ติดต่อพูดคุยกันได้ในเฟซบุ๊คเพจนะคะ
https://www.facebook.com/srisurangwriter
Group Blog
 
 
มีนาคม 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
21 มีนาคม 2549
 
All Blogs
 
วินธัย ๑ บทนำ










‘…ไม่มีสิ่งใดจะควรคู่กับยูงทองยิ่งกว่าบัลลังก์แสงจันทร์

ข้าขอฝากสัญลักษณ์ของดวงจันทร์ไปกำนัลแก่นกยูงช่างพูดของท่าน จงบอกคำของข้าเถิด ว่าลมแห่งรัตติกาลที่มีจันทร์เพ็ญนั้นแรงกล้ายิ่งนัก และจะงอยปากแห่งนกยูงที่รู้จักร่ายรำก็คมเสียยิ่งกว่าปลายใบหอกแห่งสรรพาวุธใดในใต้หล้า

แต่ว่า… ท่านผู้ร่อนเร่คร่ำครวญลำนำอันไพเราะ
ท่านได้เคยพบพญายูงทองที่งามสง่าเช่นนั้นแล้วหรือ…’


บุษราคัมน้ำงามล้อเหลี่ยมเจียระไนอันงามเยี่ยมกับแสงเทียนส่องประกายแวบวับอยู่กลางฝ่ามือ ล้อมรอบด้วยเพชรเม็ดเล็กพราวพร่างเป็นรูปร่างปรากฏดังพระจันทร์เพ็ญกำลังทรงเศวตฉัตรอยู่เหนือม่านฟ้าราตรี

อัญมณีสูงค่านี้มีสัณฐานกลม ขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าวงแหวนอันจะสวมลงที่นิ้วเรียวแข็งแรงของผู้ถือได้ แต่ความหมายและคุณค่าของมันยิ่งใหญ่นัก สายสร้อยเส้นเล็กที่ห้อยลงจากมือเป็นโซ่ทองคำสุกปลั่ง ยาวเพียงพอที่จะล้อมพระศออันกลมนวลของผู้เคยสวม

นี่ทูลกระหม่อมสละสิ่งทรงคุณค่าเยี่ยงนี้มอบมากับวณิพกร่อนเร่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าทีเดียวหรือ นั่นมิหมายความว่าเขาช่างใจดำเสียนี่กระไร ในการที่ช่างขาดหาย ไม่ส่งคนเดินสารส่งข่าวคราวที่ควรจะได้ให้แก่ผู้ที่ใจจดจ่อรอคอยบ้างเลย

มือที่ถืออัญมณีกำสิ่งมีค่าไว้แนบแน่น

“แล้วพระราชธิดาตรัสอะไรอีกบ้าง” เขาถาม

“หลังจากทรงถามแล้วก็ไม่ตรัสอะไรอีกขอรับ ประทับนิ่งมีพระเนตรเต็มด้วยอัสสุชลรอคอยคำตอบอยู่เช่นนั้น ข้าน้อยทั้งสองมัวแต่ตกตะลึง ตั้งแต่ขับร้องยังไม่จบ ที่เห็นทรงกันแสง ยิ่งเมื่อดนตรีจบแล้วยินรับสั่งเช่นนั้นก็ได้แต่อึ้งอั้น ไม่สามารถที่จะตอบ ทั้งที่ทรงถามย้ำอีกหลายครั้ง ว่าถ้าหากข้าทั้งสองพบสุวรรณปักษีอันงามเลิศเช่นนั้นแล้วจะได้บอกข่าวแก่พระองค์บ้าง”

ชายชราผิวคล้ำร่างกายซูบผอม แต่มีแสงแรงกล้าอยู่ในดวงตาเป็นผู้ตอบ ข้างกายมีเด็กหนุ่มน้อยในเสื้อผ้ากะรุ่งกะริ่งคอยเสริมเรื่องราวที่เล่า

“ถูกแล้วท่านวินธัย เราทั้งไม่รู้การที่จะตอบ และนัยแห่งคำตอบเลย”

“ไม่ใช่ไม่รู้คำตอบ เจ้านิล แท้ที่จริงแม้คำถามบ่งถึงสิ่งใดเราทั้งสองก็มิอาจรู้ได้”

ก็เพลงนั้นยังมีนัยแห่งความหมายอื่นอีกหรือ เพลงที่กองกำลังชาวเขาและชาวบ้านป่าร้องต่อๆ กันไปจนเพียงดั่งเสียงสวดอ้อนวอนต่อเทพเจ้าเบื้องบน เพื่อปลุกขวัญและกำลังใจอันเร้นลับ เพื่อต่อสู้กับอำนาจที่มองไม่เห็นอย่างหลบซ่อน

บทเพลงที่ดั่งประจุไว้ด้วยมนต์อันลึกล้ำ อ่อนโยนอ่อนหวานปลอบประโลมผู้ทุกข์ยาก อ้อนวอนขอแสงแห่งความหวังที่เรืองรอง ภายใต้คำพูดที่เข้าใจได้ง่าย แต่ก็มิอาจเข้าใจได้ตลอดไป

ความในใจของกวีที่รจนาเนื้อเพลงนั้นเป็นเช่นใดหนอ แม้เจ้าหญิงแห่งดินแดนอันแสนไกลยังหลั่งน้ำพระเนตรให้แก่ชาวดงดอนแห่งอุตตรทวีป …คันธาระ…


ยูงทองลอยฟ่องฟ้า
เทียมเมฆาปักษาสวรรค์
เรื่อรองรัศมีจันทร์
ส่งแสงแจ่มจับวงแวว
จากฟ้าคืนสู่ฟ้า
ส่องพสุธาเพริศแสงแพรว
ฟ้ามืดค่อยคลายแล้ว
ฟ้าเหนือแผ้วผองภัยพาล
ลมพัดพัดเพียงแผ่ว
พรับพราวแพร้วพยุงปีกหาญ
เดือยหอกมุ่งมลาญ
ไพรชัฏผ่านจากพฤกษ์พง
รวมจิตรวมน้ำใจ
จากแดนไกลสู้เสริมส่ง
รวมรักรวมภักดิ์ผจง
พลิกแผ่นดินคืนถิ่นเนา
รำร่ายย้ายเยื้องร่าง
ใจอ้างว้างฤๅสร่างเศร้า
ลำนำเพลงรักเรา
ระเรื่อยร้องก้องสำเนียง
เพรียกพร้องผ่านพงป่า
สะท้อนหล้าสะท้านเสียง
แซ่ซ้องจ้องจำเรียง
จับไม้เมียงส่งเสียงไกล
สุดแผ่นดินสิ้นแผ่นฟ้า
ทั่วพสุธาหาน้ำใจ
ร่วมหลั่งพลังให้
ยืนหยัดได้ยิ่งยงยืน…



เด็กหนุ่มพยายามถ่ายทอดพระราชเสาวนีย์เท่าที่พอจะจดจำไว้ได้ในการได้รับเกียรติขับเพลงซอถวาย แม้จะไม่ใคร่เข้าใจความหมายนัก

'ไพเราะนัก ไพเราะนัก บุรุษชราและมาณพน้อย อย่าได้ตกใจไปเลย เราหลั่งน้ำตาด้วยความซาบซึ้งในบทเพลงของเจ้า จงร้องให้เราฟังอีกสักครั้งเถิด ชโลมดวงใจอันแตกระแหงของเราด้วยลำนำบทนี้ จงรู้เถิดว่า หากราตรีนี้มีเพียงจันทร์เสี้ยว เมื่อยูงทองร่ายระบำรำแพนหางแล้ว ฟ้าก็จะงามดั่งจันทร์เต็มดวงนั่นเทียว…

… สหายจากแดนไกล ท่านยังจะจำคำทั้งหมดของเรานี้ได้อยู่หรือ เผื่อว่าสักโอกาสจะมีผู้ถามท่านว่า ได้ขับลำนำแห่งคันธาระให้ขัตติยนารีแห่งปาลีรัฐฟังแล้ว ทรงชื่นชมโสมนัสว่าเช่นไร เจ้าจะยังตอบเขาได้ไม่ตกหล่นหรือ…’


เมื่อได้ตอบออกไปถึงตอนนี้ ในใจหนุ่มน้อยก็คิดขึ้นได้ว่า เหตุไฉนเจ้าฟ้าหญิงจึงตรัสราวกับทรงทราบเหตุการณ์ล่วงหน้าเช่นนี้ เขาอดมิได้ที่จะเหลือบตาขึ้นมองร่างสูงตระหง่านงามราวกับรูปสลักเบื้องหน้าด้วยความพิศวง ..ท่านวินธัย






กราบบังคมทูลแทบเบื้องพระยุคลบาท

ดั่งได้มีพระบัญชาให้เกล้ากระหม่อมตามเสด็จโดยด่วนนิวัติพระนครในยามรุ่งแห่งราตรีนี้นั้น ข้าพระบาทก็ได้ปฏิบัติตามพระประสงค์แล้ว ถึงแม้กายจะมิสามารถติดตามไปรองพระบาทได้ดังเคย แต่ก็ได้ส่งใจติดตามไปไม่ห่างพระองค์แม้สักวินาที

ได้โปรดอย่ากริ้ววินธัยของใต้ฝ่าพระบาทเลย ที่ได้หลีกลี้หนีหายไปจากสายพระเนตร ด้วยข้าพระองค์รู้ตัวดีความผิดติดตนนั้นมีหนักนัก มาตรว่าจะมีสักสิบหัวก็ไม่พอแก่พระราชอาชญา ที่ตรัสไว้ว่าไม่อาจตัดศีรษะของวินธัยเพราะมิอาจปลิดพระทัยพระองค์เองได้นั้น เกล้ากระหม่อมก็ระลึกอยู่ว่า หากแม้ทูลกระหม่อมท่านมิลงพระราชอาชญาเอง เหนือเกล้าซึ่งทรงอำนาจสูงสุดนั้นทรงอยู่ ขอให้วินธัยได้มีโอกาสรักษาพระหทัยให้ยืนนานไปก่อนด้วยการนี้

ก็ยังทรงจำที่ข้าพระบาททูลได้อยู่หรือพระเจ้าค่ะ ว่าธรรมดาพญาอินทรีแห่งมัชฌิมประเทศนั้นแสนรักอิสระก็จริงอยู่ หากแต่มีกตัญญูสูงนัก เมื่อปาลีรัฐแห่งมัชฌิมะให้ข้าวน้ำจนเติบโตถึงเพียงนี้ก็ย่อมจะมีกตัญญูจนตราบชีวิตสิ้น ดังนั้นทูลกระหม่อมหากจะทรงนึกถึงเหตุผลที่เกล้ากระหม่อมหลบลี้ไปนี้ก็จงนึกเถิดว่าข้าพระองค์จำต้องไปเพราะรู้กตัญญูสมเด็จพระราชบิดา แต่หาได้ไปด้วยหัวใจอันรักอิสระไม่แม้เพียงจะคิด

ที่ข้าพระบาทลุแก่อำนาจน้ำพระเนตรของพระองค์แสดงความปรารถนาในใจตนออกไปให้เป็นที่ประจักษ์แล้ว ทั้งที่ได้เฝ้าเพียรพยายามเก็บงำไว้ด้วยความเจียมตนตลอดเวลาที่รับใช้ใต้เบื้องพระบาทมานี้ ก็พอเพียงแก่โทษประหารสักเจ็ดชั่วตระกูลอยู่แล้ว

โชคดีที่วินธัยนี้อาภัพ มีก็แต่เพียงตัวคนเดียว หาบิดามารดามิได้ ทราบแต่บุญคุณของมหาราชแห่งปาลีรัฐเท่านั้นที่ทรงชุบเลี้ยงสั่งสอน ดังนั้นด้วยเหตุรวมกันที่จะมิให้พระราชธิดาเหนือเกล้าสูญพระทัย และมิให้พระราชบิดาล้นกระหม่อมกริ้ว ข้าพระองค์จะทูลลานำร่างนี้ไปยังดินแดนแห่งความหวัง

สมเด็จพระราชบิดาทรงเปรียบกระหม่อมเป็นเหมือนดังเจ้าสีตลาอินทรีของพระองค์ อินทรีนั้นให้เก่งกล้าสามารถสักปานใดก็เป็นสมบัติของโตรกผาและป่าเขาเท่านั้น หาได้คู่ควรกับปราสาทราชมณเฑียรไม่ พญายูงทองดอกนะทูลกระหม่อมจึงจะเหมาะกับบัลลังก์แก้ว

เกล้าฯ มิสามารถทนเห็นตนเองนำสาบแห่งอินทรีสัตว์ป่าเข้าแปดเปื้อนพระที่นั่งแสงจันทร์อันทรงสิทธิ์ของปาลีรัฐ หากเมื่อวันใดกลายร่างเป็นยูงทองแล้วเมื่อนั้นคงจะมีหวังที่จะประสบกับแสงจันทร์บ้าง อย่าได้ทรงห่วงเกล้ากระหม่อมเลย แต่ไหนแต่ไรมาเกล้ากระหม่อมก็เป็นลูกป่า ย่อมสมควรแก่ป่า และป่ามิสามารถทำอันตรายใดๆ แก่วินธัยได้

ยังทรงจำที่ข้าพระองค์ทูลแทบพระหัตถ์ได้ใช่ไหมทูลกระหม่อม ข้าพระองค์วางหัวใจไว้ในอุ้งหัตถ์แล้ว หากว่าทรงจำที่ตรัสไว้ได้ดุจเดียวกัน ในวันหนึ่งกระหม่อมจะกลับมาทูลคำนั้นอีกครั้ง

…องค์เทพนารีแห่งทิพยปาลีรัฐเอย ข้าพระองค์ฝากความรักและภักดีทั้งมวลแนบในสารนี้มาบังคมลาเบื้องพระบาท

ขอให้ทรงทราบว่าวินธัยอันเปรียบได้ด้วยพญานกป่านี้จะพยายามบินให้สูง ในทุกคราวที่อกโหยไห้ ลมหายใจที่สะท้อนเพราะทอดถอนใจให้กับชะตาของสองเราก็จะเป็นดังลมเพื่อพยุงปีกของปักษา หากว่าทุกลมหายพระทัยของทูลกระหม่อมยังไม่ลืมเอกราชวัลลภที่ชื่อวินธัยนี้ด้วยแล้ว ตราบนั้นปีกของนกป่าก็ประดุจดั่งได้ลมบนพยุงให้เหินเวหาสู้ชะตาต่อไป

และทุกครั้งที่รู้สึกเสียดในอกดุจต้องคมหอกอันแรงร้ายของความกตัญญู เกล้ากระหม่อมก็จะพยายามลับใบหอกนั้นให้คมยิ่งขึ้นอีก เพื่อความเจ็บจะได้เตือนให้กระทำการเพิ่มเกียรติและคุณความดีของตนให้ยิ่งขึ้นไปเพื่อไม่เป็นที่อับอายแก่ล้นเกล้าฯ ผู้ทรงพระคุณ

ข้าบาทวินธัยขอสัญญา ณ ที่นี้ จารึกเป็นอักษรว่าหากชีวิตยังไม่สิ้นตราบใด ตราบนั้นจะพยายามเพื่อให้ได้กลับมารองเบื้องพระยุคลบาทอยู่ทุกลมหายใจ และถึงหากว่าจะไร้ซึ่งวาสนาในชาตินี้ หัวใจที่ได้มอบถวายไว้แล้วก็จะคงอยู่ในอุ้งหัตถ์แห่งพระองค์เสมอตลอดไป

ขอให้เทพแห่งเพ็ญจันทร์และปวงธรรมอันงามทั้งหลายในแผ่นฟ้า จงปกปักรักษาองค์ราชกุมารีที่รักแห่งข้า ให้ทรงพระเกษมสำราญตราบชั่วนิรันดร์

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ด้วยชีวิตและวิญญาณ
วินธัย





…ยูงทองสยายปีกเหนือฟากฟ้าแห่งคันธาระรัฐแล้วจริงหรือ…

ท่านผู้เฒ่ากล่าวเช่นนั้น… ยามใดมีผู้เห็นยูงทองบนฟากฟ้า เมื่อนั้นศานติสุขจะกลับมา ราชวงศ์ยสินทรจะฟื้นฟูอีกครั้ง

…มีผู้พบเด็กชายผู้ได้รับพร เขาจะเป็นกษัตริย์องค์ต่อไปแทนกาฬราชะทรราชย์…

คำพูดเหล่านี้ล้วนน่ากลัว

ชาวคันธาระมองเห็นแสงสว่างส่องโพยม แต่ชาวปาลีรัฐกลับเห็นแต่เงาพยับมืดคลุ้มของการผลัดบัลลังก์ จริงอยู่พระเจ้าอยู่หัวผู้ได้รับขนานนามอันไม่เป็นทางการจากชาวชนว่าราชาแห่งความมืดนั้นแย่งชิงราชบัลลังก์ได้มาโดยมิชอบซ้ำยังไม่ครองแผ่นดินด้วยธรรมะ

หากยามใดที่ประชาชนมือเปล่าผู้สิ้นหวังต้องพลีร่างเข้าต่อกรแลกอิสระจากความอยุติธรรมนั้น มีหรือเลือดของผู้บริสุทธิ์จะไม่นองแผ่นดิน เจ้านกยูงที่หลงแสงเดือนจะมิพาตนและบริวารมาพลอยวอดวายลงด้วยหรือ

“ท่านพ่อ เด็กชายผู้ได้รับพรตั้งใจจะเป็นผู้ครองบัลลังก์คันธาระต่อไปรึเพคะ”

“ไม่ใช่เช่นนั้นลูกหญิง นกยูงยังอ่อนหรือจะรู้จักรำแพนหาง ทิชาชาติที่ยังมิทันจะพ้นวัยเด็กจะรู้จักขับร้องให้ไพเราะถึงขนาดนี้รึ”

พระพักตร์เยาวนารีแห่งปาลีรัฐซับพระโลหิตจนแดงเรื่อ เมื่อพระบิดาชายพระเนตรมาเสมือนจะทรงทราบเหตุแห่งพระทัยได้ลึกซึ้ง เสมอที่ถามถึงเด็กชายที่รู้กันมาว่าเป็นหุ่นลวงนั้นจะมีความหมายไปถึงผู้ใดได้อีก

เสด็จพ่อยังมีพระดำรัสต่อไป “มีแต่นกที่เจ้าของรู้จักฝึกฝนให้ร้องแต่ยังอ่อน สอนเล่ห์กลในการย่างเยื้องเอาชัยจนชำนาญ ถึงจะแกล้วกล้าอาจหาญจะลงสนามเพื่อกำชัยชนะได้”

ไม่อาจเลย เจ้าหญิงน้อยของท่านพ่อผู้เป็นราชธิดาเพียงพระองค์เดียวของกษัตริย์มัลละ ไม่อาจว่างเว้นแม้สักวันที่จะไม่นึกถึงยามที่ทรงสำราญพระอิริยาบถอยู่ด้วยอัครราชวัลลภที่ไว้วางพระทัยในอดีต

ยามที่พระองค์ทรงแสดงฤทธิ์ต่างๆ เพื่อที่จะให้ราชวัลลภคอยใช้ไหวพริบแก้ไข ‘ปัญหา’ ต่างๆ ที่จะพึงเกิดขึ้น ด้วยความจงรักภักดี ด้วยความสง่างาม ด้วยอารมณ์สุนทรีอยู่เป็นเนืองนิตย์ แม้ในยามที่ต้องทำการเสี่ยงชีพ เสี่ยงต่อการหัวหลุดจากบ่า หรือเสี่ยงต่อพระราชอาญาของพระบิดามากเท่าใด

เป็นคู่ซ้อม คู่มือ เป็นครูและเป็นเพื่อน สำคัญที่สุดนั้นคือเป็นผู้รู้พระทัยหาใครเหมือน เจ้าหญิงมิได้รู้พระองค์เลยว่า จากดรุณีเยาว์วัยที่แก่นแก้วเหลือรับ ทรงม้า ทรงรถไปแทบทั่วพระราชอาณาจักรนั้นบัดนี้ ยามเมื่อขาดผู้นำทางและผู้คุ้มครองอันถูกพระทัยยิ่งแล้วได้กลับกลายเป็นราชกุมารีผู้สงบเสงี่ยมงามพร้อม ตั้งแต่วันที่ความโศกสลดทั้งมวลได้กลุ้มรุมพระทัยไว้ดังทรงตกอยู่ใต้ราตรีที่ไร้จันทร์เพียงลำพังตลอดมา

ราตรีที่ชุ่มชื่นพระทัย จำหลักไว้ในความทรงจำชั่วชีวิต ก่อนจะถึงราตรีอันเย็นเยือกมืดมิดตลอดกาล ที่อัศฎรคีรี ชายชนบทนั่นเอง ที่พระองค์มิอาจแกล้งทำตระแหน่แง่งอนถือทิฏฐิอันเป็นการทรยศต่อพระทัยพระองค์เองได้อีกต่อไป ไม่อาจจะขับไล่คนกวนประสาทที่โอหังบังอาจออกไปได้พ้น

แท้ที่จริงกลับต้องทรงยอมเดินทางทุรลำบากจากพระนครหลวงไปตามนายทหารคนหนึ่งถึงค่ายพัก สั่งให้ย้ายกลับภายหลังจากที่อนุญาตให้ย้ายไปเอง บอกรักแก่คนผู้ที่ทรงเคยปฏิเสธความภักดี กันแสงต่อหน้าเหล่าราชบริพารทั้งหลายทั้งที่ตลอดพระชนม์ชีพมิคิดว่าจะทรงทำได้

เกษรารัตนารี มาบัดนี้จึงเพิ่งทรงรู้ ขัตติยะไม่มีสิ่งใดจะทรมานยิ่งกว่าการเสื่อมพระเกียรติ แต่ต่อให้สูญสิ้นพระยศก็ไม่ได้ครึ่งของความทุกข์ที่ต้องสูญเสียรัก มาบัดนี้จึงเพิ่งทรงรู้ บุคคลผู้ทรงยศอันแท้จริงต่างหากที่เคยคุกเข่าบังคมแทบพระบาททุกครั้งที่พบหน้า

บุคคลผู้ทรงยศที่แท้จริงต่างหากที่เคยให้โทษตนเองเนรเทศตนเองทุกครั้งที่มี ‘ความผิดพลาด’ เกิดขึ้น แม้ต้นเหตุจะมิได้มาจากตนเลย มาบัดนี้จึงเพิ่งทรงรู้ ว่าทุกคำ ทุกประโยค ทุกความทรงจำ มีค่ายิ่งกว่าสิ่งใดๆ

กระดาษแผ่นหนึ่งที่ได้รับมาในวันจากนั้นทรงจำได้ขึ้นพระทัยแล้วทุกอักษรที่ลิขิตลงด้วยน้ำมืออันองอาจและด้วยหัวใจรักอันทรนงของบุรุษ ที่ทรงเรียกขานนามลวงนั้นอยู่ทุกลมหายพระทัย

…วินธัย

หญิงได้รับจดหมาย ในยามสาย ยามที่ใครๆ หาตัวเธอจนทั่วทั้งค่ายแล้วก็ไม่พบ เมื่อยาม
ผู้หนึ่งรายงานว่าเธอพาม้าล่วงเขตออกไปในกลางราตรีว่ามีรับสั่งให้ตรวจนอกค่ายด้านเหนือ ความจริงแล้วไม่ว่าเธอจะไปที่ใดในปาลีรัฐนี้ก็ไม่มีใครจะห้ามเธอได้ ..แม้แต่หญิงเอง

เธอไม่ลาหญิงด้วยปากก็เพราะรู้ว่าหญิงจะต้องห้ามมิให้เธอไป บุรุษผู้เลิศด้วยวิทยาการ ด้วยความสามารถของท่านจะลวงหญิงให้หลงเชื่อสักร้อยครั้งเธอก็คงจะทำได้ ทำไมเธอจึงไม่ลวงหญิงสักร้อยครั้ง แต่เจาะจงลวงเพียงครั้งเดียว ครั้งที่ยิ่งใหญ่นักในครั้งแรก ว่าเธอเป็นเด็กกำพร้าผู้หาบิดามารดาไม่ ที่เขาไปพบร่อนเร่อยู่เชิงเทือกเขาวินธัย

ทำไมจึงไม่บอกหญิงหรือใครแม้สักคนว่าชายผู้สูงศักดิ์ผู้หนึ่งได้นำเธอมามอบไว้แก่ท่านพ่อ ก่อนที่ชีวิตเขาจะสิ้น ให้เลี้ยงดูเธอในฐานะเด็กชายชาวปาลีรัฐคนหนึ่งแทนที่จะเป็นเชื้อสายแห่งบัลลังก์อุตตรคันธาระเล่าคะ

ทำไมเธอจึงคุกเข่าให้หญิง บังคมหญิงเหมือนจะแสร้งบั่นชีวิตหญิงให้สั้น

เธอไม่เคยรู้ ว่าด้วยแสงตาของเธอเพียงเท่านั้น หากเมื่อยามเราพบกันเธอจะยืนเฉย สง่างามอย่างที่เคยเป็น สบตาหญิงอย่างเปิดเผยราวกับหญิงชายซึ่งมีฐานะเท่าเทียมกันจะทำได้แล้ว ถึงแม้ขณะนั้นมงกุฎแห่งราชกุมารีของปาลีรัฐจะอยู่บนศีรษะของหญิง และเครื่องแบบนายทหารราชองครักษ์จะยังอยู่บนกายของเธอ หญิงก็คงจะต้องพ่ายแพ้แก่กำลังใจซึ่งดูเหมือนเกือบจะพ่ายแพ้มานับครั้งไม่ถ้วน ถวายความเคารพให้แก่เธอ

พญาอินทรีแห่งปาลีรัฐ เธอเป็นยูงทองของหญิงมาตั้งแต่แรก แววของเธอเพียงจะกลบรัศมีจันทร์แจ่มฟ้าอยู่แล้ว จงปลอดภัยกลับมา และได้ทุกอย่างคืนมาด้วยความสามารถอันกอปรด้วยเมตตาของเธอนะคะ

ข้าแต่มยุรเทพแห่งคันธาระ โปรดประทานพรแด่บุตรของพระองค์ ให้ทรงสฤษฎ์ผลในสิ่งอันเป็นที่ปรารถนาในพระทัยทุกประการด้วยเถิด ข้าพเจ้าขอวิงวอน…





๒ เมษายน ๒๕๔๓
ยสินทร- เป็นใหญ่ด้วยยศ มียศ
นิวัติ – กลับ
โพยม – (พะ-โยม) อากาศ ท้องฟ้า โพยมัน หรือโพยมาน ก็ใช้
ทุร – แผลงมาจาก ทุสฺ หมายความว่า ชั่ว ลำบาก น้อย ไม่มี ทราม เป็นคำนำหน้าศัพท์อื่น
กอปร – (กอบ)(โบราณ) ประกอบ
สฤษฎ์ – สำเร็จแล้ว สร้างแล้ว ทำแล้ว
ลิขิต – เขียน หนังสือ รอยขีดเขียน รอยแกะ จดหมาย
ราชวัลลภ – คนสนิทของกษัตริย์
วัลลภ – ผู้คุ้นเคย คนสนิท ผู้ชอบพอ คนโปรด เพื่อน คนรัก
มาณพ – ชายหนุ่ม ชายรุ่น
ปาลี – ผู้รักษา ผู้ปกครอง ผู้เลี้ยง บาลี
อุตตร – เขียนอย่างภาษาบาลี อุตฺตร (อุด ตะ ระ) = อุดร ทิศเบื้องซ้าย ทิศเหนือ








Create Date : 21 มีนาคม 2549
Last Update : 30 เมษายน 2553 20:55:10 น. 21 comments
Counter : 2679 Pageviews.

 
อิอิอิ จะได้อ่านทั้งเรื่องไหมค่ะ
ชอบเรื่องนี้มาก อ่านเท่าไรก็มีความสูข แต่เรื่องอื่นๆ ของคุณศรีสุรางค์ ยังไม่ได้ซื้อมาอ่านเลยค่ะ รองานหนังสืออยู่





โดย: ฟ้าใส (pajan ) วันที่: 21 มีนาคม 2549 เวลา:22:28:41 น.  

 

วินธัยๆๆๆ

กรี๊ดกร๊าดดด

@^________^@



โดย: p_jung IP: 61.47.96.253 วันที่: 23 มีนาคม 2549 เวลา:12:04:59 น.  

 
ตอบ
+++คุณ ฟ้าใส
คิดว่าจะลงจนจบเรื่องค่ะ แต่อาจจะช้านิดนึงนะคะ ค่อยๆ ทำไป


+++p_jung
อิอิ อยากจะเขียนตอนต่อของวินธัยมากเลยค่ะ แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกซักทีเลย


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 23 มีนาคม 2549 เวลา:17:09:18 น.  

 
อยากซื้อวินธัย(อีกครั้ง)น่ะค่า ^^
โพสต์บอกในเวบบอร์ดแล้วฮับ


โดย: สุพัฒนา IP: 203.188.7.150 วันที่: 7 เมษายน 2549 เวลา:15:41:03 น.  

 
+++ คุณสุพัฒนา
ขอบคุณค่ะ ^ ^ ตอบไว้ในเวบบอร์ด และเมล์แล้วนะคะ


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:8:18:49 น.  

 
คุณศรีสุรางค์คะ ตั้งแต่ปีก่อนดิฉันพยายามติดต่อเว็บนายอินทร์เพื่อจะถามถึงเรื่องต้องการซื้อหนังสือวินธัย สรุปว่าไม่ได้เรื่องค่ะ

แล้วช่วงปีที่แล้วกับปีนี้ดิฉันบินกลับเมืองไทย 3 ครั้ง แต่ละครั้งพยายามไปเดินหาหนังสือเรื่องนี้ ก็ไม่พบ จนวันหนึ่งให้เพื่อนไปถามร้าน B2S แถวๆสีลมให้ เขาบอกว่าหนังสือหมดแล้ว

วันนี้เผอิญเจอบล๊อกคุณศรีสุรางค์เลยคิดว่าถามกับคุณศรีสุรางค์เองจะดีกว่า คือดิฉันจะรบกวนเรียนถามว่าทำอย่างไรดิฉันจึงจะสามารถเป็นเจ้าของวินธัยได้คะ

ดิฉันคิดๆไว้ว่าจะกลับเมืองไทยปีหน้าแน่ะค่ะ

รบกวนคุณศรีสุรางค์ช่วยดร็อปเมสเสจไว้ให้ในบล๊อกหรือหลังไมค์ของดิฉันได้ไหมคะ Regenbogen ^_^ ค่ะ พอดีตอนนี้ล๊อกอินเข้าบล๊อกไม่ได้น่ะค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้านะคะ


โดย: Regenbogen ^_^ IP: 84.58.100.120 วันที่: 29 พฤษภาคม 2549 เวลา:0:12:34 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณ Regenbogen

ขอโทษด้วยที่ตอบช้ามากเลย พอดีไม่ได้แวะเข้ามาเช็คคอมเม้นท์นานไปหน่อยค่ะ
แหะๆ

ถ้าอยากได้เรื่องวินธัย ตอนนี้มีขายอยู่ที่ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และดวงกมลซีคอนแสควร์ค่ะ ไม่แน่ใจว่าที่แพร่พิทยายังมีอยู่รึเปล่านะคะ
สั่งซื้อที่ศรีสุรางค์เลยก็ได้โดยอีเมล์มาที่
info@srisurang.com ค่ะ

หนังสือราคา 312 บาทรวมค่าจัดส่งทั่วประเทศค่ะ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.srisurang.com นะคะ

ขอบคุณมากๆ ที่สนใจหนังสือค่ะ



โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 6 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:08:25 น.  

 
^
^
ขอแก้ไขคำตอบข้างบนใหม่นิดนึงนะคะ

ตอนนี้หนังสือเรื่องวินธัย มีขายอยู่ที่ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
กับดวงกมลสาขาเสรีเซ็นเตอร์ค่ะ
หรือจะสั่งซื้อจากศรีสุรางค์โดยตรงก็ได้ค่ะ
อีเมล์มาที่ srisurang_o@yahoo.com นะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่สนใจหนังสือค่ะ


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:34:43 น.  

 
เพิ่งเริ่มอ่านค่ะ คำ สำนวน ชวนให้งงมากค่า ไม่ได้อ่านเรื่องแบบนี้มานานมากแล้วล่าสุดที่อ่านคงจะเป็นศิวาราตรีโน่นนะค่ะ


โดย: แม่มดจิ๋ว IP: 124.121.161.155 วันที่: 6 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:34:53 น.  

 
คุณ แม่มดจิ๋ว - หลายคนบอกว่า บทแรกนี่อ่านไม่ค่อยเข้าใจเลย แต่บทต่อๆ ไปจะรู้สึกง่ายขึ้นค่ะ ....ไม่รู้จริงมั้ย...emo

ขอบคุณมากๆ ที่มาอ่านนะคะ


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:23:30 น.  

 
เข้ามาอ่าน วินธัย สนุกมากค่ะ
ไม่ทราบจะสั่งซื้อหนังสือได้อย่างไร

ขอบคุณค่ะ
Apple


โดย: apple_leela@yahoo.co.th IP: 58.9.45.181 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:46:51 น.  

 
คุณ apple - ขอบคุณมากที่เข้ามาอ่านนะคะ

ตอนนี้หนังสือ สั่งซื้อได้ที่ศรีสุรางค์ค่ะ

อีเมล์มาที่ srisurang_o@yahoo.com นะคะ


ขอบคุณมากๆ ที่สนใจหนังสือค่ะ


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:13:29 น.  

 
ทำขจายเองหรือค่ะ อยากได้เหมือนกัน ชอบแนวนี้อยู่ด้วย


โดย: ข้าวกล่อง IP: 124.120.239.181 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:32:13 น.  

 
ชอบสำนวนเขียนจังเลย สวยดี


โดย: ข้าวกล่อง IP: 124.120.239.181 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:41:45 น.  

 
emo

คุณ ข้าวกล่อง - ขอบคุณค่ะ
พิมพ์ขายเองค่ะ เล่มนี้ นานแล้วเหมือนกัน
ถ้าอยากได้เมล์มาที่ srisurang_o@yahoo.com นะคะ
^ ^


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 7 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:25:20 น.  

 
มีหลายคนบอกว่าวินธัยสนุกมากๆ
เลยจะลองมาอ่านในบล็อกของคุณศรีสุรางค์ซะหน่อย
แต่ไม่ไหวค่ะ จ้องนานๆแล้วเมื่อย ปวดตามากๆ กะว่ากลับเมืองไทยเดี๋ยวสั่งซื้อจากคุณศรีฯเลยดีกว่า เพราะเรื่องนี้เท่าที่ดูใช้ภาษาสละสลวยมาก อย่างนี้คงต้องอ่านกับหนังสือแล้วล่ะค่ะ อ่านกับคอมไม่ไหว


โดย: เจ้าชายสีฟ้า (sendho ) วันที่: 22 ตุลาคม 2551 เวลา:9:10:18 น.  

 
emo

คุณ เจ้าชายสีฟ้า - ยินดีค่ะ ^ ^ เรื่องนี้ค่อนข้างยาวจริงๆ ถ้าอ่านกับคอมรวดเดียวคงไม่ไหว อย่างไรก็ขอบคุณมากๆ ที่แวะเข้ามาและฝากความเห็นไว้ให้คนเขียนชื่นใจนะคะ
ไว้กลับมาเมืองไทยแล้วติดต่อมาทางอีเมล์นะคะ


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 23 ตุลาคม 2551 เวลา:14:58:15 น.  

 
แวะมาอ่านค่ะ เพ็งกับจอคอมจนปวดตา ด้วยอายุมากแล้ว อิอิ
อีเมลล์ไปสอบถามกับคุณศรีสุรางค์ ได้รับคำตอบเรื่องหนังสือแล้ว
ตอนนี้ก็โอนเงินไปให้แล้วนะคะ รอหนังสือมาถึงมือจะได้อ่านแบบสบาย ๆ


โดย: sanrak IP: 203.149.16.35 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:43:12 น.  

 
emo

คุณ sanrak - ขอบคุณมากเลยค่ะที่แวะเข้ามา
หวังว่าจะได้รับหนังสือแล้วนะคะ ^ ^


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:16:53 น.  

 
อยากได้ไว้อ่าน ไม่ทราบว่ามีจำหน่ายไหมค่ะ นายอินทร์ไม่มีจำหน่ายแล้ว ช่วยตอบด้วนนะค่ะ

j_onnicha@hotmail.com


โดย: onnicha IP: 58.9.105.228 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:25:00 น.  

 
emo

หนังสือยังมีค่ะ
อีเมล์ตอบไปตามแอดเดรสที่ให้มาแล้วนะคะ
ขอบคุณมากที่สนใจหนังสือค่ะ


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:29:43 น.  

ศรีสุรางค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]












visit me at:
Srisurang's book recommendations, liked quotes, book clubs, book trivia, book lists (read shelf)




ประวัติผลงาน





สงวนลิขสิทธิ์

การนำส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของงานเขียนในเว็บนี้ ไปเผยแพร่ ดัดแปลง เสนอขาย โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
Srisurang's bookshelf: read

หัวใจที่ถูกจอง รักนี้ (ไม่) มีสตรอว์เบอร์รี รวมมิตรแต้พานิช มายานาง เจ้าดวงใจ คนในผ้าเหลือง A Man in Saffron Robes

More of Srisurang's books »
Book recommendations, book reviews, quotes, book clubs, book trivia, book lists

My Goodreads bookshelf

Dream Lake
Rose
เหยื่ออธรรม
ประมูลหัวใจ
Something About You
ปทมาศวรรย์
อานาปานสติ วิถีแห่งความสุข
Celebrity in Death
The Madness of Lord Ian Mackenzie
รักหลงฤดู
สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่ เล่ม 1
จิตสดใสแม้กายพิการ
Love me, please...เพียงรักฝากใจ
พระสูตร ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ภาค๑ และอรรถกถา Tipitaka The Pali Canon (Thai Translation) Book 15
Born in Sin
Dark Desire
ตุ๊กตา
นาคราช
ทวิภพ
Red River, Vol. 8


Srisurang's favorite books »
Friends' blogs
[Add ศรีสุรางค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.