บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
2 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 

ลำนำ(8)...ทางสองแพร่ง









ผู้ที่ไม่ตกอยู่ในกระแสแห่งสูตรสำเร็จของสังคม อันได้แก่ เกิดขึ้น...เติบโต...มีครอบครัว...สร้างลูกหลาน...สร้างหลักฐาน แล้วสุดท้ายก็ตายไป แน่นอน เขาย่อมต้องแสวงหาความหมายของชีวิตที่ประเสริฐกว่า แต่ลำพังการเป็นผู้แสวงหาอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ จำต้องหามรรควิธีและลงมือปฏิบัติด้วย

หากเส้นทางที่ก้าวเดินเป็นทางสองแพร่ง เป็นทางแยกที่จะต้องใช้ปัญญาตัดสิน ว่าจะเดินไปในแยกไหน สายหนึ่งนั้นดูสงบเย็น แต่ไร้การงาน ไร้การกระทำ จึงไม่มีความผิดพลาด ไม่มีการเรียนรู้ ไม่มีการพัฒนาตัวเอง
สงบเย็นก็จริงอยู่ แต่ก็คล้ายวัตถุที่ปราศจากชีวิต ตะกอนกิเลสตัณหา สิ่งบกพร่องต่าง ๆ จึงมิได้ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาชำระสะสาง

ส่วนทางอีกสายหนึ่งนั้น เต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม มีการงาน เป็นตัวกวนตะกอนกิเลสตัณหาให้เจ้าของชีวิตได้กำจัด แน่ละ อาจจะเจ็บปวด ร้าวราน ยามปฏิบัติ แต่ผลของมันสิ ผลของมันกลับหอมหวานยิ่งนัก!
น้ำนิ่งก็ย่อมเน่า อัญมณีจะแวววาวต้องขัดเกลา เจียระไนทางสองแพร่งท้าทายอยู่ตรงหน้า ตัดสินใจเสียเดี๋ยวนี้ ซ้ายหรือขวา ก็เลือกเอา ก็เราเป็นเจ้าของชีวิตนี่นะ

ชีวิตคือการเดินทาง แต่ทางเดินนั้นมีให้เลือกมิใช่หนึ่งเดียว แต่ละเส้นทางต่างรอคอยการตัดสินใจ ชะตาชีวิตไม่มีใครบังอาจบงการ นอกจากตัวเราผู้เป็นเจ้าของชีวิต ชีวิตภายใต้อุ้งมือแห่งเรา จะถอยหรือสู้ จะสู่มืดหรือสว่าง ใครหนอลิขิต ถ้ามิใช่เรา ผู้เป็นแท่งก้อนแห่งชีวิตแท่งนี้

หากเพชรพลอยคืออัญมณีของมนุษย์ มนุษย์ก็คืออัญมณีที่แท้ของโลก ที่สักวันจะต้องถูกขุดขึ้นมาขัดเจียระไนส่องแสงให้แวววับ ท่ามกลางความปรวนแปรแห่งวิถีชีวิต ท่ามกลางการเรียนรู้สารพัดที่ปราศจากหางเสือสัมมาทิฐิ

อัญมณีแห่งมนุษย์ ถูกแดดถูกลม ถูกน้ำถูกฝน ถูกฝุ่นธุลี กระทบกระแทก ย่อมเปรอะเปื้อน ย่อมหมองมัว สกปรก หนาแน่นด้วยคราบฝุ่นตะกอน และบางชีวิต ด้วยเห็นทุกข์แห่งสิ่งห่อหุ้ม ได้ปลุกสำนึกแห่งชาตินักรบ เด็ดเดี่ยวมั่นคง เริ่มขัด เริ่มถู เริ่มกะเทาะ ด้วยอาศัยพาหะแห่งการงาน แวววับ แวววับ ชีวิตที่รับการขัดเกลา รับการขัดถูจากบทบาทกิจกรรมทั้งปวง จึงเริ่มเปล่งแสงผ่องอำไพแพรวพราว ลอยเด่นขึ้นสู่เมฆา แต่มีบ้าง บางชีวิต แม้จะจริงใจ ก็อาจพลาด ผิดพลั้ง กะประมาณหนักข้อ

ผลจึงเลยเปลือกฝุ่นนอก ๆ กระทบเนื้อแก่นแรงเกิน แรงเกิน เกิดความเจ็บปวด ยากแท้สุดจะทน บ้างจึ่งหลุดมือกระทบพื้น มึนงง ปวดหัวชั่วขณะ หมดสามารถยังกิจต่อให้ลุล่วง จำต้องหยุดพักกลางทางก็มีไม่น้อย
ท่ามกลางเสียงเย้ยหยัน เหยียดหมิ่น "เห็นไหม เห็นไหม อยู่สงบไม่ชอบ มัวแต่ทำ ทำ ทำ วุ่นวาย จึงเป็นเช่นนี้ สมน้ำหน้าเหล่านักรบกัมมารามตาแท้หนอ" พูดพลาง ต่างวางมือเลิกทำเลิกหัด พอใจเสพรสแห่งความวิเวก สงัดหนอ "สุขอื่นเสมอความสงบเป็นไม่มี สุขแล้ว สุขแล้ว อยู่ไปวัน ๆ ชีวิตเราอิ่มเอม..."

ใจหนอรักจะขัดฟอกสิ่งสกปรก แต่ก็กลัวพลาดพลั้งหลุดไหล ความหวาดกลัวจึงจำต้องยุติกิจงาน จับตัวเองแช่แข็งสุดขั้วโลก ปล่อยให้ความเย็นบุกประชิด ครอบคลุม เมื่อสกปรกแข็งตัวเสียแล้ว ทุกข์นั้นจะเกิดได้แต่หนใด อย่าเลย อย่าได้รบกวนขุดคุ้ยสิ่งไม่ดีออกมา นี้คือทางชีวิตอีกวิถีหนึ่ง ที่เดินหันข้างให้กับการขัดฟอกเช็ดถู เมื่อหมดกรรม ไม่มีอันทำความผิดพลาดจะเกิดได้อย่างไร ชีวิตแห่งอัญมณีเหล่านี้ จึงยิ้ม ยิ้มอย่างภูมิใจที่ตัวเองไม่เคยผิดพลาด ไม่เคยทำสิ่งมีค่าตกหล่น

ณ บัดนี้ ทางเดินแห่งชีวิตสองเส้นทาง ได้บังเกิดขึ้นให้ตัดสิน ใครใคร่เดิน-เดิน ใครใคร่หยุด-หยุด ระหว่างชีวิตที่ไม่เคยผิดพลาด ไม่เคยชะล้าง กับชีวิตที่บางครั้งก็ผิดพลาด แต่ก็ได้ลงมือขัดเจียนให้แก่ตัวเองแล้วจริง ณ บัดนี้ ทางเดินแห่งมรรคา 2 สาย ได้ผุดเดินให้ตัดสินใจ จะหยุดยั้งเจียระไน ผัดวันประกันพรุ่ง หรือจะลงมือเสียแต่ขณะนี้...ชาตินี้ ชีวิต ใครรู้บ้างไหมว่าโอกาสที่จะได้พบสัจธรรม ยากยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทร

ชีวิต ใครรู้บ้างไหมว่าโอกาสที่จะพบกับสัมมาสมาธินั้น กี่กัปกี่กัลป์กว่าจะหลุดเกิดพานพบ เพียงแค่การเกิดได้เป็นมนุษย์ชาติหนึ่งนั้น พระพุทธองค์ตรัสยากนัก ยากนัก ยิ่งได้พบสัจธรรม ยิ่งได้ปฏิบัติลดละประจัญฝ่าคลื่นกิเลสตัณหา รู้ล้ม รู้แพ้ เพื่อชัยชนะอันเป็นที่สุดแห่งเป้าหมาย นี้สิยากกว่าหลายแสนหลายล้านเท่านัก ตัดสินใจเสียแต่ชาตินี้ ว่าจะเลือกมรรคาสู่ดวงดาวด้วยวิธีใด แช่แข็งก้อนปฏิกูลสกปรก อย่าได้รบกวนการหลับของมัน หรือขุดคุ้ยสำรอกออกให้สิ้นเกลี้ยง แน่นอน กลิ่นใหม่ๆ ก็ย่อมเหม็นฉุนเฉียวเป็นธรรมดา ตัดสินเสียแต่ชาตินี้ อย่าพึงหวังว่าจะมีชาติอื่น ๆ อีกต่อไป

ระหว่างความสงบแสนเย็น หนาเหนอะด้วยมวลก้อน และคราบไคลแห่งปฏิกูล ท่วมท้นด้วยพิษภัยแห่งชีวิตสารพัด ที่ถูกปิดล้อมสกัดกั้น ถ่วงทิ้งใต้ก้นบึ้งแห่งวิญญาณ กับชีวิตที่อาจหาญ ทุกข์บ้างก็เป็นธรรมดาของการขัดเกลา อาศัยการงานเป็นสื่อพา เป็นสื่อล่อขัดล้างดวงใจ ที่บางครั้งก็อาจพลาดเผลอตกหล่น อันเป็นธรรมดาแห่งผู้มีการงาน แต่นั่น บัดนี้ เขาได้ล้างแล้ว ขัดแล้ว แม้จะตกหลุมลงบ่อ เท้าแพลง แต่ก็ได้ลงมือกระทำแล้วจริง
เลือกเถิดทางชีวิต ใครที่ใคร่ทำ-ทำ ใครที่ใคร่หยุด-หยุด เพราะทุกคนต่างก็เป็นผู้ลิขิตชีวิตของตน.

จากกัลยาณมิตร(อสูรสัมมา)




 

Create Date : 02 ธันวาคม 2553
0 comments
Last Update : 24 ธันวาคม 2553 17:53:37 น.
Counter : 2297 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


atruthoflife10
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




กลับคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยสุขภาพที่ดีกว่า

ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553

ดับไป....???

Friends' blogs
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.