พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
16 พฤษภาคม 2553
 
 
ละคร ดอกรักริมทาง ตอนที่ 7

ตอนที่ 7
ป้าอุ้งพาเจนจิราออกไป อู๊ดวิ่งตามไปร้องเรียกป้าอุ้ง แต่ป้าอุ้งไม่สนใจ ปิดประตูปัง อู๊ดทำท่าหงุดหงิดโดยลืมไปว่าปฐวียังอยู่ในห้องน้ำด้วย ซึ่งปฐวีไม่สนใจถอดเสื้อผ้าออกและลงไปนั่งในอ่างอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว แต่เพราะแขนยังไม่หายดีจึงไม่สามารถอาบได้ถนัดนัก สุดท้าย อนุสร์ในคราบอู๊ดก็ต้องมาช่วยด้วย ความจำใจ

ระหว่างที่อู๊ดช่วยถูหลังและเช็ดตัวให้นั้น ปฐวีก็เริ่มรู้สึกถึงความใกล้ชิดและหายใจไม่ทั่วท้อง ยิ่งพออู๊ดมาช่วยติดกระดุมเสื้อให้ ใบหน้าที่ห่างกันแค่คืบของทั้งคู่ทำให้ปฐวีเริ่มรู้สึกอึดอัดและร้องห้ามไม่ให้อู๊ดทำต่อ ปฐวีจับมืออู๊ดรู้สึกหวิว ๆ ขึ้นมาอีก

“มือแกเล็กจัง อย่างกับมือผู้หญิง”

อู๊ดตกใจได้แต่มองหน้าปฐวี พูดไม่ออก

“เล็ก แล้วก็นุ่มด้วย”

ปฐวีจับมืออู๊ดและเริ่มเคลิ้มแต่แล้ว ก็รู้สึกตัวรีบทิ้งมืออู๊ดลง ก่อนจะขอบใจแบบห้วน ๆ และเดินหนีไปพยายามสลัดความคิดบ้า ๆ ของตัวเอง

ด้านพัดชา ธัญญ์โทรฯ มาหาและไม่ยอมพูดอะไรแต่ให้ฮั่งตู๋พูดแทน พัดชาได้ยินเสียงฮั่งตู๋ก็ดีใจมาก ก่อนที่ธัญญ์จะเอาโทรศัพท์กลับมาคุยต่อเอง ธัญญ์เอาฮั่งตู๋มาอ้างเพื่อนัดพัดชาออกมาข้างนอก พัดชาออกมาเจอกับธัญญ์ที่สวนสาธารณะโดยพาปุ้งกี๋ หมาที่เลี้ยงไว้มาด้วย

“ท่าทางคุณคงสนิทกับอู๊ดมาก ฮั่งตู๋ ถึงได้ไว้ใจคุณขนาดนี้ เมื่อคืนคุณยังไม่ได้ตอบฉันเลย ว่าคุณไปสนิทสนมกับอู๊ดได้ยังไง”

“ความจริงผมเป็นเพื่อนกับอนุสร์ เจ้าของฮั่งตู๋ เจ้านายเก่าของอู๊ดมันน่ะ”

“อนุสร์...อนุสร์ พัฒนปรีดี ที่พี่วี ตามหาตัวอยู่น่ะเหรอคะ แล้วตอนนี้เค้าอยู่ที่ไหนคะ”

“เค้าอยู่ในที่ที่ใครก็นึกไม่ถึงน่ะครับ”

เวลาเดียวกันนั้นอู๊ดกำลังทำหน้าที่ดูแลปฐวีตามที่ป้าอุ้งสั่งเพื่อเป็นก้างขวางคอเจนจิราโดยไม่รู้ตัว อู๊ดเห็นเจนจิราเอาใจปฐวีจนออกนอกหน้าก็เกิดอาการหมั่นไส้ ยิ่งปฐวีไล่ให้ไปทำอย่างอื่น อู๊ดเลยงอนเดินหนีไปโวยวายอยู่คนเดียวห่าง ๆ

“เชอะ มาทำเป็นป้อนโน่นป้อนนี่เอาใจ คอยดู๊ ถ้าคุณวีกินขี้มือหล่อนเข้าไปแล้วท้องร่วงจู๊ด ๆๆๆๆ จะหัวเราะให้ฟันร่วง”

อู๊ดอดไม่ได้หันไปมองเจนจิราที่กำลังป้อนขนมป้อนน้ำชาให้ปฐวี ยิ่งทำให้รู้สึกหมั่น ไส้เดินหนีออกไปนอกบ้าน ระหว่างนั้นธัญญ์พาฮั่งตู๋มาถึงที่บ้านพอดีพร้อมกับพัดชา อู๊ดรีบวิ่งไปรับด้วยความดีใจ

“พี่พาฮั่งตู๋มาส่งให้แล้ว ดูแลให้ดี ๆ ล่ะ อย่าให้ใครมาขโมยไปได้อีก”

“ครั้งนี้ถือว่าโชคดีนะ ถ้าฮั่งตู๋ไม่ได้ไปเจอพี่ธัญญ์เข้า ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเตลิดไปถึงไหน”

“ถ้าหากวันไหนอู๊ดไม่ว่าง จะฝากให้ฉันช่วยดูฮั่งตู๋ก็ได้นะ ฉันยินดี” พัดชาอาสา

ธัญญ์แอบมองพัดชา “ใช่ ๆ ถ้าวันไหนไม่ว่าง บอกพี่ได้เลย พี่จะมารับฮั่งตู๋ไปส่งบ้านคุณพัดชาให้”

ทั้งสามคนคุยกันอย่างมีความสุขขณะที่สิทธิศักดิ์ซึ่งแอบดูอยู่ด้านนอกฟังอยู่ด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะโทรฯ ไปเล่าให้จิตรีฟังด้วยความแค้น ระหว่างนั้นจิตรีบังเอิญลองเสื้ออยู่ในร้านเดียวกันกับปวีณาพอดี ปวีณาจึงได้ยินบทสนทนาทั้งหมดว่าจิตรีกำลังต้องการกำจัดฮั่งตู๋ ปวีณารีบกลับมาเล่าให้ปฐวีฟัง

“ไม่น่าเชื่อ พี่จิตรีน่ะเหรอครับ ให้คนมาลักตัวฮั่งตู๋ เค้าจะทำไปทำไม”

“ไม่รู้..แต่พี่ได้ยินแบบนั้นนี่”

“แต่มันไม่มีเหตุผลเลยนี่ครับ พี่ณา ถึงพี่จิตรีจะไม่ชอบหมา แต่ก็ไม่เห็นน่าจะต้องลงทุนทำถึงขนาดนี้ แล้วอีกอย่าง ฮั่งตู๋ก็อยู่กับเราที่นี่ ไม่ได้ไปรบกวนอะไรเค้า”

“พี่ได้ยินคุณจิตรี พูดถึงเรื่องพินัยกรรมอะไรซักอย่างด้วย เห็นเค้าพูดว่าคนที่ชื่ออนุสร์ กำลังหาพินัยกรรม..มันอาจจะเป็นไปได้ไหม วี ว่าฮั่งตู๋เป็นกุญแจสำคัญที่จะบอกได้ว่าพินัยกรรมอยู่ที่ไหน”

เวลาเดียวกันนั้นฮั่งตู๋ซึ่งกำลังเล่นอยู่กับปุ้งกี๋ก็กำลังเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ปุ้งกี๋ฟังเช่นกัน

คืนนั้นอู๊ดยังคงงอนปฐวีไม่หาย แต่เมื่อทินกรกับหนึ่งมาเยี่ยมและถามถึงเรื่องงาน อู๊ดจึงฉวยโอกาสไปช่วยงานที่บริษัทเพราะจะไปหารูปต่อ หนึ่งว่าให้อยู่ช่วยปฐวีที่บ้านดีกว่า อู๊ดเลย ได้โอกาสประชดเรื่องเจนจิราขึ้นมา ทั้งสองต่อล้อต่อเถียงกันแบบพ่อแง่แม่งอนจนหนึ่งกับทินกรอดขำไม่ได้ เมื่อถูกลูกน้องแซวเรื่องอู๊ดทำให้ปฐวีเริ่มเครียดขึ้นมาอีกกับความรู้สึกของ ตัวเอง

คืนนั้นเมื่ออู๊ดเข้ามาเตรียมของให้อย่างเคย ปฐวีก็มีท่าทางแปลก ๆ ก่อนจะไล่อู๊ดออกไป อู๊ดแกล้งปิดประตูเสียงดังประชด ปฐวีอดหันกลับไปทะเลาะกับอู๊ดต่อไม่ได้ แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของทินกรกับหนึ่งขึ้นมาก็เริ่มสยอง ไม่ยอมรับความรู้สึกที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

“ไม่! เราไม่ได้รู้สึกกับไอ้อู๊ดแบบนั้น มันอาจจะเป็นเพราะอุบัติเหตุ หัวเราอาจจะกระแทกพื้นแรงเกินไป เราคงจะไม่สบาย เราต้องไปหาหมอ..เราเป็นผู้ชาย เราจะไปรู้สึกอย่างนั้นกับไอ้อู๊ดได้ยังไง..เรารักเจน เรากำลังจะแต่งงานกับเจน เราจะคิดบ้า ๆ แบบนั้นได้ยังไง”

ปฐวีวุ่นวายใจมากถึงขนาดเอากลับไปฝันถึงว่าตัวเองแต่งงานกับอู๊ด โดยมีนวลจันทร์กับปวีณาตามมาร้องไห้คร่ำครวญขอร้องให้เปลี่ยนใจ และเจนจิราโกรธเขามาก ปฐวีร้องโวยวายลั่นห้องก่อนจะตื่นขึ้นมา

“มันเป็นแค่ฝันร้าย มันไม่ใช่ความจริง เราไม่ได้เป็นแบบนั้น เราไม่ได้ชอบไอ้อู๊ด เราไม่ได้ชอบผู้ชาย”

ปวีณากลับไปเล่าเรื่องของจิตรีให้นวลจันทร์ฟังหลังจากบอกปฐวีแล้วดูท่าทางน้องชายจะไม่เชื่อ ปวีณาคิดว่าปฐวีคงจะหลงเจน จิราจนหูหนวกตาบอด นวลจันทร์เองก็ขัดใจไม่แพ้กัน

“ไม่ได้เรื่องเลย เออนี่ ยัยณา ถ้าคนที่ชื่ออนุสร์เค้ากำลังหาพินัยกรรมอยู่ ก็หมายความว่ายัยจิตรี แกได้สมบัติมาอย่างไม่ถูกต้องน่ะสิ ใช่ไหม”

“ณาคิดว่าอย่างนั้นค่ะ คุณแม่”

“อ้าว แล้วบ้านของยัยจิตรี ที่ตาวีไปซื้อมา มันจะมีปัญหาไหมนี่”

“มีแน่ค่ะ ถ้าหากลูกสาวคุณอรรณพเค้าหาพินัยกรรมเจอเมื่อไหร่ ยัยจิตรีคงต้องคืนทุกอย่างให้เค้าไป คราวนี้ล่ะ คงเดือดร้อนถึงตาวีแน่ ๆ”

“เข้าข่ายรับซื้อของโจรสินะ แล้วเราจะทำยังไงกันดีเนี่ย เห็นทีจะอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ซะแล้ว”

เวลาเดียวกันนั้นจิตรีก็กำลังหัวเสียที่ตามหาตัวอนุสร์ไม่เจอ สิทธิศักดิ์คิดว่าอนุสร์คงกำลังตามหาพินัยกรรมอยู่ แล้วจิตรีก็คิดได้ว่าน่าจะเป็นฝ่ายตามหาพินัยกรรมด้วย เพราะหากหาเจอก่อนอนุสร์ก็ไม่สามารถทำอะไรจิตรีได้อีก

ปฐวีกลุ้มใจกับความรู้สึกแปลก ๆ ของตัวเองมากจนต้องแอบออกจากบ้านไปหาหมอเองคนเดียวทั้ง ๆ ที่มือยังไม่หายดี

“อาการแบบนี้ไม่มียารักษาหรอกครับ มันไม่ใช่โรค”

“ต้องใช่สิครับ ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ผมเพิ่งเป็นเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ผมอาจจะไปติดใครมาก็ได้ คุณหมอต้องรักษาผมให้หาย”
“คุณปฐวีครับ ใจเย็น ๆ ครับ จริงอยู่ว่าอาการเบี่ยงเบนทางเพศเป็นเรื่องผิดปกติหลายคนที่หมอพบไม่อยากให้ตัวเองเป็น แต่มันไม่ใช่ไข้หวัดนะครับ มันไม่มียารักษาให้หายได้”

“แต่ผมต้องหาย ผมไม่ต้องการเป็นแบบนี้ หมอเข้าใจไหมครับ ผมยอมทุ่มไม่อั้น หมอจะคิดค่ารักษาแพงแค่ไหนก็ได้ แต่-ผม-ต้อง-หาย”

“คุณปฐวีครับ การปฏิเสธตัวเอง การต่อต้าน ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหานะครับ..หมออยากให้คุณทำใจสบาย ๆ แล้วก็ยอมรับ..สังคมตอนนี้ก็เปิดกว้างมากขึ้นแล้ว การเป็นเกย์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดนะครับ”

ปฐวีร้องออกมาอย่างขัดใจแล้วเดินออกจากห้องไป เมื่อพยาบาลส่งใบนัดให้อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ปฐวีก็โวยวายบอกว่านานขนาดนั้นเขาคงฆ่าตัวตายไปก่อนแล้ว ระหว่างนั้นมีนาซึ่งมาที่โรงพยาบาลพอดีเห็นปฐวีแล้วก็แปลกใจ พอเก็บใบนัดได้และเห็นว่าเป็นแผนกจิตเวชมีนาตกใจมากรีบไปบอกให้เจนจิรารู้ทันที เจนจิราไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่มีนาก็ยุยงให้เช็กก่อนเพื่อความแน่ใจ

ที่บ้านพัฒนปรีดีอู๊ดลงมือทำเนื้อตุ๋นเมนูเด็ดด้วยตัวเองหลังรู้ว่าปฐวีชอบกิน ป้าอุ้งเองเห็นหน้าตาแล้วก็เชื่อว่าอู๊ดคงจะทำอร่อยจริง ๆ จึงสั่งให้อุ่นไว้รอปฐวีกลับมา ครู่เดียวปฐวีก็กลับมาพร้อมกับหนังสือ แบบทดสอบเกย์ และพยายามตั้งสติตัวเองให้อยู่ห่างจากอู๊ดไว้ แต่แค่ก้าวเข้ารั้วบ้านมาเขาก็ต้องเจอกับอู๊ดเข้าอย่างจัง ปฐวีสะดุ้งจนทำหนังสือหล่น อู๊ดจะช่วยเก็บ ปฐวีก็รีบเก็บก่อนจะเดินหนีเข้าบ้านไป

อู๊ดเดินหน้ามุ่ยเข้าบ้านมา เมื่อป้าอุ้งถามอู๊ดก็ว่าไม่รู้ปฐวีเป็นอะไรพอเห็นหน้าก็รีบเดินหนีไปเลยไม่กล้าถาม ป้าอุ้งเห็นว่าเที่ยงกว่าแล้วจึงให้อู๊ดยกขึ้นไปให้บนห้อง ระหว่างนั้นปฐวีกำลังเอาหนังสือขึ้นมาเพื่อลองทำแบบทดสอบเกย์ เมื่ออู๊ดยกอาหารเข้ามาให้ปฐวียังมีท่าทางมึนตึงไล่อู๊ดออกไป จนเจนจิรามาจึงรีบไล่อู๊ดแล้วใช้เจนจิรา เป็นเครื่องทดสอบ

“ตกลงว่าวีเป็นอะไรคะ”

“เปล่า ไม่ได้เป็น ผมสบายดี”

“สบายดีแล้วไปหาหมอทำไมคะ หมอโรคจิตด้วย ไม่ใช่หมอธรรมดา”

“ก็..คืองี้ ผมน่ะไปหาหมอเพราะเจ็บมือ แต่ยัยป้าพยาบาลคนนั้นน่ะสิ แกแก่แล้ว หูคงจะไม่ดี แกเลยส่งผมไปผิดที่..คิดดูซี คนเจ็บมือแท้ ๆ ดันส่งไปหาหมอโรคจิต บ้าชะมัด”

“จริงเหรอคะ”

“จริงสิจ๊ะ นี่ผมเห็นว่าแกแก่แล้วนะ เลยไม่อยากจะเอาเรื่อง กลัวบาป เจนไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ ผมปกติดีไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย”

“แน่นะ”

“แน่สิจ๊ะ ผมน่ะถ้าจะบ้า ก็บ้ารักเจนนี่แหละ จุ๊บ ๆๆๆ”

ปฐวีทำเป็นนัวเนียเจนกลบเกลื่อน แต่เจนจิรายังระแวงไม่ไว้ใจ ที่หน้าห้องอู๊ดยังถือถาดเนื้อตุ๋นแอบฟังอยู่พอได้ยินเสียงปฐวีฉอเลาะเจนจิราแล้วก็รู้สึกหมั่นไส้

จิตรีเครียดเรื่องพินัยกรรมอีกฉบับมากจน ต้องเรียกทนายมาคุยด้วยเพื่อยืนยัน ทนายเองก็ไม่รู้ว่ามีพินัยกรรมอีกฉบับและเริ่มกลัว เพราะหากมี จริง ๆ เขาก็ต้องติดร่างแหไปด้วยเนื่องจากรู้เห็นการทำพินัยกรรมโดยผิดกฎหมาย สิทธิศักดิ์กลัวว่าทนายจะปากโป้งจึงขู่ว่าจะจัดการ ระหว่างนั้นปวีณากับนวลจันทร์แอบฟังเรื่องทั้งหมดอยู่อย่างสนใจ

“นังอนุสร์มันยังหาพินัยกรรมไม่เจอ เป็นไปได้ว่า มันเองก็ยังไม่รู้ ว่าพินัยกรรมซ่อนอยู่ที่ไหน”

“ผมนึกไม่ออกจริง ๆ ก่อนตายไอ้อรรณพมันไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนเลย มันจะมีปัญญาเอาไปซ่อนที่ไหนได้”

“หรือมันจะตกหล่นอยู่ในบ้านหลังนั้น”

นวลจันทร์ได้ยินเข้าตกใจเผลอปล่อยหนังสือพิมพ์ จิตรีหันไปเห็น ปวีณากับนวลจันทร์มองหน้ากัน หน้าเจื่อน ขณะที่จิตรีลุกมาหาด้วยความระแวง

“อ๋อ คุณแม่กับคุณพี่ของคุณปฐวีนี่เอง นึกว่าใคร สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีค่ะ คุณจิตรีนี่เอง นึกว่าใคร แหม ไม่ทันเห็นเลยนะคะ แม่”

“นี่จะกลับกันแล้วเหรอคะ”

“จะไปทำธุระน่ะค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”

“ธุระ แหม พอดีเลย ฉันกับยัยณาก็กำลังจะไปทำธุระเหมือนกัน จะไปบ้านตาวีน่ะค่ะ”

“คุณแม่กับคุณณากำลังจะไปที่บ้านนั้นเหรอคะ”

“ค่ะ วีเค้าไม่สบาย นอนพักอยู่ที่บ้านค่ะ เลยว่าจะไปเยี่ยมเค้าหน่อย”

“ตอนนี้คุณวีอยู่บ้าน ไม่ได้ไปทำงานหรอกเหรอครับ”

“ค่ะ อยู่ดี ๆ มีคนมาขโมยหมาที่บ้าน ตาวีเค้าออกไปตาม เลยโดนรถเฉี่ยวบาดเจ็บ..คนเดี๋ยวนี้ก็เหลือเกินนะคะ รังแกได้แม้กระทั่งสัตว์ที่ไม่มีทางสู้ ต่ำช้า สารเลวที่สุด”

“อุ๊ย อย่าไปว่าให้เสียปากเลยลูก คนเราก่อกรรมทำชั่วอะไรเอาไว้ เดี๋ยวบาปกรรมก็ตามสนองเองแหละ จริงไหมคะ คุณจิตรี”

จิตรีกับสิทธิศักดิ์กลั้นโมโห ขณะที่ปวีณากับนวลจันทร์ทำไม่รู้ไม่ชี้ เมื่อรู้ว่านวลจันทร์กับปวีณากำลังจะไปที่บ้านปฐวีจิตรีจึงต้องเปลี่ยนแผน นวลจันทร์ปรึกษากับปวีณาแล้วคิดว่าต้องไปเตือนปฐวี เพราะหากพินัยกรรมซ่อนอยู่ในบ้านจริงก็ไม่อยากให้ตกอยู่ในมือคนโกงอย่างจิตรี

เวลาเดียวกันนั้นอู๊ดพยายามจะเอาเนื้อตุ๋นรสเด็ดมาให้ปฐวีลองชิมอีกเมื่อเห็นเจนจิรากลับออกไปแล้ว แต่ปฐวีก็ไม่สนใจบอกว่าทำธุระอยู่และสั่งห้ามกวน อู๊ดกลับออกไปด้วยความผิดหวังไปนั่งปรับทุกข์กับฮั่งตู๋หลังบ้าน

“อุตส่าห์ทำแทบตาย ไม่มีใครสนใจเลย”

ฮั่งตู๋สะกิดแล้วเอียงหัวซบอนุสร์ปลอบ ใจเจ้านาย

“มีแต่ฮั่งตู๋เท่านั้นที่รักเราอย่างจริงใจ คนอื่นอย่าไปหวังเลย จริงไหม ฮั่งตู๋”

ระหว่างนั้นก็มีเสียงกระแอมดังขึ้น อนุสร์สะดุ้งหันไปเห็นปวีณายืนอยู่ อนุสร์ตกใจมาก ขณะที่ปวีณามองรอบตัวอย่างระแวดระวังและบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย ปวีณาเล่าเรื่องที่ฮั่งตู๋ถูกจิตรีลักพาตัวไปเพราะเรื่องพินัยกรรมของอรรณพ อนุสร์ตกใจมากที่ปวีณารู้เรื่องนี้ด้วย

“ผม.. เอ่อ นี่คุณณารู้ได้ยังไงครับ”

“ฉันรู้ก็แล้วกันน่ะ แล้วแกล่ะ รู้หรือเปล่า ว่าพินัยกรรมนั่นมันซ่อนอยู่ที่ไหน”

“ม..ไม่รู้ครับ”

“ตกลงไม่มีใครรู้ซักคน..แต่ยังไงแกก็ระวังตัวนะ ดูแลฮั่งตู๋ให้ดี เพราะฉันสังหรณ์ใจว่า ที่คุณจิตรีเค้าอยากได้ตัวฮั่งตู๋ เพราะฮั่งตู๋ น่าจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่พินัยกรรม”

หลังจากคุยกับอู๊ดเสร็จปวีณาก็ขึ้นไปหาปฐวี แต่เจ้าตัวกลับมัวแต่ยุ่งกับการทำแบบทดสอบไม่สนใจปวีณาที่เคาะเรียกอยู่ด้านนอก จนปฐวีรวบรวมคะแนนเสร็จแล้วพบว่าเขามีแนวโน้มที่จะเป็นเกย์ ปฐวีตะโกนโวยวายไม่ยอมรับ แต่ปวีณากลับเข้าใจว่าปฐวีไม่ยอมเชื่อเรื่องจิตรีก่อนจะเดินปึงปังกลับออกไป

คืนนั้นพัดชาทำขนมจนดึกเพราะตั้งใจ จะเอาไปให้ธัญญ์ชิมอย่างมีความสุข วินัยกับไพลิน ซึ่งแอบดูอยู่เข้าใจผิดคิดว่าลูกสาวคงกำลังอินเลิฟอยู่กับปฐวีตามที่ไพลินวางแผนไว้ แต่วินัยยังไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น เช้าวันต่อมาพัดชาก็เอาไปให้ธัญญ์ชิมก่อนจะเสนอขอเช่าพื้นที่เพื่อเปิดร้านขนมในห้างของธัญญ์

ธัญญ์ยอมตกลงด้วยแต่พัดชาจะต้องเป็นหุ้นส่วนกับเขาเท่านั้น ทั้งสองต่อรองสัดส่วนกันจนลงตัว พัดชาดีใจมากที่จะมีร้านขนมในฝันเป็นของตัวเอง

ด้านปฐวีพยายามที่จะพิสูจน์ความเป็นเกย์ของตัวเองจนถึงกับลงทุนไปค่ายมวย เพื่อทดสอบว่ามีความรู้สึกอย่างไรกับผู้ชายหุ่นล่ำบึ้ก แต่ปรากฏว่าปฐวีกลับไม่รู้สึกอะไรกับผู้ชายพวกนั้นเลย ปฐวียังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองจึงตรงไปที่บริษัทต่อเพื่อพิสูจน์กับทินกรอีกคน

“กับคนแปลกหน้าเราไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าเป็นไอ้ทิน คนที่เราสนิทกับมันมาก ๆ เราจะรู้สึกอย่างที่รู้สึกกับไอ้อู๊ดไหม”
ปฐวีคิดได้อย่างนั้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงดึงทินกรเข้ามากอดแน่น ทินกรตกใจ ขณะที่หนึ่งมองตาเหลือก

“พี่วีครับ พี่วีเป็นอะไรหรือเปล่าครับ พี่วีกอดผมทำไม”

“ปล่อยไอ้ทินเถอะครับ คุณวี เดี๋ยวฟ้าผ่าตายกันพอดี”

“แกอยู่เฉย ๆ ไอ้ทิน”

ปฐวีเอาสองมือประคองหน้าทินกรไว้ แล้ว ค่อย ๆ ก้มเอาหน้าตัวเองลงไปใกล้ จนจมูกเกือบจะแตะจมูกทินกร ทินกรหลับตาปี๋หน้าเหยเกเหมือนจะขาดใจ หนึ่งเอามือปิดตาเพราะทนดูไม่ไหวพร้อมกับร้องห้าม แล้วปฐวีก็ปล่อยมือจากทินกร ขณะที่อีกฝ่ายทรุดฮวบลงกับพื้นจนหนึ่งต้องเข้ามาประคอง

“ไอ้ทิน แกไม่เป็นอะไรใช่ไหม คุณวีไม่ได้ทำอะไรมันใช่ไหมครับ”

“เปล่า ผมไม่ได้ทำอะไรไอ้ทินมันหรอก พี่หนึ่ง ผมไม่ได้นึกอยากทำอะไรมันเลยซักนิดเดียว ถึงผมจะอยู่ใกล้ ๆ มัน แต่ผมกลับไม่รู้สึกอะไรเลย รู้สึกเฉย ๆ ปกติ สบายดี มันเยี่ยมมาก”

ทินกรกับหนึ่งมองปฐวี สงสัยว่าเพี้ยนหรือเปล่า

“เท่านี้แหละ...ขอบใจมาก ฉันไปล่ะ”

ปฐวีตบไหล่หนึ่งกับทินกร ทั้งสองเด้งหนีอย่างระแวง ปฐวีเดินนำออกไป แต่ดันไปชนเข้ากับคนที่เดินสวนเข้ามาอย่างจัง ปฐวีเจ็บมือร้องโอ๊ย อู๊ดรีบเข้าไปประคองไว้

“คุณวี เป็นอะไรมากไหมครับ คุณวี โทษทีครับ ผมไม่ทันเห็นมือเจ็บมากไหมครับ”

“ไอ้อู๊ด...ไอ้อู๊ด! ปล่อย ปล่อยฉัน”

“แต่คุณวีมือเจ็บ ขอผมดูหน่อย”

“ไม่ ไม่ต้อง แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ อย่ามาโดนตัวฉัน” ปฐวีพยายามดิ้นรนหนีออกมาผลักอู๊ด กระเด็น

“ทำไมคุณวีต้องรังเกียจผมขนาดนี้ ผมไม่ใช่ เชื้อโรคนะครับ”

“ทำไมจะไม่ใช่ แล้วนี่แกมาทำไม ใครบอก ให้แกตามฉันมาที่นี่”

“คุณวีลืมยา ป้าอุ้งเห็นว่าคุณวียังไม่หาย เลยให้ผมตามเอายามาให้”

“ฉันหายแล้ว ฉันสบายดี ฉันไม่ได้เป็นอะไร ทั้งนั้น แกเข้าใจไหม ฉันไม่เป็นอะไร ฉันสบายดี จนกระทั่งฉันเห็นหน้าแกนี่แหละ ฮึ่ยย์”

ปฐวีขัดใจเดินปึงปังออกไป อู๊ดโมโหตะโกนตามหลัง

“คุณวีสบายดีที่ไหน คุณวีเป็นบ้า ได้ยินไหม ครับ คุณวีบ้าไปแล้ว เพียงแต่ยังไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง”

ปฐวีหันมาชี้หน้าอู๊ด แล้วเตะถังขยะปลิวหวือก่อนจะเดินออกไป อู๊ดน้อยใจปาดน้ำตาเดินออก ไปอีกทาง หนึ่งกับอู๊ดมองหน้ากัน

“ทำไมพี่วีทำอะไรแปลก ๆ วะ พี่หนึ่ง แล้ว ทำไมเห็นหน้าไอ้อู๊ดแล้วต้องของขึ้นด้วย...”

“ไอ้อู๊ดก็เหมือนกัน โดนด่าแค่นี้ต้องมีน้ำหูน้ำตา น้อยอกน้อยใจอะไรกันนักหนา”

“เจ้านายกับลูกน้องคู่นี้ทำตัวแปลกชะมัด หรือว่าพี่วีกับไอ้อู๊ด ...”

“เฮ่ยอย่า ไอ้ทิน แกอย่าบอกนะ ว่าแกคิดว่าคุณวีเป็น...”

“เกย์”

ทินกรกับหนึ่งพยักหน้าให้กันอยากจะร้องไห้ หลังจากนั้นปฐวีก็ตรงไปหาหมอโรคจิตเพื่อขอให้ช่วย ไม่ฟังเสียงพยาบาลที่ร้องห้ามเพราะมีคนไข้อื่นอยู่

“ผมสับสนไปหมดแล้ว ตกลงผมเป็นอะไรกันแน่ ผมทดสอบดูแล้ว ผมไม่เกิดความรู้สึกอะไร เลยกับผู้ชาย ไม่ว่าคนไหนก็ตาม แต่กับมัน...ผมอยู่ ใกล้มันทีไร ผมต้องรู้สึกอย่างนั้นทุกที”

“มัน!? คุณหมายถึง...”

“ไอ้เด็กอู๊ดที่ผมเล่าให้ฟังไงครับ หมอมันเป็นคนเดียว ที่ทำให้ผมรู้สึก...แต่หมอครับ ผมไม่รู้สึกหยั่งงั้นกับผู้ชายคนไหนทั้งนั้น มันแปลว่าผมไม่ใช่เกย์ใช่ไหมครับ หมอ”

หมอมองปฐวีอย่างหนักใจไม่ทันตอบอะไร คนไข้ชายที่เป็นเกย์หันมายิ้มให้

“คุณครับ คนเรา ถ้าหากเราเจอคนที่ใช่ เราก็จะไม่สนใจใครอื่นอีกทั้งนั้น เกย์ก็ไม่ต่างอะไรกับผู้ชายหรือผู้หญิงปกติทั่วไปหรอกครับ”

“คุณหมายความว่ายังไง”

“ก็หมายความว่า คุณรักเด็กคนนั้น เขาคงจะเป็นรักแรกและรักแท้ในชีวิตเกย์ของคุณ ยินดีด้วยนะครับ”

ปฐวีรับไม่ได้ร้องลั่นห้อง ระหว่างนั้นเจนจิรา กับมีนาที่แอบมาสืบข่าวที่โรงพยาบาลก็เจอเข้าพอดี เจนจิราสงสัยมากว่าทำไมปฐวีต้องมาหาหมอโรคจิต ด้วย

อู๊ดกลับมาปรับทุกข์กับฮั่งตู๋ที่บ้านอีกรอบ พร้อมกับตัดพ้อว่าอยากจะหนีไปให้พ้นจากคนที่ไม่รัก แต่ติดที่ยังหาพินัยกรรมไม่เจอ ระหว่างนั้นอู๊ดก็คิดถึงคำพูดของปวีณาขึ้นมาได้

“จริงสินะ...ฮั่งตู๋อยู่กับพ่อจนวันสุดท้าย ฮั่งตู๋ต้องรู้แน่ ว่าพินัยกรรมซ่อนอยู่ในรูปไหน”

อู๊ดกำลังจะพาฮั่งตู๋ไปที่บริษัทปฐวีด้วยกันแต่ปฐวีกลับมาถึงบ้านก่อนและเรียกอู๊ดไปตกลงด้วย ปฐวีประกาศว่าห้ามอู๊ดเข้าใกล้เขาเกิน 2 เมตร ลำดวนกับป้าอุ้งงงมากกับคำสั่งนี้เมื่อย้อนถามปฐวีก็ไม่มีคำตอบนอกจากไม่อยากให้อู๊ดอยู่ใกล้เท่านั้น

เวลาเดียวกันนั้นสิทธิศักดิ์กับจิตรีก็กำลังปรึกษากันว่าจะหาทางเข้าไปหาพินัยกรรมได้ยังไง ทีแรกสิทธิศักดิ์ตั้งใจจะส่งลูกน้องเข้าไปค้นหา แต่จิตรีไม่เห็นด้วยเพราะกลัวเรื่องจะไปกันใหญ่ แล้วจิตรีก็นึกอะไรขึ้นมาได้

จบตอนที่ 7
เครดิต เดลินิวส์


Create Date : 16 พฤษภาคม 2553
Last Update : 21 พฤษภาคม 2553 9:43:41 น. 0 comments
Counter : 489 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com