ก้าวรักในรอยจำ: Sparks
ความรักครั้งแรก
A Walk to Remember Nicholas Sparks เขียนเรื่องนี้เมื่อปี 1988 ขายลิขสิทธิ์เรื่องนี้ให้สำนักพิมพ์ในปีเดียวกัน ตีพิมพ์เมื่อปี 1999 เป็นเรื่องที่สามของ Sparks ต่อจาก The Notebook และ Message in the Bottle แปลเป็นไทยโดย จิรนันท์ พิตรปรีชา ในชื่อ "ก้าวรักในรอยจำ" สำนักพิมพ์มติชน
ต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่แนวเรื่องที่ผมอ่านบ่อยนัก แต่ถ้าใครสักคนอ่านนิยาย Stephen King ติดกันสามสี่เรื่อง ตามด้วยนิยายของ Hermann Hesse อีกสักเรื่องหรือสองเรื่อง ก็อาจจะต้องคั่นรายการด้วยนิยายทำนองนี้เสียบ้าง
..........
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องของความรักบริสุทธิ์ระหว่างเด็กวัยรุ่นสองคน ย้อนกลับไปในสมัยทศวรรษ '50s ตอนที่ตัวเอกทั้งสองคนเรียนมัธยมปลายปีสุดท้าย คนหนึ่งเป็นลูกชายของนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลผู้มีอดีตของตระกูลไม่งดงามมากพอจะเขียนลงในหนังสืออัตชีวประวัติเล่มใด อีกคนเป็นลูกสาวของนักบวชแบ๊บติสผู้เคร่งครัดในเมืองเดียวกัน ...แน่นอนว่าทั้งสองตระกูลคงไม่น่าจะยินดีร่วมโต๊ะอาหารกันบ่อยครั้งเป็นแน่ แม้ว่าครอบครัวนักการเมืองจำเป็นต้องไปโบสถ์ทุกสัปดาห์เนื่องด้วยเหตุผลทางศาสนาและทางการเมือง
หนุ่มน้อยผู้เป็นตัวเอกของเรื่องแลนดอน คาร์เตอร์เป็นหนึ่งในกลุ่ม "เด็กหลังห้อง" ...ศัพท์นี้สงวนไว้เฉพาะสำหรับเด็กที่นั่งหลังห้องและมีพฤติกรรมบางอย่างที่ (ไม่) เหมาะสมสำหรับการอยู่ร่วมกลุ่ม ถ้าจะให้อธิบายความเป็นเด็กหลังห้อง โดยส่วนตัวผมว่าคนกลุ่มนี้เหมือนรัฐกันชนตามตะเข็บชายแดน คือจะไม่เป็นที่ถูกปองร้ายจากเด็กเก (สมัยผมเป็นเด็กใช้แทนคำว่าเกเร มิได้หมายความถึงการมีตัวการันต์ต่อท้ายแต่อย่างใด) ส่วนอาจารย์ฝ่ายปกครองก็ยังไว้หน้าอยู่บ้างเพราะยังมีเด็กเกอยู่สุดขั้วไกลออกไปอีกทางหนึ่ง นั่นทำให้ "เด็กหลังห้อง" สามารถทำตัวอยู่ริมกรอบระเบียบได้โดยไม่ขัดเขินนัก บางครั้งก็อาจแหย่ขาข้างหนึ่งออกไปจากกรอบตอนผุ้ใหญ่ไม่เห็น (หมายเหตุ: ไม่มีศัพท์ "เด็กหน้าห้อง" นะครับ)
ส่วนสาวน้อยในเรื่อง เจมี่ ซัลลิแวน เหมือนเป็นอีกฝั่งหนึ่งของกระดานหกสำหรับแลนดอน คาร์เตอร์ ถ้ามองย้อนกลับไปสมัยเรียนมัธยมก็คงจะเป็นเด็กผู้หญิงเรียนเก่ง หน้าตาเรียบ ๆ ตัดผมบ๊อบ (ทรงฮิตเลยนะ สมัยผมเรียนมัธยม) นุ่งกระโปรงยาว มาเรียนตรงเวลา นั่งหน้าห้อง ไม่เคยใส่กางเกงขาสั้น ร่วมกิจกรรมของโรงเรียนสม่ำเสมอ ...บางคนเก่งมาก ๆ ถึงกับเป็นหัวหน้าห้องก็มี สำหรับเจมี่ ซัลลิแวน เธอเป็นเด็กหญิงที่ถอดแบบมาอย่างที่ได้บอกไว้ เป็นคนเรียบร้อย นิสัยดี คอยช่วยเหลือผู้อื่น แถมพกมาด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาในศาสนา ...พกคัมภีร์ไบเบิลไปโรงเรียนด้วย !
ขอนอกเรื่องหน่อย พูดถึงเลือกหัวหน้าห้องสมัยผมเรียนมัธยมปลาย ถ้าเป็นการเลือกตั้งสมัยที่มีการแข่งขันทางการเมืองสูง ตัวแทนมักจะมาจากกลุ่มเด็กหลังห้องคนหนึ่ง และแทบจะทุกครั้งที่เป็นการกลั่นแกล้งกันมากกว่าความสมัครใจ และตัวแทนอีกคนก็มักจะเป็นกลุ่มเด็กเรียนหรือเด็กเก่ง ซึ่งก็อย่างที่บอกไว้ว่ามักจะเป็นคนละด้านของกระดานหก และน้ำหนักมักจะเทมาทางฝั่งหลังมากกว่า ...ผมก็เคยเป็นด้วยนะ แต่ได้ความประทับใจที่ไม่ค่อยดีมากกว่าความรู้สึกดีแฮะ !!!
เรื่องเกิดเมื่อหนุ่มห้าวของเราในฐานะประธานนักเรียนที่กึ่งถูกบังคับให้สมัครและได้มาด้วยเพื่อนลากไปต้องหาใครสักคนควงไปงานเลี้ยงฉลองก่อนจบการศึกษาด้วย (ย่อมแน่นอนว่าต้องเป็นผู้หญิง) ทั้งด้วยเหตุผลทางสังคมและด้วยเหตุผลของการเป็นเด็กหลังห้อง เขาต้องพาใครสักคนไปในงานเลี้ยงด้วย ...ด้วยความเพียรพยายามอย่างถึงที่สุด ทั้งเพื่อน ๆ รุ่นพี่ รุ่นน้องก็ไม่มีใครว่างพอจะไปกับเขาด้วยเลย...
เรื่องราวความรักบริสุทธิ์ เริ่มขึ้นจากตรงนี้
..........
สำหรับพล๊อตเรื่อง ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่พอจะคาดเดากันได้ไม่ยากนักจึงไม่ขออรรถาธิบายหรือขยายความต่อ ในชั้นเรียนการเขียนเรียงความหรือนิยายก็อาจมีพล๊อตเรื่องทำนองนี้เป็นแบบฝึกหัดหรือแบบทดสอบให้นักเรียนนักศึกษาทำเพื่อฝึกฝีมือ ด้วยมุมมองความรักของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจแต่งเรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องยาวที่ยังเขียนไม่จบ บางคนเป็นโศกนาฏกรรม บางคนเป็นเรื่องโรแมนติค และบางคนก็ยังไม่รู้ว่าจะเขียนเรื่องความรักนี้อย่างไร
ผุ้เขียนทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องย้อนยุค โดยมองเรื่องนี้ในสายตาของชายวัยกลางคนผู้กำลังจะก้าวเท้าก้าวแรกเข้าไปสู่วัยชรา ย้อนกลับไปสมัยที่ตัวเองเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ไม่เคยรู้จักคำว่าความรัก แลนดอนในเรื่องอาจอ้างว่าเขาเคยมีคนรักคนหนึ่ง แต่เมื่ออ่านไปได้สักพักหลายคนอาจบอกว่านั่นไม่ได้ไกล้เคียงความรักเลย สิ่งที่เกิดกับเขาและเจมี่ ซัลลิเวนนั่นแหละที่เป็นรักแรกของทั้งคู่ การมองย้อนกลับไปยังวัยหนุ่มโดยมองผ่านความนึกคิดของตัวละครในวัยผู้ใหญ่ทำให้ความนุ่มลึกของเนื้อหาและความรู้สึกนึกคิดของตัวละครแลนดอน มีมากขึ้น สามารถอธิบายเรื่องที่ผู้ใหญ่หลายคนมองวัยรุ่นว่าไร้เหตุผลได้ดีกว่าการมองเรื่องทั้งหลายในสายตาของเด็กวัยรุ่น เช่น การแอบออกจากบ้านตอนดึกไปนั่งต้มถั่วกินกันในสุสาน (นั่นนับว่ามากแล้วสำหรับเด็กหลังห้อง แต่สำหรับเด็กเก นั่นเหมือนการปั่นจักรยานสี่ล้อไปโรงเรียนมัธยมเลยทีเดียว) และช่วยเสริมความหนักแน่นของความรักที่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งจะมีให้อีกคนหนึ่งได้เป้นอย่างดี
ทัศนะคติของผู้เขียนที่มีต่อความรักคือความบริสุทธิ์ งดงาม แม้ความรักที่เกิดขึ้นจะเป็นความรักที่เริ่มผลิบานแต่ก็เต็มไปด้วยคุณค่าและความดี รวมทั้งพร้อมจะก้าวเข้าไปในดงขวากหนามของปัญหาที่ขวางหน้าอยู่ด้วยความเชื่อมันในกันและกัน เป็นความรักอันทรงพลังและยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องใช้มุมมองของผู้ใหญ่คนใดมาสนับสนุนเลย
สำหรับผู้อ่านที่เป็นผู้ใหญ่และผ่านชีวิตช่วงนั้นมาระยะหนึ่ง การอ่านเรื่องนี้คงเหมือนกับการมองย้อนอดีตกลับไปครั้งที่ยังเรียนอยู่ชั้น ม.6 บ่อยครั้งที่อ่านไปแล้วก็ใจลอยไปถึงสมัยก่อน (และความรักครั้งแรก ?) สำหรับคนหนุ่มสาวและนักเรียนที่ได้อ่านเรื่องนี้ ผู้เขียนได้บอกว่า:-
" ...I didn't want them to engage in pre-marital sex, and though my other novels have included that element (I do write love stories), had I done that with two young people, a great many readers would have been offended." //nicholassparks.com/Novels/AWalkToRemember/Notes.html
อยากให้นักเขียนรุ่นใหม่ของไทยได้อ่านและทำความเข้าใจกับสิ่งที่ Nicholas Sparks เขียนไว้ด้วย ประเด็นนี้เริ่มเป็นที่ถกเถียงกันมากขึ้นในกลุ่มผู้อ่านที่ตั้งคำถามสำหรับนิยายวัยรุ่นที่นักเขียนรุ่นใหม่เขียนและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นไทย
..........
เนื้อเรื่องจบลงอย่างเป็นปริศนาสักเล็กน้อย ก่อให้เกิดคำถามสำหรับผู้อ่านส่วนหนึ่ง เป็นหนึ่งในคำถามที่ Nicholas Sparks ได้รับบ่อยมากสำหรับนิยายเรื่องนี้ จนกระทั่งต้องนำไปตอบใน Official Web Site ของเขาเอง แต่ไม่ว่าตอนจบของเรื่องจะเป็นอย่างไรก็ยังไม่สามารถทำให้ความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อความรักของตัวละครทั้งคู่ลดน้อยลงไปได้เลย
นิยายเรื่องนี้ถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์และออกฉายเมื่อปี 2002 เนื้อหาบางส่วนถูกเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่พล๊อตหลักยังคงเดิม ช่วงเวลาถูกเปลี่ยนเป็นยุค 90's และผมเชื่อว่าคงเป็นหนึ่งในหนังที่จะประทับในใจคนหลาย ๆ คนไปนานแสนนาน
..........
ไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าความรักในสายตาคุณเป็นเช่นไร เพียงคุณมีความรัก นั่นก็เพียงพอแล้ว
Create Date : 08 มิถุนายน 2550 |
|
12 comments |
Last Update : 17 กรกฎาคม 2550 10:43:16 น. |
Counter : 1225 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: kaokame 8 มิถุนายน 2550 11:29:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: PinGz (Kai-Au ) 8 มิถุนายน 2550 20:34:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: Zhivago 9 มิถุนายน 2550 0:28:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: nunja555 9 มิถุนายน 2550 10:36:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: ohioh 9 มิถุนายน 2550 15:06:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ ล็อกอินหลุดอีกแล้ว IP: 203.156.84.28 11 มิถุนายน 2550 13:05:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: oa (rosebay ) 12 มิถุนายน 2550 11:05:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: ยาคูลท์ 13 มิถุนายน 2550 0:42:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: Zhivago 14 มิถุนายน 2550 21:59:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: anfunkel 8 กุมภาพันธ์ 2552 16:31:01 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ทั้งรักครั้งแรก ทั้งมิตภาพที่ไม่มีการเสแสร้งคิดแล้วก็อยากกลับไปช่วงนั้นอีกครั้ง
ขอบคุณค่ะที่แนะนำหนังสือดีๆ