พระเจ้าอี่ หาทางแก้ไขน้ำท่วม 13 ปีจึงสำเร็จผ่านหน้าบ้าน 3 ครั้งไม่แวะแม้ได้ยินเสียงร้องเมื่อบุตรเกิด
พระเจ้าอี่
พระเจ้าอี่ หรือ อวี่ (อังกฤษ: Yu, จีน: 禹) (2194 ปีก่อนคริสตกาล - 2149 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์เซี่ย ซึ่งนับเป็นราชวงศ์แรกของประเทศจีน ที่มีการสืบราชบัลลังก์โดยสายเลือด เกิดเมื่อปีที่ 2059 ก่อนคริสตกาล ที่หมู่บ้านเป่ยฉวน ปัจจุบันอยู่ในมณฑลเสฉวน
ได้รับยกย่องเป็นหนึ่งในสามกษัตริย์ ห้าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของจีน เดิมเขาเป็นขุนนาง ในสมัยที่พระเจ้าซุ่นเป็นกษัตริย์ปกครองประเทศจีน มีผลงานที่โด่งดังคือการคิดค้นระบบชลประทานเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม
ประวัติ
เมื่อ 4,000 ปีก่อน ลุ่มแม่น้ำหวงเหอหรือแม่น้ำเหลืองเกิดอุทกภัยครั้งร้ายแรง ต้าอวี่ (อี่) ได้รับคำสั่งให้ไปแก้ปัญหาอุทกภัยและประสบความสำเร็จในที่สุด จึงกลายเป็นบุคคลที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจาก ประชาชนทั่วไป
ซุ่นหัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่ของชนเผ่าหัวเซี่ยในเวลานั้นได้ มอบราชบัลลังก์ให้อวี่สืบทอดต่อ เรื่องราวเกี่ยวกับ ต้าอวี่ แก้ปัญหา อุทกภัยได้เล่าขานกันมาจนกระทั่งทุกวันนี้
เล่ากันว่า ในขณะที่เหยาเป็นหัวหน้าเผ่าอยู่นั้น เกิดอุทกภัยครั้งร้ายแรงมาก ไร่นาและบ้านถูกน้ำท่วมไปหมด ชาวบ้านทั่วไปต้องย้ายไปอยู่เนินสูง เหยาเรียกเปิดประชุม เพื่อปรึกษาหารือแก้ปัญหาอุทกภัย
บรรดาหัวหน้าเผ่าต่างก็เสนอชื่อให้ กุ่น ซึ่งเป็นบิดาของอวี่ไปหาทางแก้ไข กุ่นใช้เวลา 9 ปีใช้วิธีการถมดินปิดกั้นทางน้ำไหล แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ซ้ำอุทกภัยกลับร้ายแรงยิ่งขึ้น และยังถูกฟ้องร้องกล่าวหาว่า ทุจริต
ซุ่น ผู้ได้สืบราชบัลลังก์ต่อจากเหยาได้สั่งให้ลงโทษประหารชีวิต กุ่น และมอบหมายให้ อวี่ (อี่) ลูกชายของกุ่นไปแก้ปัญหาอุทกภัย
อวี่ ได้รับบทเรียนจากความล้มเหลวของบิดาตน ที่ใช้ทำนบปิดกั้นทางน้ำไหลไม่ได้ผล จึงใช้วิธีขุดคลองระบายน้ำที่ท่วมอยู่ให้ไหลลงทะเลและขุดลอกแม่น้ำเพื่อระบายน้ำแทน เขาใช้วิธีสำรวจทางน้ำและสร้างแผนที่ขึ้นมาก่อน แล้วจึงขุดคลองระบายน้ำให้น้ำที่ท่วมอยู่มีทางไหลออกไปสู่ทะเลได้
เขามุ่งมั่นนำพาพลเมืองให้ร่วมกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมด้วยตนเอง นำหน้าขุดดินและหาบดินด้วยตนเอง ในระหว่างการแก้อุทกภัย เขาได้คิดประดิษฐ์เครื่องวัดหลายชนิด ตลอดจนวิธีการรังวัดและเขียนผังหลายอย่าง
ด้วยการใช้ความพยายามเป็นเวลานานถึง 13 ปี จึงสามารถระบายน้ำลงสู่ทะเลและปลูกพืชพันธุ์ ธัญญาหารในไร่นาได้ ด้วยคุณงามความดีในการแก้ปัญหาน้ำท่วม ซุ่น จึงได้มอบราชบัลลังก์ให้อวี่สืบทอดต่อ
เล่ากันว่า เพื่อแก้ไขน้ำท่วม อวี่แต่งงานได้ไม่นานก็ต้องเดินทางออกจากบ้าน ในช่วงเวลา 13 ปีที่เขาทำงานหนักมาก เขาเคยผ่านหน้าบ้านถึงสามครั้ง แต่ก็ไม่ได้แวะเข้าบ้านเลยแม้สักครั้ง
ครั้งหนึ่ง ขณะที่เขาผ่านหน้าบ้านนั้น ภรรยาเขาได้คลอด ลูกชายชื่อ ฉี่ พอดี แม้อวี่ได้ยินเสียงร้องไห้ของทารกแล้ว แต่ก็อดกลั้นใจไว้ไม่แวะเข้าบ้านของตน
ชนรุ่นหลังต่างยกย่องสรรเสริญคุณงามความดีในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของ อวี่ จึงเรียกเขาว่า ต้าอวี่ (พระเจ้าอี่) แปลว่า อวี่ผู้ยิ่งใหญ่ เรื่องเล่าขานนี้ ได้สะท้อนถึงสภาพจิตใจของชุมชนที่ไม่หวาดหวั่นครั่นคร้ามต่อภัยธรรมชาติ
เมื่ออวี่แก้ปัญหาอุทกภัยได้ ก็เปรียบเสมือนหนึ่งวีรบรุษกู้ชาติ จึงได้รับการยกย่องทั่วไปทั้งจากผู้ปกครองและประชาชน ซุ่น จึงได้มอบราชสมบัติให้
เมื่ออวี่เป็นหัวหน้าเผ่าแล้วก็ได้เปลี่ยนชื่อเมืองหลวง เป็น เซี่ย และเปลี่ยนเขตปกครองเสียใหม่ โดยแบ่งอาณาเขตประเทศเป็น 9 เขต เขาปกครองประเทศอย่างแข็งขันด้วยความพากเพียร ทำให้สังคมในยุคสมัยนั้นพัฒนาก้าวไปสู่ยุคสมัยใหม่
หลังยุคคอมมูนชาติวงศ์ หัวหน้าของชนเผ่าและชาติวงศ์ทั้งหลายอาศัยฐานะและอำนาจของตน เก็บเอาผลิตผลที่เหลือไว้กลายเป็นทรัพย์สินส่วนตัว จึงกลายเป็นตระกูลชั้นผู้ดีที่ร่ำรวยขึ้น
ถ้าเกิดการสู้รบระหว่างชนเผ่าที่ต่างกัน ข้าศึกที่ถูกจับได้ก็กลายเป็นทาส และต้องเป็นแรงงานรับใช้ตระกูลชั้นผู้ดี จึงได้ก่อรูปเป็นชนชั้นทาสและเจ้าของทาสขึ้น คอมมูนชาติวงศ์จึงเริ่มสลายตัวไป
เมื่ออวี่ (พระเจ้าอี่) ชราลง ก็ได้แสดงความจำนงที่จะยกราชสมบัติให้โป๋อี้ ขุนนางผู้หนึ่งที่อวี่เห็นว่า มีสติปัญญาสมควรที่จะครองราชย์สืบต่อจากตน แต่เมื่ออวี่สิ้นพระชนม์ลง โป๋อี้ก็ไม่ยอมรับเป็นหัวหน้าเผ่า โดยอ้างว่า ตนเป็นแต่ขุนนางผู้น้อย รับราชการมาเพียง 3 ปี
เห็นควรให้ ฉี่ ราชโอรสของอวี่ (พระเจ้าอี่) ครองราชย์สืบต่อจากอวี่ต่อไป ขุนนางทั้งหลายก็เห็นด้วย ฉี่ จึงได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อจากอวี่ ตั้งแต่นั้นมา
ระบบคัดเลือกหัวหน้าเผ่าด้วยการเลือกตั้งคนดีก็ถูกยกเลิกไป ระบบที่สืบราชสมบัติต่อในเชื้อสายราชวงศ์ได้ปรากฏขึ้น ราชวงศ์เซี่ย จึงนับได้ว่าเป็นราชวงศ์แรกในยุคทาสของประวัติศาสตร์จีน
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สิริสวัสดิ์วุธวาร สิริมานสวัสดิ์วัฒนานะคะ
Create Date : 13 มีนาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 13 มีนาคม 2556 10:36:38 น. |
Counter : 1796 Pageviews. |
|
|
|