วรรณกรรมใต้เงาการเมืองและเครื่องพิมพ์ดีด
สันดานหนังสือพิมพ์-สันดานรัฐมนตรี ป.ม.
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสั่งซื้่อหนังสือเรื่องเกี่ยวกับ "สัน.." มาอ่านสองเล่ม เป็นหนังสือเก่า เขียนมาตั้งแต่ปี 2520 (สามสิบปีมาแล้ว)
เล่มแรก.. สันดานหนังสือพิมพ์ โดย (อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย) สมัคร สุนทรเวช
สันดานหนังสือพิมพ์
ก่อนออกหนังสือเล่มนี้สมัครเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัย "รัฐาบาลหอย" ที่มาจากการปฏิวัติเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 โดยได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ใต้การบัญชาของนายกรัฐมนตรี นายธานินทร์ กรัยวิเชียร เหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นในช่วงที่สมัครเป็น รมต. (สมัยก่อนใช้ตัวย่อ รมต. ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ รมว. ในปัจจุบัน) มหาดไทยเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่าง รมต. มหาดไทยในยุคนั้นกับสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์
เท่าที่สังเกต หนังสือเล่มนี้จะแบ่งออกเป็นสองช่วง ช่วงแรกเป็นเหมือนการ "เอาคืน" หรือ "ลากไส้" หรือ "อัดกลับ" ในฐานะที่สมัครเป็นประชาชนคนธรรมดาที่ถูกทหารปลดลงมาจากเก้าอี้รัฐมนตรี โดยมีการเขียนถึงเบื้องหลังของคอลัมน์นิสต์หลายคนของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ โดยใช้สำนวนเปรียบเทียบและกระทบกระเทียบในทางอ้อม (คงเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย) ตัวอย่างเช่น
เรื่องไอ้ยวนกวนสังคม เรื่องของคนเขียนคอลัมน์ที่มุดหัวประจำอยู่ในไนต์คลับ เรื่องของคอลัมน์นิสต์ด้อยปัญญาที่บิดา มารดาไม่อบรม เรื่องของนักหนังสือพิมพ์ใหญ่ที่ใช้ชื่อสัตว์เป็นนามปากกา
เรื่องของ... ทั้งหมดนี้มีปรากฎอยู่แปดถึงเก้าคนที่อดีต รมต. ได้กล่าวถึงโดยหลีกเลี่ยงการกล่าวชื่อโดยตรง ทั้งนามปากกา-ชื่อจริง-ชื่อหนังสือพิมพ์ (ถ้านึกเทียบกับบทความปัจจุบันคงเทียบได้กับคอลัมน์ที่ลงชื่อย่อหรือเขียนเปรียบเทียบให้นึกถึงหน้าได้พอเลา ๆ แบบคอลัมน์ซุบซิบดาราเป็นต้น) จากนั้นในช่้วงหลังจะเป็นเรื่องที่อดีต รมต. โต้แย้งสิ่งที่สื่อเขียนถึง (โจมตี ?) ในช่วงที่เป็นรัฐบาล เช่น
เรื่องเรือตำรวจน้ำ เรื่องการขุดทรายในสันดอนแม่น้ำ เรื่องโควต้าเข้าเมือง เรื่องการพิมพ์ใบต่างด้าว
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ต้องบอกว่าจนด้วยเกล้าจริง ๆ ที่ผมจะไปหาแหล่งข้อมูลมาสนับสนุนหรือโต้แย้งว่าสิ่งที่อดีต รมต. เสนอมานั้นมีมูล-ไม่มีมูลอย่างไร เท่าที่อ่านดูแล้วก็เป็นการตอบโต้แหล่งข้อมูลและข่าวทั้งหลายที่หนังสือพิมพ์ (คอลัมน์นิสต์) เขียนขึ้นในช่วงที่สมัครเป็น รมต. นั่นเอง สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนประตูบานแรกที่นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างสมัครกับสื่อ (โดยเฉาพะหนังสือพิมพ์) ทีีมีมาตั้งแต่เมื่อสามสิบปีก่อน และดำเนินต่อมาจนถึงทุกวันนี้
(วันนี้ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ในรายการ "สนทนาประสาสมัคร" นายกรัฐมนตรียกหนังสือพิมพ์ "ไทยโพสต์" ที่มีพาดหัว "ไร้ยางอาย" และมีภาพนายกรัฐมนตรีประกอบอยู่ พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง)
...................
อดีต รมต. มหาดไทยออกหนังสือเล่มดังกล่าวเมื่อต้นปี พ.ศ. 2520 และในปลายปีเดียวกัน ผู้ที่ได้รับเกียรติให้เป็น "ไอ้แก่หลายนามปากกา" ในหนังสือของอดีต รมต. มหาดไทย ได้ออกหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ "สันดานรัฐมนตรี ป.ม." โดยใช้นามปากกา "ทหารเก่า" ใต้เครดิตของหนังสือพิมพ์สยามรัฐ
สันดานรัฐมนตรี ป.ม.
หนังสือเล่มนี้กล่าวออกตัวไว้ตั้งแต่ใบรองปกว่า คำว่า ป.ม. นั้นอาจตีความหมายได้หลายอย่าง ตั้งแต่
ประโยคมัธยมศึกษา ปากมหาบัณฑิต ปากมาก ปากมอม ปากมักง่าย หรือหากเลวร้ายเหลือคณา ป.ม. อาจหมายถึงอย่างอื่นก็เป็นได้
ผู้เขียนได้ตอบโต้ข้อเขียนของอดีต รมต.มหาดไทย ด้วยการเรียบเรีัยงชีวประวัติช่วงแรกในการเป็นนักหนังสือพิมพ์ของอดีต รมต. (ในสมัยนั้น) ว่าเริ่มต้นอย่างไร ได้รับความอนุเคราะห์จากใครในช่วงจังหวะใดบ้าง ก่อนที่จะก้าวไปเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ว่าได้เข้าไปสู่วงการเมืองอย่างไร มีก้าวย่างที่ยากลำบากประการใดบ้าง
ที่สำคัญ ผู้เขียนได้กล่าวถึงประวัติช่วงที่อดีต รมต. สมัครได้เป็นรัฐมนตรีในสภาและได้กล่าวโจมตีผู้เขียนที่เป็นนักหนังสือพิมพ์ที่เข้าไปนั่งทำข่าวในห้องนักข่าวในสภา พร้อมกับบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อมาของการอภิปราย (ที่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองในสภา) ในช่วงนั้น และในช่วงท้ายได้เขียนตอบโต้บทความในช่วงหลังของหนังสือสันดานหนังสือพิมพ์ที่อดีต รมต.สมัครได้เขียนไว้ก่อนหน้านั้น รวมไปถึงเบื้อหลังการปฏิวัติในวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2520 ในแง่มุมที่หลายคนอาจไม่คิดถึง ...แต่ด้วยความที่เป็นหนังสือที่เขียนตอบโต้กัน อาจต้อง "อ่านตา ไว้ตา" (ฟังหู ไว้หู) เอาไว้บ้าง
หนังสือเล่มนี้เหมือนอีกด้านหนึ่งของเหรียญที่คอลัมน์นิสต์ผู้ถูกพาดพิงได้นำออกมาเปิดเผยในยุคที่ต่างฝ่ายต่างถือไพ่ใกล้เคียงกัน หากใครต้องการอ่าน "ประวัติศาสตร์ทางเลือก" ด้วยการหยิบหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่งในสองเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน โดยส่วนตัวผมแนะนำว่าควรอ่านอีกเล่มประกอบกัน เพื่อความสมดุลย์ของความเป็น ขวา-ซ้าย ที่ในยุคนั้นคนไทยถูกแบ่งอย่างง่าย ๆ ออกเป็นเช่นนี้ และหากมองมาข้างหน้าสู่ปัจจุบัน คนไทยก็ยังคงถูกแบ่งออกเป็น แดง-เหลือง (นปก.-พธม.) อย่างง่าย ๆ อยู่เช่นเดิม
เพียงแต่หากความกระตือรือล้นทางการรับข้อมูลข่าวสารและทางการเมืองของคนในยุคปัจจุบันมีมากกว่าเมื่อสามสิบปีที่แล้ว สถานการณ์ทางการเมืองของเมืองไทยคงไม่ตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้ แต่หากในช่วงสามสิบปีที่ผ่านมานั้นคนไทยยังต้องอด ๆ อยาก ๆ และต้องขวนขวายหาข้าวสารมาตำกรอกหม้ออยู่เช่นเดิม สำนึำกทางการเมืองใด ๆ ก็ยากที่จะถูกปลุกขึ้นมาได้
ทั้งหมดทั้งปวงนั้นก็ต้องโทษนักการเมืองไทยนั่นเองที่ตลอดสามสิบปีที่ผ่านมาทำให้เมืองไทยเดินย่ำอยู่กับที่ (และบางครั้งถึงกับถอยหลัง) จนพัฒนาการทางการเมืองไทยเป็นศูนย์อยู่อย่างทุกวันนี้
อ่านบทวิเคราระห์ "ส่อง สมัคร ผ่าน สันดานนสพ." //www.oknation.net/blog/print.php?id=224085
...................
แวะเวียนไปร้านหนังสือมือสอง ทั้งสองเล่มนี้ในปัจจุบันกลายเป็นหนังสือหายากและเป็นที่ต้องการสำหรับผู้อ่านพอสมควร วันนี้เหลือบไปเห็นหนังสืออีกเล่มหนึ่ง ... สันดานรัฐมนตรี (เล่มนี้ไม่มี ป.ม.)
ดูภาพหน้าปก กับชื่อคนเขียน... !!!
สันดานรัฐมนตรี
อ่านจบแล้วจะมาเล่าอีกทีครับว่าเขาเขียนถึงอะไรบ้าง
Create Date : 13 กรกฎาคม 2551 |
|
1 comments |
Last Update : 13 กรกฎาคม 2551 22:18:27 น. |
Counter : 2436 Pageviews. |
|
|
|
ถึงคิว...เชือดเรียงตัวแล้วครับ