***การอ่านหนังสือ คือ การเปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเอง*** Open Your Mind by Reading***
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2559
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
22 มีนาคม 2559
 
All Blogs
 

ครอบครัว “กิน อยู่ คือ”

หลายปีก่อนช่วงที่ฉันยังดูโทรทัศน์อยู่ ในบรรดารายการอาหารที่มีอยู่ดาษดื่นแทบทุกสถานี ฉันเคยดูแบบผ่าน ๆ ไม่เคยดูแบบสนใจจริงจังสักครั้ง จนมาเจอรายการ “กิน อยู่ คือ”ที่ได้ดูย้อนหลังทางยูทูป (จึงไม่รู้ว่าตอนนี้ ยังมีอยู่หรือเปล่าเพราะคลิปส่วนใหญ่เป็นของเก่า)

รูปแบบรายการแตกต่างจากรายการทำอาหารทั่วไปโดยสิ้นเชิง เพราะนอกจากจะเน้นการทำอาหารไทย โดยพ่อครัวฝรั่งที่มาแต่งงานกับสาวไทยซึ่งเป็นพิธีกรประจำรายการแล้ว ยังให้ความรู้เกี่ยวกับที่มาและคุณประโยชน์ของอาหาร ที่นำมาสาธิตในรายการอีกด้วย

ฉันนึกอยากหัดทำอาหารก็จากรายการนี้เอง พวกแกงและน้ำพริกทั้งหลายที่เวลาซื้อกินแล้ว เจอรสชาติผงชูรสพอ ๆ กับรสชาติวัตถุดิบของอาหารหรือบางครั้งมากเกินไปการทำเองได้ จึงนับว่าเป็นเรื่องดี เลือกที่จะใส่หรือไม่ใส่อะไรก็ได้เพราะทำกินเอง

ฉันชอบพิธีกรคู่สามีภรรยาคู่นี้มาก แม้ฝ่ายชายจะยังพูดไทยไม่ชัด แต่ก็รู้เรื่องอาหารไทยดี เวลาทำก็ทะมัดทะแมงคล่องแคล่วสมเป็นเชฟ ที่ชอบเป็นพิเศษคือ การให้ลูกเล็ก ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในรายการ

ฉันคิดว่านี่คือการสอนวิธีการเลี้ยงลูกทางอ้อม ฉันดูคลิปตั้งแต่ลูกยังอายุไม่ถึงขวบจนมาถึงคลิปที่ลูกกล่าวสวัสดีกับคนทางบ้านได้ แม้บางคลิปจะหวาดเสียวไปบ้างกลัวเด็กถูกน้ำร้อนลวก แต่ฉันคิดว่าจริง ๆ แล้วอาจไม่น่ากลัวขนาดนั้น เหมือนเวลาเราซ้อนมอเตอร์ไซค์ เราจะเกร็งเวลาคนขับขี่เร็วหรือซิกแซกไปในช่องแคบ ๆ แต่เมื่อเราเป็นคนบังคับรถเอง เราจะรู้ว่ามันไม่ได้น่ากลัวเหมือนตอนที่เรานั่งอยู่ข้างหลัง เปรียบเทียบแบบนี้ไม่รู้ว่าเชื่อมโยงกันได้ไหม

คนไทยอาจไม่ชินในการให้ลูกเล็กที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทำอาหาร เว้นเสียแต่ว่าโตแล้ว แม่อยากให้ลูกทำอาหารเป็นก็อาจเรียกมาช่วยเป็นลูกมือ รายการนี้จึงดูแปลกไปในทางดีที่ให้ลูกได้มาสัมผัสกับการทำครัวตั้งแต่ยังพูดอ้อแอ้ทำให้ลูกได้ซึมซับกับเรื่องนี้โดยไม่รู้ตัว

ที่สำคัญคือเขาแสดงให้เห็นว่า พ่อแม่สามารถใกล้ชิดลูกได้ตลอดเวลา แม้ขณะกำลังทำในสิ่งที่ดูเหมือนจะวุ่นวายอย่างการทำอาหารอาจเพราะสองคนช่วยกันดูแล เลยไม่เป็นปัญหา (เข้าใจว่ารายการนี้บันทึกเทปที่บ้านของพิธีกรเอง)ลูกได้รับความอบอุ่นเต็มเปี่ยม และมีส่วนช่วยหยิบจับ โน่นนี่ จนคาดได้ว่าอีกไม่กี่ปีน่าจะทำอาหารได้คล่อง

พ่อแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้านมีเวลาน้อยนิดที่จะได้อยู่ใกล้ชิดลูก ต้องจ้างคนดูแลตอนลูกยังเล็ก แต่หากมีโอกาสทำอาหาร แม้ลูกยังไม่รู้ประสา น่าจะลองทำแบบรายการนี้บ้าง ถ้าพ่อไม่ชอบทำครัว ก็เป็นคนพาลูกมาดูแม่ทำ ให้ลูกช่วยเด็ดผักหรือหยิบโน่นนี่ให้บ้าง ถ้าเขาพอทำได้ นับเป็นวิธีการสร้างความผูกพันระหว่างพ่อแม่ลูกโดยไม่ต้องใช้ความพยายามเลย เรียบง่ายและไม่สิ้นเปลืองทั้งเงินและเวลาเพราะเป็นวิถีชีวิตประจำวันอยู่แล้ว

ขึ้นต้นด้วยรายการทำอาหารแต่จบลงด้วยวิธีการเลี้ยงลูกก็แล้วกันค่ะ อยากให้ทุกครอบครัวเป็นแบบนี้จัง ไม่ได้หมายความว่าให้พ่อแม่พาลูกเข้าครัว แต่หมายถึงลูกได้ทำกิจกรรมร่วมกับพ่อแม่ ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ผู้ใหญ่อาจคิดว่าเด็กยังไม่จำเป็นต้องรู้ ซึ่งจริง ๆ แล้วนั่นคือผลพลอยได้ เพราะสิ่งที่ลูกได้รับเต็มที่คือภูมิคุ้มกันชีวิตต่างหากเล่า

๒๑ มีนาคม ๒๕๕๙


Smiley




 

Create Date : 22 มีนาคม 2559
0 comments
Last Update : 22 มีนาคม 2559 20:26:40 น.
Counter : 700 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


wanalee
Location :
ระยอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




คนธรรมดาที่กำลังพยายามละกิเลส เพื่อลดความอยากและไม่อยากให้มากที่สุด (ยากนะ แต่จะพยายาม)
New Comments
Friends' blogs
[Add wanalee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.