ถ้าขจัดความกลัวออกไปได้ ไม่นานความสำเร็จก็จะตามมา
Group ตัวอย่าง
<<
พฤษภาคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
18 พฤษภาคม 2554
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 10
จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ 9
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๘
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๗
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๖
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๕
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๔
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๓
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๒
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๑
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 32
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 31
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 30
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 29
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 28
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 27
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 26
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 25
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 24
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 23
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 22
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 21
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 20
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 19
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 18
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 17
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 16
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 15
เรื่องสั้น/ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว
นิยาย อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 14
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 13
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 12
เรื่องสั้นตกรอบครับ
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 11
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 10
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 9
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 8
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 7
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 6
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 5
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 4
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 3
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 2
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 1
เรื่องสั้น/คืนวันล่องไหลชั่วกะพริบตา
เรื่องสั้น-ดักไซแห้ง
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 10
ตอน ไข่นุ้ยกลับรัง
ขณะเราเดินกันอยู่บนสันเขา ซึ่งเป็นทางด่านที่พวกชาวเหมืองใช้สัญจรมาช้านาน เพราะเป็นทางลัด สาวบัวเดินอยู่ข้างหน้า ผมเดินตามหลัง และผลัดกันอุ้มเจ้าตัวน้อยซึ่งเธอมักจะฟุบหลับอยู่บนอกของคนอุ้มอยู่เสมอ แต่ถ้าเธอหิวนมตื่นขึ้นมา เราก็จะแวะนั่งพักกันบนขอนไม้หรือไม่ก็โขดหินริมทาง เอานมซึ่งสาวบัวชงใส่ขวดเตรียมมาแล้วให้เธอดื่ม เสร็จแล้วจึงค่อยเดินทางกันต่อ
ระหว่างทางเราเดินสวนกับพวกชาวเหมืองหลายคน ทั้งผู้หญิงผู้ชาย เดินตามหลังกันมาเป็นแถว 7-8 คนก็มี 2-3 คนก็มี กระทั่งเดินมาคนเดียวก็มี มีทั้งรู้จักและไม่รู้จัก แต่เราก็ทักทายกัน... อย่างน้อยก็พยักหน้าและยิ้มให้กันอย่างมีไมตรี ทว่าบางคนโดยเฉพาะพวกนักแสวงโชคที่มาจากต่างถิ่นซึ่งสังเกตได้ เป็นผู้ชายหน้าตาเหมือนเพิ่งหลุดมาจากคุก ชอบมองสาวบัวด้วยสายตาที่ผมรู้สึกไม่พอใจเลย
กระทั่งบ่าย ดวงตะวันเอียงพาดยอดไม้ทางทิศตะวันตก ผมกับสาวบัวซึ่งผลัดกันอุ้มเจ้าตัวเล็กมาตลอดทางก็ลุออกสู่ถนนใหญ่ ใกล้กับควนช้างถีบ ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะต้องนั่งรถโดยสารต่อไปยังบ้านของเรา กลิ่นถนน กลิ่นควันท่อไอเสียของเครื่องยนต์จากยานพาหนะที่แล่นผ่านไปมา บอกผมว่า บัดนี้ผมกับสาวบัวกำลังก้าวสู่โลกอีกโลกหนึ่ง ซึ่งมันคงจะไม่ใช่โลกที่แสนจะอิสระเสรีเหมือนโลกของเราในป่าดง เพราะที่นี่มีผู้คนมากมาย มีสายตาที่เฝ้าจ้องมองเรานับไม่ถ้วน
หรือนี่อาจเป็นเพราะผมไม่เคยทำตัวออกนอกลู่นอกทางอย่างนี้มาก่อนก็ได้ จึงพาให้หวั่นไหวและหวาดวิตกไปต่าง ๆ นานา
เราสามคนรอรถสองแถวรับจ้างอยู่ที่ศาลาที่พักผู้โดยสารตรงปากทางเหมือง ซึ่งเป็นศาลาหลังเล็ก ๆ ยกพื้นสูงราวครึ่งเมตร ปูพื้นด้วยไม้กระดานเนื้อหนา เป็นศาลาที่ชาวเหมืองแร่ดงเขายาร่วมปลูกสร้างกันเอง แม้จะดูเอียงโย้ไปบ้างแต่มันก็แข็งแรงดี
เจ้าตัวน้อยเดินเล่นเตาะแตะอยู่บนพื้นศาลา ผมกับสาวบัวนั่งบนม้ายาวมีพนักพิงตอกติดอยู่กับเสาทั้งสองด้าน คอยเฝ้าระวังมิให้เธอพลัดตกลงไปข้างล่าง
วันนี้สาวบัวนุ่งกางเกงยีนรัดรูป สวมเสื้อยืดคอปกเอวลอยสีขาว นั่งห้อยเท้าติดกับพื้นอยู่ตรงข้ามกับผม หล่อนล้วงตลับแป้งรูปกลม ๆ ที่มีกระจกส่องหน้าติดอยู่กับฝาด้านบนออกมาจากย่ามสัมภาระ พร้อมกับลิปสติกสีใส ๆ ที่เรียกกันว่า "ลิปมัน"แท่งหนึ่ง จัดแจงแต่งหน้าทาปากให้ตัวเอง... เสร็จแล้วหันมามองผมอย่างอาย ๆ และรีบเก็บเครื่องสำอางพวกนั้นกลับไว้ที่เดิม
"สวยไหม?" สาวบัวหน้าแดงเรื่อ
"เมียผมสวยอยู่แล้ว" ผมยิ้มและพยักหน้าเอาใจที่เห็นหล่อนกำลังเขินอาย
เรานั่งรอรถกันอยู่ตรงนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มีรถสองแถวโดยสารแล่นผ่านมาคันหนึ่ง ภายในรถมีผู้โดยสารเหลืออยู่ไม่กี่คน เพราะถัดจากนี้ไปทางบ้านผมอีกไม่กี่กิโลก็จะสิ้นจุดหมายปลายทางแล้ว และหนึ่งในผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในรถคันนั้นอยู่ก่อนก็เป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงกับเรา แกเป็นหญิงวัยกลางคนหุ่นล่ำเกือบเท่ากระสอบข้าวสาร พอเราก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ และรถเคลื่อนออกแล้ว แกก็หันมาทักทายพลางยื่นแขนอันอวบอูมทั้งสองข้างมาขออุ้มเจ้าตัวน้อยจากตักสาวบัว ทว่าเจ้าตัวน้อยส่ายหน้าไม่ยอมให้อุ้ม
แกหัวเราะ
"อ้อ-เดี๋ยวนี้ทำจองหองนะมึง ทีหลังพลัดหลงไปบ้านกูกูจะไม่ให้กินขนม"
พูดจบหญิงอ้วนก็ละสายตามาที่ผม...
"ไอ้ไข่นุ้ย- - น้านึกว่าเอ็งกลับโรงเรียนไปแล้ว" หญิงอ้วนพูดกับผม แกไม่สนใจหรอกว่าผมจะกำลังเล่าเรียนหนังสืออยู่ในกำแพงโรงเรียนหรืออยู่ในรั้ววิทยาลัย หากแต่แกก็เรียกสถานศึกษาของผมว่าโรงเรียนตะพึดตะพือ
"จะกลับไปวันสองวันนี้แหละน้านุ่น" ผมพูดกับแก "นี่น้าคงไปหาหมอมาอีกละซี"
"เออ" แกพยักหน้า "ก็เอาลูกหมูไปขายให้แม่เอ็งนั่นแหละ ถึงได้ตังค์ไปหาหมอ... แต่น้าก็ลืมถามถึงเอ็งว่ะ- -ขยันเรียนหน่อยนะลูกนะ จบออกมาเป็นครูพ่อกับแม่จะได้มีหน้ามีตา... "
น้านุ่นเป็นคนปากหวาน พูดเก่ง แต่แกมีโรคประจำตัวต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลบ่อย ๆ ถ้าขัดสนขึ้นมาแกก็มักจะบากหน้าไปพึ่งพาแม่ของผมเสมอ แกจึงสนิทสนมกับครอบครัวของผมเป็นอย่างดี
บ้านของผมอยู่ติดถนน รถโดยสารแล่นถึงก่อนบ้านสาวบัวกับบ้านน้านุ่นที่อยู่เลยไป ผมลงจากรถควักสตางค์จ่ายค่ารถให้สาวบัวและเผื่อไปให้น้านุ่นด้วย เพื่อกันไม่ให้แกระแวง เพราะผมสังเกต แกทำสีหน้าสงสัยเมื่อเห็นผมกับสาวบัวก้าวขึ้นรถสองแถวคันนั้นพร้อมกัน
ที่บ้านอันเปรียบเสมือนรังนอนที่แสนอบอุ่นของผม พ่อกับแม่ของผมอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า แม่ทำกับข้าวมื้อเย็นอยู่ในครัว พ่อนั่งลอกผิวใบจากยาสูบอยู่ที่พื้นระเบียงหน้าบ้าน ท่านทั้งสองดีใจที่เห็นหน้าผม... หลังจากไต่ถามทุกข์สุขของผมรวมถึงเพื่อน ๆ ทั้งสามซึ่งยังอยู่ที่เหมืองกันพอสมควรแล้ว ท่านก็แยกกันกลับไปสานหน้าที่ของตนต่อ หากแต่พ่อนั้น ก่อนจะหันกลับไปหยิบก้านใบจากขึ้นมาลอกผิวของมันทิ้ง ท่านก็ลุกไปที่หัวกระไดริมระเบียง ยืนป้องปากตะโกนเรียกน้องสาวของผมสองคน ซึ่งไปขลุกอยู่กับลูกหมูตัวใหม่ที่น้านุ่นเพิ่งเอามาขายให้เลี้ยงอยู่ที่เล้าหมูริมสวนให้รีบกลับบ้านมา
"พี่บ่าวกลับมาแล้ว" พ่อตะโกนเสียงดัง ซึ่งชั่วอึดใจผมก็ได้ยินเธอสองคนวิ่งแข่งกันมาเสียงดังลั่น
"เพื่อนถึงก่อน"
ผมได้ยินเสียงน้องสาวคนเล็กร้องดังขึ้น แล้วตามด้วยน้องสาวคนโตตะโกนว่า
"ไม่มีทาง เพื่อนต้องไปถึงก่อน"
พวกเธอสองคนวิ่งไล่ตามกันมา พร้อมกับสุนัขที่พ่อเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านตัวหนึ่ง เห่าโฮ่ง ๆ มาจนถึงเรือน
ผมกับน้องสาวทั้งสองอายุห่างกันหลายปี พวกเธอจึงทั้งรักและเคารพผม ราวกับผมเป็นญาติผู้ใหญ่มากกว่าพี่ชาย ซึ่งการณ์ทั้งนี้ก็น่าจะเนื่องมาความห่างเหินกันด้วย เพราะการที่ผมต้องออกจากบ้านไปเรียนหนังสืออยู่ที่ต่างจังหวัดตั้งแต่ชั้นมัธยมจนถึงปัจจุบัน ทำให้เราสามคนพี่น้องไม่ค่อยได้อยู่ใกล้ชิดกันเลย แม้กระทั่งปิดเทอมกลับบ้าน ผมก็มักจะออกหางานทำ-หารายได้เสริมเสียทุกที... โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกันเหมือนสมัยที่พวกเธอยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ แทบไม่มีเลย
มันเป็นลักษณะนิสัยของผมอย่างหนึ่งซึ่งเป็นมาแบบนี้แต่ไหนแต่ไร ตอนเด็ก ๆ ผมชอบซุกซน ชอบออกจากบ้านไปยิงนกตกปลาอยู่ตามชายทุ่งชายป่า หรือแม้กระทั่งทะเลก็เคย ผมเป็นคนไม่ชอบติดอยู่กับที่ ซึ่งแม่เคยพูดให้ฟังว่า "เป็นลักษณะของคนที่รักการผจญภัย...ซึ่งน่าเป็นห่วง" และเมื่อแรกได้ยินน้ำเสียงของแม่ที่เอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วงต่ออนาคตของผมอย่างนั้น ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ผู้ที่รักการผจญภัยจะมีเส้นทางชีวิตที่น่าเป็นห่วงอย่างไร เพิ่งจะมารู้ก็ต่อเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่และได้พบเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตอย่างมากมายก่ายกองแล้วนี่เอง
ชีวิตการผจญภัยแม้จะได้สัมผัสกับสิ่งแปลกใหม่ไม่ซ้ำซาก ซึ่งมันให้ทั้งความสุขสนุกสนานและตื่นเต้นร้าวใจอยู่ตลอดเวลา แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งแปลกใหม่นั้นก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่น่าอภิรมย์แต่เพียงฝ่ายเดียว ตรงข้าม บางครั้งกลับมีสิ่งที่เรียกกันว่า "อันตราย" แอบแฝงอยู่ด้วยอย่างน่าสะพรึงกลัว ซึ่งอาจทำให้เราเสียหลักได้ ถ้าหากประมาทและรู้เท่าไม่ถึงการณ์...
น้องสาวของผมสองคนเมื่อขึ้นบนเรือนมาพบหน้าผม ต่างก็ออกอาการเหนียม ๆ ไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ หากแต่ชวนกันนั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าผมบนพื้นระเบียง แม้หน้าตาจะดูสดชื่นและมีความสุขที่ได้เห็นหน้าพี่ชาย หากแต่แววตานั้นเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น ราวกับผมเป็นนอก
ผมยิ้มให้พวกเธอ และชวนพูดคุย
"พรุ่งนี้บ่าวจะไปตะกั่วป่า ใครจะไปกับบ่าวบ้าง?"
น้องคนเล็กมองสบตาผมและพูดขึ้นก่อน
"สาวไป"
"ไม่รู้แม่ให้ไปหรือเปล่า?" น้องสาวคนโตพูดเบา ๆ แต่นัยน์ตาสองข้างของเธอฉายแววกระตือรือร้นจนผมนึกสงสาร
"ให้ไปซี" ผมว่า "ไปกับบ่าว ทำไมแม่จะไม่ให้ไป"
บ่าว-เป็นคำเรียกพี่ชาย ส่วน-สาว-ไม่เฉพาะเจาะจง เรียกได้ทั้งพี่สาวและน้องสาว แต่มักนิยมใส่ชื่อตามหลัง
ผมเรียกน้องสาวคนเล็กว่าสาวเล็ก และเรียกน้องคนโตว่าสาวหมา เพราะเธอมีชื่อเล่นว่า-หมา
"โรงเรียนใกล้จะเปิดเทอมแล้ว หมายังไม่ได้ซื้อสมุดหนังสือ... บ่าวจะซื้อให้ไหม?"
"ซื้อให้ซี้!" ผมยิ้ม "ทั้งเสื้อ ทั้งกระโปรงนักเรียน ซื้อให้หมดเลย บ่าวขายแร่ได้ตั้งหลายบาทไม่ต้องกลัว"
สาวเล็กทำตาโต
"แล้วของสาวล่ะ?"
"อ้าว-ก็สาวเล็กอยากได้อะไรเล่า? ยังไม่เข้าโรงเรียนกับเขาซะหน่อย"
"อยากได้กระโปรงเหมือนกัน ตุ๊กตาก็อยากได้" เธอว่า
"เฮ้ย -- โตเท่าควายยังอยากเล่นตุ๊กตา" สาวหมาร้องขัดคอน้อง
"อ้าว- แล้วทีตัวเองเล่นของเพื่อนจนแขนขาหลุดขาด ไม่เห็นซื้อใหม่ให้..."
"เก๊าะเพื่อนมีกะตังค์กับเขาที่ไหนเล่า"
"ไม่รู้ล่ะ พรุ่งนี้ตัวเองต้องขอตังค์แม่ไปซื้อใช้ให้เค้าก็แล้วกัน"
ผมหัวเราะ... และโบกมือห้าม
"เอาหละ ๆ ไม่ต้องเถียงกัน ใครอยากได้อะไร พรุ่งนี้บ่าวซื้อให้หมดเลย แต่ขออย่างเดียว อย่าไปทะเลาะกันกลางคน อายเขาเข้าใจไหม"
น้องสาวสองคนพยักหน้าและยิ้มออกมาอย่างดีใจ ก่อนชวนกันลุกขึ้นและวิ่งเข้าไปในครัวจนได้ยินแม่ร้องดุเสียงดังลั่น
"อ้ายเด็กสองคนนี้มันเป็นอะไรของมัน... เดินเหินให้เป็นผู้เป็นคนกะเขาบ้างไม่ได้รึไง--เดี๋ยวก็โดนไม้เรียวอีกหรอก"
ผมได้ยินเสียงแม่ดุน้องสาวสองคนนั้นแล้ว ก็อดที่จะหันไปยิ้มกับพ่อไม่ได้
เพราะแม่ก็คือแม่ ปีหนึ่ง ๆ ไม่รู้ได้หยิบไม้เรียวเฆี่ยนลูกสักครั้งหรือไม่ แต่ลูกทุกคนก็กลัวแม่ ไม่ว่าเรื่องใดถ้าแม่สั่งห้ามพวกเราก็มักจะไม่กล้าฝืน เพราะบางครั้งที่เราเผลอฝ่าฝืน ก็จะเห็นแม่นั่งหน้าเศร้า ไม่ค่อยยิ้มหัว จนเราคิดว่าแม่คงโกรธและไม่รักเราอีกต่อไปแล้ว เราจึงต้องรีบเข้าไปกราบขอโทษและยอมทนนั่งให้แม่อบรมเสียพักหนึ่ง นั่นแหละเราจึงได้เห็นใบหน้าของแม่ค่อย ๆ แจ่มใสขึ้น แล้วเราก็รู้สึกมีความสุข
"ไข่นุ้ย มืดค่ำจะไปไหนอีก" พ่อร้องถาม เมื่อเหลือบเห็นผมแอบหยิบพวงกุญแจมอเตอร์ไซค์อีแก่ของท่าน และทำท่าจะก้าวลงขั้นกระได
"จะไปหาเพื่อนหน่อยครับ" ผมตอบไม่เต็มเสียง
"ใครล่ะ! ไอ้ชน ไอ้เคว็ด พวกนั้นนะเหรอ?" พ่อขมวดคิ้วสงสัย "อย่าริไปหัดสูบกัญชากับพวกมันเข้าเชียวนา"
"ยังเด็กยังเล็ก กินทั้งเหล้า สูบทั้งกัญชา เฮ้อ-ไม่ไหว" แม่พลอยผสมโรงไปกับพ่ออีกคน
ผมนึกขัน ๆ อยู่ในใจ
นี่ถ้าแม่รู้ว่าเจ้าลูกชายตัวดีของแม่กำลังจะแอบไปหาผู้หญิง ซึ่งแม่เป็นห่วงและคอยกำชับนักหนา แม่จะบ่นว่าอย่างไรหนอ...?
****************************************
Create Date : 18 พฤษภาคม 2554
Last Update : 18 พฤษภาคม 2554 18:30:40 น.
14 comments
Counter : 1125 Pageviews.
Share
Tweet
สวัสดีค่ะคุณหลวงเส
ตามมาอ่านไข่นุ้ยกลับรัง (ชื่อเหมือนหนังตะลุง 555)
อ่านเรื่องแม่ตีลูก นี่ตีเพื่อสอน
ถ้าแม่ไม่ตีเราอาจไม่รู้ว่าอะไรถูกผิดนะคะ
ไว้จะมาติดตามอ่านอีกค่ะ
โดย:
diamondsky
วันที่: 18 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:08:48 น.
เอกากุหลาบวยๆมาฝากหนึ่งกระเช้าค่ะ บายดีใช่ไหมคะ เงินได้รับแล้วนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
โดย:
ดอยสะเก็ด
วันที่: 19 พฤษภาคม 2554 เวลา:8:22:05 น.
ในเวลาที่อัพบล็อก นิยายตอนใหม่ ก็อย่าลืมแวะไปบอกกันบ้างสินะหลวงเส
โดย:
panwat
วันที่: 19 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:37:15 น.
สวัสดียามเช้าค่ะ เมื่อวานไปโรงพยาบาล ผลเลือดไม่ผ่าน ต้องไปใหม่พฤหัสหน้าจ้ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 20 พฤษภาคม 2554 เวลา:7:56:12 น.
แวะมาทักทายคุณหลวงเสค่ะ
มีดอกไม้มาฝาก ดอก pansies ปลูกไว้ตรงระเบียงหลังบ้าน สีสดใส
อากาศกำลังดี ขอปลูกให้ชื่นใจหน่อย
สุขสันต์วันศุกร์ ขอให้มีความสุขมากๆ ค่ะ
โดย:
diamondsky
วันที่: 20 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:01:42 น.
สวัสดีเช้าวันเสาร์ค่ะ แวะเข้ามาทักทาย ขอให้มีความสุขสดชื่น เหมือนดั่งดอกกุหลาบข้างบนนี้นะค่ะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะค่ะ คุณเส มนุษย์ไม่ได้เกิดมาเพื่อพบความพ่ายแพ้ แต่บางครั้งมนุษย์ก็แพ้ใจตนเองน๊า เขาถึงบอกว่า
ถ้าอยากจะชนะคนอื่น จงเอาชนะใจตัวเองให้ได้เสียก่อน ว่าม่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 21 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:06:40 น.
อรุณสวัสดิ์เช้าวันจันทร์ เริ่มต้นการทำงานวันแรกด้วยจิตใจ
ที่แจ่มใสนะค่ะ นำความรักความคิดถึงมาฝากจ้ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:8:41:19 น.
เขียนได้ดี จนมองเห็นภาพ รู้สึกได้ ว่าเป็นตัวเองครับหลวงเส
โดย:
panwat
วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:12:43 น.
อรุณสวัสดิ์ค่ะ ขอให้มีความสุข
และสนุกกับการทำงานในวันนี้นะค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:47:53 น.
สร้างกริตเตอร์
เที่ยงแล้ว ทานอะไรหรือยังคะคุณหลวงเส
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:14:38 น.
อรุณสวัสดิ์ค่ะ แวะเข้ามาทักทาย อากาศร้อนมาก ระวังรักษาสุขภาพกันด้วยนะค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 25 พฤษภาคม 2554 เวลา:8:29:20 น.
ผมห่างหายจากจอคอมพิวเตอร์ไปดูแลสวนปาล์มที่จังหวัดพังงาเสียหลายวันคิดถึงสมาชิกทุกท่านจังเลยครับ
โดย:
หลวงเส
วันที่: 27 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:41:09 น.
เมื่อวานโดนฝน เลยทำให้ไม่สบายนิดหน่ิอย แต่ก็ไม่ได้พักหรอกค่ะ นำเด็กไปแสดงค่ะพอดีมีงานศพพ่อของครูที่โรงเรียนที่สอนน่ะค่ะ อยากจะนอนพัก แต่ก็ไม่ได้มาทักทายกับเพื่อนๆหลายวันแล้ว เป็นอันว่าพอเยี่ยมเพื่อนเสร็จแล้วคงทานยานอน หวังว่าคุณหลวงเส คงสบายดีนะคะ
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 28 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:00:57 น.
อรุณสวัสดิ์ค่ะ ห่างหายไปนาน แต่ไม่เคยลืมเลยสักครานะ
ยังคิดถึงเสมอค่ะ วันนี้นำหลานชายสุด Love มาทักทายด้วยค่ะ
โดย:
KeRiDa
วันที่: 31 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:12:14 น.
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
หลวงเส
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ดอยสะเก็ด
diamondsky
บ้าได้ถ้วย
ยาชมภู
เกศสุริยง
KeRiDa
วัวป่าหลงเงาจันทรา
nonguide
Webmaster - BlogGang
[Add หลวงเส's blog to your web]
Bloggang.com
ตามมาอ่านไข่นุ้ยกลับรัง (ชื่อเหมือนหนังตะลุง 555)
อ่านเรื่องแม่ตีลูก นี่ตีเพื่อสอน
ถ้าแม่ไม่ตีเราอาจไม่รู้ว่าอะไรถูกผิดนะคะ
ไว้จะมาติดตามอ่านอีกค่ะ