" หากเพลงหนึ่งเพลงใดที่ทำให้ใจไหวหวั่น อยากรู้นักเพลงนั้นใครกันช่างบรรเลง " วลีสั้นๆที่ทำให้ฉันแอบฝันเอาไว้ในใจว่า สักวันนึงหากโอกาสเป็นของฉัน จะลองตามหาเสียงเพลงแผ่วเบาเพลงนั้นให้จงได้ ......คืนวานก่อน ฉันเลยได้ไปเยือนถนนเส้นนึงของกรุงเทพที่ไม่เคยหลับใหล ฉันฝ่าการจราจรที่ติดขัด แบบไม่มีเหตุผล เป้าหมายของคืนวันนี้ ฉันมีนัดกับนักแซ็กโซโฟนมือฉมัง อันดับต้นๆของเมืองไทย ที่ค่ำคืนนี้เขาคนนั้นเป็นเจ้าบ้านเปิด Saxophone pub ต้อนรับทุกคน บาร์เล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในความอึกทึกครึกโครมของย่าน อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ย่านที่ตื่นตาด้วยรถลาและแสงสีจากไฟประดับอาคาร ฉันแต่งตัวลำลอง สบายๆตามรอบที่เลือกมาชม 18.00 น. นาทีนี้ความมืดเข้าปกคลุมไปทั่วบริเวณที่จัดงาน ฉันยืนมองแสงไฟประดับร้านอยู่ฝั่งตรงข้าม ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ทำให้ฉันตื่นจากภาพฝันตรงหน้า "อ้าว...หวัดดีจ๊ะ น้องเปิ้ล ป่ะ เดี๋ยวพี่โก้ พาเข้าไปข้างใน " นั่นหล่ะเจ้าของงานในวันนี้ เขาเดินมาจูงมือฉันเดินเข้าร้านไป เดินผ่านประตูไม้มองดู ภายในช่างอบอวลไปด้วยความเป็นกันเอง... บนเวที เด็กชายวัยรุ่น 2-3 คน กำลังขับกล่อมผู้คนด้วยเครื่องทองเหลืองที่ฉันไม่ค่อยสันทัดในเรื่องชื่อของมันเท่าไหร่เลยคิดเอาว่ามันเป็นตระกูลเดียวกันกับ แซ็กโซโฟนเป็นแน่แท้ รูปร่างแปลกประหลาดของมัน คล้ายๆ หอยงวงช้าง ซะมากกว่าจะเป็นเครื่องดนตรี บทเพลงของทั้ง 3 หนุ่มแม้ฉันจะไม่คุ้นหู แต่ก็ไม่เคอะเขินที่จะปรบมือให้เมื่อเพลงจบลง ส่วนเจ้าของงาน ไม่รู้ประหม่า ตื่นเต้น รึอะไรกันแน่ ฉันเห็นเขาเดินเข้าๆออกๆในร้านนอกร้าน อยู่เป็นนิจ สัดส่วนของงานแบ่งออกเป็น 2 รอบการโชว์ ในรอบ 18.00 น. สำหรับน้องๆในวัยที่ยังไม่เหมาะกับสถานบันเทิงยามค่ำคืน แต่สำหรับหลายคนที่ต้องการมีน้ำเมาอยู่เป็นเพื่อนก็ต้องเลือกในรอบ 23.00 น. เมื่อจบโชว์ของสามหนุ่ม พี่โก้ก็ขึ้นไปเซ็ทอัพ มือเบสยังคงเป็นพี่จิ๊บ มือกีตาร์ เป็นพี่หยาม แห่งทาเคชิแบนด์ ส่วนมือกลองและคีย์บอร์ด หน้าไม่คุ้นแฮะ... แรกๆฉันเลือกที่จะยืนตรงที่พี่โก้เอาฉันมากองไว้ ตอนนั้นเองฉันก็ได้เห็น พี่อ๊อด เดินเข้ามาในร้าน ( หากยังจำกันได้ พี่อ๊อด คนนี้หล่ะที่เคยปรากฏตัวที่งาน TK Park ) พี่อ๊อดมาหาพี่โก้นิดหน่อย เพราะพี่โก้พึ่งหายเข้าไปทางหลังร้านเมื่อสักครู่นี้เอง ทางร้านจึงหาที่หาทางให้พี่อ๊อดได้นั่ง แล้วเพลงแรกเริ่มเมื่อตอน เวลาล่วงเลยมาตามที่กำหนดไม่มากนัก อย่างน้อย(ก็เคยรักกัน) - พี่โก้ขนความสุขในเสียงเพลง จากตัวตนคนดนตรีที่สั่งสมประสบการณ์มานาน เริ่มกันด้วยหลายๆเพลงที่คุ้นหู อย่าง Memory of you , A Love To Remember, Retro nouveau , You are my inspiration , Swingin' ,อย่างน้อยก็เคยรักกัน, แววตา, 3 in 1 ฯลฯ แทรกกับการทักทายพูดคุย พร้อมรอยยิ้มที่ส่งไปทั่วงาน (เสียดายที่เจ้าของเสียงเพราะๆในเพลง Just a game ไม่สามารถมาร้องให้ฟังในงานนี้ได้) ตลอดงานก็อัดแน่นไปด้วยเพลงดีๆ ดนตรีสดที่แน่นปึก พอพี่โก้แนะนำนักดนตรีแต่ละคนก็จะมีเสียงหวีดร้องจากลูกศิษย์ลูกหาส่งเสียงกันเกรียว แถมงานนี้มีโชว์ดีไม่มีชาร์ตจากนักดนตรีชั้นเซียนอย่างพี่ๆวง Infinity อย่าง กัปตันโลมา ที่ขึ้นมาโซโลกีตาร์ ยังมีมือเบส อ.แป๊บ วิโรจน์ สถาปนาวัตร ขึ้นมาร่วมแจม เล่นกันแบบไม่ยั้ง ฟอร์มของวงตรงหน้าฉันเล่นได้สุดยอดจริงๆ ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นขั้นเทพเล่นให้ดู แถมท้ายพี่โก้ปลุกโน๊ตจากน้องๆ ลูกศิษย์ตัวน้อย 3 คน ที่พี่โก้ปลุกปั้นมากับมือขึ้นมาร่วมแจมในเพลง Mr.Saxman ฉันเห็นกล้ามเนื้อมัดเล็กๆกำลังกดโน๊ตเพลง ส่วนลีลาก็ใช่ย่อย พริ้วไหวตามฉบับรุ่น (ใจ) ใหญ่ เรียกเสียงปรบมือดังลั่นร้านเลยทีเดียว จุใจกับลีลาของทั้งขั้นเทพและรุ่นใหญ่ไปแล้ว เวลาก็ล่วงเลยมา 2 ทุ่มกว่าๆแล้ว พี่โก้ต้องปิดท้ายงานเพื่อให้น้องๆได้กลับบ้านไปพักผ่อน ส่งท้ายกันในเพลงที่ทำให้ทุกคนรู้จัก โก้ Mr.Saxman ในเพลง ภาวนาและเพราะเธอใช่ไหม.... " โก้ขอขอบคุณทุกๆคนครับ" คำขอบคุณสั้นจากเจ้าของงานวันนี้ ส่งพวกเรากลับบ้าน เมื่อออกมานอกร้าน คล้อยหลังฉันไม่นานพี่โก้ก็ออกมาพบกับบรรดาผู้คนที่เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ คำทักทายเล็กๆน้อยๆที่พี่โก้ส่งไปยังทุกคนที่อยู่ตรงหน้า มันช่างอบอุ่นในความรู้สึกของฉันเหลือเกิน ฉันหันไปมองเสื้อแบบเดียวกับที่พี่โก้ใส่ ถามไถ่หาไซส์ แต่หามีไม่ จึงได้แต่เก็บความผิดหวังเอาไว้ " เดี๋ยวไปเอาที่โรงเรียนพี่โก้ซิ" ชายคนที่มอบความสุขและรอยยิ้มให้ฉันมาร่วมสองชั่วโมง เดินมากระซิบ...ฉันได้แต่ยักหน้า แต่ไม่กล้าไปรบกวนถึงที่โรงเรียนแน่ๆ มองบนโต๊ะเดียวกันฉันเห็นซีดีอัลบั้ม The Sound Of Saxman และซีดีของพี่หนึ่ง จักรวาล วางเคียงข้างกัน รู้ไหมว่าฉันเห็นอะไรบนโต๊ะนอกจากซีดีและเสื้อ ฉันเห็น มิตรภาพ ความรัก และความจริงใจต่อกัน เรียงกันแน่นจนไม่มีเนื้อที่ให้ความผิดหวังใดๆเข้ามาเบียดเบียนได้... ท้ายเรื่อง เมื่อชีวิตคนๆหนึ่งเกิดขึ้นมักหายไปในช่วงเวลาที่สั้นมาก ในเวลาอันยาวนานของจักรวาล สั้นเสียจนแทบว่างเปล่าไม่มีความหมาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความสำคัญเหลือเกินว่า " เราได้ใช้ชีวิตนี้อย่างไรให้มีความสุข" แม้ตอนมาถึงจะฉันจะบ่นว่าหิวแค่ไหน...ร่วมสองชั่วโมงความหิวหายไปอย่างปลิดทิ้ง...ฉันกลับอิ่มเอมเสียมากกว่า ความสุขที่เคยนอนคุดคู้อยู่ในหัวใจฉัน เมื่อกลับออกมา ความสุขเหมือนได้ฟื้นตื่นขึ้นอีกครั้ง ดูมันจะเริงร่าเสียจริง ไม่มีคำนิยามกับเวลาที่ไหลผ่านไป ฉันเพียงตักตวงความสุขเอาไว้ให้มากที่สุด เมื่อวันนึงที่ต้องทุกข์ ขอแค่ความสุขจะเหลือเผื่อให้ใจที่เจ็บได้เก็บไปรักษา บ้างก็เป็นพอแล้วสำหรับฉัน...ในวันนี้ ปล.รูปสวย ๆ แนะนำดูเพิ่มเติมได้ที่ KOH Mr.Saxman : the Sound of Saxman Video จากพี่ ๆ เวบจิกกะบาล Koh @ Saxophone ร้อยเรียงเรื่องราว โดย ช้างน้อย นำเสนอ โดย บูเก้ Apple & Bouquet Productions...
พี่โก้น่ารักเหนอะ.....
ขอบคุณนะค่ะที่...เอาความรู้สึกดีๆมาแบ่งปัน....