คุยกันเล่น #36 ลอง Test กล้อง Sony α7II : Sony α7II Exclusive Product Test Drive [เชียงใหม่ 08 Feb 2015]

มีโอกาสอันดีเป็นครั้งที่สองที่ได้ไปฟังบรรยายและลองทดสอบถ่ายภาพกล้อง Sony α7II ซึ่งทางบริษัท Sony และ ร้าน Photobug Chiangmai ได้ร่วมกันจัดงาน Sony α7II Exclusive Product Test Drive เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2558 ที่โรงแรมยางคำวิลเลจ

คงต้องบอกกันว่าหัว blog เป็นเรื่องการทดสอบกล้อง Sony α7II
แต่กับตัวเองคงไม่ได้รีวิวอะไรแบบเป็นเรื่องเป็นราว คงปล่อยให้ผู้มีหน้าที่ทดสอบ รีวิว เค้าทำหน้าที่ของเค้ากันต่อไป และกับความรู้เกี่ยวกับเทคนิคเรื่องกล้องก็คงไม่กล้าเขียนอะไรมากไปกว่ามาเล่าให้ฟังกันสนุกๆ เท่านั้น




เขียนคำบรรยายภาพที่ facebook ไว้แบบนี้...."รู้สึกดี๊ดี!!! ถ่ายภาพแล้วไม่ต้องแต่งอะไรอีกแล้ว"






ชมภาพถ่ายที่นำมาให้ชมกันก่อน 3 ภาพ แล้วมาเข้าเรื่องกัน

Sony α7II เป็นกล้อง Mirrorless แบบ Fullframe ที่ใครอาจจะยังเอื้อมไม่ถึงกับการใช้กล้อง DSLR แบบ Fullframe
ราคา Sony α7II อาจจะดูย่อมเยาว์กว่านิดหน่อย คุณภาพน่าจะสูสีกัน รวมถึงในส่วนที่ Sony α7II มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่า ที่พอจะทำให้หลายคนเริ่มให้ความสนใจ รวมถึงตัวเองด้วยล่ะ

ก่อนหน้านี้มีโอกาสไปลองกล้อง Mirrorless Fuji XT-1 มาก่อน และก็ชื่นชอบกับช่องมองภาพที่เห็นภาพได้เหมือนที่ตาเห็นกันมาแล้ว ก็คิดว่าจะไปสอยมาใช้อยู่เหมือนกัน
พอได้ไปลอง Sony α7 มาในครั้งแรก ก็คิดว่าจะเป็นแบบเดียวกันกับ Fuji XT-1
แต่ด้วยที่วันนั้นหยิบจับกล้องมาแบบไม่รู้อะไรมากมาย รีบๆ รับกล้องและถ่ายภาพมาเลย
จนหลังจากนั้นหลายวันต่อมา ด้วยความไม่เคลียร์หายข้อสงสัยจึงไปถามคนขายกล้องร้านหนึ่ง ได้สอบถามประเด็นนี้ เมื่อปรับค่า F ปรับค่า S ใน Mode M ทำให้เห็นภาพในช่องมองจนได้เหมือนที่ตาเห็นของจริงได้ใช่ไหม คนขายตอบว่าทำไม่ได้

ทำให้ความคิดที่ว่าพกกล้อง Mirrorless รุ่นใหม่ๆ อย่าง Fuji XT-1 หรือ Sony α7II จะทำให้สามารถถ่ายภาพและจบแบบหลังกล้องได้ทันที
หรือกับที่ตัวเองจะบอกว่า ถ่ายภาพแล้วไม่ต้องมีช่องมองภาพ LCD เพื่อเช็คภาพที่ถ่ายภาพมาก็ได้ เพราะสิ่งที่เห็นในช่องมองภาพ ที่ปรับค่าการถ่ายภาพตามที่ตั้งใจไว้ ภาพที่ได้มันก็จะออกมาแบบนั้น ดังนั้นช่วงที่ลองทั้งกล้อง Fuji XT-1 และกล้อง Sony α7II ได้แต่กดชัตเตอร์ถ่ายภาพมารวดเดียว ไม่ห่วงเรื่องการเปิดดู play ภาพถ่ายที่ถ่ายมาแล้วอีกเลย

....วันนี้มาลองกันใหม่ในภาพแรกๆ ที่ถ่ายภาพมาด้วยภาพกล้วยไม้ดอกสีขาว
เมื่อกล้องอยู่ใน Mode M ค่าการถ่ายภาพที่ยังไม่เหมาะสม เราะเห็นภาพกล้วยไม้ในช่องมองภาพ ไม่ under ก็ over ไป
จากภาพกล้วยไม้ที่ดู over ในช่องมองภาพ
ลองปรับค่า F และค่า S ไปมา จนได้เห็นในช่องมองภาพ ได้ภาพกล้วยไม้สีขาวที่ดูว่าค่าแสงพอดีๆ แล้ว



ต้องบอกว่าถ่ายภาพแบบนี้รู้สึกสนุก และเหมือนกับไปถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มกันอีกครั้ง
กล้องฟิล์มแต่ก่อนถ่ายภาพมาแล้วก็มาลุ้นๆ กันเอาตอนล้างฟิล์ม อัดภาพออกมาแล้ว ว่าภาพจะเป็นแบบไหน ดีไม่ดีอย่างไร ค่อยว่ากันตอนนั้น
แต่พอมีกล้องแบบดิจิตอล มีช่องมองภาพจอ LCD ทำให้ดูภาพที่ถ่ายภาพออกมาแล้ว ทำให้เห็นเลยว่าภาพดีไม่ดีอย่างไร เรียกว่าถ่ายภาพแล้วติดเป็นนิสัยไปเหมือนกัน ที่ต้องคอยเช็คดูภาพกันอยู่บ่อยๆ

ถ้าหากได้สอยกล้อง Mirrorless ไม่ว่าจะเป็น Fuji XT-1 หรือ เจ้า Sony α7II มาจริงๆ ก็คงจะถ่ายภาพกันแบบนี้ล่ะครับ ไม่ดูภาพถ่ายที่ถ่ายเสร็จกันแบบ shot ต่อ shot กันอีกแล้ว

มาลงภาพให้ชมกันเพียงแค่นี้ก่อนครับ
หากมีภาพสวยๆ หรือ มีประเด็นอื่นๆ ที่พอเขียนเล่าเรื่องกันได้ เดี๋ยวนำภาพมาเพิ่มให้ชมกันอีกครับ

ขอบคุณบริษัท Sony และ ร้าน Photobug Chiangmai ที่จัดงานดีๆ แบบนี้ให้ร่วมฟังบรรยาย และได้ทดสอบถ่ายภาพด้วยกล้องตัวจริงเสียงจริงกันด้วยครับ

ขอบคุณสถานที่จัดงาน โรงแรมยางคำวิลเลจ

ขอบคุณน้องนางแบบ น้องโบว์ ที่เป็นแบบถ่ายภาพสวยๆ กันด้วยครับ



***** มีภาพน้องนางแบบที่มาร่วมเป็นแบบถ่ายภาพอีกหนึ่งคน-น้องพลอย

ถึงตอนที่ลองกล้องจะแบ่งเป็น 2 ฐาน ในการถ่ายภาพนางแบบสองคน
ด้วยที่ว่าได้เลนส์ 70-200 mm. F4.0 มาคู่กับกล้อง Sony α7II เลยวิ่งไปมาถ่ายภาพนางแบบทั้ง 2 คน




อีกเรื่องหนึ่งที่นำมาเล่าสู่กันฟัง และได้ลองถ่ายภาพจริงๆ แล้ว
ในเรื่องกันสั่น 5 แกน ที่ใส่มาแบบเต็มๆ ในตัวกล้อง Sony α7II
วิทยากรบอกว่ากันสั่น 5 แกนนี้ สามารถถ่ายภาพแบบที่ใช้มือถือนิ่งๆ ได้อีกอย่างน้อย 4-5 stop
จากเดิมๆ ที่เราสามารถถือกล้องถ่ายภาพที่นิ่งๆ ได้ที่ speed โดยประมาณ 1/60 sec
จากค่านี้ถ้าลงไปก็น่าจะเป็นตามนี้
1/60, 1/50, 1/40, 1/30, 1/25
ค่า speed 1/25 นี้จะว่าไปก็ถือกล้องถ่ายภาพแบบไม่น่าจะได้ภาพแล้ว
แต่การลองถ่ายภาพครั้งนี้ลองลงที่ใช้ speed ต่ำกว่านี้ลงไปอีก
1/20, 1/15, 1/13, 1/10, 1/8, 1/6
ภาพเกือบทั้งหมดใน Blog นี้ ใช้ speed อยู่ 1/10, 1/8, 1/6

ถ่ายภาพครั้งนี้ ในช่องมองภาพ ที่ตอนแรกเข้าใจว่าจะเห็นภาพจริงๆ ในช่วงก่อนถ่ายภาพ แต่ช่วงที่ใช้ speed ต่ำๆ ในการถ่ายภาพครั้งนี้ ทำให้เห็นภาพช่วงหลังถ่ายภาพแบบแว๊บๆ ด้วยว่าเป็นภาพเบลอ ภาพเสีย ทำให้ต้องพยายามถือกล้องถ่ายภาพให้นิ่งๆ ยิ่งขึ้น

กับภาพที่ได้แบบชัดๆ พอรับได้ในความคิดเห็นของตัวเอง ก็ถือว่าค่อนข้างพอใจมาก
เพราะถ้าเป็นกล้องของตัวเองด้วยแล้ว รับรองงานนี้ไม่มีภาพมาให้ชมกันแน่ๆ



ส่วนสองภาพนี้พิเศษหน่อย ตรงที่เพื่อนร่วมงานมีเลนส์ grade Pro Mitakon 50mm F0.95 มาลองๆ ถ่ายภาพในงานนี้กันด้วย
มีโอกาสหยิบยืมมาลองถ่าย 2 ภาพนี้ครับ

สองภาพนี้ไม่ได้ใช้ speed ต่ำๆ แล้ว เพราะ speed ต่ำๆ ที่ถ่ายภาพเหมือนตอนแรกๆ เอาไม่อยู่
เห็นภาพทุกๆ ภาพที่กดชัตเตอร์ถ่ายภาพมา ภาพดูจะเบลอหมด เลยจำใจปรับค่าถ่ายภาพกันใหม่หมดจากภาพชุดแรกๆ ที่ให้ชมกันไปครับ


ขอบคุณเพื่อนๆ ที่แวะมาชมภาพถ่ายกันที่ blog คุยกันเล่นเรื่องการถ่ายภาพและกล้อง กันด้วยครับ