ถ้าขจัดความกลัวออกไปได้ ไม่นานความสำเร็จก็จะตามมา
Group ตัวอย่าง
<<
พฤศจิกายน 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
28 พฤศจิกายน 2554
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 21
จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ 9
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๘
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๗
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๖
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๕
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๔
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๓
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๒
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๑
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 32
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 31
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 30
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 29
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 28
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 27
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 26
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 25
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 24
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 23
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 22
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 21
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 20
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 19
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 18
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 17
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 16
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 15
เรื่องสั้น/ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว
นิยาย อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 14
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 13
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 12
เรื่องสั้นตกรอบครับ
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 11
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 10
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 9
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 8
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 7
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 6
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 5
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 4
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 3
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 2
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 1
เรื่องสั้น/คืนวันล่องไหลชั่วกะพริบตา
เรื่องสั้น-ดักไซแห้ง
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 21
เมื่อนึกถึงการสัญจรด้วยการเดินเท้าไปตามถนนหนทางในเมืองกรุงของเราทั้งสองในคราวนั้น ก็อดขำไม่ได้ เพราะเรามักจะข้ามถนนกันอย่างลุงเชยเข้ากรุง กล้า ๆ กลัว ๆ แม้กระทั่งหยุดยืนละล้าละลังอยู่บนทางม้าลายก็มี เป็นเหตุให้เจ้าของรถใจร้อนบางคนไขกระจกยื่นหน้าออกมาตะโกนด่าเสียงลั่น ทว่าไม่นานเราก็ได้เรียนรู้ คือพยายามหาเพื่อนเกาะกลุ่ม พอเห็นเขาก้าวเท้าเดินข้าม เราก็เร่งจูงมือกันเดินตามเขาไปติด ๆ เว้นแต่ตรงไหนไม่ใช่ทางม้าลายผมก็ดึงมือสาวบัวไว้ ไม่ปล่อยให้ข้ามตามไป
สถานที่สำคัญแห่งแรกที่เราสองคนได้มีโอกาสเข้าไปเที่ยวชม คือ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ความงดงามของศิลปวัตถุ และโบราณวัตถุ ที่มีอยู่ตามที่ต่าง ๆ ที่เขารวบรวมนำมาจัดแสดงไว้ในนั้น บางอย่างผมก็เคยศึกษาประวัติความเป็นมาของมันมาบ้างแล้ว ผมจึงบอกรายละเอียดให้สาวบัวฟังได้ เหมือนผู้นำนักท่องเที่ยวหรือไกด์บางคนที่สาธยายให้ลูกทัวร์ของเขาฟังอย่างชนิดน้ำไหลไฟดับได้เหมือนกัน
ภายหลังเดินชมความงามและความยิ่งใหญ่ในเกียรติประวัติของบรรดาศิลปวัตถุเหล่านั้นจนรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจกันแล้ว ผมก็พาสาวบัวเดินไปดูโปรแกรมละครที่โรงละครแห่งชาติ ซึ่งอยู่ใกล้กัน วิญญาณนักแสดงละครที่ติดอยู่กับตัว ฉุดให้ผมคิดถึงความหลัง... คิดถึงเพื่อน ๆ ในชุมนุมดนตรีนาฏศิลป์และการละครที่ วค. ป่านนี้พวกเขาจะได้ออกงานข้างนอกกันบ้างหรือเปล่า? หรือว่าจัดแสดงกันแต่ภายในเพียงอย่างเดียว? เพราะผมเชื่อว่า ตอนนี้สถานการณ์โดยทั่วไปของ วค. ก็คงจะไม่ดีนัก
ต่อจากนั้น ผมพาสาวบัวเดินเข้าไปชมความอลังการของสถาปัตยกรรมไทยภายในวัดพระแก้ว ซึ่งเราได้รับคู่มือการเที่ยวชมจากเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลคนละฉบับ แล้วเราก็เดินซอกแซกไปตามคู่มือนั้นจนทั่ว พร้อมกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่บ้างก็มากันเป็นหมู่คณะ และบ้างก็มากันเป็นคู่ ๆ เหมือนอย่างเราสองคน
ภายหลังผมกับสาวบัวเดินชมพระอารามหลวงชั้นพิเศษแห่งนี้ด้วยความปลื้มปีติในความเป็นไทยไปจนทั่วแล้ว เราสองคนก็ชวนกันเดินย้อนกลับออกมาทางเดิม และข้ามถนนสู่แนวต้นมะขามรายรอบตลาดนัดสนามหลวง ซึ่งภายในตลาดนัดดังกล่าวมีร้านค้าแผงลอยเบียดเสียดกันอยู่เต็มพื้นที่ มีผู้คนเดินเที่ยวและเลือกซื้อสินค้ากันเนืองแน่น
แน่ล่ะ! ภายในสถานที่ที่แออัดยัดเยียดเช่นนั้น ย่อมเป็นบริเวณที่ผมไม่อยากเข้าใกล้เป็นที่สุด...
กลัวถูกล้วงกระเป๋า!
เคยมีคนพูดกันว่า มากรุงเทพฯถ้าไปไหนไม่ถูกก็ให้ตั้งหลักที่สนามหลวง ซึ่งก่อนจะข้ามถนนมุ่งกลับโรงแรมในวันนั้น สิ่งต่าง ๆ ที่ผมได้เห็นก็ทำให้เชื่อได้ว่าคำพูดนั้นถูกต้อง โดยเฉพาะรถเมล์สายหลัก ๆ ส่วนมากจะผ่านมาทางนี้แทบทุกสาย
แต่ทว่าใต้โคนไม้ที่เราเดินผ่าน ไม่มีที่ว่างให้นั่งพักผ่อน ตรงไหนไม่ใช่แผงลอยขายสินค้าก็จะเป็นทำเลของพวกหมอดู ปูเสื่อสาดนั่งทำนายทายทักโชคชะตาราศีอยู่กับลูกค้า หรือไม่ก็เป็นที่ยึดครองของพวกขอทานและคนจรจัดซึ่งนอนซบหน้าอยู่กับพื้นฟุตบาทก็มีไม่น้อย สาระรูปของแต่ละคนช่างดูไม่ได้เอาเสียเลย เสื้อผ้าเนื้อตัวสกปรกมอมแมมยิ่งกว่าผ้าเช็ดเท้า
นรก! ผมนึกในใจ และคิดถึงคำพูดของชายขับแท็กซี่คนนั้นขึ้นมาทันที... เจ้าพวกนี้เอง- เปรตในนรก!
แผ่นดินไทยกว้างใหญ่ไพศาล ทำไมถึงต้องถ่อสังขารมากระจุกตัวกันอยู่ที่นี่?
คิดแล้ว ผมก็จับแขนสาวบัวชวนกันเร่งเดินผ่านไปโดยเร็ว
เมื่อเดินกันมาได้สักหน่อย ก่อนจะเลี้ยวโค้งไปตามถนนหน้าพระลาน ช่วงที่บรรจบกับถนนราชดำเนินในฝั่งตรงข้ามกับศาลหลักเมือง สาวบัวชี้ให้ผมดูตึกโบราณอันใหญ่โตระโหฐาน ที่อยู่เยื้องไปทางขวามือประมาณสี่ร้อยเมตร ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับกำแพงวัดพระแก้วตรงแยกสนามไชย พร้อมกับพูดว่า "ตึกหลังนั้นเก่าจัง มีปืนใหญ่หันปากกระบอกมาทางนี้ด้วย...?"
"ตึกกระทรวงกลาโหม" ผมบอกหล่อน ขณะหยุดยืนและหันมองไปยังตึกหลังนั้นด้วยกัน "แต่เดิมเคยเป็นที่ตั้งวังประทับของพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นจิตรภักดี กรมหมื่นศรีสุเรนทร์ และกรมหมื่นอินทราพิพิธ สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ต่อมาได้ร้างลง แล้วถูกใช้เป็นฉางเก็บข้าวหลวง ครั้นลุถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ทรงโปรดเกล้าฯให้ก่อสร้างเป็น "โรงทหารหน้า" เป็นที่รวมทหารประจำการรักษาพระนคร อาวุธ สัตว์ พาหนะ และเสบียงอาหาร ก่อนจะเปลี่ยนเป็น "กระทรวงกลาโหม" อย่างในปัจจุบัน"
หม้ายสาวหันหน้ามาทางผม พร้อมกับส่งยิ้มมาให้
"ค่ะ อาจารย์"
"เราข้ามถนนกลับโรงแรมทางนี้กันดีกว่า" ผมพูดกับสาวบัวเมื่อเดินเลียบไปตามริมขอบทางเท้ารอบสนามหลวงด้านนอก เลยผ่านหน้าที่ทำการศาลฎีกาซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมาพอประมาณ "ผมจะไปดูรอยกระสุนที่ทหารกราดยิงประชาชนเมื่อเหตุการณ์ ๑๔ ตุลา สักหน่อย เขาว่ายังมีร่องรอยประจานอยู่ตามผนังตึกแถวนั้นด้วย"
ผมชี้ไปที่ตึกสีน้ำตาลที่ตั้งตระหง่านอยู่สองฟากถนนราชดำเนินกล างช่วงที่เลยโรงแรมรัตนโกสินทร์ ขึ้นไป แล้วเราก็จูงมือกันข้ามถนนตรงทางม้าลายก่อนถึงแยกราชินี คือ ถนนราชดำเนินใน ทะลุสู่ถนนราชินี และข้ามต่อไปจนถึงถนนอัษฎางค์ กระทั่งในที่สุดก็ข้ามมาถึงหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีต้นไม้แผ่กิ่งก้านทอดเงาร่มรื่น นอกจากตามผนังตึกบางแห่งที่ปรากฏรอยกระสุนอยู่หมาด ๆ ตามต้นไม้บางต้นก็มีรอยกระสุนที่ทหารยิงใส่ประชาชนให้เราสองคนไ ด้แลเห็นอยู่บ้างเหมือนกัน
๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ เป็นวันมหาวิปโยค เป็นวันที่ชายชาติทหารฆ่าคนมือเปล่าด้วยอาวุธสงครามได้ลงคอ ช่างน่าเศร้าและน่าละอายเหลือเกิน
"หิวไหม"
ผมถามสาวบัวภายหลังข้ามถนนราชดำเนินกลางตรงสี่แยกคอกวัวมาถึงถน นตะนาว ใกล้ปากตรอกถนนข้าวสาร ซึ่งตรงหัวมุมติดซอยดำเนินกลางเหนือมีร้านข้าวแกงและอาหารตามสั ่งอยู่ร้านหนึ่ง ผมมองเห็นไปแต่ไกล
"เราหาอะไรกินกันที่นั่นก็ได้นะ แล้วสักประเดี๋ยวเราจะเดินไปเที่ยววัดบวรฯกันอีก" ผมขอความเห็นจากหล่อน
สาวบัวพยักหน้า
"โรงแรมที่เราพักก็อยู่ไม่ไกลแล้วใช่ไหม? บัวจำได้"
"เก่งมาก" ผมพยักหน้าและส่งยิ้มให้หล่อนด้วยใจจริง เพราะแสดงว่าหล่อนก็เป็นคนช่างสังเกต ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนเรา ผมรักผู้หญิงไม่ผิดเลย ผมคิดในใจ
สาวบัวเหลียวมองผมและยิ้มเขินอาย ขณะเราชวนกันเดินเข้าไปนั่งในร้านอาหารที่ว่า... พร้อมสั่งข้าวราดแกงและแกงจืดเต้าหู้หมูสับมากินกัน
"วัดที่ว่านั้นอยู่แถวไหน" สาวบัวถามผม
"อยู่ตรงนี้- -เห็นไหม?" ผมกางแผนที่ และชี้หล่อนดู "ใกล้วงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่ผมชี้ให้ดูเมื่อครู่นั่นแหละ แต่ที่ผมพาบัวมาทางนี้ เพราะรู้สึกหิว ผมหมายตาร้านอาหารแถวนี้ไว้ตั้งแต่ตอนที่เดินหาซื้อแผนที่เมื่อเช้านั่นแหละ"
"ที่วัดนั้นมีอะไรน่าสนใจบ้างค่ะ - อาจารย์?"
ผมหัวเราะหึ หึ ก่อนขยายความให้ฟังว่า "เท่าที่อ่านเจอมา มีหลายอย่าง แต่สิ่งสำคัญที่ผมอยากเข้าไปชมเป็นภาพเขียนฝีมือจิตรกรไทยสมัย ร.๓ คือ ภาพจิตกรรมฝาผนังของขรัวอินโข่ง"
ขณะที่ผมกำลังบอกกล่าวเรื่องขรัวอินโข่งให้สาวบัวฟัง ก็มีชายหนุ่มหน้าตากระเดียดไปทางเจ๊กยกถาดแกงจืดและข้าวราดแกงเดินมาวางให้เราบนโต๊ะ มองหน้าผมสลับกับสาวบัวแล้วยิ้มทักทาย
"พวกคุณมาจากทางใต้หรือครับ" เขาถามเราด้วยสำเนียงปักษ์ใต้ชัดแจ๋ว พร้อมกับแนะนำตัวเองว่า "ผมอยู่ภูเก็ตครับ"
"อ้าว - -ไอ้บ่าว" ผมร้องขึ้น บอกไม่ถูกว่ารู้สึกดีใจสักขนาดไหน ที่ได้พบเจอคนถิ่นเดียวกัน จึงเผลอส่งสำเนียงท้องถิ่นกับเขาเสียยืดยาว "แล้วมาทำพรือที่นี่ หรือว่าย้ายครอบครัวมาอยู่กรุงเทพฯ..."
"เปล่าครับ ผมมาเรียนหนังสือที่รามฯ ที่นี่เป็นบ้านญาติครับ"
"แหม - เหมือนมีอะไรมาดลใจนะ" ผมว่า "ร้านอื่นมีตั้งเยอะ แต่ผมกลับตั้งใจแวะมาเข้าร้านนี้"
เด็กหนุ่มคนนั้นยิ้มตาหยี
"เชิญตามสบายนะครับ" เขาพูด "มีอะไรจะให้ช่วยหรือแนะนำก็ขอให้บอก ไม่ต้องเกรงใจ ผมยินดีช่วยเสมอครับ"
"ขอบคุณ ขอบคุณ" ผมยิ้มให้เขา
จากร้านอาหารร้านแห่งนั้นมาถึงประตูหน้าวัดบวรนิเวศวิหาร เราเดินกันพอเหงื่อซึมแผ่นหลัง ครั้นเมื่อผ่านซุ้มประตูเข้าไปภายใน ก็รู้สึกร่มรื่น และตื่นตลึงกับความงามของสถาปัตยกรรมไทยอันวิจิตรพิสดารอีกเช่น เคย โดยเฉพาะพระอุโบสถ ที่รูปแบบเป็นอาคารทรงไทยตรีมุข ก่ออิฐถือปูน หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบลูกฟูกแบบจีน บานประตูหน้าต่างด้านนอกแกะสลักไว้อย่างสวยงาม
วัดบวรนิเวศวิหารมีชื่อเดิมว่า " วัดใหม่ " เป็นวัดที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพกรมพระราชวังบวรสถา นมงคล ได้ทรงสถาปนาขึ้น สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงผนวชอยู่ พระองค์ได้เสด็จมาปกครองที่วัดนี้และได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า " วัดบวรนิเวศวิหาร "
ก่อนจะเดินเข้าไปชมภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือขรัวอินโข่งภายในพระอ ุโบสถ ผมได้พาสาวบัวเดินไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าพระตำหนักปั้นหยา พร้อมทั้งเล่าประวัติความเป็นมาให้หล่อนรู้ว่า พระตำหนักองค์นี้สร้างขึ้นในรัชสมัยใด อีกทั้งบอกต่อไปว่า พระมหากษัตริย์ที่ทรงผนวชแล้วทรงประทับที่วัดบวรฯแห่งนี้ จะเสด็จประทับที่พระตำหนักปั้นหยาทุกพระองค์
"นุ้ยเหมาะที่จะเป็นครูบาอาจารย์จริง ๆ "
สาวบัวเอ่ยปากชม แต่ผมกลับรู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับคำชมนั้น...
"ไม่รู้จะได้เรียนต่ออีกหรือเปล่า?"
"อ้าว ก็ไหนบอกว่า เมื่อพ้นกำหนดสั่งพักการเรียน ก็กลับเข้าไปเรียนต่อได้อีกไม่ใช่หรือ?"
"ระเบียบการมันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น" ผมว่า "แต่ระเบียบเกินไม่รู้จะออกหัวออกก้อย"
"มีด้วยรึ-ระเบียบเกิน" หม้ายสาวทำสีหน้าแปลกใจ
"ผมก็ว่าไปเรื่อยอย่างนั้นแหละ" ผมหัวเราะขัน ๆ "มันเป็นลางสังหรณ์หรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมอาจวิตกเพราะเกรงจะไม่ได้กลับเข้าเรียนอีกก็ได้... จริง ๆ นะ บัว ผมนึกสังหรณ์ใจอย่างนี้จริง ๆ "
"นุ้ยห่างห้องเรียน- - แล้วก็ห่างเพื่อมานานนะซี ทำให้คิดมากจนพลอยวิตกกังวล...เราเข้าไปชมภาพเขียนภายในโบสถ์ตา มที่นุ้ยว่ากันเถอะ"
แม่ยอดรักของผมตัดบท ซึ่งก็คงเพราะหล่อนไม่ต้องการให้ผมสับสนวุ่นวายกับเหตุการณ์ที่ อาจเกิดขึ้นในอนาคตจนเกินไปนั่นเอง
************************************************
Create Date : 28 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 8 ธันวาคม 2554 21:00:23 น.
30 comments
Counter : 1247 Pageviews.
Share
Tweet
ยังไม่ได้ตรวจทานนะครับ เดี๋ยวจะกลับมา
โดย:
หลวงเส
วันที่: 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:37:08 น.
------------------------------
แอบมากลางดึก เพิ่งวางมือจากการตัดชุดที่จะใช้แสดงในวันที่5ที่หล่มสัก ยังไม่เสร็จเลย พรุ่งนี้ต้องเร่งต่อ วันนี้ดึกแล้วจะเข้านอนแต่ก็ยังไม่ได้ทักทายเพื่อนๆเลย เลยแอบมาเวลานี้ คิดถึงนะคะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:0:18:29 น.
ขอบคุณคุณหลวงเสที่แวะมาเดินชมตลาดนัดเล็กๆ ค่ะ
บล็อกเอิงพากิน พาเที่ยวอีกแล้ว อายจัง(เฟร้ย) 55+
โดนเพื่อนแซวเหมือนกัน พาคนอ่านเที่ยวกับกินตลอด
เอาขนมปังคริสมาสอิตาเลี่ยน Panettone มาฝากค่ะ
โดย:
diamondsky
วันที่: 1 ธันวาคม 2554 เวลา:16:52:53 น.
เราส่งชื่อในเฟสหลังไมค์ไปแระนะ นานแล้วด้วยอะ
เด๋วว่าจะอัพบล็อกบ้างแระ นานเกิน ติดเฟสงอมแงม
โดย:
วัวป่าหลงเงาจันทรา
วันที่: 1 ธันวาคม 2554 เวลา:18:25:19 น.
ผมไม่พบ ชื่อ ปราย น้ำริน ใน fb นะฮับ
โดย:
หลวงเส
วันที่: 4 ธันวาคม 2554 เวลา:19:48:54 น.
สุขสันต์วันพ่อแห่งชาติค่ะคุณหลวงเส
วันนี้วันสำคัญของพวกเราพี่น้องชาวไทย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ขอร่วมใจลงนามถวายพระพรแด่ในหลวง ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
เอาพาสต้ามาฝากจานนึงค่ะ
โดย:
diamondsky
วันที่: 5 ธันวาคม 2554 เวลา:17:49:48 น.
ปล. แปะรูปผิด อิอิ พาสต้าอยู่นี่ค่ะ
โดย:
diamondsky
วันที่: 5 ธันวาคม 2554 เวลา:17:52:49 น.
- - จะเก็บดาวหนาวนี้ที่บนเขา
- - มาผูกร้อยให้เจ้า...คนเฝ้าบ้าน
- - เป็นกำนัลกำนัยหลอกใช้งาน
- - ฟาร์รนรานไปเที่ยว...นะเดี๋ยวมา....
- - อย่าทะเลาะเบาะแว้ง...แย่งกันรัก
- - มาพิงพักเพิ่มเพาะฉอเลาะหา
- - กลัวยามเบื่อไม่เหลือใคร...เจรจา
- - แล้วน้ำตา..ฟาร์จะหล่น...อยู่คนเดียว....
..................................
โดย:
go far far
วันที่: 8 ธันวาคม 2554 เวลา:12:17:44 น.
สร้างกริตเตอร์
แวะมาทักทายกันค่ะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 16 ธันวาคม 2554 เวลา:9:45:41 น.
มอบบทเพลงแด่คน...ที่ตื่นเช้า
และกับคนปวดร้าว...ไม่สุขขี
อาจมิได้ต่อกลอนอ้อนวจี
ฝากวลีรำพัน...ว่าฉันรู้
ไม่เอ่ยชื่อคนดีหรอกที่รัก
ต้องล้างซักบ้านล่มงานจมหู
ทั้งทาสี.เปลี่ยนดานบานประตู
พร้อมทั้งพรมใหม่ให้ไก่เดิน
เพราะเป็นไก่พันธุ์ดี...ตีชนะ
ต้องเลี้ยงซะเลิศหรูไม่ดูเขิน
"เจ้าพลัง"ฟังเพลงบรรเลงเพลิน
ด้วยบังเอิญ..เจ้าของชอบร้องเพลง
ฟังเพลงนี้ไปก่อนยามอ่อนซ้อม
คู่แข่งพร้อม..ต้องลงนวมร่วมข่มเหง
อาจต้องงดเพลงรำพันใช้บรรเลง
ซ้อมร้องเองเพลงอะไร?บอกใบ้ที
...เอาเพลง...เอากลอน..มาล้อเล่นท่านหลวงเส...ฮะ
โดย:
go far far
วันที่: 17 ธันวาคม 2554 เวลา:12:11:56 น.
คุณ go fa fa ผมกดคอมเมนท์ที่บล๊อกคุณไม่ได้นะ ไม่มีปุ่ม Submit ลองตรวจสอบดูนะ
โดย:
หลวงเส
วันที่: 18 ธันวาคม 2554 เวลา:18:51:33 น.
ขอบจาย ๆ แต่บล็อกคุณผมคอมเม้นท์ไม่ได้ ไม่มีปุ่ม submit ให้กด
โดย:
หลวงเส
วันที่: 18 ธันวาคม 2554 เวลา:19:02:42 น.
ขอบคุณคุณหลวงเสที่แวะมาทักทายค่ะ
ช่วงนี้แถวบ้านเอิงหนาวจริงๆ 1-2c เกือบทุกวันเลย
ไม่ค่อยอยากออกไปไหน บรึ๋ยๆ
ปล. เอาขนมปังคริสมาสมาฝากค่ะ
โดย:
diamondsky
วันที่: 18 ธันวาคม 2554 เวลา:20:50:52 น.
ปล. ว้ากส์ รูปหาย... แปะรูปขนมปังอีกรอบค่ะ
โดย:
diamondsky
วันที่: 18 ธันวาคม 2554 เวลา:20:53:40 น.
อายจัง เราทดลองลงรูปนะ อิอิ ลบไปแระตอนนี้
แอดมาหรือยังอะค่ะที่เฟสบุ๊ค ไม่เห็นเลย เอ๊ะ! หรือแอดมาแล้วนะ
งือๆๆ บอกเราด้วย หลังไมค์ก็ได้ เราไม่รู้ ในเฟสรุนแรงหน่อยนะ แหะๆ
โดย:
วัวป่าหลงเงาจันทรา
วันที่: 18 ธันวาคม 2554 เวลา:21:14:54 น.
สวัสดียามค่ำๆค่ะอัฟblogตั้งแต่เมื่อคืน เพิ่งจะมีเวลาจริงๆมาเยี่ยมก็ตอนนี้ล่ะค่ะ ระลึกถึงเสมอนะคะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:20:21:13 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันพฤหัสบดีค่ะ หลวงเส
โดย:
KeRiDa
วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:9:14:27 น.
.....สวัสดิ์ดีค่ะ
- - ที่คอมเม้นต์ไม่ได้..เพราะหนูยังเขียนไม่เสร็จค่ะ...
- - ตอนนี้เสร็จแล้ว...รอท่าน..แวะไปอ่านและแนะนำหนูบ้าง
- - เรื่องนี้.."คาร์เนชั่นดอกเดียวในดวงใจ"...เป็นเรื่องจริง.ที่หนูระลึกถึงเสมอ
- - หนูเขียนเป็นเรื่องสั้น...ดีมั๊ยค่ะ...(ขอโทษค่ะ)
- - ตั้งใจเก็บเรื่องนี้ไว้....หวังว่าซักวันจะเขียนเรื่องตัวเองและ..
- - เรื่องนี้..เป็นตอนหนึ่งในนั้นค่ะ...(ได้แต่คิด..ไม่ลงมือสักทีเลยค่ะ)
- - รอท่านหลวงเส...ไปเยี่ยมนะคะ..แต่วันนี้หนูต้องไปเมืองกาญจน์ก่อนค่ะ
โดย:
go far far
วันที่: 23 ธันวาคม 2554 เวลา:7:13:14 น.
---------------------------------
สวัสดียามเช้าค่ะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 25 ธันวาคม 2554 เวลา:5:55:43 น.
มาเยี่ยมค่ะ หลวงเส
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:20:39:56 น.
หลังจากกลับจากโรงพยาบาลก็นอนพักผ่อนไปตื่นหนึ่ง ลองนอนต่อก็ไม่หลับ เลยแวะมาส่ง คุณเส เข้านอน หลับฝันดีนะจ้ะ ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นแจ่มใส ราตรีสวัสดิ์ค่ะ อ๊ะ...อย่าลืมปิดไฟก่อนนอนด้วยน๊า
ดีใจจัง หลวงเส กลับมาแล้ว หายหน้าไปไหนเสียหลายวันค่ะ ไม่สบายหรือเปล่า
โดย:
KeRiDa
วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:1:10:15 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์ค่ะ คุณหลวงเส สุข สดชื่น ในวันสุดสัปดาห์นะค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:35:02 น.
ขอบคุณยิ่งครับผม
โดย:
หลวงเส
วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:56:46 น.
ดีใจด้วยนะคะสำหรับความก้าวหน้าของงาน เสร็จเมื่อไหร่ขอจอง 1 เล่มนะคะ พร้อมลายเซ็นต์ด้วย อิอิ
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:23:06 น.
อรุณสวัสดิ์เช้่าวันศุกร์ค่ะ คุณหลวงเส มีความสุึขกับการทำงานในวันนี้นะเจ้าค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:8:45:15 น.
[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]
สวัสดียามเช้าๆของวันเสาร์ค่ะ จะแวะมาบอกว่า ฝากบ้านสักสองวันนะคะ จะไปซื้ออุปกรณ์การแสดงที่ตลาดโรงเกลือ สระแก้วค่ะ ระลึกถึงเสมอค่ะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:7:47:49 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์ค่ะ คุณหลวงเส มีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์นะค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:00:46 น.
- - เอาใจเดียว.เขียวปี๋.มาให้ปลูก
- - เลื้อยไปถูก..ใจเธอ..อาจเผลอเกาะ
- - พี่คงไม่..ใจดำ..ช่วย-ชำ-เพาะ
- - ปล่อยเลื้อยเลาะ..เต็มรั้ว..และหัวใจ
โดย:
go far far
วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:19:01:41 น.
มาทักทายกัน อัฟblogใหม่ไว้เมื่อคืน แต่ไม่ได้ออกเยี่ยม เพลียสุดๆเพราะเมื่อวานไปซื้อผ้าที่พาหุรัดมา วันนี้ช่วงสายๆคงต้องเริ่มตัดเย็บชุดใหม่กันแล้วค่ะ ระลึกถึงอยู่เสมอค่ะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 1 มีนาคม 2555 เวลา:9:30:25 น.
แวะเอาบุญที่ทำในวันนี้มาฝากหลวงเสด้วยค่ะ
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 7 มีนาคม 2555 เวลา:15:22:52 น.
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
หลวงเส
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ดอยสะเก็ด
diamondsky
บ้าได้ถ้วย
ยาชมภู
เกศสุริยง
KeRiDa
วัวป่าหลงเงาจันทรา
nonguide
Webmaster - BlogGang
[Add หลวงเส's blog to your web]
Bloggang.com