Neverending Story จินตนาการไม่รู้จบ................
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
30 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 

โบสถ์ไม้สักทอง ค่ายบางกุ้งและตำนานความรักชาติของชาวแม่กลอง







ที่วัดบางแคน้อยนี้
มีสถาปัตยกรรมที่ควรได้อนุรักษ์ไว้อีกอย่างหนึ่งก็คือ
โบสถ์ที่ตกแต่งภายในด้วยไม้สักทองแกะสลักทั้งหลัง
ฝังลายด้วยไม้โมกมัน ฝีมือช่างพื้นบ้านชาวเพชรบุรี
ผู้มีความสามารถอย่างยิ่ง ไม่ด้อยไปกว่า
ฝีมือศิลปะปูนปั้นอันงดงามของชาวเพชรบุรี
ที่จะหาที่ใดเสมอเหมือนได้ยาก
และนับวันจะค่อยๆ เลือนหายไป
เมื่อสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ก้าวเข้ามาแทนที่







รูปแกะสลักไม้สักทองที่โบสถ์หลังนั้น
ด้านข้างนั้นเป็นเรื่องราวของพระเวสสันดร
มหาชาติแห่งพระโพธิสัตว์เจ้าก่อนที่จะได้บำเพ็ญบารมีครบถ้วน
และในพระชาติต่อมาได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา
ทั้งหมดมี 13 กัณฑ์ คือ 13 ตอนนั่นเอง
ส่วนด้านหลังพระประธานเป็นรูปต้นโพธิ์ใหญ่
ที่เมื่อได้ประดิษฐานพระประธานแล้ว
จะมองเห็นได้ราวกับว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ประทับอยู่ภายใต้โพธิบัลลังก์ในเวลาที่ตรัสรู้นั้นเอง
ส่วนที่เป็นพื้นโบสถ์ปูด้วยกระดานไม้สัก
แผ่นใหญ่มาก 7 แผ่น(เท่านั้น)
ด้านในยกพื้นสูงจากพื้นประมาณเมตรครึ่ง
เป็นที่ตั้งของแท่นไม้สักแกะสลักลวดลายไทย ฝีมือละเอียดลออ
สำหรับประดิษฐานพระพุทธปฏิมากรที่จะเป็นพระประธานในโบสถ์หลังนี้
โบสถ์ทั้งหลังสวยงามและเป็นแห่งเดียวในประเทศไทยและในโลกทีเดียว







ในภาวะแห่งการเปลี่ยนแปลงของโลกทุกวันนี้
สิ่งใหม่ๆที่ต่างเรียกว่าการพัฒนาก้าวเข้ามาแทนที่ของเดิม
ที่คนสมัยใหม่คิดว่าเชยและล้าสมัย
แต่สิ่งดั้งเดิมที่บรรพบุรุษสร้างสรรค์ไว้นั้น
ประกอบด้วยชีวิต และจิตวิญญาณแห่งศิลปไทย ประเพณี รวมไปถึงวัฒนธรรมที่แฝงไว้ในรูปสลักนั้นอย่างประณีตงดงาม
และการสืบทอดความรู้ต่างๆ ในเชิงช่างพื้นบ้าน
ที่นับวันจะหมดไป เพราะขาดผู้สืบทอดเจตนารมณ์
โดยเฉพาะการทำลวดลายด้วยการฝังไม้โมกมัน
ลงในเนื้อไม้สัก นั้นหาดูได้ยาก
และคงจะเหลือเพียงที่เดียวที่นี่เท่านั้น







จากวัดบางแคน้อย
เราล่องเรือไปตามลำน้ำแม่กลองอันชื่นฉ่ำ
สู่ค่ายบางกุ้ง ค่ายที่จารึกตำนานของคนไทยผู้รักชาติชาวแม่กลอง
สำคัญไม่น้อยไปกว่าค่ายบางระจันอันเลื่องชื่อ
ที่นอกจากคนพื้นบ้านแล้ว ก็น้อยคนนักจะรู้จัก
คนเรือผู้เป็นมัคคุเทศก์ให้กับเราเล่าให้ฟังว่า ณที่นี้
เคยเป็นค่ายกองทัพเรือสมัยพระเจ้าเอกทัศน์
ด้วยการสร้างค่ายล้อมวัดบางกุ้งไว้
เนื่องจากเป็นแม่กลองเป็นเมืองสำคัญและเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์
ไปสู่เมืองหลวงอีกทางหนึ่ง และเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก
ค่ายแห่งนี้ก็ถูกตีแตกไปด้วยในปีพ.ศ. 2310
ต่อมาในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราชแห่งกรุงธนบุรี
ได้ตั้งค่ายนี้ขึ้นใหม่เรียกว่าค่ายจีนบางกุ้ง
พม่าเคยล้อมค่ายนี้ไว้นานแรมเดือน
ทหารและชาวบ้านผู้กล้าหาญ..สามารถรักษาค่ายนี้ไว้ได้ตลอดมา







จำได้ว่าในสมัยเด็ก ๆ เคยได้เรียนเรื่องราววีรกรรมของท่านบุญมา
(ซึ่งต่อมาคือ สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯมหาสุรสิงหนาท)
และพวกอีกสองสามคน ที่ลอบออกจากค่ายบางกุ้ง ซึ่งถูกพม่าล้อมอยู่
ด้วยการคว่ำเรือเอาสวะคลุมแล้วลอยเรือผ่านค่ายทหารพม่าจนพ้น
และนำความเข้าไปแจ้งที่เมืองหลวงสำเร็จ
จนในที่สุดสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและท่านบุญมา
กลับยกกองทัพเรือมาตีพม่าแตกพ่ายไป (ปี 2311)
ท่านบุญมาได้เป็นที่พระมหามนตรี
และนับเป็นครั้งสุดท้ายที่พม่าได้เหยียบแผ่นดินแม่กลอง
ไทยเป็นเอกราช ดำรงความเป็นชาติไทยที่เป็นปึกแผ่นนับแต่นั้นมา


ด้านในเข้าไปจากค่ายบางกุ้ง มีวัดบางกุ้ง
เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
ที่ตั้งอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
และโบสถ์เก่าที่ปกคลุมด้วยต้นโพธิ์ใหญ่
ที่ต่างก็อาศัยประคับประคองซึ่งกันและกันให้ทรงตัวอยู่ได้
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปั้นขนาดใหญ่สมัยอยุธยา
ชาวบ้านเรียกว่าหลวงพ่อโบสถ์น้อย
ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังสมัยปลายกรุงศรีอยุธยาให้ได้ชมกันอีกด้วย







ได้ยินได้ฟังประวัติศาสตร์ชาติไทยครั้งใด
ชวนให้เกิดความรู้สึกตื้นตันด้วยความขอบพระคุณในความกล้าหาญ
แห่งบรรพชนผู้สละเลือดเนื้อรักษาเอกราชของชาติไว้
ให้เราได้มีแผ่นดินยืนอยู่อย่างภาคภูมิใจในวันนี้
และเศร้าสลดใจทุกครั้งเมื่อได้เห็นข่าว
นักเรียนนักศึกษาบ้านเรา ยกพวกตีกัน ให้บาดเจ็บล้มตายไป
ด้วยความอาฆาตมาดร้าย โดยลืมนึกไปว่า
ได้เกิดมาร่วมแผ่นดินเดียวกัน ภายใต้ร่มธงชาติไทยสีเดียวกัน
มีเชื้อสายเผ่าพันธุ์มาจากสายเลือดไทยเหมือน ๆ กัน
แทนที่จะเก็บแรงกายแรงใจ และสติปัญญาไว้พัฒนาชาติ
หรือต่อสู้เพื่อรักษาชาติบ้านเมือง กลับคิดแต่เพียงสั้น ๆ
เอาชีวิตมาสังเวยความคิดตื้น ๆ และด้วยอารมณ์ชั่ววูบที่พาไป
ฆ่ากันเองอย่างไร้สติ ด้วยคิดว่าเก่งแล้ว แน่แล้ว
มันน่าให้กลับไปเกิดใหม่ ไปเรียนรู้ถึงค่าของความเป็นผู้กล้าที่แท้จริง
ผู้กล้าที่ทำให้วัยรุ่นเหล่านั้น มีแผ่นดินได้ทำสิ่งที่เหลวไหล
ไม่ได้ความ อย่างที่ทำกันทุกวันนี้เสียจริง




ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง
แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง
จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง




อ่านกลอนบทนี้แล้ว คุณคิดอะไรบ้าง…..อยากรู้จัง??













 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2549
0 comments
Last Update : 4 สิงหาคม 2553 17:17:42 น.
Counter : 1808 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


vistapa
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]











ปีใหม่นี้ไม่มีของขวัญมาให้
มีก็แต่หัวใจดวงนี้
มามอบให้แด่เพื่อน..ที่แสนดี
ด้วยรักและหวังดีอย่างจริงใจ


ให้ร่ำรวยสวยฉลาดสมปรารถนา
ให้ชีวิตมีคุณค่าดังฝันใฝ่
ให้พ้นทุกข์พ้นโศกไร้โรคภัย
ตั้งแต่นี้ตลอดไปทุกท่านเทอญ...




Friends' blogs
[Add vistapa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.