เหรียญมีสองด้าน แล้วแต่คุณจะเลือกมองด้านไหน
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
18 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
เงินคืออะไร สำคัญยังไง

ขออนุญาตกล่าวก่อนว่า เงิน คืออะไรนะครับ
การที่สิ่งไหนจะถูกเรียกว่าเงินได้นั้น ต้องมีหน้าที่ 3 อย่างด้วยกันคือ

1. เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน (Medium of exchange) คือ คนทุกคนต้องยอมรับในการที่สิ่งๆนั้นเป็นสื่อกลาง เวลาพ่อค้าขายของให้กับลูกค้าก็ต้องยอมรับเงินที่ลูกค้านำมาให้ (ดังที่เขียนไว้ด้านหน้าธนบัตรทุกใบว่า ธนบัตรเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย)

ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์การค้าขายในสมัยโบราณ จะพบว่าเป็นระบบการค้าแบบแลกเปลี่ยนสินค้ากัน (Barter System) คือ ใครปลูกข้าวแล้วจะกินผักก็เอาข้าวไปแลกผักตามจำนวนที่ตกลงกัน หรือใครจะซื้อควาย ก้เอาผลผลิตมาแลกตามที่ตกลงกันเช่นเดียวกัน

ซึ่งระบบการค้าแบบนี้มีปัญหาคือ จำเป็นที่ผู้ซื้อก็ต้องหาผู้ที่ต้องการขายที่ต้องการผลิตผลของผู้ซื้อเจอ ขณะที่ผู้ขายเองก็ต้องหาผู้ซื้อที่มีผลิตผลที่ผู้ขายต้องการเจอเช่นเดียวกัน ทำให้การค้าไม่มีมากและไม่สะดวกเท่าที่ควร

นอกจากนั้นแล้ว แม้หากชาวนาต้องการกินขาหมู หรือมีข้าวจำนวนที่พอแลกกับขาหมู ขณะที่คนเลี้ยงหมูต้องการข้าวแต่อยากขายหมูไปทั้งตัว เพราะตัดขาไปข้างเดียว มันก็ตายอยู่ดี เงินจึงต้องทำหน้าที่ประการที่ 2 ต่อมา

2. สามารถเป็นหน่วยวัดได้ (Unit of account) หรือสามารถแยกย่อยได้ ดังที่ได้กล่าวมาในข้อหนึ่ง ในกรณีที่ผู้ซื้อหรือผู้ขายต้องการขายเป็นหน่วยย่อย ก็สามารถใช้เงินมาแทนได้ โดยผู้เลี้ยงหมูก็จะขายหมูให้พ่อค้าคนกลาง แล้วพ่อค้าคนกลางก็จะไปแยกขายหาคนซื้อเอาเอง (บวกกำไรเป็นค้าหาคนซื้อและรับความเสี่ยงที่หมูจะเน่าไป)

อย่างไรก็ดี แม้การค้าเกิดขึ้นแล้ว แต่การค้าขายนั้นไม่ได้ทำให้วันพรุ่งนี้ดีขึ้น เพราะมีกินไปวันๆท่านั้น ข้าวที่ปลูกไว้ก็เก็บได้ไม่นานก็เน่า หมูที่ซื้อมาก็เน่าอีกถ้ากินไม่หมด เงินจึงต้องทำหน้าที่ถัดมาคือ

3. เก็บรักษามูลค่าได้ (Store of value) เนื่องจากเงินไม่เสื่อมสภาพ ไม่เน่าเสีย เหมือนสินค้าปกติทั่วไป ไม่มีตกรุ่นไม่มีเก่าเหมือน ipod iphone ราคาหรือมูลค่าของมันก็ยังคงเดิม วันรุ่งขึ้นหรือวันถัดๆไปก็ยังสามารถเอาไปซื้อหมูมากิน ซื้อข้าวมากินได้เหมือนเดิม (กรณีนี้ขอยังไม่พูดถึงเรื่องเงินเฟ้อนะครับ เดี๋ยวจะงงกว่าเดิม)


จากเหตุผลข้างต้น สิ่งที่ใช้แทนเงินได้ต้องมีคุณสมบัติ คร่าวๆ คือ
- เป็นสิ่งที่เป็นสื่อกลางได้ คนทั่วไปยอมรับ เช่น จะเอาเหรียญแมนยูไม่ได้ เดี๋ยวแฟนลิเวอร์พูลไม่ยอมรับ อะไรทำนองนี้

- วัดได้เป็นมูลค่าได้ หรือแยกเป็นหน่วยย่อยได้ เช่น ทอง หรือเงิน สามารถแบ่งเป็นน้ำหนักได้ แต่เอาทองคำเปลวมา แบบนี้วัดยากก็หน่อย อ่อ แล้วราคาก็ไม่ควรผันผวนมาก กรณีตัวอย่างประเทศซิมบับเวที่เคยเขียนไว้ก็เป็นตัวอย่างที่ดี ที่เงินประเทศเค้าเริ่มไม่เป็นเงินแล้ว

- หาได้ยาก หรือทำขึ้นมาเองไม่ได้ (หรือพูกง่ายๆว่าก๊อปได้ยาก) ไม่งั้นแล้วคงเดินเก็บเอาเปลือกหอยตามชายหาดมาเป็นเงินได้

- คงมูลค่าได้ (รวมถึงเสื่อมสภาพได้ยาก) ไม่ใช่เอาแก้วมาทำเป็นเงิน แล้วพอสะดุดล้มก็แตกหมด

ทั้งนี้ เพื่อทำหน้าที่ของเงินให้ครบถ้วนสมบูรณ์

ในความเป็นจริง มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ถูกนำมาใช้เป็นเงิน ไม่ว่าจะเป็นทอง เงิน ทองแดง ข้าว เกลือ หิน เปลือกปอย บุหรี่ หรืออื่นๆ แต่หลายๆสิ่งหลายๆอย่างก็ได้วิวัฒนาการมาเป็นเงินในรูปแบบปัจจุบัน และกำลังวิวัฒนาการต่อไปในอนาคต โดยอาจอยู่ในรูปของเครดิตต่อไป แต่มิติที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจนั้น ได้เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วกว่าในอดีต ไม่ว่าการค้าที่เป็นแบบ globalization การเชื่อมโยงทางข้อมูลข่าวสารต่างๆ ก็อาจทำให้เงินวิวัฒนาการต่อไปได้อีกครับ


Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2552 11:21:49 น. 0 comments
Counter : 20801 Pageviews.

TheShadow
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




ข่าวเศรษฐกิจไทย
ข่าวต่างประเทศ


ข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศ
ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศ
ค้นคว้าข้อมูลทั่วไป
แหล่งเชื่อมโยงอื่นๆที่น่าสนใจ
Friends' blogs
[Add TheShadow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.