กวีไม่ใช่หมา ที่ใครขุนก็ยอมเชื่อง ศิลปินต้องรับผิดชอบต่อโลกมนุษย์ที่ตนเกิดมา เมื่อเกิดเป็นมนุษย์แล้ว คุณต้องเลือกเอาดวงดาวสักดวงในทางช้างเผือกเป็นอุดมคติ ไม่ใช่ไปเอาถ่านไฟในนรกอเวจีมาเป็นอุดมคติ พวกที่รักทักษิณนั้น ไปหยิบถ่านไฟในนรกมาเป็นอุดมคติแล้วคิดว่าเป็นดวงดาว กวีไม่ใช่หมานี่นะ ที่ใครขุนนิดเดียวก็จะยอมเขา บทกวีมันเป็นอิสระในตัวเอง รู้ผิดถูกชั่วดีตามพระพุทธเจ้าสอน เราเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า รับผิดชอบต่อเพื่อนมนุษย์ คือรักเพื่อนมนุษย์ และยินดีจะนำกำลังสติปัญญาไปเผยแพร่ แม้แต่ต้นหญ้ายังให้คุณกับเพื่อนมนุษย์ ข้าวน่ะเป็นหญ้าชนิดหนึ่งนะ อย่าคิดว่ามนุษย์ไม่กินหญ้า และทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นหญ้า ข้าวก็ยังทำให้มนุษย์อิ่มหนำและมีชีวิตอยู่ได้ ศิลปินก็แบบนั้นแหละ เป็นข้าวให้มนุษย์กิน เป็นออกซิเจน เป็นอากาศให้มนุษย์หายใจ เป็นน้ำให้ดื่ม ถ้าศิลปินเป็นฝนได้ก็จะเป็น เป็นพระอาทิตย์ได้ก็จะเป็น ผมคิดว่าเป็นอุดมคติของทุกคน ไม่ใช่แค่ศิลปิน บทกวีมีพลังที่จะเปลี่ยนสังคม ทำไมจะเปลี่ยนไม่ได้ เปลี่ยนมาเยอะแล้ว แต่เราไม่ได้คิดจะเปลี่ยนแปลงสังคมเพียงลำพัง เพราะความเป็นไปของมนุษย์มันเหมือนคลื่นในมหาสมุทร เราแข็งแรงเท่าไหร่ เราก็เอาบ่าเข้ารับ กระแสคลื่นจะมาสาดบ่าเราเปื่อย จนกระทั่งเห็นกระดูกเราขาวโพลน ก็ยังไม่สิ้นกระแสคลื่นในทะเล ดังนั้นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ก็ต้องช่วยกันหลายทาง ตั้งแต่พระศาสดาและใครต่อใคร ศิลปินก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง พลังของบทกวีก็เหมือนแสงอาทิตย์ หรือถ้าเปรียบเป็นเมฆ มนุษย์ก็ต้องได้รับฝน ถ้าเป็นดอกไม้ก็ต้องหอมอบอวล ถ้าเป็นน้ำหวานก็ต้องเป็นน้ำหวานจากผึ้ง ที่มอบความหวานหอมให้ชีวิต ผมถึงเป็นกวี รับผิดชอบต่อจากจ้าฟ้ากุ้ง (เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์) ผมหายใจเป็นโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ครั้นถามว่าในฐานะกวีที่คอยเผยแพร่ บทกวีการเมืองประณามความไม่ถูกต้อง และให้แง่คิดผู้อ่านเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นของทักษิณและลิ่วล้อ ผ่านผลงานบทกวีที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องนั้น สร้างความเหน็ดเหนื่อยให้แก่อังคารหรือไม่? คำตอบของศิลปินแห่งชาติผู้นี้ก็ยืนยันได้ดี ถึงอุดมคติและอุดมการณ์ที่เจ้าตัวไม่เคยหลงลืม คุณมาถามผมก็เหมือนถามทะเลว่าเวลาคลื่นลมมามันเหนื่อยไหม? เหนื่อยไม่ได้สิ ยิ่งเกี่ยวกับบ้านเมืองเรายิ่งมีพลัง มันผิดกับคนอื่น ตอนนี้จะกลายเป็นปืนใหญ่อยู่แล้วนี่ยังมีไฟอยู่ (หัวเราะ) จะท้อแท้ได้ยังไง? ไม่อย่างนั้นถ้าพระเจ้าตากสินมหาราชท่านเหนื่อย แล้วท่านจะกู้ชาติ กู้บ้านกู้เมืองได้ยังไง? คนไทยทุกคนก็เหมือนกัน ต้องตื่นขึ้นมาสิ ทำไมไม่ทำหัวใจตัวเองให้เป็นเพชรขึ้นมาบ้าง คนไทยต้องตื่นขึ้นจากความมืดบอด คนไทยควรจะต้องมีสติเป็นองค์ประธาน มี สุ จิ ปุ ลิ เป็นแก้วสารพัดนึก จะได้ลุกขึ้นมาปกครองตนเอง อย่าให้คนอื่นปกครอง ทักษิณนี่มันได้อิทธิพลจากฝรั่งนะ ฝรั่งมันหลอกให้คนเอเชียบริโภคนิยมไม่รู้จักจบ เห็นไหม? มันขอประเทศไทยเป็นฐานทัพ และอยากขอเป็นฐานขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล ทักษิณก็ไม่ต่างกัน มันจะพลิกบ้านพลิกเมือง พลิกแผ่นดินหมดแล้ว มันโลภและมันจะเอามากกว่านั้นอีก ทักษิณมันเก็บทุกลมหายใจ มันจะเอาอากาศอัดใส่กระป๋องขาย แล้วเวลาคนไทยจะหายใจก็ต้องไปขอซื้ออากาศกับมัน ทักษิณมันเอาขนาดนี้ แล้วตอนนี้ทักษิณมันยังเติมเชื้อไฟว่า ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินผิดผิด ที่มันว่าศาลผิดหมด มันถูกคนเดียว แบบนี้นี่จะเกิดเรื่อง ชีวิตมนุษย์นี่ นักปราชญ์ในสมัยโบราณเขาว่าเหมือนหยาดน้ำค้างบนยอดหญ้า คุณเอาชีวิตมนุษย์ไปเทียบกับอายุทางธรณีวิทยาไม่ได้หรอก แล้วทำไมไม่ทำอะไรที่ดีๆ ทำไมไม่ฟังพระพุทธเจ้าบ้าง ท่านสอนทุกอย่างไว้ครบถ้วน แล้วทักษิณมันสอนอะไร? มันสอนให้โลภอย่างเดียว คุณก็เลือกเอาสิ ระหว่างพระพุทธเจ้ากับชูชก หรือพระพุทธเจ้ากับเทวทัต คุณจะเลือกใคร? คือทักษิณนี่มันจะเอาบ่อน้ำมันให้ได้ แล้วคนไทยก็โง่บัดซบ ทักษิณมันชูสารส้มขึ้นมาก้อนหนึ่ง มันบอกว่าเป็นเพชร ก็เชื่อ หลอกแค่นี้ก็เชื่อแล้ว ทำไมเราไม่เชื่อตัวเราเอง ไม่ต้องกินเพชร กินข้าวสักถ้วยก็อิ่มแล้ว ให้มีสติ ตื่นขึ้น ปกครองตัวเอง อย่าให้นักการเมืองปกครองเรา ไม่งั้นเราจะกลายเป็นเนื้อสเต๊ก ต้องถามว่าคนไทยอยากจะเป็นขี้ข้าใครล่ะ? ถ้าอยากเป็นขี้ข้าก็ลุกขึ้นมาทำใบมอบฉันทะ มอบวิญญาณให้เขาไปเลย การที่เราต้อง ตื่น ขึ้นมานี่เท่ากับว่าเราต้องรู้สึก ต้องตระหนัก เราต้องรับผิดชอบต่อกระดูกสันหลังของเราเอง เราต้องปกครองตนเอง เพราะคุณเกิดมาเป็นมนุษย์ คุณไม่ใช่หมาในบ้านที่เขาเลี้ยงไว้นี่ คุณเป็นมนุษย์ ความเป็นมนุษย์มันยิ่งใหญ่มาก คุณจะเป็นพระอรหันต์ก็ได้ เป็นอะไรก็ได้ เป็นสัตว์นรก เป็นเดรัจฉานก็ได้ ภพภูมิของคนนั้นเป็นกลาง แต่เลือกที่จะเป็นพระโพธิสัตว์ก็ได้ อยู่ที่นุษย์เอง ถ้าไม่ตื่นขึ้นมาก็อย่าเป็นมนุษย์เลย |