Bloggang.com : wanalee : ประชาธิปัตย์จ๋า ลาก่อน

ประชาธิปัตย์จ๋า ลาก่อน

(เนื่องจาก ครั้งที่แล้ว กระทู้ถูกอุ้ม เพราะไปวิจารณ์ตำรวจมะเขือเทศกรณีคุณอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ แถมโพสต์กลอนที่เคยแต่งวันพ่อลงไปด้วย ครั้งนี้ เลยต้องเอามาเก็บไว้ในบล็อกด้วย กันเหนียว)

ช่วงที่เกิดเหตุความวุ่นวายทางการเมือง หลงเครียดเอาจริงเอาจัง จนนอนไม่หลับ คนที่รู้จักต้องบอกว่าอย่าอินมาก บ้านเมืองไม่ได้เป็นของเราคนเดียว ตอนนั้น นึกฉุน...ทำไมพี่เขาพูดอย่างนี้ ทำไมเขาไม่คิดว่า การเมืองสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้ทีเดียวนะ หากเหตุการณ์เกิดพลิกผัน แม้ไม่เปลี่ยนกะทันหัน ก็ต้องเปลี่ยนไปทีละน้อย

แม้จะขัดใจกับรัฐบาล ที่ไม่จัดการกับพวกกวนเมืองให้เด็ดขาด แต่ก็พยายามมองในแง่ดีว่า เขาเป็นผู้บริหารประเทศ เขาต้องรู้ดีกว่าเราอยู่แล้ว ว่าทำอย่างไร บ้านเมืองจึงจะสงบ เราแค่รากหญ้า ประชาชนคนธรรมดา จะไปรู้ดีกว่าท่านผู้มีอำนาจได้อย่างไร

ช่วงแรก...เอาใจช่วยท่าน อยากให้ท่านมีกำลังใจ ทำงานต่อไป พวกป่วนบ้านป่วนเมือง มันจะทำอะไร เมื่อท่านเห็นว่าปล่อยให้มันทำไปเรื่อย ๆ แล้ว (กาลเวลาอาจช่วยให้) ดีเอง ทั้งที่ความรู้สึกบอกว่า รัฐฯ น่าจะตัดสินใจอะไรได้แล้วนะ ประชาชนเดือดร้อนไปทั่วแล้ว ประเทศชาติเหมือนจะไม่มีกฏหมายแล้ว แต่เมื่อท่านออกทีวีบอกให้คนไทยอดทน เอาวะ! ทนก็ทน ทนมาได้ตั้งนานแล้ว ทนอีกหน่อย นายกฯ ท่านอาจจะรอให้อะไร ๆ ถึงที่สุดก่อนจึงจัดการ

จนเกิดเหตุการณ์นายทหารฝีมือดี ถูกลอบยิงเสียชีวิต กลุ่มทหารถูกระเบิดบาดเจ็บสาหัสกันระนาว แต่รัฐฯ ก็ยังคงใจเย็นเป็นน้ำแข็ง ความอดทนเป็นเลิศ ชนิดที่ฉันไม่เคยคิดว่า จะมีผู้นำประเทศไหน อดทนได้ขนาดนี้

แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้ท่านลงมือทำอะไรเสียที ก่อนเหตุการณ์จะลุกลามไปมากกว่านี้ ประชาชนคอยหนุนหลังท่านอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากท่านจัดการกับพวกกวนเมืองได้เด็ดขาด ทำให้ประชาชนเดินดินได้ใช้ชีวิตปกติสุขเสียที

แต่ท่านก็ยัง "อุเบกขา" ได้อีก....

จนเกิดเหตุการณ์กลุ่มชาวบ้านถูกระเบิดเสียชีวิตและบาดเจ็บ แม่เจ้า! ท่านก็ยังวางตัวราวกับเป็นพระ (พุทธรูป) ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ท่านจะคอยออกทีวีบอกประชาชนว่า ท่านกำลังหาทางแก้ไขสถานการณ์อยู่ ท่านไม่อยากใช้ความรุนแรง ท่าน...บรา บรา บรา ฯลฯ

แล้วก็ถึงวันที่ท่านตัดสินใจว่า จะเด็ดขาดเสียที เอาเถอะ แม้จะสายไปมาก แต่ก็ยังดีกว่าท่านไม่ทำอะไร นั่งซื้อเวลามองดูความวุ่นวายและความเดือดร้อนของชาวบ้านตาดำ ๆ อย่างที่ผ่านมา ทว่า ความไม่กล้า ความใจเย็น และความอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง ที่ผู้นำพึงมี แต่ท่านไม่มี ได้บ่มเพาะความเหิมเกริมของฝ่ายที่ก่อความเดือดร้อน จนเกินหยุดยั้งได้เสียแล้ว

บ้านเมืองลุกเป็นไฟ สมใจอยากของใครคนหนึ่งที่คอยบัญชาการอยู่นอกประเทศ...

ถึงเวลานี้ ฉันไม่อยากลำดับเหตุการณ์อะไรอีกแล้ว เพราะมันมีแต่เรื่องฝ่ายที่ทำผิด ก็ยังคงไม่สำนึก แม้ส่วนหนึ่งจะถูกฯ จับ ส่วนหนึ่งหนีไปได้ และบางส่วนยังลอยนวล และฝ่ายรัฐฯ ก็ยังทำงานแบบไม่รู้สึกรู้สมกับเรื่องเลวร้ายที่บ้านเมืองเพิ่งประสบมาสด ๆ ร้อน ๆ

ฝ่ายตุลาการน่ะหรือ ขนาดฝ่ายนั้น ทั้งด่าทั้งวิพาษ์วิจารณ์ จนเละหาดีแทบไม่ได้เหมือน ๆ กับที่รัฐบาลโดน แต่ก็นะ...ทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ ท่านทำงานเหมือนไม่เห็นหัวประชาชนคนธรรมดา ที่ไม่มีฤทธิ์เดช ไม่มีอะไรไปต่อกรกับฝ่ายที่ถูกตั้งข้อหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย
ท่านจะรู้ตัวไหมนะ ว่า ท่านทำเหมือนตบหน้าประชาชนมาแล้วกี่ครั้ง...

โดยเฉพาะนายกฯ ท่านเป็นผู้นำประเทศ ท่านอาจทำงานไม่เก่ง บุคลิกท่านน่าจะเป็นนักวิชาการมากกว่าจะมาเป็นนักการเมืองน้ำดีของประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย เพราะถึงเวลานี้ ฉันรู้แล้วว่าท่านหาใช่นักการเมืองน้ำดี ที่ประชาชนจะฝากผีฝากไข้ได้

ท่านเป็นได้แค่นักการเมืองมาดดี บุคลิกน่านับถือ พูดจาเป็นหลักการ มีเหตุมีผล แม้ระยะหลัง ๆ จะ "แถ" เก่งมากในบางเรื่อง เช่น กรณีทุจริตของรัฐมนตรีพรรคร่วม , กรณีเขาพระวิหาร และเรื่องกระจิ๊บกระจ๊อยอีกมากมายก่ายกองที่นักข่าวมาสัมภาษณ์ ท่านไม่เคยจนมุมสักเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องผู้ก่อการร้าย ท่านก็ตอบคำถามด้วยคำพูดที่เหมือนโปรแกรมที่เซ็ทไว้แล้ว

วันที่ฉันหมดสิ้นศรัทธาท่านอย่างแท้จริง คือ วันที่ท่านไปขึ้นศาลกรณีฟ้องจตุพรข้อหาหมิ่นประมาท นักข่าวรายงานว่า ท่านยิ้มให้คู่กรณี และคู่กรณีก็ยิ้มตอบ ต่างคนต่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ว่างั้นเถอะ ไม่น่าเชื่อว่า ท่านยังอุตส่าห์ยิ้มให้คนที่มีพฤติกรรมคำพูดทำร้ายบ้านเมืองได้ลงคอ เผาบ้านเผาเมือง จนคนที่ทำมาหากินโดยสุจริต เดือดร้อนลำเค็ญกันไปทั่วหน้า ท่านนึกถึงความรู้สึกของคนเหล่านั้นไหม

ท่านทำเหมือนเอาใจฝ่ายตรงข้ามมากกว่า กลุ่มบุคคลที่เคยให้กำลังใจให้ท่านมาตลอดนั่น ช่างเถอะ! แต่คนที่ถูกพวกนี้ทำลายจนต้องดิ้นรนหาที่ทำมาหากินใหม่ ท่านเคยนึกถึงความรู้สึกของพวกเขาบ้างหรือเปล่า

อยากปรองดองมากหรือคะ ท่าน พวกเขาเคยแคร์ความรู้สึกของท่านไหม เคยแคร์ความรู้สึกของคนไทยไหม การยิ้มคือการส่งไมตรี แล้วอย่างนี้ ท่านบอกว่าการปรองดองไม่ใช่การเกี้ยเซี้ย ขอโทษเถอะค่ะ คำพูดของท่านไม่น่าเชื่อถือต่อไปแล้ว

ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม ท่านไปไหน พวกนี้ถึงกล้าแสดงความกระเหี้ยนกระหือรือ อยากเอาชีวิตท่าน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม คนถึงกล้าเอาสิ่งปฏิกูลไปปาบ้านท่าน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แล้วคนของท่านก็เหยียบย่ำหัวใจคนไทยอีกครั้ง ด้วยการไปเป็นพยานให้ผู้ก่อการร้าย เพื่อให้ได้รับการประกันตัวออกมาเดินเฉิดฉายนอกคุก หลังจากทำผิดใหญ่หลวงซ้ำซากไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แล้วศาลก็ให้ประกันตัวซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนกัน

ยินดีด้วยกับผู้ก่อการร้าย ที่อาจมีโทษถึงประหารชีวิต แต่ยังได้รับการประกันตัวออกมา เครดิตดีน่าเชื่อถือจริง ๆ ค่ะ เชื่อแล้วว่า "นายแน่มาก" อย่างที่ชวลิตพูด

และนับจากนี้ ประชาธิปัตย์กับฉันเป็นอันลาขาด ท่านอาจไม่แคร์เสียงเดียวของฉัน แต่ยังมีอีกหลายเสียงที่ฉันรู้จักมักคุ้นก็คิดอย่างเดียวกัน จะทำอะไรก็ตามสบายค่ะ ไม่วิจารณ์ท่านอีกแล้ว

ไว้คอยฟังท่านพูดตอนเป็นฝ่ายค้านดีกว่า เข้าท่ากว่าเป็นรัฐบาลตั้งเยอะ

Create Date : 31 กรกฎาคม 2553

Last Update : 31 กรกฎาคม 2553 18:57:19 น.

2 comments

Counter : 652 Pageviews.

ถูกใจ

โดย: นายแมมมอส

วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:46:00 น.

zzzzz

โดย: zzz (สมอง อ่อน

) วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:37:13 น.