Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
20 กรกฏาคม 2559
 
All Blogs
 
ตอนพิเศษ : วุ่นนักรักต้องอุ้ม ๗




๗.
___________________________________________________



“ต้องหาจากขยะทั้งหมดนี่เลยเหรอครับ?” ปรมัตถ์เท้าสะเอว เบ้หน้า มองขยะกองมหึมาภายในลานพักขยะประจำตำบลด้วยความรู้สึกท้อแท้ใจ

“โชคยังดีนะคุณที่มันมาถึงแค่ลานพักขยะในตำบล ถ้าถูกคัดแยกแล้วไม่รู้คุณต้องไปตามหาที่ไหน” คนดูแลลานพักขยะปลอบก่อนจะเดินจากไป ปล่อยให้หนุ่มสาวหน้าตาดีคู่นี้ค้นหาของสำคัญที่ทำหายได้ตามสะดวก

ชายหนุ่มถอนใจเฮือกใหญ่ หันไปมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องถ่อมาถึงนี่ด้วยสายตาตัดพ้อ

“ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องมาหรอก ยังไงก็หาไม่เจอ ดีไม่ดีอาจจะมีคนเห็นและเก็บไปแล้วก็ได้”

หญิงสาวบีบจมูกตัวเองไว้แล้วหายใจทางปากแทน ทำให้เสียงที่เปล่งออกมาค่อนข้างอู้อี้ แต่เขาก็ฟังออกทุกคำ

“นี่ไม่รู้สึกผิดเลยสินะ ผมบอกแล้วไงว่าใช้เงินเดือนทั้งเดือนซื้อมา แล้วมันก็เป็นแหวนวงแรกที่ผมเลือกเอง ควักเนื้อเองด้วย มันมีความหมายมากกว่าแหวนเพชรวงนึงนะ”

หากเป็นเวลาปกติปานไพลินคงแหวกลับไปแล้ว เขาส่งแหวนมาพร้อมดอกไม้ในตอนที่เธอกำลังโกรธ จะมาโทษเธอได้ยังไงที่ทิ้งมันลงถังขยะโดยไม่ไยดี แต่คราวนี้หญิงสาวกลับไม่กล้าแหว แถมยังยอมให้เขาลากมาด้วยจนถึงลานพักขยะ ฮอร์โมนของเธอต้องแปรปรวนเพราะการตั้งครรภ์แน่ๆ ถึงได้เกิดจะแคร์ความรู้สึกของปรมัตถ์ขึ้นมา ไม่ชอบเลย...

“งั้นก็ลองจ้างคนหาแล้วกัน ฉันจะช่วยออกเอง” เธออ่อนข้อมากแล้วนะ ถ้าเขายังไม่เอาอีกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

“คุณนั่นแหละที่ต้องมาช่วยผมหา จะรับผิดชอบด้วยการใช้เงินไม่ได้”

“ไม่เอา! สกปรกจะตาย เหม็นมากด้วย”

ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ เดินไปคุยกับคนดูแลลานพักขยะครู่หนึ่งก็กลับมาพร้อมที่คาดจมูกสองอันกับถุงมือสองคู่

หญิงสาวเดินถอยหลัง ไม่อยากลุยเข้าไปในกองขยะที่แสนสกปรกนั่นจึงคิดหาทางออกอย่างรวดเร็ว กลิ่นเหม็นเน่าที่โชยมาเตะจมูกเป็นระยะทำให้เธอนึกอะไรได้ รีบเบ้หน้า ทำท่าพะอืดพะอมเหมือนจะอ้วก

“ฉันว่า...ฉันเริ่มมีอาการแพ้แล้วละ”

ปรมัตถ์หยุดกึก เพิ่งนึกได้ว่าหญิงสาวกำลังท้องจึงรีบพาเธอขึ้นรถ สตาร์ตเครื่องยนต์ไว้ หญิงสาวจะได้รอในที่เย็นๆ และไม่มีมลพิษทางอากาศรบกวน

“คุณรอบนรถแล้วกัน เวียนหัวด้วยไหม จะไปหาหมอก่อนรึเปล่า?”

ท่าทางห่วงใยและเอาใจใส่ของเขาทำให้คนที่คิดจะตีเนียนกลับไปรอที่บ้านต้องเปลี่ยนใจ “ไม่เป็นไร แค่พะอืดพะอมนิดหน่อย รอบนรถก็ได้”

“แน่ใจนะ?” เขาถามย้ำ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าปานไพลินจะมีอาการแพ้ท้องอย่างปัจจุบันทันด่วนขนาดนี้ แต่เขาไม่คิดจะแกล้งให้เธอช่วยหาแหวนในกองขยะอีกเพราะเป็นห่วงสุขภาพทั้งของคุณแม่และคุณลูก

เธอพยักหน้ายืนยัน เขาจึงสวมถุงมือและที่คาดจมูก ก่อนจะลงไปคุ้ยขยะหาช่อกุหลาบที่มีแหวนผูกด้วยโบไว้ที่ก้านดอกตรงกลางช่อ

หญิงสาวนั่งกอดอกรออย่างคุณนาย คิดว่าไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเขาคงเหนื่อยและเลิกล้มความตั้งใจไปเอง กุหลาบช่อนั้นยังสวยตอนที่เธอโยนทิ้ง ใครเห็นเข้าก็คงสะดุดตาและหากหยิบขึ้นมาดูก็น่าจะเจอแหวนด้วย เจอของมีค่าแบบนั้นในถังขยะเป็นใครก็คงเก็บเอาไว้เอง ไม่ก็นำไปขายเอาเงินมาใช้ ไม่น่าเหลือรอดให้เจ้าของมาตามเจอหรอก งานนี้เขาต้องเหนื่อยเปล่าแน่

แต่ปานไพลินสบประมาทชายหนุ่มมากเกินไป ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเขายังไม่หยุดหา และยังไม่มีทีท่าว่าจะเจอช่อดอกไม้กับแหวนด้วย ชายหนุ่มนั่งพักเป็นครั้งคราว เธอนึกว่าเขาจะถอดใจ แต่ครู่เดียวเขาก็ลุกขึ้นใช้ไม้เขี่ยกองขยะหาแหวนต่อไปอย่างมุ่งมั่น

แดดแรงขึ้นทุกขณะ เธอมองนาฬิกา ตอนนี้สิบโมงครึ่งแล้ว นอกตัวรถคงร้อนมากอย่างไม่ต้องสงสัย หญิงสาวอดใจรอจนสิบเอ็ดโมงจึงสวมที่คาดจมูกและหยิบขวดน้ำลงจากรถ เดินกระย่องกระแย่งผ่านกองขยะเข้าไปหาเขาและส่งขวดน้ำดื่มที่ได้จากการเติมน้ำมันรถให้ ชายหนุ่มหันกลับมามองอย่างแปลกใจ

“พอเหอะคุณ หาไม่เจอหรอก ดื่มน้ำซะ แล้วก็กลับบ้าน”

“ผมมีความรู้สึกว่ามันอยู่แถวนี้แหละ ผมจะหาต่อ แต่ก็ขอบคุณนะที่เป็นห่วง” นัยน์ตาคมพราวระยับเมื่อมองเธอ

ทั้งที่เห็นแค่ดวงตายังทำให้ปานไพลินหน้าร้อนผ่าว รีบปฏิเสธเสียงแข็ง “ฉันไม่ได้ห่วง แค่กลัวคุณจะเป็นลมเป็นแล้งไปซะก่อน เกิดเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ ฉันจะตอบพ่อแม่คุณว่ายังไง”

“ไม่ห่วงก็ไม่ห่วง แต่มือผมเลอะ ป้อนหน่อยได้ไหม เอาที่คาดจมูกออกให้ด้วย”

เขาอ้อนพลางโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ ปานไพลินตกใจและถอยหนี เท้าเหยียบกระป๋องโค้กทำให้เสียหลักเกือบล้มหงายหลัง ปรมัตถ์รีบคว้าเอวบางไว้ ทำให้เธอตกอยู่ในวงแขนเขาและได้ของแถมเป็นรอยเลอะจากนิ้วมือของชายหนุ่ม

“แหม...กำลังรอซีนแบบนี้อยู่เลย สวรรค์เป็นใจจริงๆ”

ชายหนุ่มยิ้มทะเล้น ดวงตาแพรวพราวชวนให้คนมองสบต้องใจสั่น

หญิงสาวชักสีหน้า ดูเหมือนคราวนี้จะเขินมากกว่าโกรธจึงรีบยืนให้มั่นคงและถอยห่าง เขาไม่ยื้อไว้ ได้กอดเธอก็ดีอยู่หรอก แต่ท่ามกลางกองขยะแบบนี้ก็ไม่ไหว บรรยากาศไม่เป็นใจเอาเสียเลย

“ชุดฉันเลอะหมดแล้ว ถ้าคุณอยากจะหาต่อก็ต่อตามใจ งั้นฉันไปละ”

เธอหมุนตัวกลับ แต่นึกได้ว่ายังไม่ได้ให้น้ำดื่มกับเขาจึงหันมายัดขวดน้ำใส่มือชายหนุ่มแล้วรีบเดินกระย่องกระแย่งกลับไปที่รถแบบไม่เหลียวหลัง

ปรมัตถ์โคลงศีรษะ หัวเราะเบาๆ รู้สึกขำปนทึ่งตัวเองที่ยังอารมณ์ดีอยู่ได้ ทั้งที่ร้อนและเหม็นจนไม่อยากจะหายใจ แถมยังมีฝูงแมลงวันนับร้อยเป็นเพื่อน ถ้ามีใครบอกว่าวันหนึ่งเขาจะต้องทำถึงขนาดนี้เพื่อผู้หญิงสักคน เขาต้องค้านหัวชนฝาแน่ แต่ปานไพลินก็ทำให้มันเกิดขึ้น บนโลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้จริงๆ



เที่ยงแล้ว ดวงตะวันลอยอยู่เหนือศีรษะ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านอกตัวรถอากาศร้อนเปรี้ยงสักแค่ไหน กลิ่นเหม็นเน่ายิ่งทวีความเลวร้าย ปานไพลินไม่คิดว่าปรมัตถ์จะเอาจริงขนาดนี้ ทั้งที่เธอควรหงุดหงิดที่ถูกลากมาเสียเวลาด้วยตั้งครึ่งค่อนวัน แต่ยิ่งเห็นความมุ่งมั่นของเขากลับยิ่งใจอ่อน

หญิงสาวถอนใจเฮือก สวมถุงมือและที่คาดจมูกอีกครั้งก่อนจะเปิดประตูรถออกไป หาไม้ยาวๆ มาช่วยเขี่ยและค้นหาช่อกุหลาบของเขาอีกแรง ปรมัตถ์เหลียวมาเจอร่างอรชรที่เดินเอียงซ้ายเอียงขวาคุ้ยขยะอยู่คนละด้านกับเขาก็ยืนนิ่ง มองเธออยู่สักพักค่อยเดินตรงมาหา

“นั่นคุณทำอะไรน่ะ?”

“ถามได้ ก็ช่วยคุณหาแหวนน่ะสิ ขืนปล่อยไว้แบบนี้จนตะวันตกดินฉันก็คงไม่ได้กินข้าวแน่” เธอตอบห้วนๆ โดยไม่หันไปสบตาเขา

ชายหนุ่มแหงนมองบนฟ้า แสงเจิดจ้าของพระอาทิตย์ทำให้เขาต้องหยีตาและยกแขนขึ้นบัง “เที่ยงแล้วสินะ งั้นไปกินข้าวก่อนค่อยกลับมาหาต่อ”

“คุณไม่คิดบ้างเหรอว่าอาจจะมีคนเก็บไปแล้ว” เธอถามไปอย่างนั้นเอง ใจจริงเชื่อว่าไม่มีทางหาเจอแล้วแน่ๆ

“ก็อาจจะ แต่ผมมีความรู้สึกว่าจะได้มันคืน”

หญิงสาวหันไปสบตาเขาอย่างแปลกใจ นัยน์ตาคมคู่นั้นบอกว่าเขาเชื่ออย่างที่พูดจริงๆ

เสียงเด็กๆ หัวเราะและหยอกล้อกันดังมาเข้าหู ปานไพลินหันไปมอง เห็นเด็กผู้หญิงวัยประมาณเจ็ดถึงสิบขวบสองคนกำลังเล่นวิ่งไล่จับกันอยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่รถของปรมัตถ์จอด

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ข้าขอสาปให้เจ้าเป็นหิน โอมมะลึกกึ๊กกึ๋ย เพี้ยง!” เด็กคนที่วิ่งตามตะโกนขึ้นพร้อมชี้กุหลาบแดงในมือไปยังเด็กคนที่วิ่งหนี

อีกฝ่ายยกมือขึ้นทำท่ากันคาถา ร้องตอบว่า “ข้ามีแหวนวิเศษป้องกันตัว คำสาปของเจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอก ฮ่าๆๆ”

สองหนุ่มสาวหันมาสบตากันทันที

“คุณคิดเหมือนผมรึเปล่า?”

“คงไม่มีครั้งไหนที่เราจะเห็นตรงกันมากกว่านี้อีกแล้ว”

ว่าแล้วทั้งคู่ก็ลุยกองขยะกลับมาที่รถด้วยความตื่นเต้น หญิงสาวเซไปเล็กน้อยเพราะรีบเร่งจนเหยียบขวดแก้วเข้าให้ ชายหนุ่มจึงคว้าข้อมือของเธอไว้และพาออกมาจากกองขยะอย่างปลอดภัย ปานไพลินเองก็มัวแต่ลุ้นไปกับเขาจนลืมระวังความใกล้ชิด พอมาถึงรถปรมัตถ์ก็ดึงที่คาดจมูกออก ตะโกนเรียกเด็กทั้งสองคนที่วิ่งเล่นกันอยู่

“เฮ้ น้องสองคนนั่นน่ะ พี่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”

เขาเดินเข้าไปหาเป้าหมาย เด็กหญิงทั้งสองก็หยุดมองชายหนุ่มด้วยความสนใจระคนสงสัย

“น้องได้กุหลาบนั่นมาจากไหนเหรอ” ปรมัตถ์ย่อตัวลง ชี้ไปที่กุหลาบในมือของเด็กหญิงที่ตัวสูงกว่า

“หนูไม่ได้ขโมยนะคะ พ่อหนูให้มา พ่อบอกว่ามีคนทิ้งเลยเอามาให้หนู” เจ้าตัวว่าด้วยท่าทีเกรงๆ และซ่อนกุหลาบดอกนั้นไว้ข้างหลัง

“ของอยู่ในถังขยะแปลว่ามีคนทิ้ง เราไม่ได้ขโมยนะคะ พ่อเราเก็บมาจริงๆ” เด็กหญิงตัวเล็กกว่าสำทับแล้วซ่อนมือที่สวมแหวนไว้ด้านหลัง

“ไม่ต้องกลัวหรอก พี่ไม่ได้ว่าพวกหนูเป็นขโมย แต่พี่เผลอทำของสำคัญที่อยู่ในช่อกุหลาบหาย พี่อยากได้คืน กุหลาบที่พ่อของน้องให้เป็นกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ใช่รึเปล่า”

เด็กหญิงพยักหน้ารับ ชายหนุ่มจึงส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะหันไปมองเด็กหญิงที่ตัวเล็กกว่า

“น้องเจอแหวนในช่อกุหลาบใช่ไหม ขอพี่ดูหน่อยสิ” เขาแบมือไปตรงหน้าเด็กน้อย รอยยิ้มเป็นมิตร

เด็กทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างปรึกษาโดยใช้แค่สายตา ไม่กล้าพูดออกมาดังๆ

ปานไพลินกอดอกมองอย่างสนใจ อยากรู้ว่าชายหนุ่มจะทำสำเร็จไหม ท่าทางเด็กทั้งสองคนจะถูกสอนมาดี ทั้งเรื่องอย่าขโมยของและอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า ปรมัตถ์เองก็เหมือนจะดูออกเช่นกัน

“แหวนวงนี้สำคัญกับพี่มาก ถ้าใช่วงเดียวกันพี่ก็อยากได้คืน เห็นพี่สาวคนสวยนั่นไหม”

เขาหันไปทางปานไพลิน เด็กน้อยมองตามทันที หญิงสาวได้แต่เลิกคิ้ว สงสัยว่าชายหนุ่มจะหลอกล่อเด็กทั้งสองให้คืนแหวนได้อย่างไร

“พี่ทำแหวนที่จะขอแฟนแต่งงานหาย ถ้าไม่มีแหวนวงนี้พี่ก็อดแต่งงานกับคนที่พี่รัก ขอพี่ดูหน่อยเถอะนะ”

แววตาไร้เดียงสาสองคู่จ้องเขม็งไปที่พี่สาวคนสวย ปานไพลินรู้สึกว่าแก้มร้อน วางสีหน้าไม่ถูกกันเลยทีเดียวจึงได้แต่หันไปมองค้อนปรมัตถ์ ชายหนุ่มยิ้มกริ่มอย่างไม่สลด

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเด็กคนนั้นยอมวางแหวนลงบนฝ่ามือของเขาในที่สุด

ชายหนุ่มเบนสายตากลับมาที่แหวน แหวนทองคำขาวเกลี้ยงๆ ฝังเพชรเม็ดเล็กตรงกลาง ข้างในตัวเรือนสลักตัวอักษรโรมัน P&P ไม่มีทางผิดวงแน่

เขาหันไปสบตาหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินไปหาเธอ แบมือให้ปานไพลินดู “เห็นไหม ผมบอกแล้วว่าจะต้องได้คืน”

เธอหลุบตามองแหวนบนฝ่ามือของเขา อดยิ้มตามไม่ได้

ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ...

แหวนค่อนข้างมอมแมมพอๆ กับเนื้อตัวของพวกเขา ปรมัตถ์จึงคว้ามือหญิงสาวมาสวมแหวนให้ทั้งที่เธอยังสวมถุงมือยางอยู่

“ใส่ไว้ซะ เดี๋ยวหายอีก”

หญิงสาวได้แต่กะพริบตาปริบๆ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมไม่ชักมือหนี

เขายิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะหันกลับไปมองหน้าเด็กหญิงทั้งสองคน ล้วงเอากระเป๋าสตางค์ที่ถุงข้างหลังกางเกงยีนออกมา ส่งธนบัตรสีเทาให้เด็กหญิงคนพี่

“พี่ขอซื้อคืนนะ เอาเงินนี่ไปซื้อขนมแบ่งกัน ขอบใจมากที่เก็บแหวนไว้ให้”

เด็กหญิงทั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้มแฉ่ง รีบพนมมือไหว้ แล้วคนที่โตกว่าก็รับเงินไป ก่อนจะจับมือน้องวิ่งกลับบ้านด้วยความดีใจ

ปานไพลินมองแหวนบนนิ้วตัวเองด้วยความรู้สึกประหลาด ใจมันพองๆ บอกไม่ถูก กลิ่นเหม็นคละคลุ้งจากกองขยะหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ จู่ๆ เธอก็ไม่รู้สึกถึงมันอีก เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าปรมัตถ์มองเธออยู่ เขายิ้มกว้าง แม้ใบหน้าและเนื้อตัวจะมอมแมม แน่นอนว่าต้องมีกลิ่นเหม็นจากกองขยะติดเสื้อผ้าด้วย แต่เขากลับดูมีเสน่ห์มากกว่าทุกครั้งที่เธอเห็น

“กลับกันเถอะ ทั้งร้อนทั้งเหม็น ไม่รู้ทนมาได้ยังไงตั้งครึ่งค่อนวัน ตอนนี้หิวแล้วด้วย”

ไม่พูดเปล่า เขายังคว้าข้อมือหญิงสาวให้เดินไปที่รถด้วยกัน ปานไพลินไม่ขัดขืน แต่พอเขาพูดเรื่องกลิ่นเหม็น เธอก็รู้สึกเหม็นขึ้นมาทันที ซ้ำร้ายยังพะอืดพะอมอยากขย้อนทุกสิ่งในท้องออกมาให้หมด พอเขาปล่อยมือและเปิดประตูรถให้ เธอจึงวิ่งไปอ้วกใต้โคนต้นไม้จนหมดไส้หมดพุง

“เป็นไรไปคุณ เห็นทนมาได้ตั้งนานสองนาน ตอนนี้ทนไม่ไหวแล้วเหรอ” ชายหนุ่มเย้าอย่างเห็นขันแต่ก็ตามมาช่วยลูบหลังให้

หญิงสาวยังมีท่าทีพะอืดพะอมอยู่อีกหลายอึดใจจนเขาชักเป็นห่วง รีบไปหยิบขวดน้ำดื่มในรถมาเทใส่ผ้าเช็ดหน้าแล้วซับเบาๆ ตามใบหน้าและลำคอให้เธอ เมื่อปานไพลินหยุดอ้วกแล้วเขาจึงประคองร่างบางกลับมาที่รถ ส่งเธอเข้าไปนั่งที่เบาะข้างคนขับและเปิดประตูค้างไว้

“คุณไม่สบายรึเปล่า” เขาโน้มตัวลงไปถามพลางช่วยเกลี่ยไรผมข้างแก้มนวลไปทัดหลังใบหูให้

เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา น้ำตาคลอเล็กน้อย ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย “ฉันว่าฉันคงเริ่มแพ้ท้องจริงๆ แล้วละ”

ชายหนุ่มนิ่งไปนิด ก่อนจะยิ้มและนั่งลงตรงหน้าหญิงสาว

“คราวนี้ของจริงแล้วสินะ ถอดถุงมือก่อนสิ” ว่าพลางยื่นมือไปรอรับถุงมือยางจากหญิงสาว

ปานไพลินทำตามที่เขาบอก ถอดถุงมือข้างขวา แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายตามด้วยถุงมือและส่งให้เขาทั้งหมด

ปรมัตถ์รวบมือเล็กทั้งสองข้างมาเช็ดทำความสะอาดให้ด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเดิม ก่อนจะบรรจงสวมแหวนให้เธออีกครั้งแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับหญิงสาวอย่างแน่วแน่

“ถึงเราจะต้องแต่งงานกันอยู่ดี แต่ผมก็อยากพูดคำนี้สักครั้ง ป่าน...แต่งงานกับผมนะ ผมจะดูแลคุณกับลูกเอง”

รู้ว่าไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ใจเต้นแรงไปกับคำขอแต่งงานของเขา เด็กในท้อง อาการแพ้ และแหวนที่นิ้วนาง ดูเหมือนสิ่งเหล่านี้ค่อยๆ ผูกพันเธอกับเขาไว้ด้วยกัน

สายตาคมทำให้แก้มนวลร้อนผะผ่าวจนต้องมองไปที่อื่น และแล้วก็พบว่านี่คงเป็นสถานที่ในการขอแต่งงานที่ไม่มีใครอยากลอกเลียนแบบ อารมณ์หวามไหวปลิวไปกับกลิ่นเหม็นคละคลุ้งที่โชยมาตามลม

เธอดึงมือกลับ ตอบเซ็งๆ ว่า “นี่ฉันเลือกอะไรไม่ได้เลยแม้กระทั่งสถานที่ขอแต่งงานใช่มั้ย”

เขามองไปรอบตัว เพิ่งนึกได้ว่าตอนนี้อยู่ข้างกองขยะจึงนิ่งไปด้วยความช็อก

หนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างเขาไม่น่าจะทำพลาดร้ายแรงขนาดนี้ ขอสาวแต่งงานข้างกองขยะในสภาพที่เนื้อตัวมอมแมมและเหม็นหึ่ง อา...รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น เสียชื่อปรมัตถ์จริงๆ!





_______________________________________________



2-3 วันมานี้มีพายุเข้า ทั้งฝนตก ฟ้าร้อง ลมแรง ผลที่ตามมาคือไฟดับ ทำให้มีโอกาสได้อ่านนิยายใต้แสงเทียน (ก็มันทำอย่างอื่นไม่ได้ง่ะ) แล้วก็หยิบหมอกะมี่มาเปิดดูผ่านๆ จึงได้เห็นว่าคุณปอเรียกพ่อว่า “ป๊า” นะคะสาวๆ

สารภาพตามตรงเลยว่าจำไม่ได้และไม่ได้เช็กก่อนเขียนตอนพิเศษ แหะๆ ^^” เพราะฉะนั้นในตอนต่อจากนี้ ถ้าเห็นคุณปอเรียกป๊าแทนเตี่ยก็ไม่ต้องงงนะคะ แก้ในต้นฉบับแล้วแต่ในเว็บยังไม่แก้ รอลงฉบับรีไรท์ ไม่ก็ปล่อยไว้อย่างนี้ แล้วแต่ระดับความขี้เกียจของคนเขียนค่ะ แฮ่ ^^”

คุณ newyorknurse ขอบคุณมากค่า

คุณ sakeena หวานจัดเต็มแน่นอนค่ะคู่นี้ อิอิ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ ^____^








Create Date : 20 กรกฎาคม 2559
Last Update : 20 กรกฎาคม 2559 23:56:18 น. 2 comments
Counter : 993 Pageviews.

 
back.. not literally

but back to wifi world. I cannot connect to the internet on my notebook using the hotel wifi.

am in a friend house so..

I really like this special between these two.. it's deserved to be called a special!


โดย: pmoonoi IP: 188.165.201.164 วันที่: 23 กรกฎาคม 2559 เวลา:6:53:12 น.  

 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:13:32:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ระตา
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




รู้สึกอยู่เสมอว่าการได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้คือความมหัศจรรย์...และการอ่านออกเขียนได้คือรางวัลของชีวิต...
Friends' blogs
[Add ระตา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.