพกันใหม่ อย่างน้อยก็เป็นการซ้อมมือไว้ ก่อนที่จะได้เจอะเจอกับ เจ้า Giant Flora Wheel หรือ กระเช้าราชพฤกษ์ลอยฟ้าที่จะมาโชว์และให้ความบันเทิงสนุกสนานกับการนั่งกระเช้ายักษ์สูงกว่า 40 เมตร ภายในงานมหกรรมพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติราชพฤกษ์ 2554 ที่จะมีการจัดงานกันในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 ถึง วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 นี้

ตามกำหนดเจ้า Giant Flora Wheel จะมาถึงเชียงใหม่กันในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าช่วงเดินทางจากท่าเรือแหลมฉบังจนมาถึงสถานที่จัดงานที่งานมหกรรมพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติฯ เจ้า Giant Flora Wheel จะไปติดน้ำอยู่แถวไนบ้างหรือเปล่า

เอาเป็นว่ามาถ่ายภาพชิงช้าสวรรค์ เพื่อซ้อมมือกันไว้ก่อน จะได้พอเตรียมค่าปรับตั้งกล้องจาก set นี้ ไว้ไปรอถ่ายภาพเจ้า Giant Flora Wheel กันด้วย



ภาพ set นี้ถ่ายโดยไม่มีขาตั้งกล้อง จริงๆ แล้วควรจะต้องใช้เป็นอุปกรณ์หลักเลย
แต่พอเป็นคนที่ไม่ค่อยจะชอบแบกขาตั้งกล้องอยู่แล้ว เลยตัดใจมาเลือกถ่ายภาพแบบไปหาตัวช่วยเอาข้างหน้า เดินไปหากันอยู่รอบ ก็ได้รถกระบะ Daihatsu อยู่คันหนึ่งที่ กระบะด้านหลังว่างๆ อยู่ พอเอากระเป๋ากล้องไปวางไว้ ดูเหมือนได้ตำแหน่งในการวางกล้องได้อย่างพอดี



แรกๆ ยังถ่ายภาพโดยใช้มือถือกล้องถ่ายภาพกันอยู่ก่อน โดยลองปรับค่า Speed ไปมา ตั้งแต่ค่าก่อน 1 วินาที และปรับไปมาจนถึง 4 วินาที



พอรู้ว่าค่าที่ใช้น่าจะใช้อยู่ตั้งแต่ 1-4 วินาที
ชิงช้าสวรรค์ไม่ได้หมุนเร็วอย่างที่คิด เลยคาดว่าจะใช้ถึง 4 วินาที
จากนั้นก็ลองปรับลด ISO กันดูก่อน
ปรับไปปรับมาจนพอใจที่ ISO 100



พอได้ค่า speed ไว้ในใจ
ค่า ISO ที่ 100
ส่วนค่า F ถึงจะยังไม่ได้ปรับไว้ แต่ก็เลือกไว้ในใจแล้ว
ว่าจะปรับไปไว้ที่ค่าสูงสุดที่ F32



แล้วก็จัดแจงวางกล้องไว้กับกระเป๋ากล้อง
ปรับค่าที่เลือกไว้ในใจ และปรับไว้ตามนี้
Mode M
ISO 100
Speed 1 วินาที
F 32
ภาพแรกๆ ที่ถ่ายยังไม่ได้ใช้การตั้งเวลาในการลั่นชัตเตอร์



พอได้แนวการตั้งค่าการถ่ายภาพแล้ว
คราวนี้ถึงใช้วิธีการตั้งเวลาในการถ่ายภาพ
และปรับเปลี่ยนค่า Speed จาก 1 วินาที มาจนถึง 4 วินาที
โดยที่เน้นๆ กับการดูค่าแสงและแสงสีของชิงช้าสวรรค์ที่หมุนกันติ้วๆ ไปด้วย



ภาพ set นี้ มัวไปเลือกฉากหน้าที่เป็นขบวนรถไฟที่วิ่งๆ วนๆ กันอยู่ด้านหน้านี้ด้วย
และปัญหาที่พบเจอกันบ่อยๆ คือ
การหมุนของชิงช้าสวรรค์หยุดบ่อยกันเกินไปหน่อย
เลยดูว่าภาพของรถไฟที่เป็นฉากหน้า ได้มาบางรูป แต่ก็ไปเสียตรงฉากหลังที่เป็นชิงช้าสวรรค์หมุนติ้วๆ มาหยุดเอาซะก่อน



สรุปกันว่า ค่าที่ปรับเปลี่ยนกันในการลองถ่ายภาพ เลือกปรับเปลี่ยนแต่ค่า Speed (1 ถึง 4 วินาที)
ส่วนค่าอื่นๆ ใช้ค่าเดิมๆ ทั้งหมด



เอาเป็นว่าพอได้แนวการถ่ายภาพไว้ประมาณนี้ล่ะครับ
ไว้ไปเจอะเจอเจ้า Giant Flora Wheel
คงได้ถ่ายภาพมาให้ชมกันแน่ๆ



มีภาพเจ้า Giant Flora Wheel มาให้ชมกันเล่นๆ ไปด้วยกันก่อน
ไว้ไปรอชมและถ่ายภาพของจริงๆ มาให้ชมกันด้วยครับ














ขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่ายใน set นี้ด้วยกันครับ กับ Group Blog .."คุยกันเล่น #15"
และขอบคุณที่มาทักทายกันด้วยนะครับ




แว๊บเอาคลิปบทสัมภาษณ์ที่เคยออกรายการเรื่องเด่นเย็นนี้มาให้ชมกันครับ
ได้รับมาจากเมล์ และมาลงกันให้ชมกันใน facebook
จากวันที่ได้ชม ก็ยอมรับเลยว่ากรุงเทพฯ จมน้ำแน่นอน
ตอนนี้ยิ่งเชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ ยิ่งเมื่อเห็นความไม่เป็น unity และเรื่องความเสียสละ ของขีวิตคนเมือง และนอกเมืองในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและที่ผ่านมาให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้ว
อยากให้เพื่อนๆ ชาวกรุงฯ ได้ชมคลิปวิดีโอนี้ด้วยความตั้งใจจริง และตั้งสมมุติฐานอันเลวร้ายไว้ก่อน และควรเชื่อว่าครั้งนี้เป็นการดำเนินการบริหารจัดการเรื่องน้ำที่ผิดวิธีจริงๆ ลองชมกันและชมกันด้วยวิจารณญาณครับ





มาบอกกันในตอนท้ายนี้ด้วยว่า ชาวกทม. ควรเก็บของ และหนีไปใช้ชีวิตที่อื่นๆ ดีกว่าครับ มองไม่เห็นทางออกจริงๆ
จากบทสัมภาษณ์ชุดนี้ ดำเนินการสัมภาษณ์ไว้เมื่อ ธันวาคม 2553 และบอกว่าอีก 10 ปี กรุงเทพอาจะเป็นทะเลสาบทั้งเมือง
มีเรื่องที่เสริมกันกับเรื่องนี้ในรายงานของสิงคโปร์บอกว่า อีก 19 ปี ไม่มีแผนที่ของกรุงเทพอยู่ในประเทศไทย