Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 พฤษภาคม 2558
 
All Blogs
 
หวานนักรักไม่ปรารถนา -4- แมวขโมย




4
แมวขโมย

มิถุนานั่งตบยุงอยู่ตรงเฉลียงซึ่งยื่นออกไปเหนือลำธารเล็กน้อย เธอเริ่มเบื่อหน่ายเมื่อดวงตะวันกำลังจะตกดินแต่เจ้าของบ้านไม่ยอมกลับมาสักที หากคุยธุระไม่จบวันนี้เธอก็ต้องค้างคืนและน่าจะหลายคืนอยู่เหมือนกัน ภารกิจพาตัวนายหมอเถื่อนกลับกรุงเทพฯ คงไม่ง่ายดายอย่างที่หวัง นั่นแปลว่าเธอต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย อย่างน้อยก็ค่าที่พักและอาหาร

บัตรเครดิตที่ยังตัดหนี้ไม่หมดเหลืออยู่หนึ่งใบ เธอสามารถใช้รูดเป็นค่าเช่าห้องที่รีสอร์ตนี้ได้ตราบใดที่ยังใช้บัตรกดเงินสดมาจ่ายดอกเบี้ยขั้นต่ำในแต่ละเดือน แต่นั่นก็จะเป็นการก่อหนี้เพิ่มอย่างไม่ยุติธรรม เสื้อผ้าสวยๆ ก็ไม่ได้ใส่ อาหารดีๆ ก็ไม่ได้กิน เรื่องอะไรจะควักเนื้อตัวเองขนาดนั้น

คิดแล้วก็กวาดดวงตากลมโตมองไปรอบบริเวณบ้านพัก บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ริมธาร ยกสูงราวหนึ่งเมตรทำให้ใต้ถุนโล่งแต่ก็เตี้ยเกินกว่าจะใช้งานอะไรได้ เดินขึ้นบันไดมาก็เจอพื้นที่โล่งๆ กับม้านั่งยาวและโต๊ะกินข้าวแบบเรียบง่าย ห้องครัวเป็นแบบเปิดอยู่ติดกับเฉลียง นอกจากนั้นก็มีประตูอีกสองบานที่ปิดไว้อย่างมิดชิด

“ก็คงจะเป็นห้องนอนของนายหมอเถื่อนกับห้องว่างสินะ”

มิถุนายิ้มกริ่ม แล้วเสียงประท้วงจากกระเพาะก็ดังขึ้น หญิงสาวลูบท้องป้อยๆ รู้สึกหิวขึ้นมาทันทีจึงอดจะเหลือบมองไปที่โต๊ะอาหารของเขมินทร์ไม่ได้ ปิ่นโตของบัวชมพูวางอยู่ตรงนั้น เธอกะพริบตา กลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะเดินกะเผลกไปที่โต๊ะอย่างถือวิสาสะ

เธอคงหิวมากเกินไปเลยไม่ได้ยินเสียงรถที่แล่นมาจอดหน้าบ้านตามด้วยเสียงฝีเท้าที่เดินขึ้นบันไดอย่างไม่รีบร้อนอะไรนัก หญิงสาวเอื้อมมือไปคว้าปิ่นโตมาเปิด กลิ่นแกงส้มชะอมกุ้งลอยมาเตะจมูก เธอสูดมันเข้าไปเต็มปอด น้ำลายเริ่มสอ เปิดอีกชั้นเป็นผัดเปรี้ยวหวาน และชั้นล่างสุดเป็นข้าวสวย

มิถุนากลืนน้ำลายลงคอ รู้ว่าเสียมารยาทขั้นรุนแรง แต่กลิ่นของอาหารก็หอมยั่วยวนชวนให้หลงผิดเหลือเกิน

แอบกินอย่างละนิดอย่างละหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง...ถ้าเขาไม่รู้

เธอหันไปคว้าช้อนที่ล้างแล้วยังไม่ได้เก็บใส่ชั้นวางมาตักแกงส้มเข้าปาก เป็นแกงส้มที่อร่อยล้ำเลิศที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลย จากหนึ่งคำกลายเป็นห้าคำ สิบคำ และคงจะมีคำที่สิบเอ็ดหากไม่เห็นว่ามีใครบางคนยืนจ้องมองเธออยู่ด้วยสีหน้าประหลาดใจ

มือที่ตักแกงส้มเข้าปากชะงักค้าง ใจร่วงลงไปกองที่ตาตุ่ม ไข่เจียวทอดกับชะอมที่อยู่ในปากถูกกลืนลงคอโดยไม่กล้าเคี้ยว ถ้าไม่เกรงใจสายตาของผู้ชายคนนั้นเธอคงจะคายทิ้งไปแล้ว

“สวัสดีครับ ผมแวะมาขอยาแก้แพ้จากหมอเขื่อน นี่เขายังไม่กลับอีกเหรอครับ บ้านเงียบเชียว” ชายหนุ่มทักทายพร้อมรอยยิ้มนุ่มเป็นกันเองเพราะรู้สึกว่าตนกำลังทำให้สุภาพสตรีขายหน้า แก้มสีน้ำนมของเธอกลายเป็นสีชมพูระเรื่อจนเห็นได้ชัด

มิถุนาเลียริมฝีปาก ทำลายหลักฐานด้วยการโยนช้อนลงไปในซิงค์ด้านหลังอย่างว่องไว แต่พอเห็นว่าแกงส้มพร่องไปเยอะและมีร่องรอยการกินอย่างเห็นได้ชัดจึงหยิบช้อนคันเดิมกลับมาเกลี่ยๆ พยายามจะทำให้ดูดี ตั้งใจจะเก็บปิ่นโตไว้เหมือนเดิมแต่ดันทำหลุดมือซะได้ ด้วยความรีบร้อนจะคว้าชั้นที่ร่วงทำให้มือปัดไปโดนชั้นที่เหลือล้มคว่ำลงไปด้วยกัน

หญิงสาวอ้าปากค้าง ตกตะลึง ก็อยากจะแก้ไขสถานการณ์แบบฉลาดๆ อยู่หรอกนะ แต่เวลาไม่พอให้ใช้สมองคิดเพราะเจ้าของบ้านเดินขึ้นบันไดมาสมทบกับแขกคนแรกพอดี เธอรีบย่อตัวลงใต้โต๊ะ หยิบช้อนโยนขึ้นไปในซิงค์ล้างจานอีกครั้ง ร้องเมี้ยวทีหนึ่งแล้วลุกขึ้นส่งยิ้มให้ชายหนุ่มที่มาถึงก่อน

“เมื่อกี้แมวมันวิ่งชนปิ่นโตน่ะค่ะ คุณเองก็เห็นใช่มั้ยคะ” แถไปแล้วก็อยากจะเอาหัวมุดแกงส้มบนพื้นให้รู้แล้วรู้รอด นอกจากตอนที่ถูกตบออกอากาศแล้ว นี่เป็นอีกครั้งที่เธออับอายจนอยากไม่อยากมองหน้าใคร

ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรก็มีเสียงทักทายดังมาจากด้านหลังเสียก่อน

“อ้าวคุณปอ มาทำอะไรที่นี่คะ?”

ปรมัตถ์หันกลับไปจึงรู้ว่าเป็นม่ายสาวคนงามที่ชาวบ้านแถวนี้ดูออกกันหมดว่าหล่อนหมายปองคุณหมอขวัญใจประชาชนอยู่ เพราะหญิงสาวไม่คิดปิดบังความรู้สึกแม้แต่น้อย

“ผมมาขอยาแก้แพ้น่ะครับ พอดีเจอคุณ...” เขาเว้นไว้ให้เจ้าของบ้านแนะนำ

เขมินทร์ก้าวมาหยุดข้างเจ้านายและมองตามสายตาของอีกฝ่ายไปจนเจอมิถุนาที่ยืนเอ๋ออยู่ข้างโต๊ะกับข้าวของเขา ก่อนจะเห็นถึงความผิดปกติของสถานที่ ปิ่นโตนอนเค้เก้อยู่บนพื้นพร้อมเศษข้าวและอาหาร

“ทำอะไรของคุณน่ะ?”

หญิงสาวหลุบตามองผลงานของตัวเองก่อนจะเหลือบตาขึ้นมองเจ้าของสถานที่ ปรับสมาธิ ปั้นยิ้มหวาน บอกอย่างฉะฉานว่า “แมวค่ะ เมื่อกี้มีแมวขึ้นมาขโมยกินอาหารของคุณ ฉันพยายามจะช่วยไล่มันไป แต่...” เธอยักไหล่นิด “ก็เป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละ ใช่มั้ยคะคุณ...”

มิถุนาหันไปส่งยิ้มหวานให้ผู้ชายที่บอกว่าจะมาขอยาแก้แพ้ ใช้ดวงตากลมโตคู่งามวิงวอนให้เขาเออออ เธอรู้ว่าผู้ชายมักจะแพ้ลูกอ้อนของสาวสวย และเธอก็สวย เธอมั่นใจ

“อ่า...ใช่ครับ แมว” ปรมัตถ์กลั้นยิ้ม พยายามไม่โคลงศีรษะ กลัวเขมินทร์จะจับได้เร็วเกินไป เขาชักจะถูกใจแม่สาวตาโตคนนี้ซะแล้ว ถ้าอยากผูกมิตรกับเธอก็มีแต่ต้องช่วยโกหกเท่านั้น จริงไหม?

คิ้วเข้มของเขมินทร์ขมวดมุ่น ก่อนจะเดินไปดูที่เกิดเหตุใกล้ๆ จนเห็นช้อนที่เปื้อนน้ำแกงวางอยู่ในซิงค์ สักพักก็ก้มลงเก็บปิ่นโตขึ้นมาวางบนโต๊ะ พูดเบาๆ โดยไม่สบตากับ ‘แมว’ ว่า “เพิ่งรู้นะว่าแมวก็ใช้ช้อนเป็นด้วย”

มิถุนาสะดุ้ง ก่อนจะโต้เสียงเบาพอกัน “อาจจะเป็นแมวอัจฉริยะตัวแรกของโลกก็ได้นะ”

“อย่าเรียกแมวอัจฉริยะเลย เรียกแมวขโมยน่าจะเหมาะกว่า”

หญิงสาวเม้มปากนิด อยากจะตอบโต้คนปากจัดให้เจ็บๆ คันๆ บ้างเหมือนกัน ติดอยู่แค่ว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง อาจจะเป็นโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่ทราบแน่ที่สาวสวยอีกคนไม่ยอมถูกลืมและไม่ยอมเป็นคนที่เด่นน้อยกว่า ทำให้เรื่องแมวถูกยุติไว้แค่นั้น

“นั่นใครกันคะหมอเขื่อน” ปานไพลินทำเสียงเข้มอย่างลืมตัว จ้องมองผู้หญิงที่บังอาจมาอยู่ในครัวของเขมินทร์ด้วยสายตาเป็นอริ

ชายหนุ่มเหลือบตามองส่วนเกินในบ้านพักตัวเองนิด แต่ก่อนที่เขาจะได้ตอบคำถามก็ถูกตัดหน้าไปในเสี้ยววินาที

“แขกพิเศษของหมอเขื่อน...มิถุนาค่ะ เรียกมี่ก็ได้นะคะ อีกหน่อยเราคงคุ้นเคยกันมากขึ้น เพราะมี่จะอยู่ที่นี่ซักพัก...” เหลือบมองเขมินทร์แล้วพูดต่อว่า “ใหญ่ๆ”

“เดี๋ยวนะ คุณเป็นแขกพิเศษของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ” คราวนี้ชายหนุ่มไม่ใช้เสียงเบา แต่พูดดังพอให้อีกสองคนได้ยินด้วย

“ก็ตั้งแต่คุณปล่อยให้ม้าเตะฉันจนข้อต่อเคลื่อน แถมยังข้อเท้าเคล็ดอีกด้วย นี่ยังไม่ได้ไปเอกซเรย์ดูเลยนะ กระดูกฉันร้าวรึเปล่าก็ไม่รู้ ทำลูกค้าบาดเจ็บขนาดนี้ความรับผิดชอบน่ะมีมั้ย?”

“ลูกค้า?” ชายหนุ่มใช้เสียงสูง มองเธอด้วยสายตาทึ่งจัด

หญิงสาวกอดอก พยักหน้าหงึกหงัก “ใช่”

“คุณเนี่ยนะเป็นลูกค้าของรีสอร์ต?”

“ก็ฉันตั้งใจมาพักที่รีสอร์ตนี่ แถมคิดว่าจะเรียนขี่ม้าด้วย แต่ขาเดี้ยงแบบนี้ฉันก็อดน่ะสิ หมดกันวันพักร้อนชิลล์ๆ ของฉัน ทีนี้ใครจะรับผิดชอบล่ะ?”

เขมินทร์เท้าสะเอว จ้องหน้าผู้หญิงจอมแถอย่างเอาเรื่อง ขณะที่มิถุนาก็จ้องตอบไม่ลดละ ราวกับว่าบ้านพักกำลังจะกลายสภาพเป็นเวทีมวย ปรมัตถ์ที่หมายตามิถุนาอยู่แล้วจึงเสนอตัวเข้าไกล่เกลี่ยในฐานะเจ้าของรีสอร์ต

“นี่หมอเขื่อนทำให้ลูกค้าบาดเจ็บงั้นเหรอ” เขาทำหน้าเข้มเสียงเข้ม วางอำนาจเต็มที่

คนถูกกล่าวหาเลิกคิ้ว มองอีกฝ่ายด้วยแววตาไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้แสดงออกโจ่งแจ้ง

ปรมัตถ์ส่ายหน้า ถอนใจเหมือนว่ากำลังไม่พอใจกับเรื่องนี้มาก ก่อนจะหันไปพูดกับมิถุนาอย่างจริงจัง “ต้องขอโทษแทนลูกจ้างของผมด้วยนะครับ ในฐานะเจ้าของรีสอร์ตชิดตะวัน ผมยินดีรับผิดชอบเต็มที่ เอางี้แล้วกัน เชิญคุณมี่เข้าพักที่รีสอร์ตฟรี จะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ อยู่จนขาหายเจ็บแล้วเรียนขี่ม้าต่อก็ได้นะครับ ถ้าต้องการไปตรวจที่โรงพยาบาล ผมก็ยินดีจะพาคุณมี่ไปเอง ขอแค่คุณมี่อย่าเอาเรื่องกับเราก็พอ แบบนี้ดีมั้ยครับ”

เป็นข้อเสนอที่เร้าใจจนคาดไม่ถึง มิถุนาเกือบหลุดยิ้มแต่ยังเก็บอาการได้อย่างนักแสดงมืออาชีพ แกล้งถามเหวี่ยงๆ อีกว่า “ฟรีค่าอาหารด้วยใช่มั้ยคะ?”

“ครับ แน่นอน ฟรีตลอดรายการ”

ชายหนุ่มรับคำพร้อมรอยยิ้มที่เผยให้เห็นรอยบุ๋มข้างแก้ม เป็นยิ้มที่ทำให้สาวๆ กรี๊ดกระจายมานักต่อนัก ก่อนจะตามด้วยน้ำตาเป็นปี๊บเมื่อถูกหักอก แต่มิถุนากลับไม่ใส่ใจ เธอรู้แค่ว่าตอนนี้ตัดค่าใช้จ่ายหลักๆ ในภารกิจออกไปได้หมดแล้ว

เขมินทร์กลอกตาเซ็ง รู้ทันทีว่าปรมัตถ์ต้องการป้อสาว ไม่ใช่รับผิดชอบกับเรื่องไม่เป็นเรื่องที่มิถุนาเอ่ยอ้าง เมื่อเหตุผลเป็นเช่นนี้ก็ยากที่เขาจะคัดค้านได้สำเร็จ ลองว่าสนใจผู้หญิงคนไหนปรมัตถ์ก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อจีบให้ติด แล้วพอเบื่อเมื่อไรค่อยบอกเลิกทีหลัง มิถุนาก็คงจะเป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นของเสือผู้หญิงตัวร้ายเท่านั้น จะสงสารหรือสมน้ำหน้าเธอดี เขาตัดสินใจไม่ถูกจริงๆ

“งั้นก็จบเรื่องกันแล้วนะคะ ยาแก้แพ้อยู่ไหนคะหมอเขื่อน หาให้คุณปอไปสิ เขาจะได้พาลูกค้ากลับไปด้วยเลย แล้วเราก็จะได้ทานมื้อค่ำแบบเป็นส่วนตัวกันซะที” ปานไพลินสรุป เธออยากมีเวลาอ้อยอิ่งกับเขมินทร์นานหน่อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาชวนมากินข้าวที่บ้านพัก ไม่แน่ว่าชายหนุ่มอาจใจอ่อนกับเธอแล้วก็ได้ ไม่เสียแรงที่แวะมาหยอดทุกครั้งที่มีโอกาส

“ทานมื้อค่ำสองต่อสองเหรอ?” มิถุนาโพล่งขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะหันไปมองสาวสวยอีกคนอย่างพิจารณา

หรือว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นลูกสาวคนเดียวของเสี่ยยิ่งยศ?

“ก็ใช่น่ะสิ แต่นี่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอซักหน่อย คุณปอรับผิดชอบทุกอย่างแล้ว เป็นอันว่าจบเรื่องกับหมอเขื่อนนะ” ม่ายคนงามตอบอย่างไม่รักษาท่าที แค่เห็นผู้หญิงมาอยู่ใกล้เขมินทร์เธอก็ไม่พอใจ ต่อให้สวยหยาดฟ้าหรือขี้เหร่ยิ่งกว่านางแก้วหน้าม้าเธอก็ไม่ชอบใจทั้งนั้น เพราะฉะนั้นมิถุนาจะไม่ได้รับไมตรีจากเธออย่างแน่นอน

“ไม่จบ” มิถุนาสวนกลับอย่างลืมตัว พอถูกอีกสามคนจ้องหน้าจึงปรับอารมณ์ใหม่และหันไปบอกปรมัตถ์ว่า “มี่ยินดีรับการชดเชยของคุณค่ะ ยกเว้นเรื่องที่คุณจะพามี่ไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง มี่ว่าไม่แฟร์เลยนะคะ ใครทำคนนั้นก็ควรยืดอกรับแมนๆ ไม่ใช่ให้เจ้านายออกหน้ารับแทนแบบนี้”

เธอเหล่มองเขมินทร์นิด ถึงยังไงก็ไม่ยอมให้เขาใกล้ชิดกับสาวคนไหนแน่ โดยเฉพาะสาวสวยแถมยังหอมกลิ่นกระดังงาลนไฟอย่างปานไพลิน ผู้หญิงจะเป็นอุปสรรคกับงานของเธอ ฉะนั้นคนสวยฆ่าไม่เลี้ยงค่ะ!

เขมินทร์กำลังจะโต้กลับแต่ถูกปานไพลินตัดหน้าเสียก่อน

“น้อยๆ หน่อยนะยะ แบบนี้เขาเรียกได้คืบจะเอาศอก อย่าไปยอมนะคะหมอเขื่อน คุณปอ จ่ายเงินปิดปากแล้วไล่ไปก็พอ คนแบบนี้น่ารังเกียจที่สุด อย่าไปยุ่งให้เสียเวลาเลยค่ะ”

มิถุนาเลิกคิ้ว มองแม่ม่ายคนสวยนิด ก่อนจะย้อนนิ่มๆ “ดูเหมือนเรื่องนี้ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับคุณเลยนะคะ เพราะฉะนั้นคุณควรกลับบ้านไปซะ ฉันยังมีเรื่องต้องตกลงกับเจ้าของรีสอร์ตและลูกน้องของเขา...อีกนาน นานมากๆ คุณอย่ารอเลยค่ะ เดี๋ยวจะอดกินมื้อเย็น”

ปานไพลินแทบกรี๊ดลั่นที่ถูกย้อนเข้าให้ แต่เพราะเขมินทร์อยู่ตรงนี้ด้วยจึงต้องวางฟอร์มไม่วีนแตกให้เขาเห็น เรื่องภาพลักษณ์หญิงสาวไม่เคยห่วงเพราะมั่นใจว่าบิดามีเงินในกระเป๋ามากพอจะทำให้ใครต่อใครไม่กล้ามีปัญหากับความเอาแต่ใจของเธอ แต่กับเขมินทร์แล้วเธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่มองอะไรเพียงฉาบฉวย และเขาไม่สนด้วยว่าเธอลูกใคร เพราะฉะนั้นเธอเอาแต่ใจได้กับทุกคน ยกเว้นคุณหมอเขื่อนคนเดียว

หญิงสาวนับหนึ่งถึงสิบในใจเพื่อระงับโทสะ ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งและบอกว่า “งั้นป่านจะอยู่ฟังด้วย จะได้เป็นพยานให้คุณปอกับหมอเขื่อนด้วยไงคะ เผื่อเรื่องถึงโรงถึงศาลป่านจะได้ช่วยยืนยันว่าคุณปอยอมรับผิดชอบทุกอย่าง แต่ใครบางคนเรื่องมากเอง”

มิถุนาเม้มปาก สะกดอารมณ์เต็มที่เหมือนกัน ดูท่าว่ากระดังงาดอกนี้จะไม่ธรรมดา ขืนปล่อยให้นายหมอเถื่อนใกล้ชิดมีหวังต้องเสร็จปานไพลินไม่วันใดก็วันหนึ่ง ฉะนั้นแล้วเธอต้องขัดขวางทุกวิถีทาง

หญิงสาวโน้มตัวไปลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งประจันหน้ากับอีกฝ่าย ก่อนจะเชิดหน้าขึ้น บอกสิ่งที่ต้องการกับปรมัตถ์ แต่ไม่ยอมละสายตาจากปานไพลินแม้แต่นาทีเดียว “มี่ต้องการให้ลูกน้องของคุณรับผิดชอบที่ทำให้มี่เจ็บตัว เขาควรถูกพักงานแล้วมาคอยดูแลมี่จนกว่าขามี่จะหายดี อ้อ...ในระหว่างนี้งดจ่ายเงินเดือนด้วยนะคะ หรือถ้าเขาไม่ยินดีทำตามข้อเรียกร้องก็ควรจะไล่ออกไปซะ ลูกน้องที่อยู่ไปก็เสี่ยงต่อการทำให้เสียลูกค้าไม่ควรให้ทำงานต่ออย่างยิ่ง ไม่งั้นรีสอร์ตของคุณจะเสียหายเอาได้”

“ลาออกเลยค่ะหมอเขื่อน ไปทำงานกับป่านก็ได้ ป่านต้องการเพื่อนขี่ม้าเล่นอยู่พอดี งานสบาย เงินเดือนดี สวัสดิการเพียบ ลาออกวันนี้เลยมั้ยคะ ป่านจะได้ช่วยเก็บของ” ปานไพลินหันไปมองหน้าเขมินทร์อย่างมีลุ้น

“ไม่เอาดีกว่าค่ะคุณปอ มี่ต้องการความรับผิดชอบจากนายหมอเขื่อน เขาจะต้องดูแลมี่ทุกอย่างจนกว่ามี่จะหายดี ขี่ม้าได้ ไม่อย่างงั้นมี่ไม่จบเรื่องนี้แน่ เพราะมี่เสียเวลาแล้ว เรื่องนี้ต้องมีคนชดใช้!” มิถุนาตอบโต้ทันควัน เหลือบตามองนายหมอเถื่อนอย่างท้าทาย ถ้าเขาไม่ยอมกลับกรุงเทพฯ ดีๆ ก็จะต้องถูกเธอป่วนจนทนไม่ไหวและหนีความวุ่นวายกลับเมืองหลวงในท้ายที่สุด

เอาสิ เพื่อปลดหนี้เธอด้านพอ!

“นี่เธอ ทำไมถึงพูดจากลับกลอกแบบนี้ฮะ จะเอายังไงกันแน่ อยากให้เขาออกหรืออยากให้เขาอยู่ พูดมาเลยดีกว่า ฉันจะได้รับมือถูก” ปานไพลินเริ่มเก็บอารมณ์ไม่ไหว ปกติไม่เคยมีใครหน้าไหนกล้ามานั่งเถียงเธอฉอดๆ แบบนี้ แถมยังเป็นเรื่องของหมอเขื่อนด้วย

นี่เธอจะมีคู่แข่งเพิ่มอีกคนใช่ไหม?

“ฉันต้องการความรับผิดชอบจากคนผิด คุณจะพาเขาหนีความผิดไปนี่ ใครจะยอมง่ายๆ ล่ะ คุณปอตัดสินใจสิคะว่าจะเอายังไง?” มิถุนาหันไปกดดันเจ้าของรีสอร์ตด้วยดวงตากลมโตแฝงแววออดอ้อนที่รู้ดีว่าน้อยคนจะต้านทานได้

ถ้าปรมัตถ์เป็นหนุ่มเจ้าชู้ชอบโปรยเสน่ห์ล่อลวงสาวอย่างที่ป้อมบอก เขาต้องเข้าข้างเธอแน่ ก็เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเขาจงใจช่วยโกหกเรื่องแมว แถมยังยื่นข้อเสนอสุดเร้าใจให้เธอกินฟรีอยู่ฟรีที่รีสอร์ตของเขาจนกว่าจะพอใจ ทั้งที่เรื่องบาดเจ็บของเธอไม่ใช่ข้ออ้างที่หนักหนาสาหัสจนต้องกลัวเรื่องถึงโรงถึงศาล

ปรมัตถ์ที่มองสองสาวตอบโต้กันไปมาอย่างดุเดือดตั้งแต่แรกกำลังนวดขมับ พอถูกโยนปัญหาให้ตัดสินก็สะดุ้ง หันไปมองเขมินทร์ที่ยืนกอดอกพิงประตูห้องและมองสบตาเขาอยู่เงียบๆ แต่นัยน์ตาคมกริบคู่นั้นราวกับกำลังเยาะเย้ยถากถางในเรื่องโง่เขลาที่เขาได้พลั้งปากไป ชายหนุ่มถอนใจเฮือก ก่อนจะกวักมือเรียกครูฝึกเคราครึ้มของตน

“ขอคุยอะไรกับคนของผมแป๊บนึงนะครับ เดี๋ยวกลับมาเคลียร์”

เขมินทร์กระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “กำลังรอคำนี้อยู่เลยครับเจ้านาย”

สองหนุ่มเดินตามกันลงบันไดไปเงียบๆ สองสาวเลยหันกลับมาขึงตาใส่กันอย่างเป็นอริต่อ

“บอกมาเลยดีกว่า เธอสนใจหมอเขื่อนใช่มั้ยถึงได้ทำแบบนี้?” ปานไพลินถามอย่างตรงไปตรงมา แม้จะเป็นกระดังงากลิ่นหอมแต่หญิงสาวไม่ถนัดเรื่องอ้อมค้อมเล่นเชิง เธอชอบทำอะไรเปิดเผย เพราะเชื่อว่าทั่วทั้งจังหวัดไม่มีใครกล้ามางัดข้อด้วย

มิถุนาเลิกคิ้ว ถ้าบอกว่าไม่สนใจ แม่สาวกระดังงาลนไฟก็จะไม่ยอมปล่อยมือจากนายหมอเถื่อนสินะ สงสัยต้องเล่นบทแย่งผู้ชายที่ห่างไกลจากสเปกตัวเองสักที

“จะว่างั้นก็ไม่ผิดนะคะ”

“หน้าไม่อาย!” ปานไพลินประณามอย่างเหลืออด

คนหน้าไม่อายเลิกคิ้ว

ก็ลองมีหนี้สองล้านแขวนคอดูบ้างสิ แล้วจะรู้ว่า ‘ยางอาย’ ไม่จำเป็นต่อชีวิต!

“ฉันจองหมอเขื่อนมาตั้งนาน เธอมาทีหลังก็ถอยไปดีๆ อย่าให้ต้องใช้กำลัง” ม่ายคนงามประจำจังหวัดประกาศกร้าว แววตาบอกชัดว่าหากใครกล้ามายุ่งกับผู้ชายของเธอเป็นได้เรื่อง

“ก็อยากจะถอยเหมือนกันละค่ะ แต่ฉันคงทำอย่างนั้นไม่ได้” ก็เธอแบกหนี้สองล้านไว้บนบ่า ต่อให้ต้องบอกปานไพลินว่าเธอหลงรักนายหมอเถื่อนก็คงต้องฝืนใจพูด หากมันจะทำให้อีกฝ่ายยอมวางมือ

“หน้าด้านจริงๆ ฉันจะจัดการกับเธอยังไงดีเนี่ย” ปานไพลินรู้สึกร้อนรุ่มเหมือนอกจะระเบิด อยากจิกหัวตบแม่สาวปากกล้าตาโตผู้ประกาศเป็นศัตรูกับตนให้สาแก่ใจ แต่ติดที่ว่าเคยแค่ตวาดคนอื่นแว้ดๆ ไม่เคยลงไม้ลงมือเองสักที งานนี้เลยได้แต่กำหมัดกัดฟันกรอด

มิถุนามุ่นคิ้ว คิดหนัก ก่อนจะพึมพำกับตัวเองว่า “นั่นก็เป็นคำถามของฉันเหมือนกัน”



“ตอนที่พูดแบบนั้นออกไป ถามจริงนะ ใช้สมองบ้างมั้ยวะครับคุณเจ้านาย?” เขมินทร์เริ่มก่อนเมื่อมาหยุดอยู่ริมลำธารด้วยกันโดยปราศจากบุคคลที่สาม

หนุ่มหล่อหน้าใสซุกมือลงในกระเป๋ากางเกงพลางยักไหล่ “โทษที เห็นคนสวยทีไรมันลืมตัวตลอด แกก็น่าจะรู้จักฉันดีนี่นา ขำๆ น่า สวยดีออก”

“แล้วตอนนี้ขำออกมั้ยวะ ถามจริง” หนุ่มเคราครึ้มหน้าเข้มย้อนกลับอย่างไม่เห็นขำด้วย

“ตอบตรง ไม่ค่อยขำแล้วว่ะ ดูเหมือนคุณมี่จะหลงแกเข้าอีกคนแล้ว ออกตัวแรงซะด้วย เล่นเอาลูกสาวเจ้าพ่อแทบเต้น งานนี้สนุกแน่” ปรมัตถ์รู้สึกผิดหวังนิดหน่อย เสียดายคนสวยที่มองข้ามเขาไปสนใจไอ้คุณหมอปากหมาแทน

“สนุกกับผีอะไร ยายนั่นน่ะคนของโรงพยาบาล นี่ฉันกะยืมมือคุณป่านไล่กลับกรุงเทพฯ แต่แกทำเสียเรื่องหมด แล้วทีนี้เอาไงล่ะ ไหนจะค่าเช่าห้อง ไหนจะค่าอาหาร นี่ยังจะเอาตัวฉันไปเป็นเบ๊อีก เงินไม่เข้าแถมรายได้หด ฉันจะหักจากส่วนแบ่งของแกถ้ายายนั่นไม่ยอมไปจริงๆ”

หนุ่มหล่อเลิกคิ้ว แววตาเป็นประกาย ไม่ได้สนใจฟังที่เพื่อนบ่นแม้แต่นิด “แปลว่าคุณมี่ไม่ได้สนใจแกน่ะสิ แค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น”

“นี่แกไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลยนี่หว่า” เขมินทร์มองคนที่เป็นทั้งเพื่อนและหุ้นส่วนรีสอร์ตชิดตะวันตาขวาง

ตั้งแต่เริ่มเรียนหมอแล้วเขาก็ตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างสงบเงียบที่ไหนสักแห่งในจังหวัดบ้านเกิดตัวเอง วางแผนคร่าวๆ ว่าจะซื้อที่ดินต่างอำเภอ ปลูกบ้านสักหลังและทำเป็นเกสต์เฮาส์ด้วยพอให้มีความสุขไปพร้อมกับรายได้เล็กๆ น้อยๆ ในยามแก่เฒ่า เมื่อได้คุยเรื่องนี้กับปรมัตถ์ เพื่อนสนิทที่เรียนห้องเดียวกันตั้งแต่มอต้นยันมอปลายก่อนจะแยกย้ายกันไปเรียนในด้านที่ตัวเองสนใจ ปรมัตถ์ก็บอกว่าขอเอาด้วย เพราะมีที่ดินงามๆ ติดลำธารอยู่ผืนหนึ่ง ซึ่งได้รับมาจากบิดาผู้เป็นเจ้าของโรงงานทำกระเบื้องรายใหญ่ในจังหวัดสระบุรี

เกสต์เฮาส์เล็กๆ เลยกลายร่างเป็นรีสอร์ตริมธารพร้อมบริการสอนขี่ม้า ซึ่งเดิมทีเป็นความชื่นชอบส่วนตัวของปรมัตถ์ แต่พอเอาเข้าจริงหนุ่มเจ้าสำราญบ้านรวยแถมขี้เบื่อสุดๆ ก็สนใจม้าได้ไม่นานพอ คอกม้าและสนามที่ลงทุนทำอย่างดีจึงถูกทิ้งร้างมานาน ยังดีหน่อยที่ในระหว่างเขมินทร์ยังเป็นหมอ ปรมัตถ์ก็สามารถดูแลกิจการรีสอร์ตมาได้ แม้จะลุ่มๆ ดอนๆ แต่ยังประคองตัวอยู่ไม่เจ๊งไปเสียก่อน

เนื่องจากที่บ้านของชายหนุ่มมีพี่น้องหลายคน ภาระการสืบทอดโรงงานจึงไม่ตกอยู่ที่ปรมัตถ์คนเดียว เขาเข้าไปช่วยงานที่บ้านบ้าง ดูแลกิจการรีสอร์ตของตัวเองด้วยแต่ส่วนใหญ่ก็จ้างคนเสียมากกว่า เพิ่งจะมีตอนหลังที่เขมินทร์เลิกเป็นหมอและมาช่วยกันดูแลกิจการ รีสอร์ตชิดตะวันและคอกม้าถึงได้เป็นล่ำเป็นสันขึ้นมาขนาดนี้

แต่เขมินทร์ยังพอใจกับฐานะครูสอนขี่ม้ามากกว่าเจ้าของรีสอร์ต ชาวบ้านแถวนี้จึงไม่รู้ว่าเขาก็เป็นเจ้าของคนหนึ่งเหมือนกัน หลังๆ ปรมัตถ์ชักจะเอาใหญ่ เห็นว่าเพื่อนพึงใจจะเป็นแค่ลูกจ้าง เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นจึงชอบข่มเขมินทร์เป็นประจำ ซึ่งอดีตคุณหมอหนุ่มก็ไม่ได้ถือสาเพราะรู้ดีว่าเพื่อนแกล้งเล่นเท่านั้น วันนี้ก็เช่นกัน แต่ประเด็นของสาวสวยแปลกหน้าที่ดันไปถูกตาต้องใจปรมัตถ์เข้าต้องขอเคลียร์หน่อยแล้ว เมื่อเจ้าหล่อนเรียกร้องมากเกินไป ใครจะไปยอมกันเล่า

ปรมัตถ์ชักสีหน้าเล็กน้อยก่อนจะโต้ว่า “ฟังอยู่น่า อย่าเพิ่งอารมณ์บูดสิ เอางี้มั้ย เดี๋ยวฉันช่วยแกจีบคุณมี่มาเป็นพวก เดี๋ยวพอเธอหลงฉันก็เลิกล้มความตั้งใจที่จะพาตัวแกกลับกรุงเทพฯ เองแหละ ว่าแต่แกไม่สนคุณมี่แน่นะ แล้วอย่ามาเสียดายทีหลังล่ะ เนื้อเข้าปากเสือแล้วไม่คายนะเว้ย”

“เฮอะ เขาคงสนแกหรอก ชื่อเสียงแกกระฉ่อนไปทั่วจังหวัดขนาดนั้น ถ้าเขาจะสนแกก็คงสนเพราะแกมีเงินเท่านั้นแหละ ไม่งั้นจะยอมมาทำงานแบบนี้เหรอ และคำตอบข้อหลัง ฉันไม่สนใจผู้หญิงเห็นแก่เงิน” เขมินทร์เย้ยเข้าให้อย่างไม่ถนอมน้ำใจเพื่อน

“แกพูดน่าคิด แต่ฉันไม่แคร์ว่ะ บังเอิญว่ามีเงินให้สาวถลุงเล่น ยิ่งซื้อได้ยิ่งชอบ ส่วนค่าใช้จ่ายของคุณมี่ลงบัญชีฉันได้เลย” ปรมัตถ์ขยิบตาให้เพื่อน ก่อนจะเดินผิวปากกลับขึ้นไปบนบ้านพักเพื่อตอบตกลงกับข้อเรียกร้องของมิถุนา จะได้ดึงตัวเธอไว้ที่นี่ให้นานที่สุด

ตอนแรกเขากังวลว่าหญิงสาวจะหลงผิดคิดปลื้มเขมินทร์เหมือนปานไพลินกับบัวชมพู เพราะเห็นตั้งท่ายื้อแย่งครูสอนขี่ม้าเคราครึ้มกันอย่างดุเดือด แต่พอรู้เหตุผลที่มิถุนาต้องทำเช่นนั้นเขาก็เบาใจ ขอเดินหน้าจีบต่อไปอย่างไม่กลัวเสียเปรียบแม้ต้องลงทุนก่อน สำหรับเขาผู้หญิงคือดอกไม้ ยิ่งสวยยิ่งควรค่าแก่การจ่ายเพื่อซื้อหามาประดับแจกันของตัวเอง

เขมินทร์ได้แต่ถอนใจพลางส่ายหน้าเซ็ง ลองว่ามุ่งมั่นขนาดนี้เอาช้างมาฉุดก็คงหยุดปรมัตถ์ไม่ได้

ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อพ่อเสือตัวร้ายมาเจอกับยายแมวขโมยจอมเจ้าเล่ห์ ก็ได้แต่หวังว่าเคราะห์หามยามร้ายจะไม่มาตกที่เขาละนะ สาธุ!




___________________________


ตอนนี้ต้องขอบคุณเพื่อนที่ส่งงานมาให้ตรวจ กระตุ้นให้ได้ทำงานของตัวเอง และขอบคุณมากๆ กับ Inferno ของลุงแดนที่ทำให้ปั่นนิยายได้เร็วขึ้น เพิ่งได้มาไว้ในครอบครองไม่กี่วันก่อนค่ะ ต้องหาอย่างอื่นทำไปด้วยสลับกับการอ่าน นางอ่านไปกลัวไป กลัวจบ! เลยต้องอ่านช้าๆ 555 ปกติจะรีบอ่านแบบไม่วางค่ะ มีเล่มนี้มาแปลกมาก คืออยากอ่านแต่ไม่อยากให้จบ กว่าจะมีแนวนี้ตกมาถึงท้องซักเล่ม มันฟินจริงๆ ^^”

ปล. ตอนนี้มิถุนาทำน่าเกลียดจริงๆ ค่ะ แอบขโมยกินข้าวคนอื่น เขียนไปก็อายไป อ๊ายยยย >/////<

ปล. 2 ช่วยภาวนาเถอะค่ะว่าอย่าให้ถึง 80 ตอนเลย 555









Create Date : 27 พฤษภาคม 2558
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2558 20:05:36 น. 3 comments
Counter : 987 Pageviews.

 
สวัสดียามค่ำครับ




โดย: ก้อนเงิน วันที่: 27 พฤษภาคม 2558 เวลา:20:00:36 น.  

 
พารากราฟนี้

เกสต์เฮาส์เล็กๆ เลยกลายร่างเป็นรีสอร์ตริมธารพร้อมบริการสอนขี่ม้า ซึ่งเดิมทีเป็นความชื่นชอบส่วนตัวของปรมัตถ์ แต่พอเอาเข้าจริงหนุ่มเจ้าสำราญบ้านรวยแถมขี้เบื่อสุดๆ ก็สนใจม้าได้ไม่นานพอ คอกม้าและสนามที่ลงทุนทำอย่างดีจึงถูกทิ้งร้างมานาน ยังดีหน่อยที่ในระหว่างเขมินทร์ยังเป็นหมอปรมัตถ์ก็สามารถดูแลกิจการรีสอร์ตมาได้ แม้จะลุ่มๆ ดอนๆ แต่ยังประคองตัวได้ไม่เจ๊งไปเสียก่อน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่

พอเอาเข้าจริง...

อ่านเข้าใจยากมาก


โดย: พี่หมูน้อย วันที่: 28 พฤษภาคม 2558 เวลา:14:28:21 น.  

 
ซูฮกกับการแถของมี่จริงๆ ทั้งเรื่องแอบโขมยกินแล้วโทษแมว แถมโมเมเรื่องเจ็บตัวให้หมอรับผิดชอบ
เสือตัวร้ายกับแมวเจ้าเล่ห์ ไม่ว่าจะยังไง งานนี้ มี่ได้ต่ออายุไปอีกพักล่ะค่ะ


โดย: goldensun IP: 61.91.4.2 วันที่: 28 พฤษภาคม 2558 เวลา:18:17:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ระตา
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




รู้สึกอยู่เสมอว่าการได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้คือความมหัศจรรย์...และการอ่านออกเขียนได้คือรางวัลของชีวิต...
Friends' blogs
[Add ระตา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.