ถ้าขจัดความกลัวออกไปได้ ไม่นานความสำเร็จก็จะตามมา
Group ตัวอย่าง
<<
มีนาคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
20 มีนาคม 2554
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 5
จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ 9
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๘
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๗
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๖
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๕
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๔
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๓
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๒
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๑
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 32
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 31
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 30
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 29
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 28
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 27
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 26
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 25
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 24
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 23
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 22
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 21
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 20
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 19
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 18
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 17
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 16
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 15
เรื่องสั้น/ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว
นิยาย อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 14
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 13
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 12
เรื่องสั้นตกรอบครับ
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 11
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 10
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 9
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 8
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 7
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 6
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 5
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 4
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 3
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 2
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 1
เรื่องสั้น/คืนวันล่องไหลชั่วกะพริบตา
เรื่องสั้น-ดักไซแห้ง
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 5
ก่อนที่ผมจะลืมตาดูโลกราว ๆ สามสิบปี ทางเดินแคบ ๆ ที่เลี้ยวลดคดเคี้ยวไปตามไหล่เขาและโขดเนินที่พวกเราอาศัยเดินเท้าสัญจรจากทับนอนไปสู่หน้าเหมืองที่ซุกตัวอยู่ในป่าลึกแห่งนี้กันทุก ๆ เช้านั้น เคยเป็นเส้นทางลำเลียงแร่ดีบุกออกจากเหมืองเพื่อนำไปขายที่ตะกั่วป่ามาก่อน อีกทั้งสินแร่ที่นำไปขายเมื่อก่อนนั้นก็เป็นเนื้อดีบุกล้วน ๆ เพราะผ่านการถลุงเสียก่อนแล้ว ส่วนกรรมวิธีการถลุงเขาจะทำกันอย่างไร คนที่เคยเห็นกับตาตนเองมาจริง ๆ ก็กลับบ้านเก่าไปหมดแล้ว เหลือแต่ชนรุ่นหลัง พวก ลุง ป้า น้า อา หรือพวกรุ่นพี่ ๆ ของผมนั้น ผมไม่สู้มั่นใจนัก เพราะเรื่องราวที่พวกเขานำมาเล่าให้ผมฟัง ส่วนมากก็มักจะใสสีตีไข่ไม่ต่างไปจากผมสักเท่าใด
จึงเอาเป็นว่า ผมขอเล่าไปตามหลักฐานที่ปรากฏก็แล้วกัน!
ซึ่งว่ากันว่าสมัยก่อนมีฝรั่งต่างชาติและจีนมลายู ได้เข้ามาขอสัมปทานทำเหมืองแร่ดีบุกในมณฑลภูเก็ตกันหลายพรรคหลายพวก โดยมีพระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ (คอซิบบี้) สมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการปกครองและจัดเก็บภาษีหัวเมืองปักษ์ใต้สมัยนั้น ได้รับการโปรดเกล้าฯจากล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ให้เป็นผู้กำกับดูแลและจัดเก็บภาษีต่าง ๆ เข้าคลังหลวง รวมทั้งภาษีสัมปทานเหมืองแร่ดีบุกนี้ด้วย
การทำเหมืองแร่ดีบุกในยุคนั้นรุ่งเรืองเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก เนื่องเพราะแร่ดีบุกมีอยู่ทั่วมณฑลภูเก็ต ดังจะเห็นได้ว่าทุกพื้นที่ที่มีการทำเหมือง ก็จะมีร่องรอยประจักษ์หลักฐานยืนยันอยู่แทบทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งกลางป่าลึกในดงเขายา ที่พวกผมดั้นด้นเข้ามาขุดคุ้ยหินทรายค้นหาสินแร่กันอยู่ในขณะนี้ด้วย
หลักฐานที่ปรากฏแก่สายตาผมอย่างแรก ก็คือ เส้นทางสัญจรที่ใช้แรงคนและวัวควายบุกเบิกสร้างกันขึ้นมาไม่ได้มาตรฐานเหมือนกับการก่อสร้างที่อาศัยเครื่องจักรกลเป็นเครื่องทุ่นแรง มันจึงทั้งแคบ ทั้งคดเคี้ยว และสูง ๆ ต่ำ ๆ ไปตามรูปลักษณ์ของพื้นที่ซึ่งมีทั้งหุบเหวและช่องเขาที่คดเคี้ยวไปตามธรรมชาติ ส่วนหลักฐานอย่างอื่น ก็ได้แก่ เครื่องมือเครื่องใช้และภาชนะบรรจุเสบียงอาหาร เศษกระเบื้อง ถ้วนชามรามไห ซึ่งพวกฝรั่งและคนจีนสมัยนั้นนำมาใช้ตกหล่นฝังอยู่ในดิน ตื้นบ้างลึกบ้าง ตามแต่สภาพภูมิประเทศและการเปลี่ยนแปลงของหน้าดินที่เกิดจากสภาพน้ำป่าไหลท่วมทับในบางครั้งคราว
นอกจากนั้น หลักฐานสำคัญที่ทำให้ผมและเพื่อนกลายเป็นเศรษฐีน้อย ๆ กันขึ้นมาในชั่วข้ามวันก็คือ "ขี้ตะกรัน" ซึ่งพวกเราเกิดฟลุ๊คที่ผมเป็นผู้ขุดคุ้ยไปเจอมันเข้าอย่างคาดไม่ถึง เพราะมันกองซุกซ่อนสายตาใครต่อใครอยู่ที่คูส่งน้ำโบราณที่เราอาศัยผันน้ำไปใช้หน้าเหมืองกันมานานจนเกือบครึ่งศตวรรษ และมีจำนวนมากจนเกือบครึ่งคันรถสิบล้อ
"ไอ้นุ้ย-มึงขุดลอกคูน้ำอยู่ตรงนี้นะ กูสามคนจะขึ้นไปกั้นทำนบปิดน้ำเหนือโตนน้ำตก แล้วจะปล่อยน้ำลงมา"
ไอ้บองหลาแนะนำทำความเข้าใจและมอบงานให้ผม เสร็จแล้วมันก็ชวนเพื่อนอีกสองคนขนเครื่องมือ ทั้ง มีดพร้า จอบ และชะแลงสำหรับงัดก้อนหินก้อนโต ๆ เดินตามหลังลับหายกันขึ้นไปบนโตนน้ำตกที่อยู่เหนือขึ้นไปพอกู่ร้องได้ยิน ผมอยู่ข้างหลังก็จัดแจงใช้ชะแลงและจอบขุดแต่งคูน้ำที่มีขนาดกว้างประมาณ 1 เมตร เพื่อรองรับสายน้ำที่พวกนั้นไปสร้างทำนบกั้นและปล่อยน้ำลงมาจะได้ไหลสะดวก ไม่เอ่อท้นออกนอกช่องทาง
มันเป็นคูน้ำเก่าแก่ยุคพวกเจ๊กผมเปียกับพวกฝรั่งตาน้ำข้าวนั่นแหละขุดกันขึ้นมา
ที่ผมรู้ว่าเป็นคูน้ำในยุคนั้น ก็เพราะขุดไปขุดมาผมก็ไปเจอสิ่งของเก่า ๆ เข้าหลายอย่าง เช่น พวกเศษกระเบื้องถ้วยชามลวดลายโบราณ และจอบหูช้างรุ่นเก่าซึ่งโดนสนิมกัดเซาะเว้าแหว่งปากอ้าเหมือนปากไอ้เท่งหนังตะลุง หนำซ้ำบางครั้งยังขุดไปเจอเข้ากับก้อนกรวดที่แข็งผิดธรรมดาเข้าอีก ทำให้มือไม้ถลอกปอกเปิด ปวดแสบปวดร้อนจนแทบจะถอดใจและโบกมือลาเสียให้ได้
แข็งเหมือนเปรต !
ผมนึกสาปแช่งมันอยู่ในใจ ก่อนจะก้มลงหยิบขึ้นมาดู
ก้อนกรวดอะไรวะ- -ดูแปลก ๆ หนักก็หนัก? ผมนึกสงสัย แต่แล้วก็โยนทิ้งน้ำตามเดิม
สักครู่สายน้ำสีขุ่นข้นก็ไหลพุ่งเป็นเกลียวมาตามร่องคูข้างหน้าที่ผมยังขุดลอกไปไม่ถึง และมันก็เอ่อล้นออกด้านข้างทั้งสองด้านอย่างรุนแรง ก่อนจะไหลเข้ามารวมเป็นสายเดียวกันใหม่ แล้วก็ทะลักลงในคูที่ผมกำลังขุดลอกอยู่ กระทั่งยกระดับสูงขึ้นมาถึงหน้าขาของผมและมันก็ไหลเชี่ยวจนผมยืนต้านไม่อยู่
ชะรอยพวกนั้นคงปิดกั้นทำนบกันเสร็จแล้ว?
ผมเห็นท่าไม่ดีก็ขยับขึ้นไปยืนดูอยู่บนที่สูง ทอดสายเพ่งมองเกลียวน้ำข้นคลักไหลผ่านหน้าผมเป็นลำยาวเหมือนงูยักษ์สีน้ำตาลกำลังเลื้อยฝ่าต้นไม้ใบหญ้ามุ่งไปหาเหยื่อข้างล่างอย่างรวดเร็ว... แล้วในที่สุดสายน้ำนั้นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนสีอ่อนลงกระทั่งใสแจ๋วมองเห็นกรวดทรายท่องร่องชัดเจน
"ยัดแม่ง-ไอ้นุ้ย ลอกคูน้ำได้กี่เมตรวะ-มึง" ไอ้บองหลาตะโกนด่าผมมาแต่ไกล เมื่อมันเห็นผมขึ้นมายืนกุมชะแลงอยู่บนโขดหิน ผมบอกมันว่า ผมเอาชะแลงปักลงไปโดนอะไรเข้าก็ไม่รู้ ลักษณะเหมือนก้อนกรวด แต่แข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้า มือไม้ถลอกปอกเปิดฉิบหายหมดแล้ว...
"กรวดพ่อกรวดแม่-มึงนะสิ แข็งกว่าเหล็ก" ไอ้หมึกหัวเราะ "อ้างมือถลอก หรือคิดจะหาช่องทางเลี่ยงไปฟัดอีบัวก็ว่ามาเถอะ"
ผมยกฝ่าเท้าให้มัน
"ไอ้เปรต กูไม่อาด*ถึงขนาดนั้นหรอกวะ"
และพลันนั้น ไอ้พริ้งซึ่งกำลังยืนก้มหน้ามองดูก้อนหินก้อนกรวดในท่องร่องอยู่ริมชายคู ก็ทรุดนั่งยอง ๆ อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะก้มลงไปคว้าก้อนกรวดที่ผมว่าขึ้นมาก้อนหนึ่ง จ้องมองจนตาลุกวาว
"ไอ้นุ้ยเอ๋ย ท่าทางมึงจะได้เมียก็เที่ยวนี้แหละ"
พูดจบไอ้พริ้งก็ส่งเม็ดกรวดก้อนนั้นให้บองหลาดู
"โว้ย- -เจ้าป่าเจ้าเขา-ท่านโปรดปราณลูกช้างแล้ว- - ขี้กางโว้ย-ไอ้นุ้ย เราเจอแหล่งขี้กางเข้าแล้ว"
ไอ้บองหลาตาเหลือกถลนราวกับจะหลุดออกนอกเบ้าเหมือนคนใกล้ตายด้วยความตื่นเต้นดีใจ
เพื่อน ๆ ของผมทั้งสามคนดีอกดีใจจนผมเล่าไม่ถูก เพราะผมเองก็พลอยดีใจจนหัวใจเต้นรัวไปกับพวกมันด้วย เมื่อรู้ว่าก้อนกรวดพวกนั้น ที่แท้ก็คือขี้ตะกรัน หรือสะแหลกดีบุกที่เขาใช้เป็นส่วนประกอบในการสร้างยานอวกาศ รวมทั้งหัวจรวดนำวิถีและขีปนาวุธต่าง ๆ ซึ่งมีราคาแพงประดุจทองคำ
"ว่าแต่ว่ามันจะมีให้ดีอกดีใจกันซักกี่เมล็ด" ผมแสร้งว่า เพราะผมยังไม่เห็นมันกองเป็นภูเขาเลากาตามที่เขาเล่าลืออยู่ตรงไหนสักแห่ง
"ไอ้เปรต มึงอย่าปากหมา"
ไอ้บองหลาหันมาทำตาเขียวใส่ผม เพราะแต่ไหนแต่ไรพวกชาวเหมืองเขามีความเชื่อกันว่า เมื่อเข้ามาอาศัยในป่าดงดิบท่ามกลางการคุ้มครองดูแลของเจ้าป่าเจ้าเขาและพ่อแก้วแม่แก้วอันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนเคารพนับถือกันนั้น จะต้องกระทำตนให้อยู่ในร่องในรอย นอกจากไม่ประพฤติชั่ว ไม่กระทำการต่าง ๆ ผิดกฎขนบธรรมเนียมของชาวเหมืองแล้ว จะพูดจาก็ต้องระวังปาก ในกรณีเช่นนี้ ห้ามปากสว่านพูดซี้ซั้ว ในเมื่อเจ้าป่าเจ้าเขาท่านอุตส่าห์ดลบันดาลชักนำให้มาเจอกรุสมบัติเข้าอย่างนี้ ขืนปากสว่านพูดไม่เข้าหู ประเดี๋ยวท่านเกิดหมั่นไส้แล้วเรียกคืนขึ้นมา พวกเราก็จะพากันชวดไปเสียเท่านั้น...
"นอกจากตรงนี้แล้ว มึงเจอแถวไหนอีกบ้าง?" ไอ้หมึกหันมาถามผมด้วยสีหน้าท่าทางที่ยังตื่นเต้นไม่หาย
ผมยกมือซ้ายเท้าสะเอว มือขวาชี้กราด "ตั้งแต่ตรงโน้น...ยันโน่น แล้วก็เลยมาถึงตรงนี้ และที่มึงยืนแกว่งกะทออยู่นั่นก็มี... ไม่งั้นฝ่ามือกูจะแตกน้ำข้าวชิบหายวายวอดอย่างนี้ได้เรอะ-ไอ้ห่า?"
ไอ้บองหลาฉีกยิ้มเหมือนหมาเห็นขี้ ก่อนฉวยโอกาสยกตนเป็นผู้บัญชาการทัพเหมืองว่า
"วันนี้กูอนุญาตให้มึงเอาฝ่ามือผู้ดีตีนแดงไปออเซาะอีบัวได้เลย เผื่ออีนั่นมันจะหายาแดงทาให้" แล้วมันก็ตีหน้าขรึม กำชับว่า "แต่ห้ามปากโป้งเรื่องขี้กางนะโว้ย ระหว่างนี้ขอให้รู้กันแค่พวกเราสามสี่คนนี้เท่านั้น คนอื่นไว้ทีหลัง"
"กูรับรอง --ไอ้นุ้ย-คราวนี้มึงได้แต่งเมียแม่หม้ายของมึงแน่ ฮ่า ๆ " ไอ้หมึกพลอยหัวเราะชอบใจขึ้นอีกคน
ขี้ตะกรัน หรือขี้กาง ตามภาษาปากชาวบ้าน แท้ที่จริงคือแร่แทนทาไลด์ที่ผสมอยู่กับดีบุก ซึ่งชาวเหมืองสมัยก่อนยังไม่รู้จัก และพากันคิดว่าเป็นส่วนเกินหรือเป็นกากที่ต้องขจัดทิ้ง เมื่อจบสิ้นกระบวนการถลุงจากเตาถลุงแร่เสร็จแล้วก็นำไปกองทิ้งไว้ไม่สนใจ เพราะฉะนั้นตามแหล่งต่าง ๆ ที่ปรากฏร่องรอยว่าเคยเป็นโรงถลุงแร่มาก่อน ก็มักจะมีขี้ตะกรันกองท่วมหัวเหลือไว้แทบทุกแห่ง บางแห่งกองขี้ตะกรันเหล่านี้มีน้ำหนักเป็นสิบ ๆ ตันก็มี ซึ่งเวลานั้นดูเหมือนเขาจะรับซื้อกิโลกรัมละ 100-120 บาท
ก็ขอให้พระเดชพระคุณทดลอง บวก ลบ คูณ หาร กันดูเถิด ว่าราคาค่างวดของมันแต่ละกองจะมากน้อยแค่ไหน
เพราะฉะนั้นตัวผมผู้ซึ่งได้พบร่องรอยขุมทรัพย์กลางป่าลึกก็แสนจะดีใจ แต่ทว่าความดีใจที่จะได้วกกลับไปหาแม่ยอดยาหยีทั้งสองคนในขณะนั้น ดูเหมือนจะมีน้ำหนักมากกว่า
เงินทองของนอกกาย!
สาบานสามวัดสามวา ผมไม่เคยตาลุกตาล่อ นึกอยากได้จนเกินเหตุมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
"อ้ายคนบ้าห..." ไอ้บองหลามันแสร้งเหยียดผมว่าอย่างนั้น แต่ผมก็ไม่ถือสามันหรอก พอมันพูดจบผมก็เดินผิวปากฮัมเพลงมาตามทางอย่างสบายใจเฉิบ...
"ตามมาจนได้!"
สาวบัวทำเสียงดุใส่ผม เมื่อเห็นผมถ่อสังขารดั้นด้นตามหาแหล่งร่อนแร่ของหล่อนกับน้องสาวจนเจอ
หญิงหมอนซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาขุดคุ้ยหินทรายใส่เรียงร่อนหาเม็ดแร่อยู่ริมน้ำ ซึ่งเป็นสายธารเล็ก ๆ ที่แตกแขนงมาจากโตนน้ำตกที่พวกผมขึ้นไปขุดคุ้ยร่องน้ำทำหน้าเหมืองกันอยู่ หันมามองผมกับพี่สาวของเธอสลับกันไปมา ก่อนจะพูดขึ้นว่า "ดีแล้วที่พี่บัวมีคนมาช่วย ฉันจะได้ไปช่วยพ่อทางโน้น... เมื่อเช้าได้ยินแกบ่นไม่ค่อยสบายอยู่ด้วย"
จะเท็จจริงอย่างไรไม่รู้ ที่หญิงหมอนพูดว่าลุงทองไม่ค่อยสบาย หากแต่พูดจบหล่อนก็กระเตงเรียงร่อนแร่ประจำตัวก้าวเท้าหายลับไปแล้ว ทางนี้ปล่อยปลาย่างไว้กับแมวถึกเพียงลำพัง... ซึ่งผมไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า ลึกลงไปข้างใน... หล่อนกำลังคิดอะไรอยู่? แต่ก็ช่างเถอะ ไหน ๆ อุตส่าห์ถ่อสังขารดั้นด้นมาถึงแล้ว แผ่นพสุธาจะสั่นไหว หรือเขาพระสุเมรุจะพังทลายลงภายในวันสองวันนี้ หรือวันข้างหน้ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นกับผมก็ตาม ลูกผู้ชายชื่อไอ้แผนอย่างผมก็พร้อมยอมตาย เพราะบัดนี้พิษรักวัยรุ่นได้กระเซ็นเข้าตาผมเสียแล้ว
รักเข้าตาพร่าเลือนมองไม่เห็นสิ่งใด หากใครไม่เคยพบ ผมก็บอกอาการของมันไม่ถูกเหมือนกัน สรุปได้เพียงว่า คนเราเมื่อเลือดเข้าตาก็มักจะดุดันจนช้างฉุดไม่อยู่ ทว่าอาการรักเข้าตาของผมมันรุนแรงยิ่งกว่า
ก็อย่างที่บอก!
แม้เขาพระสุเมรุจะพังราบลงมาเดี๋ยวนั้นผมก็ไม่สนใจแล้ว...
วัวเคยขาม้าเคยขี่ เมื่อเหลืออยู่เพียงสองเรา ความรักก็ลอยมาห้อมล้อมจนปราศจากช่องว่างสำหรับสิ่งอื่นผุดเข้ามาสอดแทรกได้
"นาน ๆ จะได้กำด้ามจอมด้ามเสียมสักครั้ง มือไม้ก็ต้องพังยับเยินแบบนี้แหละ" สาวบัวจับฝ่ามือของผมพลิกหงาย และลูบตรงรอยแตกน้ำข้าวที่มีคราบน้ำเหลืองสีใส ๆ ไหลเยิ้มอยู่อย่างแผ่วเบา "หมั่นเรียนหนังสือให้เก่งนะจ๊ะ จะได้ไม่ต้องมาตรากกรำลำบากเหมือนบัว"
เราสองนั่งคลอเคลียกันอยู่บนแผ่นศิลาใหญ่ริมลำธาร ซึ่งแผ่ราบราวกับพื้นคอนกรีต ผมอุ้มหม้ายสาวขึ้นมานั่งบนตัก ดึงร่างน้อยของหล่อนให้ชิดแนบกับอกผม โดยที่ผมสอดแขนโอบกอดบั้นเอวของหล่อนไว้แต่พอหลวม ปลายจมูกงอนงุ้มก็เฝ้าคลอเคลียวนเวียนอยู่ตามไรผมของหล่อน หากแต่เมื่อริเริ่มสัมผัสรักในวันนี้ ผมกลับรู้สึกว่า หม้ายสาวมิได้มีอารมณ์ร่วมรันจวนชวนสิเน่หาเหมือนก่อน ตรงข้าม แม้หล่อนจะยินยอมพร้อมใจมอบเรือนกายอันน่าเชยชมของหล่อนให้ผมกอดรัดโดยมิได้ขัดขืน หรือถ้าหากผมจะฉวยโอกาสรุกล้ำล่วงเลยไปมากกว่านั้น หล่อนก็คงจะยินยอมพร้อมพลีให้แต่โดยดี
แต่ทว่าเมื่อต้องประสบอากัปกิริยาสงบเสงี่ยมเจียมนวลราวกับมีวาระซ่อนเร้นของหล่อนเข้าเช่นนั้น อีกทั้งถ้อยวาจาที่หล่อนเอื้อนเอ่ยออกมาแต่ละคำ ก็ชวนให้จิตใจของผมซึ่งมักจะอ่อนไหวง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วต้องพลันชะงักและแปรผัน อารมณ์ใคร่จากไฟปรารถนาของตนก็มอดลง จากความมุ่งมาดในรสรักด้วยมนต์เสน่หา ก็กลับกลายย้ายมาเป็นความหลงใหลด้วยใจปอง
อา - นี่เราเกิดหลงรักหม้ายสาวขึ้นมาแล้วจริงหรือ?
"สาวบัว"
"จ๋า"
"สัญญาว่าจะรอจนกว่าผมจะเรียนจบและสอบบรรจุเข้าทำงานนะ"
ผมกระซิบเสียงแผ่ว หม้ายสาวหมุนร่างหันมาสบตาผม
สายตาเยือกเย็นอันบ่งบอกถึงความไม่มั่นใจของหล่อนทิ่มทะลุเข้ากลางทรวง จนผมรู้สึกเหน็บหนาวและสั่นสะท้านไปทั้งกาย
**********************************
* อาด = กระสัน รัญจวน
Create Date : 20 มีนาคม 2554
Last Update : 23 มีนาคม 2554 0:16:48 น.
27 comments
Counter : 1208 Pageviews.
Share
Tweet
อรุณสวัสดิ์วันจันทร์ พร้อมที่จะเริ่มงาน
วันแรกของสัปดาห์หรือยังค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:5:40:36 น.
สวัสดียามเช้าค่ะคุณหลวงเส มอบให้๑โหวตสำหรับงานเขียนที่น่าสนใจนะคะ
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:8:04:26 น.
สวัสดีค่ะ ตามมาอ่านอดีตรักเหมืองป่าด้วยคนนะคะ
วันนี้ได้ศัพท์ใหม่ "อาด" ติดเรตนิดๆๆๆ อิอิอิ
สนุกดีมากเลยค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาทักทายช่วงสัปดาห์ที่แล้ว
พอดีไม่อยู่บ้าน เลยไม่ได้มีโอกาสตอบเม้นต์กลับไปค่ะ
โดย:
diamondsky
วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:20:48:42 น.
จ๊ะเอ๋ ! แวะมาทักทายแต่เช้าเลย
ตื่นหรือยังเอ่ย มีความสุขกับการทำงานในวันนี้น๊า
โดย:
KeRiDa
วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:4:39:42 น.
แวะมาเยี่ยมไข้ หายดีหรือยังคะ ถ้ายังก็ขอให้หายไวไวนะคะ เรื่องหนังสือที่งจองเอาไว้ (?) ใกล้เสร็จแล้วค่ะ จะส่งรายละเอียดมาให้ทางหลังไมล์นะคะ ระลึกถึงเสมอค่ะ
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:21:32:52 น.
อ้อ ลืมบอกไปว่ากดให้นิยายบทนี้ของหลวงเส 1 โหวตแล้วค่ะ
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:21:34:36 น.
มีการกดโหวตด้วย?
โอ! ดีจังเลยอ่านแล้วจะได้โหวตให้ผู้อื่นบ้าง
โดย:
หลวงเส
วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:23:38:27 น.
ก๊อก ก๊อก มีความรัก ความคิดถึง
มาฝากจ้า ช่วยเปิดประตูรับหน่อยได้ไหมค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 23 มีนาคม 2554 เวลา:4:41:24 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันพฤหัสเจ้าค่ะ
ยิ้มรับวันใหม่ ด้วยจิตใจที่แจ่มใสน๊า
โดย:
KeRiDa
วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:4:53:36 น.
ขอบคุณสำหรับคำทักทายยามรุ่งอรุณครับผม
ทว่าเช้าวันนี้บรรยากาศเนืองนองไปด้วยน้ำ
ฝกตกลงมาทั้งคืน
เย็นฉ่ำดีเหลือเกิน
สงสารก็แต่พวกกรีดยาง ต้องขาดรายได้ไปหลายบาท
ผิดกับพวกทำนา คงยิ้มแก้มปริเมื่อน้ำเจิ่งนองเต็มทุ่ง
แดด ลม ฝน อยู่เหนืออำนาจการควบคุมของมนุษย์
แต่ความรู้เราควบคุมมันได้
ฉะนั้น จะร้อน ฝน หนาว
เราก็จำต้องยิ้มรับ
เพื่อความสุขสงบให้แก่ตัวเราเอง ฮา ฮา
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมดุด แดด ลม ฝน คร้าบบบบบ
โดย:
หลวงเส
วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:6:17:56 น.
เช็คหลังไมค์ด้วยนะคะ
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:15:57:06 น.
เพลงอุษาสวาท ต้อยลงไปแล้วนี่ค่ะ ของคุณเอื้อ สุนทรสนาน ลองเข้าไปฟังสิค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:17:30:29 น.
เช้าวันศุกร์ สบายดีกันหรือเปล่า
เมื่อคืนเชียงใหม่เกิดแผ่นดินไหว วัดความสั่นสะเทือนได้ 6.7 ริกเตอร์ แรงไม่เบาเนอะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:5:07:06 น.
เอาดอกไม้มาฝากค่ะ
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:9:34:04 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์ค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 26 มีนาคม 2554 เวลา:5:56:23 น.
ฝากรูป
ขอโทษที่หายไปเสียหลายวันมาก พาเด็กตะลอนแสดงงานทุกวันเลย งานหมดเมื่อคืน วันนี้หลังพักพอหายเหนื่อยก็รีบแวะมาเยี่ยมเยียนทันทีเลยค่ะ วันนี้อากาศขมุกขมัวชอบกล พักผ่อนและมีความสุขมากๆนะคะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 26 มีนาคม 2554 เวลา:15:58:19 น.
เยี่ยมจริง ๆ
ขอบคุณทุกท่านครับ
โดย:
หลวงเส
วันที่: 26 มีนาคม 2554 เวลา:19:23:30 น.
อรุณสวัสดิ์ค่ะ วันหยุดแบบนี้ พักผ่อนอยู่กับบ้าน
ก็ดีเหมือนกันน๊า
โดย:
KeRiDa
วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:6:11:16 น.
สวัสดีเช้าวันจันทร์ค่ะ ฝนตกนิดหน่อย
อากาศปรวนแปร ระวังรักษาสุขภาพกันด้วยนะค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:6:10:49 น.
ราตรีสวัสดิ์นะคะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:22:33:55 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันอังคารเจ้าค่ะ
ยิ้มรับวันใหม่ ด้วยจิตใจที่แจ่มใสน๊า
โดย:
KeRiDa
วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:8:32:53 น.
มาสวัดีเช้าวันอังคารที่อากาเย็นบายค่ะ หลวงเส แล้วก็แวะมาเชิญไปอ่านนิยายบทใหม่ด้วยค่ะ อ้อ ที่บ้านน้ำท่วมหรือเปล่าคะ ส่งข่าวด้วยนะคะ
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:10:11:21 น.
อรุณสวัสดิ์ยามเช้าวันพุธค่ะ อากาศยังหนาวเย็นอยู่
ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:4:41:42 น.
อดีตรักเหมืลงป่า ยังอ่านผ่านๆอยู่ ด้วยเวลาที่รีบเร่ง แล้วจะตามอ่านให้ละเอียดอีกครั้งค่ะ แต่อย่างไรก็ตั้งใจมากดโหวตให้ค่ะเพื่อเป้นกำลังใจ
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:14:55:03 น.
ดีใจนะค่ะที่เสียงเพลงบ้านต้อย ทำให้หลวงเสสบายใจ
บ้านต้อยยินดีต้อนรับทุกเวลาน๊า
โดย:
KeRiDa
วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:17:34:32 น.
เข้าได้แล้ว เมื่อเช้ามาทีเข้าไม่ได้ ทางbloggangเขียนว่าคุณหลวงเสต้องต่ออายุน่ะค่ะ
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 1 เมษายน 2554 เวลา:15:25:57 น.
ขอเบอร์โทรอีกทีได้ไหมคะ เบอร์ที่บันทึกไว้คนรับเขาบอกว่าต่อผิดค่ะ
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 1 เมษายน 2554 เวลา:16:14:09 น.
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
หลวงเส
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ดอยสะเก็ด
diamondsky
บ้าได้ถ้วย
ยาชมภู
เกศสุริยง
KeRiDa
วัวป่าหลงเงาจันทรา
nonguide
Webmaster - BlogGang
[Add หลวงเส's blog to your web]
Bloggang.com
วันแรกของสัปดาห์หรือยังค่ะ