1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
29 30
27 มิถุนายน 2551
พิพิธเพลิน
เพิ่งมีโอกาสไปเที่ยวพิพิธเพลินกับเพื่อนๆใน Blog เป็น First Date เลยล่ะ อะหา โรแมนติคมั้ยเนี่ย พิพิธเพลินแหล่งล่าสุดนี้ก็คือ พิพิธภัณฑ์สยาม ตั้งอยู่บริเวณกระทรวงพาณิชย์เก่าแถวท่าเตียนนั่นเอง หลังจากตัวกระทรวงย้ายไปแถวสนามบินน้ำแล้ว ก็มีการปรับปรุงบูรณะใหม่ให้งดงาม เปิดบริการเป็นพิพิธ(เพลิด)เพลิน มีชื่อเรียกเต็มว่า สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ( National Discovery Museum Institute NDMI) สังกัดสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี ด้วยเห็นว่ารูปแบบพิพิธภัณฑ์อึมครึมแบบเก่าๆ มีคนเฝ้าจับตามองตลอดเวลาว่าจะแอบหยิบฉวยของมีค่า หรือซุ่มซ่ามเดินกระแทกโน่นกระแทกนี้ อาจจะไม่เชื้อชวนให้เยาวชนรุ่นใหม่เข้ามาแวะเยือน พิพิธเพลินเลยเปลี่ยนรูปแบบใหม่จากเดิมโดยสิ้นเชิง ให้ทุกคน สนุกและสัมผัส(ได้จริงๆ)กับความยอกย้อน เงื่อนงำในประวัติศาสตร์ อาศัยเทคโนโลยีด้านสื่อผสมมาช่วย เนรมิตให้กลายเป็น Multimedia Learning Museum แตะตรงโน้น ขึ้นภาพตรงนี้ ส่องไฟตรงนั้นเกิดลายซ่อนอยู่ ตีกลองลงไปจอภาพก็เล่าเรื่อง โยงเส้นจากที่นี่ เส้นวิ่งปรู๊ดไปปลายทางเห็นคำตอบผุดขึ้นมา อะโห เด็กๆชอบมาก เล่นได้ทั้งวัน กูรูไม่ใช่เด็กยังต้องลดวัยทำหน้าตื่นตาตื่นใจไปด้วย เช่น กดปุ่มค้นหาเรื่องราวของพระเจ้าอู่ทองมาจากกี่สายตำนาน เปิดตู้ลายรดน้ำก็เจอความลับของแต่ละยุคสมัย เอามือใหญ่ทาบพื้นผิวแผนที่ ก็เกิดลายแทงสมบัติให้ค้นหา นั่งเบาะพักขาก็ได้ยินเสียงท่านพุทธทาสเทศน์เนิบๆถึงชีวิตที่เกิดมาแทบจะทุกๆก้าวมีปัญญาผุดตามขึ้นตามลำดับ แถมสมุดเยี่ยมชมก็ใช้เขียนบนหน้าจอปรากฏลายมือขึ้นฝาผนัง เห็นในบัดดล จ๊าบมากๆ ภายในพิพิธเพลินก็ได้รับการแบ่งสัดส่วนของห้องต่างๆ จากดินแดนประวัติศาสตร์ย้อนยุคกลับไป ตั้งแต่สมัยตั้งรกรากของสุวรรณภูมิ ต่อเนื่องมาถึงช่วงประวัติศาสตร์ของกาลสมัย ทวารวดี ศรีวิชัย สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี รัตนโกสินทร์และ Modern Thailand ซึ่งจบแถวๆสมัยศาลาเฉลิมไทยที่ยังไม่ถูกรื้อ ผู้ปกครองที่พาเด็กๆมาอาจต้องทำการบ้านหน่อย เพราะเด็กจะสงสัยถามโน่นถามนี่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ ที่เราเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ในห้องที่เกี่ยวกับความเชื่อ ผี พราหมณ์ พุทธ บางความเชื่อเป็นเรื่องของท้องถิ่นมาก เช่น พญาแถนที่บันดาลฝนให้ตกลงมา ตามความเชื่อของนิยายปรัมปราอีสาน หรือ นางพรายตานี ซึ่งเด็กๆยุคใหม่ไม่มีทางรู้จักเลย รวมทั้งพรายน้ำ แม่พระโพสพ เป็นต้น กูรูเลยยืนอธิบายให้บรรดาเด็กๆหลายคนที่อยู่ในนิทรรศการโดยปริยายอยู่สิบกว่านาที เพราะเจ้าหนูๆเหล่านั้นจะถามซ้ำถามซาก นี่อะรายคร้าบ นี่อะรายคร้าบ ทำมายคนนี้ไปอยู่บนก้อนเมฆคร้าบ ทำมายเขาต้องถือไม้ตีตัวคนที่นอนอยู่คร้าบ( การไล่ผีออกจากร่าง) ผู้หญิงคนนี้ทำมายมายืนตรงต้นกล้วยคร้าบ แล้วนี่ใครไปยืนอยู่ใต้น้ำคร้าบ พวกเขาแบกอารายกันคร้าบ (บ้องไฟ) ความจริงตรงนี้จะมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือให้ความรู้เด็กหน่อยก็ดี เอ๊ะ..หรือจะให้เราไปเป็น Part Time Staff ก็ได้ อีกประการหนึ่งที่แสนเสียดาย บทบรรยายทั้งหมดอุตส่าห์ประดิดประดอยค้นคว้ากันมา กลับแปลงเป็นแผ่นอักษรตัวเล็ก มิหนำซ้ำ การจัดไฟในห้องแต่ละห้องก็สลัวๆ ไม่สามารถอ่านคำบรรยายได้เลย อย่างนี้ต้องมีเอกสารพิมพ์ต่างหากเฉพาะ ผู้ปกครองจะได้อ่านไปอธิบายไปได้ นับเป็นนิมิตใหม่ที่ดีของการออก Date ด้วยพากันไปเดินพิพิธเพลิน เพื่อนๆจะเอาตามบ้างก็ไม่สงวนสิทธิ์ เป็น Cheap but Intellectual Date เพราะยังไม่เก็บค่าผ่านประตู แต่อีกสักพักหลังจากทดลองระบบเรียบร้อย ก็คงต้องมีค่าใช้จ่าย อีกนั่นแหละ เทียบกับความเพลิดเพลินและเสียงหัวเราะของเด็กๆ คุ้มค่ากว่าเยอะ หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่//www.ndmi.or.th/index1.html
Create Date : 27 มิถุนายน 2551
4 comments
Last Update : 27 มิถุนายน 2551 22:06:34 น.
Counter : 1160 Pageviews.
โดย: dcopywriter IP: 58.9.158.215 6 กรกฎาคม 2551 9:53:59 น.
รุ้งพลบ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [? ]
ใช้ชีวิตแสวงหามาหลายปี ปัจจุบันก็ยังแสวงหาไม่รู้จักเสร็จ บางอารมณ์เหนื่อยๆ ก็หยุดพัก แล้วตรองนิ่งเขียนบันทึกในสิ่งที่พบเห็น บางอารมณ์ที่โมแรนติค ชอบดูสายรุ้งตอนโพล้เพล้
แวะหามาบอกว่าดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ
มิตรคนดี