ถ้าขจัดความกลัวออกไปได้ ไม่นานความสำเร็จก็จะตามมา

<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
28 มิถุนายน 2554
 

นิยาย อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 14

ตอน : เงาการเมือง





ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ หอพักของผมกับห้องสมุดอยู่ใกล้ ๆ กัน เสาร์-อาทิตย์ หรือ ตอนหัวค่ำที่นักศึกษาภาคค่ำยังคงเข้าห้องฟังเลกเชอร์กันอยู่ ผมก็มักจะลงไปหมกตัวอยู่ที่นั่นเสมอ

ห้องสมุดของ วค.มีหนังสือครบทุกหมวดหมู่ สนใจเรื่องใดก็ค้นหามาอ่านได้ เว้นแต่นิยายดัง ๆ ซึ่งมักมีผู้ยืมจนไม่ค่อยอยู่ติดชั้นวางหนังสือเลย โดยเฉพาะกระบวนหนังสือที่เป็นผลงานของ 4 นักเขียนมือทองในระหว่างนั้น คือ อาจินต์ ปัญจพรรค์ รงค์ วงษ์สวรรค์ รัตนะ ยาวะประภาษ และ นพพร บุญญฤทธิ์ มักหายไปจากชั้นวางหนังสือจนต้องเฝ้ารอกันอยู่เสมอ

แม้จะไม่ถึงขั้นหนอนหนังสือ แต่ผมก็ชอบอ่านหนังสือทุกประเภท ยิ่งพวกประวัติศาสตร์หรือไม่ก็หนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวเก่า ๆ ในอดีต ประเภทจดหมายเหตุและบันทึกการเดินทางของบุคคลสำคัญ เช่น "จดหมายราชทูต" "คอนสแตนติน ฟอนคอล" ที่แปลและเรียบเรียง โดย. เสฐียรโกเศศพวกนี้ผมจะอ่านจนจบเล่มไม่รู้ตัว นิยายไทยก็อ่าน แต่ส่วนน้อย เว้นแต่หนังสือบังคับให้อ่านตามโครงสร้างหลักสูตร เช่น ไผ่แดง ของ คึกฤทธิ์ ปราโมช ข้างหลังภาพ ของ ศรีบูรพา ผู้ดี ของ ดอกไม้สด และ ละครแห่งชีวิต ของ ม.จ.อากาศดำเกิง ส่วนนิยายแปลแม้ไม่มีบังคับ แต่ผมก็ชอบอ่าน หลายเล่ม ที่โปรดปราน เช่นกระท่อมน้อยของลุงทอม ( Ucle Tom’s Cabin ) แปลโดย อ.สนิทวงศ์ หนังสือเล่มนี้อ่านไป ๆ ก็นึกสงสารชะตากรรมของทาสผิวดำจนน้ำตาไหล

หนังสือเกี่ยวกับศาสนาและปรัชญาผมก็อ่าน โดยเฉพาะ"ปรีชาญาณของเจ้าชายสิทธัตถะ" ประพันธ์โดย อ.สมัคร บูราวาศ ผมอ่านจบเล่มตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เข้ามอบตัวเป็นนักศึกษาของที่นี่ จากนั้นก็พัฒนาไปสู่งานของท่านพุทธทาส ภิกขุ ซึ่งเป็นยอดปราชญ์ของพุทธศาสนาแห่งยุค

ผมเริ่มทำความรู้จักผลงานของท่านอาจารย์พุทธทาสเล่มแรก ๆ ก็คือ "คู่มือมนุษย์" "ความว่าง" "ตัวกู-ของกู" "ตถตา" และติดใจธรรมบรรยายชุด "ธัมมิกสังคมนิยม" ของท่านเป็นอย่างมาก เพราะเข้ากับยุคสมัยซึ่งท่านถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ส่วนพวกคอมมิวนิสต์ก็ว่าท่านเป็นปฏิกิริยา เป็นยาพิษ หากในที่สุดกาลเวลาก็พิสูจน์ให้ทั้งสองฝ่ายได้ประจักษ์ว่า จริง ๆ แล้วท่านไม่ได้เป็นอะไรเลย นอกจากข้าทาสผู้ซื่อสัตย์ของพระพุทธเจ้า ผู้ซึ่งสร้างประโยชน์แก่มนุษย์ชาติในปัจจุบันอย่างหาที่สุดมิได้

นอกนั้นก็เป็นหนังสือแปลกใหม่อีกมากมายที่ผมเพิ่งสัมผัสกับของมัน เฉพาะอย่างยิ่งหนังสือต้องห้ามซึ่งผมไม่เคยพบเจอมาก่อน ก็มีพวกรุ่นพี่และเพื่อนร่วมรุ่นหลายคนเสาะหามาให้อ่าน...

ทว่าหนังสือพวกนั้นไม่มีในห้องสมุด แม้ขณะนั้นรัฐบาลจะยังไม่ประกาศห้าม แต่เจ้าหน้าที่ห้องสมุด วค. ถือเป็นหนังสือต้องห้าม เพราะส่วนใหญ่มีเนื้อหาปลุกระดมความคิดให้เกิดความกระด้างกระเดื่องต่อระบอบการปกครองของรัฐบาล เช่น "หนทางการปฏิวัติไทย" ซึ่งเป็นหนังสือที่ ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง และไม่ปรากฏสถานที่พิมพ์ หรือ "สตรีกับภารกิจแห่งการปฏิวัติ" เขียนโดย จินดา ไชยโยทยาน และอีกหลาย ๆ เล่มที่ชี้นำและปลุกระดมล้มล้างอำนาจรัฐทั้งสิ้น ซึ่งต่อมาสมัยรัฐบาลนายธานินทร์ กรัยวิเชียร โดย รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น คือ นายสมัคร สุนทรเวช ได้ลงนามในคำสั่งห้ามบุคคลทั่วไปมีหนังสือเหล่านั้นไว้ในครอบครอง รวมทั้งสิ้น 100 รายการ ซึ่งผมก็จำไม่ได้แล้วว่ามีอะไรบ้าง แต่ผมก็ได้อ่านมาก่อนหน้านั้นแล้วเป็นส่วนมาก จนเคยถูกอาจารย์ที่เข้าเวรดูแลหอพักนักศึกษาเรียกไปตักเตือนหลายหน กระทั่งไม่กล้าพกไปขึ้นอ่านที่หอ แต่จะไปแอบนั่งอ่านอยู่บนพื้นซีเมนต์ใต้ชายคาหน้าโรงยิมฯ หรืออาคาร ช. ซึ่งไม่มีฝากั้น หรือบนม้าหินอ่อนใต้โคนไม้ อ่านเสร็จก็แอบซ่อนไว้ แล้วบอกต่อไปยังผู้อื่นที่อยากจะอ่านให้รู้ว่าซ่อนไว้ตรงไหน

กลางเทอมแรกปีนั้นเกิดอุทกภัยร้ายแรง สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชนแถบนั้นอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะพ่อแม่พี่น้องในจังหวัดที่ วค. ของเราตั้งอยู่ แต่เป็นที่น่าเสียใจและน่าโกรธแค้นยิ่งนัก ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้นไม่สนใจดูแลทุกข์สุขของราษฎร หนำซ้ำกลับขัดขวางการช่วยเหลือขององค์กรต่าง ๆ เสียอีก ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาคเอกชนที่รวมตัวกันรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัย หรือองค์กรภาครัฐ กระทั่งองค์กรนิสิตนักศึกษาท่านก็ไม่เคยให้ความร่มมือ แม้แต่จะขอยืมรถกุดังของทางจังหวัดบรรทุกสัมภาระจำพวก ข้าวสาร อาหารแห้ง ไปช่วยเหลือแจกจ่ายให้กับเพื่อนมนุษย์ผู้ประสบเคราะห์กรรมในถิ่นทุรกันดารในหลาย ๆ พื้นที่ ท่านก็ไม่ยอม จนเกิดการประท้วงกันขึ้น และในที่สุดเหตุการณ์ก็บานปลายนำไปสู่การเผาจวนผู้ว่าฯในเวลาต่อมา

ตอนที่มีการชุมนุมประท้วงกันอยู่นั้น ผมก็ไปร่วมแสดงออกกับเขาทุกวัน บางวันก็ไปกับรถบัสของ วค. บางวันก็ไปกันเอง และส่วนมากจะไปกับพี่โสภาสซึ่งเป็นอาจารย์ขลุ่ยของผม พี่โสภาสผู้นี้มีความสามารถเฉพาะตัวรอบด้าน แม้แกจะสังกัดอยู่ในชมรมวรรณศิลป์ เพราะถนัดในทางขีด ๆ เขียน ๆ แต่ในทางศิลปะดนตรีก็ไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะฝีมือการเป่าขลุ่ยไทย ลีลาปล่อยลมกรีดนิ้วพลิ้วแผ่วแว่วหวานอย่างหาตัวจับยาก

ผมกับพี่โสภาสสนิทสนมกันเพราะชมรมกิจกรรมนักศึกษาของเราทั้งสองมักจะต้องจอยกันอยู่เสมอ และที่สำคัญ เราสองคนต่างชอบอ่านหนังสือ ชอบค้นคว้าหาความรู้ใส่ตัวเหมือน ๆ กัน แม้รสนิยมของผมจะเน้นไปในแนวประวัติศาสตร์และปรัชญา ส่วนพี่โสภาสจะหนักไปในทางทฤษฎีการเมืองการปกครอง แต่เราก็นำมาคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างออกรสและได้สาระ

นอกจากนี้พี่โสภาสก็มีส่วนสำคัญในการปลุกปั่นให้เกิดกระแสวรรณกรรมเพื่อชีวิตขึ้นใน วค . ในสมัยนั้น มีการรวมตัวกันผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ออกมาเผยแพร่ใน วค. หลายเล่ม เช่น "สารประชาสัมพันธ์" "มหาชัยสาร" กระทั่งหนังสือที่ระลึก ซึ่งแม้แต่สำนักนิตยสารทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ต่างก็รู้จักกลุ่มนักคิดนักเขียนในชมรมของพี่โสภาสเป็นอย่างดี

การที่ผมได้มีโอกาสไปไหนมาไหนกับคนดังอย่างพี่โสภาส ก็ทำให้ผมพลอยดังไปด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็พลอยถูกเหล่ตาแลจากคนบางกลุ่มไปด้วยเช่นกัน

วันที่เกิดเหตุการณ์เผาจวนผู้ว่าฯ ผมไม่ได้ไปพร้อมกับพี่โสภาส แต่ภายหลังเกิดเหตุชลมุลวุ่นวาย มีมือดีแอบจุดเพลิงเผาอาคารจวนผู้ว่าแล้ว ผมก็ได้เดินเลี่ยงออกมาข้างนอก เราสองคนจึงได้พบกัน พี่โสภาสส่งย่ามสีขาวซึ่งเป็นย่ามประจำตัวของแกให้ผม

"ไข่นุ้ย รีบไปจากที่นี่ให้เร็ว..."

"พี่ไม่ไปกับผมหรือ?" ผมแปลกใจ

พี่โสภาสส่ายหน้า

"ยังมีธุระที่ต้องทำ... ไม่ต้องห่วงพี่ รีบไปเร็ว ๆ "

ในขณะเดียวกันที่ริมถนนด้าหน้ามีตำรวจตระเวรชายแดนเจ็ดแปดคนถืออาวุธครบมือก้าวลงจากรถกระบะตราโล่ของเขา และหันมองมาทางเรา ผมกับพี่โสภาสจึงต้องรีบแยกจากกัน ผมเดินเลี่ยงออกมาหยุดยืนอยู่ที่บริเวณโครงการก่อสร้างศาลหลักเมือง หันมองไปทางจวนผู้ว่าซึ่งอยู่ไม่ไกลเห็นควันไฟลอยฟุ้ง... ซึ่งจนบัดนี้ผมยังตอบตัวเองไม่ได้ เหตุการณ์ดังกล่าวใครเป็นคนลงมือ หรือมีการสร้างสถานการณ์ เพราะโฆษกบนเวทีซึ่งยืนเกาะไม้ค้ำยันพยุงกายอยู่หลังไมค์เนื่องจากเพิ่งประสบอุบัติเหตุขาหักมาใหม่ ๆ ประกาศย้ำเสมอว่าการเดินขบวนในครั้งนี้เป็นการเดินขบวนเรียกร้องให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแสดงความรับผิดชอบต่อการเพิกเฉยในความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ประสบเคราะห์กรรมจากภัยน้ำท่วม พร้อมให้ท่านผู้ว่าฯออกมาชี้แจงเหตุผลเท่านั้น แต่ในที่สุดเหตุการณ์ก็บานปลายจนควบคุมไม่อยู่ ก็จำเป็นที่ผมจะต้องปลีกตัวออกมาเสีย

เมื่อเดินทางกลับมาถึงหอพักที่ วค. ผมก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และเก็บตัวเงียบไม่ออกไปไหน ห้องสมุดก็ไม่ได้ไปเพราะ วค.ประกาศงดการเรียนการสอนชั่วคราว ทำให้ห้องสมุดต้องพลอยปิดให้บริการไปด้วย

หอพักของผมเป็นตึก 4 ชั้น แต่ละชั้นแบ่งออกเป็นห้องใหญ่ ๆ สี่ห้อง แต่ละห้องมีเตียงนอนและตู้สัมภาระที่หัวเตียงแบบเตียงใครเตียงมันตั้งเป็นแถวเหมือนเตียงโรงพยาบาล มีอาจารย์รับผิดชอบดูแลท่านหนึ่ง ซึ่งบางครั้งอาจารย์ที่ควบคุมดูแลพวกเราก็สลับชั้นกันบ้าง หรือบางครั้งก็มีอาจารย์อื่นมาแทนเมื่ออาจารย์ที่อยู่ประจำติดธุระ

วันนั้นหลังจากเอนตัวพักผ่อนพอหายเหนื่อยเพลียกับการผจญแดดร้อนมาจากสนามไฮปาร์ค ผมก็ตื่นล้างหน้าล้างตาและเดินลงไปจากหอพักชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นที่ผมพักอยู่ เพื่อไปกินข้าวมื้อเย็นที่โรงอาหาร ซึ่งพวกนักศึกษาที่พักอยู่ในหอพักภายใน วค. ผูกขาดเป็นรายเทอม และชำระเงินพร้อมกับค่าลงทะเบียนเรียนในวันเปิดเทอม

ภายในโรงอาหารวันนี้มีนักศึกษาบางตา ส่วนหนึ่งอาจจะยังไม่กลับมาจากสนามไฮปาร์คซึ่งกลายเป็นสนามจลาจลเมื่อมีการเผาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ หรือบางคนอาจจะยังกลับมาไม่ถึงก็คงมีอยู่บ้าง หากแต่ส่วนหนึ่งที่ยังไม่กลับด้วยเหตุผลที่น่าละอายก็มี นั่นคือ พวกเห็นแก่ตัวฉวยโอกาสปลีกตัวกลับภูมิลำเนา ไม่ไปร่วมกิจกรรม ซึ่งมีอยู่มาก กระทั่งเป็นเรื่องธรรมดา เพราะ วค. ของเราในขณะนั้นมีบุคลากรเฉียดหมื่น ทั้งนักศึกษาคณาจารย์ พนักงานธุรการและเจ้าหน้าที่ทุกแผนก กระทั่งนักการภารโรงและยาม ซึ่งคนหมู่มากเหล่านี้ย่อมมีทั้งเห็นแก่ตัวและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมคละเคล้ากันไป อย่าว่าแต่คณะนักศึกษาและพวกเจ้าหน้าที่ชั้นต่ำ ๆ เลย แม้แต่คณาจารย์ที่ความรู้สูงชั้นด็อกเตอร์ก็มีความไม่ลงรอยกันอยู่มาก อาจารย์หลายท่านไม่ยอมเข้าร่วมกิจกรรมเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับสังคมเลยก็มี หนำซ้ำยังเป็นปฏิปักษ์อีกต่างหาก

เมื่อผมกินข้าวกินน้ำที่โรงอาหารเสร็จก็กลับขึ้นหอพัก พอผ่านขั้นบันไดเวียนชั้นที่ 2 ผมก็สวนทางกับบุคคลคณะหนึ่ง ประกอบด้วยอาจารย์พิเชฐ ซึ่งเป็นอาจารย์ผู้ช่วยฝ่ายปกครองฯ นายกี้ พนักงานขับรถตู้ของ วค. และนายชาติ หรือไอ้ชาติชั่ว ยามประตู 1 หน้า วค.

สาเหตุที่นายชาติถูกตั้งฉายาว่า "ไอ้ชาติชั่ว" ก็เพราะมันปากหมาคอยคาบข่าวต่าง ๆ ของนักศึกษาไปรายงานอาจารย์ฝ่ายปกครองเป็นประจำ

"อ้อ เจอตัวพอดี"

ไอ้ชาติชั่วยืนขวางผมตอนสวนทางกันบนขั้นบันได

อาจารย์พิเชษที่เดินตามหลังไอ้ชาติหยุดฉับ ผมเห็นย่ามสีขาวของพี่โสภาสติดอยู่ในมือนายกี้ผู้ซึ่งเดินตามหลังอาจารย์พิเชฐมาติด ๆ ก็รู้สึกแปลกใจ

"เธอชื่อรัฐพลใช่ไหม?" อาจารย์พิเชฐถามผม

ผมยืนตัวตรง ยืดอกขึ้น

"ครับอาจารย์"

อาจารย์ฝ่ายปกครองหันไปคว้าย่ามสีขาวในมือนายกี้ชูขึ้น พร้อมถาม

"ของเธอใช่ไหม?"

"ไม่ใช่ครับ" ผมตอบ

"เราเจอมันบนหลังตู้-ที่หัวเตียงนอนของสู" ไอ้ชาติชั่วพูดสอดขึ้น

"ไม่ใช่ของกู" ผมถลึงตาใส่มันอย่างโกรธแค้น เพราะจำได้ว่าตอนผมกลับจากเหตุการณ์จลาจลเผาจวนผู้ว่าฯที่ในเมือง และลงรถสองแถวที่หน้า วค. เจ้ายามชั่วตัวนี้มันนั่งมองผมอยู่

"ต่อหน้าครูเธอควรพูดจาให้สุภาพ" อาจารย์พิเชฐมองผมตาเขียว

ผมยกมือไหว้าท่าน

"ขอประทานโทษครับอาจารย์"

"เออ" อาจารย์พิเชฐแค่นเสียงออกมา พร้อมชูย่ามใบนั้นขึ้นมาเฉียดเฉี่ยวใบหน้าผมอีกครั้ง "ถ้าไม่ใช่ของเธอ แล้วมันไปตั้งอยู่บนหลังตู้สัมภาระที่หัวเตียงเธอได้อย่างไร หรือว่ามีใครกลั่นแกล้ง แต่คงไม่หรอก เพราะมีคนเห็นเธอสะพายมันมาเองตอนลงจากรถเมล์หน้า วค."

ไอ้ห่ ! นึกแล้วเชียว... ผมสบถอยู่ในใจ แต่ก็ไม่อาจจะตอบอาจารย์พิเชฐไปตามตรงได้ ทั้งที่ผมยังไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้นบ้างนอกจากขลุ่ยกับหนังสือเล่มหนา ๆ สองเล่ม และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นหนังสืออะไร เพราะผมรู้สึกเครียดและสับสนกับเหตุการณ์ที่บานปลายมาจากในม็อบจนไม่คิดที่จะล้วงลงไปในย่ามของพี่โสภาสเพื่อหยิบหนังสือสองเล่มนั้นขึ้นมาเปิดดู จนในที่สุดวันนั้นผมก็ถูกอาจารย์พิเชฐนำตัวไปสอบสวนภายในสำนักงานของท่านสองต่อสองจนเกือบดึก จึงปล่อยให้ผมกลับมาที่หอตามเดิม

รุ่งเช้าหลังจากเข้าโรงอาหารกินข้าวกินน้ำเสร็จแล้ว ผมก็ออกไปหาพี่โสภาสซึ่งพักอยู่ที่หอพักเอกชนหน้า วค. ทว่าคราวนี้ผมสัญจรไปด้วยความระมัดระวัง เพราะผมรู้ตัวแล้วว่าระหว่างนี้ผมและพรรคพวกบางคนกำลังถูกจับตามองจากบุคคลกลุ่มหนึ่งอยู่

"พี่ขอโทษ" พี่โสภาสกล่าวคำขอโทษ ภายหลังผมได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมเมื่อวานตอนค่ำให้แกฟังจนจบ "นี่ถ้าไข่นุ้ยไม่มีไหวพริบพี่คงโดนจับแน่ เพราะได้ทั้งหลักฐานและพยานบุคคลยืนยัน"

"ตอนแรกผมก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะเอาตัวรอดอย่างไร เมื่อได้เห็นหนังสือมาร์คเลนินสองเล่มที่อาจารย์พิเชฐล้วงออกมาจากย่ามวางให้ดู"

"มันเป็นหนังสือที่พรรคพวกยืมไปอ่าน และตั้งใจเอามาคืนพอดี แต่เผอิญเจอกันในม็อบเสียก่อน เขาก็เลยคืนให้ตรงนั้น แล้วเราก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดเหตุเผาจวนเสียด้วย จึงไม่กลัวถูกค้นตัว... แต่พอเกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายนั้นเข้า พี่ก็ชิ่งออกมา ก็พอดีเจอไข่นุ้ยยังไงล่ะ... หนังสือมันหายากจะทิ้งก็เสียดาย พี่ขอโทษจริง ๆ ไม่นึกว่าจะหนีเสือมาปะจระเข้อย่างนี้"

ผมหัวเราะกับพี่โสภาสและพูดให้ฟังว่า "ผมแกล้งทำเป็นอ้อนวอนกับอาจารย์พิเชฐ โดยทำเป็นว่าขอหนังสือสองเล่มนั้นกลับไปศึกษาประดับความรู้ แต่แกไม่ยอมท่าเดียว"

"แกเชื่อสนิทเลยหรือว่าไข่นุ้ยเจอมาจากม็อบ" พี่โสภาสสงสัย

ผมหัวร่อก้าก

"ผมมันดาราเจ้าบทบาทนะครับพี่ ตั้งแต่เล่นละครมามีบทไหนบ้างที่พี่มองว่าผมตีบทไม่แตก"

"พี่เชื่อ ๆ"

พี่โสภาสพยักหน้าและยิ้ม ทว่าแววตากลับปรากฏร่องรอยกังวลเห็นได้ชัด

****************************************





 

Create Date : 28 มิถุนายน 2554
10 comments
Last Update : 1 กรกฎาคม 2554 9:19:50 น.
Counter : 1079 Pageviews.

 
 
 
 
ยังไม่ได้ขัดเกลานะครับ พบเจอส่วนไหนขาดตกบกพร่อง ช่วยสะกิดกันด้วยก็แล้วกัน
 
 

โดย: หลวงเส วันที่: 29 มิถุนายน 2554 เวลา:9:12:25 น.  

 
 
 







อรุณสวัสดิ์เช้าวันพุธค่ะ ฝนยังคงโปรยปรายเป็นบางช่วงของวัน อากาศร้อนบ้างเย็นบ้าง เหมือนคลื่นลมการเมืองไทยที่สาดใส่กัน สเตอเบอรี่ตลอดเวลา น่าเบื่อนักการเมืองเนาะ
 
 

โดย: KeRiDa วันที่: 29 มิถุนายน 2554 เวลา:9:19:36 น.  

 
 
 

Thai Comment - Facebook Banners
มื้อเที่ยงนี้ทานอะไรดี ทานข้าวหรือยังคะคุณหลวงเส
 
 

โดย: เกศสุริยง วันที่: 29 มิถุนายน 2554 เวลา:12:01:23 น.  

 
 
 



[ Click Me More Comment ]





อรุณสวัสดิ์เช้าวันพฤหัสค่ะ แวะมาทักทายในวันที่พระพิรุณยังโปรยปราย ระวังเรื่องน้ำท่วมกันบ้างนะค่ะ น้ำปิงเกือบล้นตลิ่งแล้ว
 
 

โดย: KeRiDa วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:8:06:52 น.  

 
 
 
ปักษ์ใต้แล้งสนิทครับผม
 
 

โดย: หลวงเส วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:10:18:14 น.  

 
 
 
วันนี้ชาลีมีกล่องข้าวยำปลากระป๋องมาฝากค่ะ

 
 

โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:19:57 น.  

 
 
 
ขอบคุณครับคุณชาลี มันน่ากินจังเลย
 
 

โดย: หลวงเส วันที่: 2 กรกฎาคม 2554 เวลา:13:04:40 น.  

 
 
 

พรุ่งนี้ไปใช้สิทธกันนะคะ ขอให้ประเทศไทยจงเจริญ เกศสุริยง
สร้างกริตเตอร์

แวะมาส่งคุณหลวงเส เข้านอนค่ะ ขอให้เช้าพรุ่งนี้เป็นวันที่สดใสนะคะ
 
 

โดย: เกศสุริยง วันที่: 2 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:51:38 น.  

 
 
 


เปลี่ยนบ้าง นำภาพดอกไม้มาฝากแทนเมนูอาหารค่ะ

 
 

โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 2 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:27:03 น.  

 
 
 






อรุณสวัสดิ์เช้าวันจันทร์ วันที่อารมณ์ไม่ค่อยจะแจ่มใส เซ็งการเมืองอ่ะ
 
 

โดย: KeRiDa วันที่: 4 กรกฎาคม 2554 เวลา:8:26:00 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

หลวงเส
 
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add หลวงเส's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com