|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ผลกระทบของนโยบายการคลังด้านรายจ่าย
หลังจากที่ดูกันเรื่องรายได้ไปแล้ว คราวนี้จะมาดูกันเรื่องรายจ่ายกันบ้าง
ในส่วนรายจ่ายภาครัฐสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆได้คือ รายจ่ายในงบประมาณ และรายจ่ายนอกงบประมาณ
รายจ่ายในงบประมาณ รายจ่ายในงบประมาณถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายกระตุ้นหรือรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ หรือแม้แต่การบริหารจัดการประเทศ
รายจ่ายในงบประมาณในปัจจุบันของไทย มีการจัดทำตามแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ ได้แก่ ยุทธศาสตร์การขจัดความยากจน ยุทธศาสตร์การพัฒนาคนและสังคมที่มีคุณภาพ ยุทธศาสตร์การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้สมดุลและแข่งขันได้ ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยุทธศาสตร์การต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ยุทธศาสตร์การพัฒนากฎหมายและส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ยุทธศาสตร์การส่งเสริมประชาธิปไตยและกระบวนการประชาสังคม ยุทธศาสตร์การรักษาความมั่นคงของรัฐ ยุทธศาสตร์รองรับการเปลี่ยนแปลงพลวัตโลก และรายการค่าดำเนินการภาครัฐ
การจัดสรรงบประมาณตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ดังกล่าว เป็นไปเพื่อตอบสนองการดำเนินนโยบายสาธารณะให้มีประสิทธิภาพ โดยมีพื้นฐานอยู่บนการบริหารเชิงกลยุทธ ซึ่งหน่วยงานของรัฐต่างๆจะต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนว่า จะสามารถบรรลุหน้าที่ของตนเองภายใต้ยุทธศาสตร์ต่างๆที่เกี่ยวข้องได้อย่างไร นั่นคือ ทุกหน่วยงานจะต้องเสนอพันธกิจและแผนงานที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของหน่วยงานและยุทธศาสตร์ของประเทศ ภายใต้ตัวชี้วัดผลการดำเนินงานและต้นทุนการดำเนินงานที่ชัดเจน
สำหรับงบประมาณที่โครงการของหน่วยงานจะได้รับการจัดสรร จะแบ่งได้เป็น 4 ประเภทคือ ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ค่าใช้จ่ายเพื่อการดำเนินงาน ค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุน และค่าใช้จ่ายในลักษณะเงินอุดหนุน
อย่างไรก็ดี การจัดสรรงบประมาณตามแผนยุทธศาสตร์ของประเทศมีลักษณะเป็นแบบ Top-down แต่การจัดทำที่เกิดขึ้นจริง ยังมีลักษณะเป็นแบบ Bottom-up อยู่พอสมควร นั่นคือ หน่วยงานคิดถึงโครงการที่ต้องการทำนำหน้า โดยไม่ได้คิดถึงยุทธศาสตร์เป็นหลัก (ใครเคยเขียน TOR คงพอจะทราบวิธีเขียนโครงการให้สามารถบรรลุยุทธศาสตร์ที่ต้องการได้ไม่ยากนัก)
หากจะพิจารณาผลต่อเศรษฐกิจ สามารถแบ่งรายจ่ายในงบประมาณออกได้เป็น 3 ส่วนคือ รายจ่ายประจำ ได้แก่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ภาครัฐจ่ายออกไปโดยไม่ต้องมีการชำระคืนภายหลัง ทั้งนี้จะไม่รวมรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ และรายจ่ายประเภทนี้เป็นรายจ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดสินทรัพย์ประเภททุน รายจ่ายประเภทนี้ได้แก่ รายจ่ายบุคลากร รายจ่ายดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม รายจ่ายประจำที่ผูกพันตามนโยบายของรัฐบาล และรายจ่ายประจำอื่นๆ รายจ่ายลงทุน จากปรัชญาการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจของภาครัฐนั้น รัฐจะดำเนินกิจกรรมเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุด (Maximized Social Welfare) และทั้งนี้ควรเป็นกิจกรรมในส่วนที่เกิดความล้มเหลวของตลาดขึ้น (Market Failure) โดยในส่วนของการลงทุนนั้นรัฐควรเข้าไปลงทุนในกิจการสาธารณูปโภคที่มีลักษณะการผูกขาดโดยธรรมชาติ (Natural Monopoly) ที่อาจจะเป็นกิจการที่ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล (Sunk Cost) หรือเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่ได้หวังผลกำไร เป็นต้น ส่วนใหญ่แล้วรัฐจะดำเนินการเศรษฐกิจดังกล่าวผ่านรัฐวิสาหกิจและกองทุนต่างๆ รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ เป็นการชำระคืนเงินต้นของเงินกู้ที่รัฐได้ยืมมาในช่วงเวลาก่อนหน้า
รายจ่ายนอกงบประมาณ เป็นเงินที่อยู่นอกเหนือจากเงินในงบประมาณ (นั่นคือ ไม่ต้องผ่านสภาฯ) มีข้อดีในเรื่องของการเบิกจ่าย การกระจายอำนาจในการบริหารของหน่วยงาน รวมถึงในกรณีที่รายจ่ายจากงบประมาณได้รับการจัดสรรไม่เพียงพอด้วย สามารถแบ่งย่อยได้ดังนี้
กองทุนนอกงบประมาณ ถือเป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายของรัฐโดยเฉพาะเป้าหมายทางด้านสังคม โดยกองทุนเหล่านี้จะได้รับอำนาจทางกฎหมายในการหารายได้เพื่อใช้ดำเนินการที่ได้รับมอบหมาย เช่น กองทุนประกันสุขภาพ เป็นต้น ทั้งนี้จะต้องเป็นการดำเนินงานที่ไม่แสวงหาผลกำไรเป็นหลัก
การใช้จ่ายเงินกู้ต่างประเทศ การกู้เงินจากต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นเงินกู้โครงการเพื่อการลงทุน โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ - เพื่อเสริมสร้างความสมดุลในการพัฒนาและการจัดการภาครัฐในการสร้างความเจริญเติบโตของระบบเศรษฐกิจ ให้เป้นไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน - เพื่อปรับปรุงโครงสร้าง กระตุ้น และฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในบางสาขาที่ประสบปัญหาชะลอตัวของเศรษฐกิจ หรือภาวะการว่างงานอยู่ในระดับสูง - เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงให้ระบบการเงินการคลังภาครัฐและประเทศ ในระยะปานกลางและระยะยาว ภายใต้กรอบกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งกรอบวินัยด้านการกู้เงินที่เหมาะสม
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จากพรบ.กระจายอำนาจฯ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สามารถให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและตรงกับความต้องการของคนในชุมชน เพื่อให้การให้บริการแก่ประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด สำหรับรายได้ของอปท.ที่จะนำมาใช้จ่ายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวแบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ - รายได้ที่ท้องถิ่นจัดเก็บเอง - รายได้ที่รัฐจัดเก้บให้ - รายได้ที่รัฐแบ่งให้ - รายได้จากเงินอุดหนุนจากงบประมาณ อย่างไรก็ดี ในเรื่องของการกระจายอำนาจในปัจจุบัน ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากการกระจายอำนาจ ไม่ใช่เพียงแค่การกระจายเงินลงสู่ท้องถิ่นเท่านั้น หากแต่จะต้องกระจายทั้ง งาน เงิน คน ลงไปพร้อมๆกัน ไม่เช่นนั้นแล้ว อปท.ก็จะเปรียบเสมือนเสมียนของรัฐเท่านั้น
เงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจ หลังจากที่ได้กล่าวถึงขอบเขตภาครัฐไปแล้ว เราจะทราบได้ว่า การลงทุนของรัฐวิสาหกิจถือเป็นการลงทุนที่สำคัญของภาครัฐด้วย ซึ่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ขึ้นกับการลงทุนของรัฐวิสาหกิจนั้นๆ
รายละเอียดของรายจ่ายแต่ละส่วนที่กล่าวไปแล้ว คงจะทำให้พอมองเห็นภาพคร่าวๆว่า รายจ่ายส่วนใด จะกระทบเศรษฐกิจส่วนใดบ้างนะครับ
Create Date : 17 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2549 21:41:31 น. |
|
0 comments
|
Counter : 10538 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
ข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศ
ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศ
ค้นคว้าข้อมูลทั่วไป
แหล่งเชื่อมโยงอื่นๆที่น่าสนใจ
|
|
|
|
|
|
|