Bloggang.com : weblog for you and your gang
เหรียญมีสองด้าน แล้วแต่คุณจะเลือกมองด้านไหน
Group Blog
ยินดีต้อนรับ
แนะนำติชมที่นี่เลยครับ
เกี่ยวกับญี่ปุ่น
เกี่ยวกับเศรษฐกิจ
เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์
เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
เกี่ยวกับการออกกำลังกาย
<<
กุมภาพันธ์ 2550
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
12 กุมภาพันธ์ 2550
โครงสร้างภาคต่างประเทศของเศรษฐกิจไทย
All Blogs
เกี่ยวกับเศรษฐกิจ
เงินคืออะไร สำคัญยังไง
วิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐจะสิ้นสุดเมื่อไหร และจะเริ่มต้นอีกครั้งเมื่อไหร
ทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินในปัจจุบัน
ความสัมพันธ์ของระบบการเงิน
เวปไซต์ข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลก
Currency Board และ Hyperinflation
นโยบายการเงินภายใต้เงินเฟ้อด้านต้นทุน
ภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง (Hyperinflation)
สถานะธนาคารแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน
หมดยุคอาหารราคาถูก
โครงสร้างภาษีของประเทศไทย
ภาษีในระบบเศรษฐกิจ
ปัญหาซับไพร์มในสหรัฐ
เงินบาทจะแข็งหรืออ่อน ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
จะลดดอกเบี้ยก็บอกก่อนได้ไหม จะได้เตรียมตัวทัน!?
พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน (เม.ย.50)
ธปท.ไม่ได้ใช้เงินเพื่อแทรกแซงค่าเงินบาทอย่างเดียว แต่ต้องดูแลสภาพคล่องในระบบด้วย (วิเคราะห์ข่าว)
ทิศทางตลาดเงินไทยกลางปี 2550
The Quality of Life from Womb to Tomb
คุณภาพแห่งชีวิต ปฏิทินแห่งความหวัง: จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน
โครงสร้างภาคต่างประเทศของเศรษฐกิจไทย
ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจ
ลดดอกเบี้ยนโยบายในวันที่ปรับใช้ R/P 1 วัน ???
ระเบิดกลางเมืองหลวง ร้ายแรงขนาดไหน
เวปไซต์ข่าว
มาตรการสำรองเงินตราต่างประเทศร้อยละ 30
การค้ารวม 10 เดือนของปี 49
หนี้สาธารณะ
ผลกระทบของนโยบายการชดเชยการขาดดุล
ผลกระทบของนโยบายการคลังด้านรายจ่าย
ผลกระทบของนโยบายการคลังด้านรายได้
ขอบเขตของภาครัฐ
ภาษีไม่เท่าเทียมกันได้ แต่ต้องมีความยุติธรรม
พัฒนาการของนโยบายการคลังของไทย
พัฒนาการของนโยบายการเงินของไทย
Crowding-in Effect
Crowding-out Effect
การส่งออกโต เกิดจากความมั่งคั่งของใครกันแน่
ภาครัฐเงินไม่พอ! แล้วไง?
เอกชนกับราชการ ทำงานอะไรดี
ดอกเบี้ยเงินฝาก ทำไมขึ้นกันใหญ่เลย
ดอกเบี้ยสูง เงินบาทแข็ง เงินเฟ้อก็สูงอีก เฮ้อ!!!
อัตราแลกเปลี่ยนและผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
เห็นพูดกันจัง เงินคงคลังเนี่ย
จะเกิดอะไรขึ้นกับรากหญ้าของไทยในอนาคต
คิดซักนิด ก่อนเลือกรถวันที่ 2 เมษา
Public-Private Partnership: PPP
วิกฤติงบประมาณ
ขอลองวิเคราะห์การเมืองดูบ้าง (28 กพ. 2549)
โครงสร้างภาคต่างประเทศของเศรษฐกิจไทย
หัวข้อนี้เขียนขึ้นมาเพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์ผลกระทบของปัจจัยหรือนโยบายใดๆ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในประเทศหรือต่างประเทศ ที่มีต่อภาคเศรษฐกิจระหว่างประเทศของไทยนะครับ โดยจะยึดตามโครงสร้างดุลการชำระเงินระหว่างประเทศ (Balance of Payment) ซึ่งดุลบัญชีการชำระเงินดังกล่าวจะประกอบด้วย 2 ส่วนคือดุลบัญชีเดินสะพัด (Current Account: CA) และดุลบัญชีเคลื่อนย้ายทุน (Capital Account: KA)
ดุลการชำระเงิน (Balance of Payment)
ดุลการชำระเงินเป็นบัญชีวัดการดำเนินธุรกรรมระหว่างประเทศ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งโดยทั่วไปเป็นระยะเวลา 1 ปีปฏิทิน โดยดุลการชำระเงินแสดงรายรับหรือสินเชื่อ จะแสดงเครื่องหมายบวก เมื่อมีเงินไหลเข้าประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการไหลเข้าจากกำไรดุลการค้า การลงทุนจากต่างประเทศ หรือการกู้ยืม ขณะที่ดุลการชำระเงินแสดงรายจ่ายหรือลูกหนี้ จะแสดงเครื่องหมายลบ เมื่อมีเงินไหลออกนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการไหลออกจากการขาดดุลการค้า การที่ไทยไปลงทุนในต่างประเทศ ให้กู้ยืม หรือการชำระหนี้ต่างประเทศ โดยดุลการชำระเงินคำนวณจากผลรวมของดุลบัญชีเดินสะพัด (Current Account) และดุลบัญชีเคลื่อนย้ายทุน (Capital Account) โดยสำหรับประเทศไทยแล้ว หลังวิกฤตเศรษฐกิจเป็นต้นมา ประเทศไทยมีดุลการชำระเงินเกินดุลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดุลการชำระเงินที่เกินดุลดังกล่าวส่งผลให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
เมื่อพิจารณาในรายละเอียดแล้ว ในส่วนของดุลบัญชีเดินสะพัดจะประกอบด้วยดุลการค้า ดุลบริการ ดุลรายได้ และเงินโอน โดยส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อดุลบัญชีเดินสะพัดคือการส่งออกและการนำเข้าสินค้าและบริการ ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของไทย ในด้านการผลิตสินค้าและบริการ หากสินค้าและบริการใดสามารถผลิตได้มากเกินกว่าปริมาณความต้องการในประเทศ และราคาต่ำกว่าราคาในตลาดโลก ก็จะสามารถส่งออกสินค้าและบริการนั้นได้ และจะเกินดุลบัญชีเดินสะพัด แต่หากสินค้าและบริการใดที่ประเทศไม่สามารถผลิตได้ หรือผลิตได้น้อยกว่าปริมาณความต้องการของคนในประเทศ ก็จำเป็นต้องนำเข้าสินค้าและบริการนั้นๆ เพื่อสนองตอบการบริโภคและการลงทุนที่มีอยู่ในประเทศ ซึ่งสำหรับประเทศไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานั้น จะมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดทุกปี ยกเว้นปี 2548 ที่มีการนำเข้าสินค้าทุนเพื่อการลงทุนมาก
สำหรับดุลบัญชีเคลื่อนย้ายทุนนั้น เป็นดุลบัญชีที่แสดงการเคลื่อนย้ายของเงินตราระหว่างประเทศ โดยประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 3 ส่วนได้แก่ 1. การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) 2. การลงทุนทางอ้อมที่นักลงทุนต่างชาติในตลาดรอง (Portfolio Investment) ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในตลาดตราสารทุนหรือตลาดตราสารหนี้ และ 3. อื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรายการเงินกู้ยืมระหว่างประเทศ ซึ่งสำหรับประเทศไทยแล้ว ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การลงทุนใน 2 รายการแรกโดยรวมแล้วเป็นบวก (มีเม็ดเงินเพื่อการลงทุนไหลเข้าประเทศมากกว่าไหลออกนอกประเทศ) โดยมีแนวโน้มเป็นบวกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รายการที่ 3 (อื่นๆ) จะมีเงินทุนไหลออกเพื่อการชำระหนี้ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวโน้มลดลงตามจำนวนหนี้ต่างประเทศของไทยที่ลดลง
ดุลบัญชีเดินสะพัด
โดยทั่วไปแล้ว ประเทศที่กำลังพัฒนาส่วนใหญ่จะมีความเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ (Term of Trade) ซึ่งคือผลรวมของมูลค่าการนำเข้าและมูลค่าการส่งออกต่อ GDP สูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหมายความว่าการเปิดเสรีทางการค้าจะมีผลกระทบต่อประเทศกำลังพัฒนามากกว่าประเทศกำลังพัฒนา โดยอัตราการความเปิดกว้างทางเศรษฐกิจในระดับสูงของประเทศกำลังพัฒนานั้นมีสาเหตุหลักเนื่องจากประเทศเหล่านี้จำเป็นต้องขายสินค้าที่สามารถผลิตได้ภายในประเทศเพื่อแลกกับการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบบางประเภทที่ตนเองไม่สามารถผลิตได้ภายในประเทศจำนวนมาก เพื่อนำมาพัฒนาประเทศ ในขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีขนาดเศรษฐกิจภายในใหญ่กว่ามูลค่าการค้าระหว่างประเทศ และสินค้าส่วนใหญ่นั้นสามารถผลิตได้ภายในประเทศจึงไม่มีความจำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าทุนมากนัก จะมีแต่เพียงสินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องนำเข้าบ้าง ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงสภาพเศรษฐกิจแต่ละประเทศควบคู่กันไปด้วยแล้ว พบว่าไม่เพียงแต่ประเทศกำลังพัฒนาจะมีอัตราการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจสูงในปัจจุบัน แต่หากในอนาคตยังมีแนวโน้มที่จะมีอัตราฯเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ดังจะสังเกตได้จากอัตราการขยายตัวของทั้งการนำเข้า และการส่งออกในประเทศกำลังพัฒนาที่โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างเห็นได้ชัด สำหรับประเทศไทยแล้วมีอัตราความเปิดกว้างทางเศรษฐกิจสูงกว่าร้อยละ 120 อย่างต่อเนื่อง
ประเทศไทยเป็นประเทศเล็กที่มีระบบเศรษฐกิจแบบเปิด โดยในปี 2548 มีอัตราความเปิดกว้างทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สูงถึงประมาณร้อยละ 129 โดยมีมูลค่าการนำเข้าและส่งออกคิดเป็นประมาณร้อยละ 62 และ 67 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศตามลำดับ แม้ว่าดุลการค้าจะมีมูลค่าเพียงประมาณร้อยละ 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศก็ตาม แต่อัตราความเปิดกว้างทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศในระดับสูงดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการค้าระหว่างประเทศของไทยมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก ดังนั้นเราจึงควรตระหนักอย่างมากถึงผลกระทบในการดำเนินนโยบายการค้าระหว่างประเทศรวมถึงผลกระทบในการเปิดเสรีทางการค้า เนื่องจากกระแสโลกาภิวัฒน์เป็นกระแสที่มีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ดุลบัญชีเคลื่อนย้ายทุน
สำหรับส่วนดุลบัญชีเคลื่อนย้ายทุน เป็นดุลบัญชีที่แสดงการเคลื่อนย้ายของเงินตราระหว่างประเทศนอกเหนือจากการนำเข้า-ส่งออกสินค้าและบริการ ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของไทยไม่น้อยเช่นเดียวกัน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศไทยอย่างมาก โดยการช่วยผ่อนคลายปัญหาการขาดแคลนเงินทุนในการพัฒนาประเทศไทย FDI เป็นประเภทของเงินทุนที่ประเทศผู้รับการลงทุนต้องการเนื่องจากมีความเสี่ยงจากการไหลออกของเงินทุนประเภทนี้น้อยกว่าเงินทุนจากต่างประเทศประเภทอื่น นอกจากนี้ FDI มักจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีและการถ่ายทอดความรู้จากต่างประเทศ ทำให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรม เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และการขยายการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างมีเสถียรภาพในระยะยาวสำหรับประเทศผู้รับการลงทุน ในด้านการลงทุนทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในตลาดตราสารทุน หรือตลาดตราสารหนี้ ก็มีความสำคัญต่อตลาดเงินของไทยอย่างมาก โดยในตลาดหลักทรัพย์ของไทยในปี 2549 พบว่าสัดส่วนการซื้อขายจากนักลงทุนต่างชาติ คิดเป็นประมาณร้อยละ 35 ของมูลค่าการซื้อขายรวม อีกทั้งดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยยังมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกันกับการลงทุนจากต่างชาติด้วย โดยเหตุการณ์ที่สำคัญที่เกิดขึ้นในปี 2549 อันจะแสดงได้ถึงความสำคัญของเงินทุนต่างชาติได้แก่ เดือนมกราคม 2549 มีเงินทุนจากต่างประเทศเข้ามาซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทโทรคมนาคมของไทย ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทยปรับตัวสูงขึ้นจาก 713.73 จุด ณ สิ้นเดือนเดือนธันวาคม 2548 เป็น 762.63 จุด ณ สิ้นเดือนมกราคม 2549 เพิ่มขึ้นถึง 48.9 จุด หรือคิดเป็นร้อยละ 6.9 ในทางกลับกันในเดือนพฤษภาคม 2549 เกิดเหตุการณ์ผันผวนขึ้นในตลาดทุนโลก ทำให้ต่างชาติถอนทุนออกจากตลาดเงินในประเทศไทยในเดือนดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทยปรับตัวลดลงจาก 768.29 จุด ณ สิ้นเดือนเมษายน 2549 ลดลงเหลือ 709.43 จุด ณ เดือนพฤษภาคม 2549 และลดลงเหลือ 678.13 จุด ณ เดือนมิถุนายน 2549 ซึ่งรวมแล้วเป็นการลดลง 90.2 จุด หรือคิดเป็นร้อยละ 11.3
นอกจากความผันผวนของเงินทุนต่างชาติจะขึ้นอยู่กับปัจจัยทางมหภาค และ/หรือ ปัจจัยทางจุลภาคดังที่ได้ยกตัวอย่างข้างต้นแล้ว ทิศทาง และความผันผวนหรือความชัดเจนทางนโยบายของประเทศไทยเอง ก็มีส่วนสำคัญในการกำหนดการลงทุนของต่างชาติในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ นโยบายกันสำรองเงินตราต่างประเทศร้อยละ 30 ที่ธนาคารได้ประกาศใช้ในวันที่ 18 ธันวาคม 2549 ส่งผลให้มูลค่าตลาดหลักทรัพย์ไทยหายไปกว่า 8 แสนล่านบาท ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทยลดลงไปสูงสุดถึง 142.63 จุด หรือคิดเป็นร้อยละ 19.5 ก่อนจะมาปิดลบ 108.41 จุด หรือคิดเป็นร้อยละ 14.8 ซึ่งเป็นการลดลงภายในวันเดียวที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหลักทรัพย์ไทย
ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าภาคต่างประเทศมีความสำคัญต่อการพัฒนาการเศรษฐกิจของไทยเพียงใด กรอบในการวิเคราะห์ภาคเศรษฐกิจระหว่างประเทศของไทยเป็นสิ่งพื้นฐานที่นักเศรษฐศาสตร์ควรรู้ เพื่อที่จะใช้วิเคราะห์ผลกระทบต่อภาคต่างประเทศของเรา เพราะในระบบเศรษฐกิจ มีประตูเชื่อมต่อเศรษฐกิจภายนอกอยู่เพียงแค่นี้เองครับ หากจะวิเคราะห์ผลกระทบของการก่อการร้าย ก็จะกระทบผ่านการลงทุนระหว่างประเทศรวมถึงการท่องเที่ยวเป็นหลัก หากจะวิเคราะห์ผลกระทบของราคาน้ำมัน ก็จะกระทบการนำเข้าเป็นหลัก เป็นต้น การใช้ความรู้พื้นฐานให้เกิดประโยชน์มากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้เป็นสำคัญนะครับ
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2550 16:02:57 น.
0 comments
Counter : 11085 Pageviews.
Share
Tweet
TheShadow
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [
?
]
ข่าวเศรษฐกิจไทย
ข่าวต่างประเทศ
ข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศ
ข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศ
NESDB (สศช.)
BOT (ธปท.)
NSO (สสช.)
MOC (ก.พาณิชย์)
MOF (ก.คลัง)
PDMO (สบน.)
SEPO (สคร.)
EPPO (สนพ.)
SET (ตลท.)
ThaiBMA
AFET (ตสล.)
สมาคมค้าทองคำ
เชื่อมโยงหน่วยราชการอื่นๆ
ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศ
ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศ
IMF
World Bank
EIA
CARMA
CIA
Bloomberg.com
x-rates.com
Links ธ.กลางทั่วโลก
Links ก.คลังทั่วโลก
Links สำนักงานสถิติทั่วโลก
>
Thai CEO @ Japan
ค้นคว้าข้อมูลทั่วไป
แหล่งค้นคว้าข้อมูลทั่วไป
google
wikipedia
วิชาการ.คอม
แหล่งเชื่อมโยงอื่นๆที่น่าสนใจ
แหล่งค้นคว้าข้อมูลทั่วไป
Electionworld.org
mathworld
9wat (วัฒนธรรมและการ์ตูนญี่ปุ่น)
Friends' blogs
Solow
กาลามะชน
Webmaster - BlogGang
[Add TheShadow's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.