|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
การส่งออกโต เกิดจากความมั่งคั่งของใครกันแน่
จากตัวเลขการค้าระหว่างประเทศในเดือนมีนาคม 2549 การส่งออกของไทยคิดเป็นมูลค่า 434.548 พันล้านบาท การนำเข้าของไทยคิดเป็นมูลค่า 425.079 พันล้านบาท หรือเรียกว่าเกินดุลการค้า 9.469 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการเกินดุลครั้งแรกในรอบ 6 เดือนนับจากกย.2548 (ปี 2548 เกินดุลการค้าเดือนกย.ครั้งนั้นครั้งเดียว)
เมื่อดูจากอัตราการขยายตัวแล้วพบว่า การส่งออกมีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.45 เทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.52 เทียบกับปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า การนำเข้า เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่หลายๆคนคาดไว้ แต่ที่นำเข้าน้อยลงนั้น เป็นเพราะการนำเข้าสินค้าทุนที่น้อยลง หรือการนำเข้าสินค้าบริโภคที่ลดลง ก็ต้องไปดูกันอีกที
ประเด็นที่จะพูดถึงในวันนี้คือเรื่องการส่งออกเดือนมีค.เป็นหลัก เนื่องจากตอนนี้หลายฝ่ายมีความเห็นว่า เนื่องจากความผันผวนด้านราคาน้ำมันในตลาดโลก อาจจะส่งกระทบต่อการบริโภคและการลงทุนในบ้านเรา จึงทำให้ภาคการส่งออกได้รับการคาดหวังว่า จะช่วยให้เศรษฐกิจเราเดินต่อไปได้
วันนี้เราเลยมาลองวิเคราะห์ภาคการส่งออกกันดูบ้าง ปัจจัยกำหนดการส่งออก แบ่งเป็น 2 ด้านหลัก คือ ปัจจัยด้านราคา และปัจจัยด้านรายได้ของผู้ซื้อ
มาดูที่ด้านราคาก่อน ในด้านราคา เราจะดูที่ อัตราแลกเปลี่ยนและระดับราคา เมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้า ด้านอัตราแลกเปลี่ยน ดังที่ได้กล่าวไปในบทความก่อนหน้า เรื่องตลาดเงินในประเทศแล้ว จะเห็นได้ว่าค่าเงินบาทของเรา มีแนวโน้มจะแข็งค่าต่อเนื่องไปอีกพักใหญ่ นั่นหมายถึงเมื่อเทียบระดับราคาสินค้าที่เท่ากันแล้ว ระดับราคาในมูลค่าของดอลลาร์จะสูงขึ้น นั่นคือราคาของส่งออกจากบ้านเราจะมีราคาแพงกว่าเพื่อนบ้าน
นี่ยังไม่รวมเรื่องราคาน้ำมันที่ส่งผลต่อราคาในประเทศด้วย แต่คงมีคนแย้งว่า ทุกประเทศได้รับผลราคาน้ำมันเหมือนกัน อีกทั้งประเทศไทยมีกรอบเงินเฟ้ออยู่ ระดับราคาสินค้า คงไม่แพงไปกว่าประเทศเพื่อนบ้าน อันนี้ให้ไปดูข้อมูล REER (real effective exchange rate) ดู ว่าเมื่อเทียบอัตราแลกเปลี่ยนควบคู่ไปกับราคาสินค้าแล้ว อัตราแลกเปลี่ยนบ้านเราเป็นอย่างไร ลองหาในข้อมูลในแบงค์ชาติดู แต่ผมไม่คิดว่าระดับราคาน้ำมันในประเทศที่ผลิตเองได้ อย่างมาเลย์เซียหรืออินโดนีเซีย ระดับราคาสินค้าเค้าจะแพงกว่าบ้านเรานะครับ
มาดูด้านรายได้ประเทศผู้ซื้อสินค้าบ้านเราบ้าง แน่นอนว่าถ้าสินค้ากลุ่มประเทศคู่แข่งเราเหมือนกันหมด สินค้าก็ไม่ต่างกันในมุมมองผู้ซื้อ แต่ในแง่การค้าแล้ว ปกติผู้ซื้อผู้ขายมักจะเป็นเจ้าเดิมเสมอ เนื่องจากการเจรจาต่อรองที่ง่าย มีความเข้าใจกันมากกว่า
แล้วการค้าเกินดุลของไทยจะมาจากไหน ในเมื่อราคาสินค้าโดยเปรียบเทียบของเรา ก็คงไม่ได้ดีไปกว่าประเทศเพื่อนบ้าน หรือว่าจะเป็นที่ผู้ซื้อ ที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น คำตอบคือ ไม่ใช่ครับ
อย่างที่บอกไปแล้วว่าเรื่องผู้ซื้อนั้น ต่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น การซื้อ ก็คงไม่ได้เพิ่มเท่ากับกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นหรอกครับ อย่างน้อย ต้องมีการกระจายไปซื้อสินค้าอื่น กับประเทศอื่นด้วย แล้วค่าเงินบาทที่แข็งค่าอยู่ทุกวันนี้ ทำไมเค้ายังมาซื้อของกับเรา
ปกติเวลาสั่งสินค้า จะมีการสั่งล่วงหน้าประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งขณะนั้นอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 40-41 บาท/ดอลลาร์ ไม่ใช่ 38 บาทอย่างในปัจจุบัน
ทำไมเค้าไม่ประกันความเสี่ยงล่ะ ถ้าเป็นบริษัทเล็กๆส่วนมากไม่ค่อยมีการประกันความเสี่ยงเท่าไหร เพราะการซื้อขายไม่มาก การทำประกันค่าเงินก็มีต้นทุนเช่นกัน
การที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก ก็ทำให้เค้าได้รายรับน้อยลง (รายรับลดลงนะครับ ไม่ใช่แค่กำไรลดลง) แน่นอนว่าถ้าผู้ส่งออกรายนั้น ไม่อยากเสียลูกค้าไป ก็ต้องยอมตัดชิ้นเนื้อตัวเอง ซึ่งปกติการค้ากับลูกค้ารายเดิมจะใช้ราคาเดิม การขึ้นราคาใหม่ ถ้าไม่สนิทกันจริง คงลำบากอ่ะครับ (เพราะทางนั้นก็ซื้อในราคาดอลลาร์เท่าเดิม)
มาดูกันที่ผู้ส่งออกรายใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่มีการประกันค่าเงินไว้ ค่าเงินแข็งก็ยังพอรับมือไปได้อีก 1-2 เดือน หลังจากนั้นก็คงต้องยอมซื้อขายในราคาดอลลาร์เท่าเดิม เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม ซึ่งก็หมายถึงต้นทุนอัตราแลกเปลี่ยนก็ต้องเพิ่มขึ้น ปัญหาคือ ผู้ส่งออกรายใหญ่จะดำน้ำไปได้นานแค่ไหน งานนี้ใครปอดใหญ่ ก็ดำน้ำได้นานกว่า ต่อไปก็คงได้เห็นบริษิทเล็กลอยขึ้นมาก่อน แต่ขืนปล่อยให้ดำน้ำเป็นปีๆ ต่อให้เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ ก็มีสิทธิจมน้ำตายได้เหมือนกัน ตอนนี้หลายๆคนก็เริ่มชั่งใจว่าตัวเองมีกำลังมากแค่ไหน แล้วค่าเงินจะแข็งไปอีกนานขนาดไหน ถ้าเป็นปีๆ พวกเค้าก็คงไม่ยอมดำน้ำกันหรอกครับ
จะเห็นได้ว่า การส่งออกที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาที่ผ่านมา และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ไม่ใช่เกิดจากความมั่งคั่งของประเทศคู่ค้าครับ แต่เกิดจากความมั่งคั่งของผู้ส่งออกของเราต่างหาก ซึ่งนับวันก็จะร่อยหลอลงไปเรื่อย และจมลงไปทุกทีๆ
Create Date : 07 พฤษภาคม 2549 |
Last Update : 7 พฤษภาคม 2549 1:39:11 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1357 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
ข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศ
ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศ
ค้นคว้าข้อมูลทั่วไป
แหล่งเชื่อมโยงอื่นๆที่น่าสนใจ
|
|
|
|
|
|
|