สุภารัตถะ บล็อก
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
24 กรกฏาคม 2548
 
All Blogs
 
เบื่อด้วยการพิจารณา


การเบื่อชีวิตด้วยการพิจารณาความจริง หรือนิพพิทาญาณนั้น แตกต่างจากความเบื่อทั่วไป ที่ไม่พึงพอใจ ขัดใจ ไม่ได้ดังใจ อย่างไร??

คงคุ้นเคยกันอยู่บ้าง กับคำว่า เป็นทุกข์ กับ เห็นทุกข์ คนบางคนเป็นทุกข์แทบตายแต่ไม่เห็นทุกข์ คนบางคนไม่ได้เป็นทุกข์อะไรมาก แต่เห็นทุกข์ เห็นสัจจะแห่งการเกิด ย่อมมีความตาย พลัดพราก เศร้าโศก เป็นธรรมดา ..แม้ยังไม่ได้เกิดขึ้นกับตน แต่ก็ทราบว่า คนเรามีความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ชีวิตนั้นมีความตายเกิดขึ้นอยู่ทุกขณะ ไม่ควรประมาทหรือหลงลืมตัวไปกับวัฏฏะแห่งความไม่มั่นคงนี้

การเบื่อสังสารวัฏด้วยการพิจารณาธรรมก็เช่นกัน เป็นความเข้าใจสัจธรรม โดยไม่จำเป็นต้องแสดงความไม่พอใจ ขัดเคือง หรือหงุดหงิด ดังเช่นคนไม่รู้เหตุผล หากแต่เป็นความเข้าใจที่เห็นทั้งเหตุและผล เห็นความเป็นมายาภาพที่จิตปรุงแต่งดีชั่ว เวียนว่ายอยู่ในสังสารขึ้นลงอยู่ในสามโลกไม่สิ้นสุด จึงเกิดความเหนื่อยหน่าย และความเบื่อด้วยปัญญานี้เองนี้เอง แทนที่จะขัดเคือง กลับดิ้นรนที่จะหาทางออกที่ถูกต่อไป

หลังการเบื่อโดยการพิจารณา (นิพพิทานญาณ) เกิดขึ้น ปัญญาจากการเห็นความน่าเบื่อหน่ายในวัฏฏะนี้ จะพิจารณาต่อไปว่า ในความเบื่อก็ดี จิตเรานี่เองที่มีความอยาก อยากนั่นอยากนี่ แม้แต่อยากที่จะไม่อยากนั่นอยากนี่ด้วย คือเห็นตัณหาสาม มีกามตัณหา (อยากในสิ่งน่าใคร่) ภวตัณหา (อยากจะมีจะเป็น) วิภวตัณหา (ไม่อยากมีไม่อยากเป็น) ตัณหาเหล่านี้ มีผลต่อการเกิดทั้งสิ้น

ตัณหา-อุปาทาน อาการอยากและยึดนี้ จะสร้างภพภูมิใหม่ในทันที ไม่ใช่สิ่งที่ทำลายลงง่ายๆ แล้วอะไรทำลายการเกิดได้ คืออะไรทำลาย ตัณหา-อุปาทานได้??
หากอธิบายด้วยเหตุผลมากมายของภาษาคงจบอยาก อธิบายด้วยถ้อยคำง่ายที่สุด น่าจะตอบว่า “ปัญญา”

ปัญญา หรือการเห็นสิ่งทั้งปวงตามจริง สามารถทำลาย อวิชชา หรือการเห็นสิ่งทั้งปวงไปตามที่ตัวเองคิดปรุงแต่ง..ไปตามความรู้และการยึดติดของตัวเอง โดยการที่จะสลัดตัวเองออกจากความไม่รู้
แล้วการเห็นทุกสิ่งตามจริง ยากแค่ไหน

พระอรหันต์นิกายเซน มักอุทานธรรมตอนบรรลุธรรม ว่า.. ช่างง่ายๆ จริง.. ทำไมเราถึงโง่ขนาดมานานขนาดนี้ อ้าว..!! แปลว่ายากเพราะโง่หรือเปล่ากันนั่น

หนทางพ้นทุกข์นั้นถูกสอนไว้แล้วด้วยพระสัมมาสัมโพธิญาณผู้เป็นเอกของโลก นั่นคืออริยมรรคมีองค์แปด ย่อลงมาคือ ศีล สมาธิ ปัญญา หรือย่อลงมาอีก ก็คือทางสายเอก สติปัฏฐานสี่นั่นเอง
ทางสายไม่เอก ก็อาจจะช้าหน่อยนะ ขนาดทางสายเอก ยังอยู่กันมาได้ถึงทุกวันนี้ โอ้ เราอยู่มากี่เอกภพแล้วกันนี่!!
ส่วนกำลังสำคัญในการพ้นทุกข์ ก็คือความเพียรนั่นเอง “บุคคลล่วงทุกข์ด้วยความเพียร” พูดแล้วสะอึก คนขี้เกียจอย่างเรา ก็แป่ว…น่ะซิ..




Create Date : 24 กรกฎาคม 2548
Last Update : 24 กรกฎาคม 2548 8:19:48 น. 11 comments
Counter : 999 Pageviews.

 
รู้สึกเราจะมีแต่ความเพียรไปในทางทำกิเลสให้พอกพูน


โดย: rebel วันที่: 24 กรกฎาคม 2548 เวลา:8:41:25 น.  

 
มีความเพียร...พยามทำล่ะครับ...
สักวันจะสำเร็จตามที่ตั้งใจ...


โดย: **mp5** วันที่: 24 กรกฎาคม 2548 เวลา:9:31:51 น.  

 
ปัญญาค่อยๆ จางหายอวิชชามันเลยมาแทนที่


โดย: JewNid วันที่: 24 กรกฎาคม 2548 เวลา:11:27:23 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณสุภาฯ

วันนี้พอเข้าใจค่ะ

ถ้าจะให้พ้นทุกข์แบบถาวร

คงจะยากสำหรับรักดี

เอาแค่พ้นทุกข์ชั่วคราว

หรือในขณะที่กำลังเป็นทุกข์ก็ยังพอไหว

รักดีชอบเป็นลม จะเจ็บไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย เช่นที่บริเวณ ชายโครง หรือ แผ่นหลัง

ต้องเอายาขับลมมาช่วยเป็นประจำ

ตอนมีอาการจะทุกข์ทรมานนิดๆ

พอหายไปก็สบายดี พอพ้นทุกข์ไปได้บ้าง

เมื่อก่อนรักดีโง่มาตลอด

พออ่านหนังสือและลองทำตาม

ก็เห็นจริงขึ้นมาบ้าง

เรียกว่าหายโง่ขึ้นมานิดนึง

แต่ก็พยายามค่ะ มีเผลอบ้างในบางครั้ง

เพราะไม่อยากมีทุกข์มากนัก





โดย: รักดี วันที่: 24 กรกฎาคม 2548 เวลา:11:33:11 น.  

 
"กำลังสำคัญในการพ้นทุกข์ ก็คือความเพียร"

หุหุ จะทำได้ไหมเนี่ย..


โดย: jan_tanoshii วันที่: 24 กรกฎาคม 2548 เวลา:14:14:54 น.  

 
สวัสดีค่ะ ... ป้ามดไม่ค่อยมีจิดใจเข้มแข็งในการพิจารณาโลกเท่าไหร่เลย


โดย: ป้ามด วันที่: 24 กรกฎาคม 2548 เวลา:16:00:48 น.  

 
ถ้าเรเบล ยังมีตัณหาเยอะ ก็เลือกทำกิเลสที่มันดีๆ ก็แล้วกันนะ

เหมือนกันเรย mp5 กะคุณ jan_tanoshii

อวิชชาด้วยการศึกษาน่ากลัวที่สุด โดยเฉพาะความเจริญ นะคุณจิ๋วนิด

ป้ามดเก่งออก แค่ทำบล๊อก ก็ล้ำหน้ากว่าใครแล้ว เข้มแข็งมั่ก บล๊อกนี้ยอมแพ้

คนที่เป็นลมบ่อย อาจจะเกี่ยวกับเลือด ลม และความดัน หรือเปล่า ไม่อย่างนั้น..รักดี อาจเหนื่อยง่าย คงต้องออกกำลังบ้างแล้ว เห็นว่าว่ายน้ำน่าจะช่วยได้เยอะ รักดีไปว่ายกับน้อง (ลูก) สาวก็คงช่วยได้เยอะ

ว่ายน้ำจะช่วยเรื่องเส้นสาย เอ็น กระดูก ให้ดีขึ้น อาจจะช่วยให้หายเจ็บลงบ้าง

ส่วนการปฺฏิบัติให้หายทุกข์ชั่วคราว หรือมีสตินั้น ก็ถูกต้องแล้วล่ะจ้า หากมีสติได้แบบต่อเนื่อง (ซึ่งยากในชีวตประจำวัน ก็อาจต้องหนีไปหาที่สงัดบ้าง) ก็จะทำให้เหมือนได้ชาร์ตแบ็ตเตอรี่ ออกมามีแรงสู้กับโลกได้..


โดย: สุภาฯ IP: 202.57.168.26 วันที่: 24 กรกฎาคม 2548 เวลา:17:58:41 น.  

 
เป็นบทความที่ดีจัง


โดย: Bluejade วันที่: 24 กรกฎาคม 2548 เวลา:20:34:53 น.  

 
มาอ่านหลายครั้งละครับ แต่ไม่รู้จะตอบยังไง นอกจาก ขอบคุณครับ


โดย: พ่อน้องโจ วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:12:28:41 น.  

 
อนุโมทนาค่ะ


โดย: ป่ามืด วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:16:26:16 น.  

 
สาธุค่ะ


โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:7:32:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

suparatta
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร..
..ท่านนาคารชุนะ..
วิภาษวิธี..เกริ่นนำ..ตอนจบ..

๐ สมุดเยี่ยมและบ่นได้..
**ทางลัด**
๐ สารบัญทักทาย(ทั้งหมด)
๐ ชวนคุย&ฟังเพลงปี48(ทั้งหมด)
๐ นอนดูจันทร์..(ส่วนตัว)

**log in หน่อยน่า..



Google.co.th
Friends' blogs
[Add suparatta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.