bloggang.com mainmenu search
วันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันชาติของสหรัฐอเมริกา และก่อนวันนี้ 1 วัน คือ ในคืนวันที่ 3 กรกฎาคม ก็จะมีการจุดพลุฉลองวันชาติเป็นประจำกันทุกปี ที่เชียงใหม่ก็เช่นกัน หลังจากที่เข้าชมรมห้องกล้องที่นี่อย่างจริงจังตั้งแต่ปีก่อน ก็เพิ่งจะทราบว่ามีงานนี้เหมือนกัน คือในคืนวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา

งานนี้เตรียมตัวเตรียมใจเตรียมกล้องมาหลายวันทีเดียว เรียกว่าตั้งกล้องมาจากบ้านว่างั้นเถอะ เรื่องตั้งกล้องที่อ่านจาก web มาล่วงหน้า มีการปรับตั้งแบบนี้
ใช้ speed shutter ไปที่ B หรือ Bulb
f ใช้ระหว่าง 8 หรือ 11 ขึ้นอยู่กับอยู่ใกล้ อยู่ไกลกับตำแหน่งจุดพลุ
ISO 100
white balance เลือกปรับเป็น daylight หรือ แบบ custom ที่ 5500K
ปิดการทำงาน AF มาใช้ MF แทน
ปิดการทำงาน IS ระบบกันสั่นทั้งหลาย
แล้วก้ต่อสาย remote
รวมถึงแบกขาตั้งกล้องไปด้วย

เรียกว่างานนี้ท่องจนขึ้นใจแล้ว ที่จริงเคยแอบไปถ่ายพลุที่กรุงเทพฯ มาครั้งหนึ่งแล้วเหมือนกัน แต่ที่เชียงใหม่ ยังไม่เคยได้ถ่ายพลุอลังการ หรือ สวยๆ ได้สักที ครั้งนี้เลยตั้งใจเป็นพิเศษ แต่อย่างที่เอ่ยตอนต้นว่า งานนี้กินแห้ว เต็มๆ ลองอ่านต่อดูก็แล้วกัน (แห้วมันมาตอนไหน)

การเตรียมตัวล่วงหน้า ต้องไปสถานที่จุดพลุ ก่อนงานอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
แต่ไม่รู้เวลาจุดพลุของงานนี้ แต่ก็เดาว่าน่าจะจุดตอนเวลา 20.00 น. และงานนี้ไม่เหมือนที่กรุงเทพฯ ไม่มีใครมารอถ่ายกันเยอะหรอก เลยตัดใจไปให้ถึงสถานที่ถ่ายภาพเวลา 19.30 น. พอไปถึงบริเวณริมน้ำปิง จอดรถได้ก็เดินมองหาโปรฯที่มารอถ่ายภาพงานนี้เหมือนกัน ....โอ้...หาใครไม่เจอสักคน สงสัยจะนัดกันไปยังตำแหน่งอื่นๆ ซะแล้ว เดินเตร่ไปเตร่มาสักพัก ก็ตัดใจเดินลงไปด้านล่างริมน้ำปิง แต่พอจะก้าวลงไป เจอกระบอกพลุเรียงอยู่ด้านล่างตรงที่จะไปพอดี
อ้าว...ไหงมาวางตรงนี้ล่ะ ทุกทีจะไปจุดอีกฝั่งหนึ่งของน้ำปิงนี่นา
เลยเดินกลับขึ้นมา แล้วก็เจอผู้คนหลากหลายคนที่ยืนอยู่ด้านบน สงสัยจะเป็นคนจุดพลุ เลยถามว่าจุดตรงนี้เลยใช่ไหม น้าๆ ก็ตอบว่าใช่ แล้วตอบมาอีกว่า จะมาถ่ายพลุหรือไง ถ้าจะถ่ายต้องข้ามฝั่งน้ำปิงไปอีกฝั่งหนึ่ง
เลยต้องรีบถามต่อว่า น้าจะจุดพลุตอนเวลาเท่าไร น้าๆ ก็ตอบว่า 20.00 น.
คราวนี้เหลือเวลาไม่มากแล้ว (ข้อเสียของการมาช้า) แล้วก็ถามน้าไปว่า น้าจะจุดพลุกี่ลูก ได้คำตอบมาว่า 100 ลูก จุดเป็นชุดๆ ไป

พอข้ามไปฝั่งตรงข้ามของน้ำปิงได้ ถ้าใครเคยมาเชียงใหม่ ฝั่งตรงข้ามของเทศบาลเชียงใหม่ จะเป็นตลิ่งเลาะเลียบไปตามน้ำปิง ไม่มีสะพานหรือทางเดินที่เหมือนฝั่งของเทศบาล

พอข้ามไปหาตำแหน่งยังฝั่งตรงข้ามก้เดินมองหาตำแหน่งที่จะจุดพลุ แต่ฝั่งนี้ต้องบอกเลยว่าเปลี่ยวมากๆ มีบรรดาวัยรุ่นหลายกลุ่มตั้งวงดื่มกันอยู่ บ้างก็นั่งตกปลา บ้างก็นั่งพูดคุยกันป็นกลุ่มๆ
เจอแบบนี้เสียวไม่น้อย ที่จะโดนทุบหัว เอากล้องไป และเรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญเรื่องหนึ่งเลยที่ทำให้กินแห้ว

พอได้ตำแหน่งที่คิดว่าตั้งถ่ายภาพได้ ก็ปรับตั้งกล้องรอถ่ายไว้เรียบร้อย ยังมีเวลาเหลืออีก 5 นาที ก่อน 20.00 น. ช่วงนี้ก็นั่งไปเสียวไปจะมีใครแอบมาข้างหลังหรือเปล่า

สักพักนึงมีโปร.ช่างภาพเดินมาหาตำแหน่งเหมือนกัน แต่เค้าเดินเลยไปอีก 50 เมตร ก็เบาใจขึ้นมาหน่อย คิดว่าน่าจะย้ายไปถ่ายใกล้ๆ โปรฯ จะได้ดูปลอดภัย และเผื่อซักถามโปร.ด้วย เลยเดินไปหาโปรฯ ท่านนั้น แต่ก็ยังกางขาตั้งกล้องไว้ที่ตำแหน่งที่ set เอาไว้ แต่ก็ถอดกล้องติดตัวไปด้วย

หลังจากคุยกับโปรฯ ก็อุ่นใจขึ้นมาทันที โปร.ฯ ได้ข้อมูลว่าจุดพลุตอนเวลา 20.30 น. ตอนนั้นก็ใกล้ 20.00 น.แล้ว โปรฯ ก็บอกว่าตำแหน่งนี้ดีกว่า ได้มุมกว้างกว่า ก็เลยยกกล้องลองเล้งกล้อง ซูมไปซูมมาปรับลองไปดูบ้าง ดูดีกว่าจริงๆ เลยรีบเดินกลับมายังที่กางขาตั้งกล้อง

ช่วงที่เดินมาเหลือระยะสัก 15 เมตร ก็ได้ยินเพลงจากสถานกงศุลอเมริกา เพลงนี้มันคุ้นหูจังเลย ยังไม่ทันนึกว่าเป็นเพลงอะไร (เพลงชาติสหรัฐอเมริกา) พลุจุดขึ้นมาแล้ว 1 ตูม และตามมาติดๆ ไม่มีเว้นวรรคเลย
ตายไปเลย......รีบวิ่งไปยังที่กางขาตั้งกล้อง
จัดแจงล็อคกล้องเข้ากับขาตั้งกล้อง แล้วก็รีบปรับมุมให้ได้ตำแหน่ง ที่ set ไว้ก่อนหน้านี้

ที่จริงการจุดพลุ โปรฯ สอนไว้แล้วว่า ต้องใจเย็นๆ และเย็นมากๆ ด้วย
รอให้พลุลูกแรกจุดขึ้นไปก่อน แล้วปรับตั้งกล้องให้พอดี เพราะจากลูกแรกเค้าจะทิ้งช่วงไว้สักพักหนึ่งก่อน เหมือนแจ้งให้ทราบว่าจะมีการจุดพลุแล้วนะ

แต่งานนี้ไม่ใช่เลย ตั้งแต่พลุลูกแรกที่จุดขึ้นไป ก็รัวมาอีกเป็นชุด จะใจเย็นแบบที่โปรฯ สอนไว้ก็ไม่ได้แล้ว กด remote ไปตามจังหวะที่พลุขึ้นมาทันที

แล้วก็ต้องร้องอุทาน เอ้อ เฮ้ย หมดแล้วเหรอ ยังไม่ทันได้ทำอะไรดี 100 ลูกถ่ายภาพมาได้ 13 ภาพ นับเวลาตั้งแต่ภาพที่ 1 ถึงภาพที่ 13 ได้ 35 วินาที มันช่างเร็วอะไรแบบนี้

พอมาดูรูปถ่ายต้องร้องจ๊ากเลย ดูรูปได้เลย ชมภาพแบบขำๆ ก้แล้วกันนะ


ได้ภาพมาแบบล้นเฟรมทุกรูปเลย
งานนี้ถึงบอกว่ากินแห้ว...นี่แหละ
ภาพที่ล้นเฟรม ก็คงตอนไปลองปรับมุมที่ลองถ่ายกับโปรฯ พอตอนที่พลุจุดแล้ว และวิ่งมาเสียบกับขาตั้งกล้อง ซึ่งพลุก็จุดไปแล้ว 5-6 ชุด ไม่ทันได้ดูที่ปรับอะไรไว้อีกเลย กด remote ไว้ก่อน กะว่ามีช่วงหยุดหายใจจะได้มาปรับดูรูปสักหน่อย แต่กลายเป็นว่าไม่ถึง 1 นาที จบแล้วจบเลย เซ็งไปเลย

และประเด็นเรื่องที่ไปถ่ายภาพคนเดียว และอยู่ในสถานที่เปลี่ยวๆ น่ากลัวเอาเรื่องทีเดียว เลยทำให้ไม่มั่นใจกับตัวเองที่จะปักหลักรอถ่ายภาพพลุในสถานที่นั้น เรียกว่ากลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย ถึงไม่ได้ภาพพลุ ก็ต้องขอบคุณพระเจ้ากันทีเดียวล่ะ ว่ากลับมาถึงบ้านโดยสวัสดิภาพแล้ว

แต่เอาเป็นว่า ไม่ได้ภาพพลุที่พอดูสวยๆ จากงานนี้
เลยต้องไปใช้วิชามาร นำภาพพลุที่เคยถ่ายได้มา นำมาผสมให้กับฉากที่ไปรอถ่ายภาพหนนี้มาให้ดูกันสัก 1 ภาพก็แล้วกัน ประมาณว่า ถ้าได้ถ่ายภาพในตำแหน่งนี้ ภาพน่าจะออกมาแบบนี้ก็แล้วกัน
ชมภาพที่ลองถ่ายไว้ในช่วงตั้งขาตั้งกล้องและลองมุมมองไว้แล้วเป็นแบบนี้



และพอนำภาพพลุเก่าๆ ที่เคยได้ถ่ายไว้มาผสมกับฉากนี้ ก็น่าจะได้แบบนี้ล่ะ


งานนี้ถือเป็นประสบการณ์ และจะจำไว้เลย งานไหนจุดพลุต่ำกว่า 100 ลูก ไม่ไปรอถ่ายภาพดีกว่า ยังไม่ทันหายใจทั่วท้อง 1 นาทียังไม่ถึงดี หมดซะแล้ว งานนี้ก็จะไม่โทษใคร โทษตัวเองนี่แหละ ดันตื่นเต้น และกลัวเกินเหตุไปหน่อย
และนี่คือเรื่องเล่าประสบการณ์ กินแห้ว งานถ่ายภาพพลุฉลองวันชาติอเมริกา...จบล่ะนะ
และเช่นเคยก็ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ผ่านมาแวะมาทักทาย และมาชมภาพพลุแบบขำๆ ขาดๆ หายๆ ใน blog นี้ด้วย

Create Date :04 กรกฎาคม 2551 Last Update :5 กรกฎาคม 2551 11:56:23 น. Counter : Pageviews. Comments :6