ความเป็นกลางทางการเมือง
ฉันเพิ่งเข้าใจความรู้สึกของคนที่บอกว่า "เป็นกลางทางการเมือง" ตอนนี้เอง
ไม่รู้ว่าในความรู้สึกเป็นกลางนั้น มีความเบื่อหน่ายปะปนอยู่ด้วยหรือเปล่า หรือเป็น "อุเบกขา" แบบไม่มีอคติอื่นใดเจือปน
ฉันกำลังคิดว่าตนกำล้งจะมีความเป็นกลางทางเมืองแล้วล่ะ ความรู้สึกนี้มีมาพร้อมกับความเบื่อหน่ายสุด ๆ เบื่อหน่ายในข้อที่ว่า ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็หนีไม่พ้นเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง แม้แต่กลุ่มบุคคลที่ประกาศว่าเข้ามาเพื่อปราบคอร์รัปชั่น ก็ยังปล่อยให้มีเรื่องพวกนี้ หลุดออกมาเป็นข่าวสม่ำเสมอ เล็กบ้างใหญ่บ้าง แถมการทำความกระจ่างแก่ประชาชนยังคลุมเครือเสียอีก
น่าแปลก ที่ข่าวการคอร์รัปชั่นของฝ่ายผู้มีอำนาจกับฝ่ายที่ถูกจัดการตามกฎหมายมีออกมาคู่กันเป็นระยะ ฉันก็ไม่รู้ว่า นี่เป็นมาตรฐานของการเมืองไทยหรืออย่างไร เด็ดขาดกับพวกหนึ่ง หย่อนยานกับพวกหนึ่ง
แล้วก็นะ ยุคนี้ ใคร ๆ ก็ว่าเป็นยุคเผด็จการ ทหารครองเมือง ฟังดูเหมือนประเทศไทยจะตกอยู่ในความเครียด แต่เปล่าหรอก ประชาชนคนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ข้องแวะกับเรื่องการเมืองก็ยังอยู่สบายดี ใครนึกจะละเมิดสิทธิของคนอื่นอย่างไร ก็ยังเป็นไปอย่างปกติ คนที่อยู่ไม่เป็นสุขเห็นจะเป็นพวกที่ทำกฏหมายซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาลมากกว่า ซึ่งนี่ก็เป็นภาวะปกติไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนก็มักเป็นเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม ฉันรู้สึกดีที่เห็นข่าวการจัดการทวงคืนผืนป่าจากนายทุนที่มีมาก่อนหน้านี้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพ้นจากรัฐบาลชุดนี้ จะกลับมาสู่วังวนเดิมอีกหรือเปล่า
ส่วนที่กำลังมีข่าวใหญ่โต ไม่ขอออกความเห็น แม้จะทำให้ฉันรู้สึกเป็นกลางอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และเมื่อรู้สึกเช่นนี้ จิตใจฉันสงบขึ้นมาก แม้จะมีเรื่องกังวลกับปัญหาส่วนตัวอยุ่บ้าง
ตอนนี้ กำลังพยายามทำใจให้นิ่งสุด ๆ กับเรื่องหุ้น ไม่รู้จะอยู่บนดอยไปอีกนานเท่าไหร่
Create Date : 08 มกราคม 2559 |
Last Update : 8 มกราคม 2559 5:16:42 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1046 Pageviews. |
|
|
ติดตามข่าวการเมืองแล้วก็เครียด
จะกี่ยุคกี่สมัยก็เครียด...
...
ไม่รู้ที่ประเทศไทยมันจะมีคนดีจริงๆมาเป็นรัฐบาลได้มั้ย :(