Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
11 กรกฏาคม 2559
 
All Blogs
 
ตอนพิเศษ : วุ่นนักรักต้องอุ้ม ๔





๔.
___________________________________________________



“กุหลาบมั้ย?”

ปรมัตถ์เหลือบมองคนที่นั่งกอดอก หลังตรง คอแข็งมาตลอดทาง เธอหันมาสนใจนิดหนึ่งแล้วก็กลอกตาใส่เขาอย่างไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เขาพูด ชายหนุ่มอมยิ้ม เหลือบมองกระจกมองหลังเห็นว่าทางสะดวกก็หักพวงมาลัยเข้าชิดริมฟุตปาธ

“จอดรถทำไม?” เธอมองหน้าเขาอย่างขอคำอธิบาย

“ซื้อดอกไม้” ยิ้มให้เธออย่างซุกซน ก่อนจะลงจากรถไป

ปานไพลินมองตามร่างสูงเพรียวที่เดินหายเข้าไปในร้านขายดอกไม้ เขาจอดรถตรงหน้าร้านพอดีและร้านนี้ก็เป็นกระจกใส ทำให้มองเห็นภายในได้สะดวก ชายหนุ่มยืนตรงหน้าเคาน์เตอร์ พูดคุยกับเจ้าของร้านด้วยรอยยิ้มเบิกบาน หญิงสาวถอนใจเฮือกใหญ่ รู้สึกหงุดหงิดกับความผ่อนคลายของเขาอย่างบอกไม่ถูก

เธอเอนหลังพิงพนัก หลับตาพัก ไม่อยากอารมณ์เสียก่อนเจอครอบครัวเขา แต่ครู่เดียวกระจกด้านข้างก็ถูกเคาะ หญิงสาวลืมตามอง ปรมัตถ์มาพร้อมกุหลาบแดงหอบใหญ่ ยังไม่ได้จัดช่อแต่ถูกห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ เขาเปิดประตูรถและส่งดอกไม้ให้เธอแต่ปานไพลินไม่ยอมรับ เขาจึงวางมันลงบนตักเธอแล้วปิดประตู ก่อนจะอ้อมมาขึ้นฝั่งคนขับและสตาร์ตรถ

“ฉันไม่อยากได้ซักหน่อย” เธออดแหวไม่ได้ จำต้องกอดช่อกุหลาบเอาไว้ ไม่อย่างนั้นมันก็คงร่วงลงไปกองตรงที่วางเท้า

“แต่ผมอยากให้” เขาหันมาส่งยิ้มอย่างไม่ถือสากับท่าทีหงุดหงิดของเธอ นึกขำระคนชอบใจด้วยซ้ำที่ปานไพลินแสดงความไม่พอใจหลังจากที่เขาประกาศว่าจะจีบเธอ

หญิงสาวขี้เกียจจะเถียงด้วย เพราะดูเขาจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลย ไม่ว่าเธอจะต่อต้านยังไงเขาก็ยังทำอย่างที่ตัวเองอยากทำ คนเอาแต่ใจ!

“แต่มันหนักนะ จะให้ฉันอุ้มไว้แบบนี้จนถึงบ้านคุณเลยรึไง”

“ถึงแล้วนี่ไง แวะหาเตี่ยกับแม่ที่ร้านก่อน เดี๋ยวพาไปทัวร์โรงงานกระเบื้องแล้วค่อยเข้าบ้านทีหลัง”

ว่าพลางหักพวงมาลัยเข้าไปจอดในซองด้านหน้าร้านขายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างครบวงจรของครอบครัว

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองป้าย ‘ป. กระเบื้องและวัสดุก่อสร้าง’ แล้วกลืนน้ำลายลงคอ จู่ๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“คุณบอกพ่อกับแม่แล้วใช่ไหมว่าฉันเป็นใคร?” เผลอกระตุกแขนเขาไว้อย่างลืมตัว

ชายหนุ่มหันมาสบตาหญิงสาวตรงๆ พร้อมรอยยิ้มให้กำลังใจขณะเอื้อมมือไปรับช่อกุหลาบขนาดใหญ่นั้นมาวางไว้ที่เบาะหลังให้ “แน่นอน ผมบอกแล้ว”

“บอกด้วยรึเปล่าว่าฉันเคยแต่งงาน?”

เขาพยักหน้า

“แล้วพ่อแม่คุณไม่ว่าอะไรเลยเหรอ?” หญิงสาวอดเป็นกังวลไม่ได้

ปรมัตถ์พูดถูกอย่างหนึ่ง เขาหล่อ เขารวย เขามีพร้อมทุกอย่าง เขาแทบจะชี้นิ้วเลือกผู้หญิงคนไหนก็ได้มาเป็นภรรยา ก่อนจะแต่งงานกับวิทยาเธอก็อยู่ตำแหน่งที่ไม่ต่างไปจากเขานัก แต่ตอนนี้เธอเป็นหญิงม่าย พ่อแม่เขาจะยินดีต้อนรับหรือ

เขายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน เอื้อมกุมมือเล็กและบีบกระชับอย่างให้ความมั่นใจ “อย่าห่วงเลย เตี่ยกับแม่ตื่นเต้นเรื่องหลานมากกว่าอีก”

ปานไพลินเบิกตากว้าง เป็นใบ้ไปชั่วขณะ ก่อนจะหาเสียงตัวเองเจอและแหวเข้าให้ “คุณจะบ้าเหรอ ไปบอกเรื่องนั้นทำไม ทีนี้ฉันจะเอาหน้าไปไว้ไหน เป็นม่ายแล้วยังท้องก่อนแต่งอีก พ่อแม่คุณจะมองฉันยังไงฮะ?”

ชายหนุ่มกลั้นยิ้ม ก่อนจะตอบหน้าตายว่า “คุณไม่น่าห่วงเรื่องนั้นนะ อย่าว่าแต่พ่อแม่ผมเลย คนทั้งจังหวัดคงไม่มีใครคิดหรอกว่าผมจะ ‘รอ’ จนถึงวันแต่งงาน แค่ได้ยินข่าวว่าเราจะแต่งกันพวกเขาก็รู้แล้วว่าคุณเป็นของผม อย่าคิดมากเลย เรื่องนี้ไม่มีใครโทษคุณหรอก”

อ๊าย!!!

หญิงสาวได้แต่กรีดร้องในใจ ริมฝีปากสั่นระริกอย่างพยายามนึกหาคำพูดมาเถียงแต่ก็นึกไม่ออก รู้สึกว่าที่เขาพูดไม่ได้เกินจริงเลย ทุกคนต้องคิดอย่างนั้นแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ เธอพลาดเองที่ชวนเขาไปดื่มต่อในคืนนั้น

นวลแก้มแดงจัดและแววตาหมดอาลัยตายอยากนั้นบอกให้รู้ว่าเธอเข้าใจคำพูดของเขาดี ปรมัตถ์ยิ้มกริ่ม พอใจที่เธอยอมรับความจริงได้บ้างแม้จะเป็นการยอมรับด้วยความจำนนก็ตาม

“ที่จริงน่าจะเพราะอย่างงี้ด้วย พ่อคุณถึงไม่คัดค้านตอนที่ผมบอกว่าจะให้เตี่ยกับแม่มาสู่ขอคุณภายในสองสามวันนี้”

ปานไพลินได้แต่ซบใบหน้าที่ร้อนผ่าวราวถูกลวกลงกับฝ่ามือทั้งสองข้าง

ชื่อเสียงเธอป่นปี้หมดแล้ว แล้วนี่เธอจะมีหน้าไปพบพ่อแม่ของเขาได้ยังไง โอย...จะมุดลงรูไหนดีเนี่ย โธ่...

ชายหนุ่มกลั้นหัวเราะ เอื้อมมือไปตบไหล่บอบบางเป็นเชิงปลอบ “คุณก็รู้นะว่าครอบครัวคนจีนส่วนใหญ่ถือเรื่องดวงกันมาก พ่อผมก็เหมือนกัน ถ้าไม่บอกเหตุผลที่ต้องรีบแต่ง มีหวังได้ฤกษ์ปีหน้าแน่ แต่ลูกเราคงรอนานขนาดนั้นไม่ได้ จริงไหม”

ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย!

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นทำตาเขียวใส่ แต่ยังไม่ทันจะต่อว่าอะไรเขาอีกก็มีคนมาเคาะกระจกข้างรถเสียก่อน

ชายหนุ่มหันไปมองจึงเห็นว่าเป็นพ่อกับแม่นั่นเอง

“เตี่ยกับแม่ผมมาแล้ว ไปเถอะ” ว่าแล้วก็เปิดประตูรถฝั่งของตัวเองออกไปทักทาย “หวัดดีครับเตี่ย แม่”

“เห็นรถปอมาจอดพักใหญ่แล้วแต่ไม่ลงมากันเสียที แม่เลยชวนเตี่ยมาดู” นางรัมภาชี้แจงด้วยรอยยิ้มขณะชะโงกมองเข้าไปในรถอย่างเก็บความตื่นเต้นไม่อยู่

“กำลังจะเข้าไปพอดีครับ”

ปานไพลินรีบมัดรวบผมที่ปรมัตถ์คลายออกให้เรียบร้อย ก่อนจะก้าวตามลงมาพร้อมรอยยิ้มแปลกแปร่งระคนประหม่าอาย ไม่ค่อยกล้าสบตาผู้สูงวัยทั้งคู่นัก

ชายหนุ่มโอบเอวท้วมๆ ของมารดาเข้าไปหาปานไพลิน แนะนำทั้งสองฝ่ายอย่างไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก

หญิงสาวพนมมือไหว้ตามธรรมเนียม เห็นรอยยิ้มเป็นมิตรจากพ่อแม่ของเขาจึงลดความกริ่งเกรงลงได้บ้าง แต่ก็เพียงนิดเดียว ถ้าพ่อแม่ของเขาไม่เดินมาต้อนรับจนถึงรถ เธอจะสั่งหเขาพากลับบ้านเสียเดี๋ยวนี้

“เข้าไปข้างในกันก่อนเถอะ ตรงนี้แดดร้อน ทำตัวตามสบายนะหนูป่าน ไม่ต้องเกรงใจ” ปกรณ์ บิดาของปรมัตถ์เอ่ยกับว่าที่สะใภ้เล็กอย่างเป็นกันเอง

“ค่ะ” หญิงสาวรับคำสงบเสงี่ยม รู้สึกผ่อนคลายลงมากที่พ่อแม่ของเขาไม่ได้พูดหรือแสดงท่าทีให้รู้สึกอึดลำบากใจแม้แต่น้อย

ปรมัตถ์ฉวยโอกาสโอบเอวบางขณะเดินตามพ่อแม่เข้าไปภายในร้าน ปานไพลินหยิกแขนเขาพร้อมถลึงตาใส่ ชายหนุ่มจึงยกมือขึ้นปลดมวยผมของเธออีกครั้ง หญิงสาวได้แต่ใช้สายตาต่อว่าแต่ดูเหมือนปรมัตถ์จะไม่ยี่หระ เขายังหัวเราะเบาๆ อย่างอารมณ์ดีอีกต่างหาก

เธอไม่อยากทะเลาะกับเขาต่อหน้าพ่อแม่จึงต้องปล่อยเลยตามเลย หาไม่แล้วอาจมีประเด็น ‘คุณแม่ไม่ปลื้ม’ มาทำให้งานแต่งล่าช้าออกไปอีก ถึงนาทีนี้ถ้าเธอไม่ได้แต่งกับปรมัตถ์ ชื่อเสียงคงเหม็นโฉ่ไปทั้งจังหวัด!



นางรัมภาให้เด็กยกน้ำกับขนมมาต้อนรับว่าที่สะใภ้เล็กของบ้านและชวนพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ปกรณ์อยู่คุยด้วยไม่นานก็ต้องออกไปคุยกับลูกค้ารายใหญ่ที่แวะมาสั่งของ นางรัมภาจึงเลียบเคียงถามเรื่องงานแต่งงานว่าจัดการอะไรกันไปบ้างแล้ว

“ยังไม่ได้ทำอะไรเลยครับ ว่าจะมาปรึกษาแม่วันนี้แหละ ผมกับป่านทำกันเองคงไม่รอด” ลูกชายอ้อนอย่างน่ารัก เรียกค้อนจากคนเป็นแม่ได้วงหนึ่ง

“แม่ต้องดูก่อนนะว่าจะทำอะไรได้บ้างในเวลากระชั้นชิดแบบนี้” นางรัมภาอดประชดลูกชายไม่ได้ ก่อนจะหันไปหาสะใภ้เล็กที่นางยอมรับแล้วตั้งแต่รู้ว่าหญิงสาวกำลังตั้งครรภ์หลานของตนอยู่ เอื้อมไปจับมือเรียวเล็กของอีกฝ่ายบีบกระชับเบาๆ “แม่ต้องขอโทษหนูป่านด้วยนะลูก ปอเป็นลูกคนเล็กเลยนิสัยเสียมาแต่เด็ก ชอบทำอะไรตามใจตัว หนูคงลำบากใจไม่น้อย”

ปานไพลินไม่คิดว่าจะได้ยิน ‘ว่าที่แม่สามี’ พูดแบบนี้ แทนที่จะตำหนิเธอที่ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว หรือแย่กว่านั้นคือคิดว่าเธอจงใจปล่อยให้ท้องเพื่อจับเขา กลับตำหนิแต่ลูกชายตัวเองแล้วยังมาขอโทษเธออีก ความเมตตานี้เองที่ละลายความกังวลของเธอให้เบาบาง คราวนี้จึงสามารถยิ้มให้ผู้สูงวัยได้อย่างจริงใจ

นางรัมภาชวนปานไพลินดูแบบการ์ดแต่งงาน เพราะลูกชายโทรศัพท์มาคุยเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อคืน นางจึงเตรียมอะไรที่พอจะเตรียมได้เอาไว้บ้าง แวบหนึ่งหญิงสาวหันไปมองชายหนุ่มคล้ายจะขอความเห็น

“ผมตามใจคุณ” เขาอมยิ้ม พอใจที่เห็นแม่กับ ‘เมีย’ เข้ากันได้ดี

เอาเถอะ ถึงปานไพลินจะยังไม่ยอมรับแต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี ขอโมเมตำแหน่งนี้เอาไว้ก่อนก็แล้วกัน

“ก็ลองขัดใจดูสิ แม่นี่แหละจะแพ่นกบาลให้เอง” ผู้เป็นแม่เริ่มประกาศตัวว่าฝักใฝ่ฝ่ายสะใภ้มากกว่าลูกชายตัวเอง

ชายหนุ่มแกล้งครวญอย่างน่าหมั่นไส้ ก่อนจะมานั่งดูแบบการ์ดแต่งงานด้วยแต่ให้หญิงสาวเป็นคนเลือก สักพักก็หันไปเห็นพี่ชายยืนอมยิ้มมองมาจากนอกห้องกระจก พอสบตากันอีกฝ่ายก็โบกมือทักทาย เขาจึงยักคิ้วตอบ

“เก็บไว้ดูคืนนี้ได้ไหมป่าน เดี๋ยวผมพาไปรู้จักเฮียโป้งกับซ้อใหญ่ก่อน นะครับแม่ วันนี้มีเรื่องต้องทำหลายอย่างเลย”

ผู้เป็นแม่ส่งค้อนอีกวง แต่ก็เข้าใจว่างานนี้รอไม่ได้จึงบอกให้ลูกชายพาว่าที่เจ้าสาวไปแนะนำให้ทุกคนรู้จัก แล้วไม่วายกำชับ “ปออย่าลืมนะ เย็นนี้ต้องพาหนูป่านมากินข้าวกับเราด้วย แม่จองโต๊ะไว้แล้ว”

“ขอบคุณครับแม่” ชายหนุ่มโน้มตัวไปหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่ ก่อนจะพาปานไพลินไปแนะนำตัวกับปรเมศวร์ พี่ชายคนโตของเขาซึ่งมาช่วยดูแลกิจการที่ร้านอย่างเต็มตัว



ปานไพลินเดินออกมาจากห้องน้ำซึ่งอยู่ภายในห้องทำงานเดิมของปกรณ์ที่โรงงานทำกระเบื้อง ผมยาวถูกม้วนไว้เคลียไหล่อย่างเรียบร้อยเหมือนตอนออกจากบ้าน รู้สึกปลอดโปร่งกว่าเมื่อเช้ามาก การพบคนในครอบครัวของปรมัตถ์ครั้งแรกผ่านไปอย่างราบรื่นจนเหมือนกับความฝัน เธอหยุดมองภาพครอบครัวที่แขวนบนผนังข้างโต๊ะทำงานซึ่งปัจจุบันได้ปรมินทร์ พี่ชายคนรองของบ้านมาดูแล แต่พี่น้องทุกคนก็ยังสามารถเข้าออกหรือแวะมาดูงานแทนกันได้ในกรณีที่ปรมินทร์ต้องไปจัดการอย่างอื่นที่สำคัญกว่า

พ่อของปรมัตถ์เป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่อายุหกสิบแปดปีแล้วแต่ยังดูแข็งแรงคล่องแคล่วเหมือนผู้ชายเพิ่งย่างสู่วัยกลางคน ความคมคายบนใบหน้าบ่งว่าในวัยหนุ่มเขาน่าจะหล่อเหลายิ่งกว่าลูกชายคนเล็กเสียอีก ส่วนนางรัมภาเป็นคนไทยเชื้อสายมอญ แม้ปัจจุบันจะมีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์เกินพอดีไปนิด แต่ใบหน้ามีเค้าว่าในอดีตเคยเป็นสาวงามไม่แพ้ใคร ก็ไม่น่าแปลกใจที่ลูกสาวลูกชายบ้านนี้ล้วนหน้าตาดีกันทุกคน แต่สวรรค์อาจจะลำเอียงอยู่สักหน่อยที่มอบความงามอย่างลงตัวให้ปรมัตถ์มากกว่าพี่น้องคนอื่น

“เสร็จแล้วใช่ไหม เดี๋ยวแวะบ้านผมก่อนนะ อยากให้คุณคุ้นเคยเอาไว้”

พอนึกถึงก็โผล่หน้ามาเลย ตายยากชะมัด!

หญิงสาวนึกค่อนในใจเมื่อชายหนุ่มเดินตรงมาหาด้วยสีหน้าชื่นมื่นและยังออกคำสั่งเอาแต่ใจ

“ใครอยากไปบ้านคุณกัน”

“ผมบอกแล้วไงว่าชอบให้คุณปล่อยผมมากกว่า” เขาติงพร้อมปลดมวยผมเธอออกอย่างรวดเร็วและง่ายดาย ไม่ได้สนใจคำปฏิเสธของหญิงสาว

ปานไพลินชักสีหน้า มองคนมือไวตาเขียวปั้ด “ครั้งที่สามแล้วนะ”

“ถ้าคุณม้วนอีก ผมก็จะปล่อยอีก ไม่ขี้เกียจม้วนผมใหม่ก็ตามใจ” ชายหนุ่มอมยิ้มใส่ตาเธออย่างไม่สำนึกผิด แถมยังถือวิสาสะเกี่ยวเส้นผมข้างแก้มอิ่มไปทัดหลังใบหูให้อีก

ปลายนิ้วที่สัมผัสแผ่วเบากับนวลแก้มทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนวูบวาบ ถลึงตาใส่เขาอย่างเอาเรื่องพร้อมเอื้อมมือออกไป หมายใจจะหยิกเอวเขาและบิดให้สาแก่ใจ แต่พี่ชายคนรองของปรมัตถ์โผล่มาขัดจังหวะเสียก่อน

“อ้าว ยังไม่ไปกันอีกเหรอ ไหนว่าจะพาป่านแวะไปดูบ้านไง”

“กำลังจะไปแล้วเฮียเปา นี่เฮียจะไปเยี่ยมซ้อหวานที่โรงพยาบาลใช่ไหม ฝากจูบแก้มยายหนูลีด้วยนะ ไว้จัดการธุระเสร็จผมจะพาป่านไปดูหน้าหลาน”

“ได้เลย งั้นเย็นนี้ฉลองเผื่อเฮียด้วยนะ แล้วเจอกันใหม่นะครับน้องป่าน” ปรมินทร์หรือเฮียเปาบอกลาน้องชายและว่าที่น้องสะใภ้ แล้วเดินออกจากอาคารสำนักงานของโรงงานทำกระเบื้องไปก่อน

“ไปกันเถอะ ยังมีเวลาอีกสองชั่วโมงก่อนมื้อค่ำ”

ดูเหมือนนั่นจะไม่ใช่คำถาม หญิงสาวกลอกตาและยกมือขึ้นกอดอก

“ฉันไม่อยากไปบ้านคุณ”

“อีกไม่นานเราก็แต่งงานกันแล้ว คุณไม่อยากเห็นเหรอว่าผมโตมาในบ้านแบบไหน ห้องนอนผมเป็นยังไง อัลบั้มรูปตอนเด็กๆ ด้วย ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนเลยนะ” เขายิ้มกริ่มพลางคว้าข้อมือเล็กและออกแรงดึงให้เดินตาม

หญิงสาวขืนตัวไว้สุดพลัง “ก็บอกแล้วไงว่าแต่งให้ถูกต้องเฉยๆ ฉันยังไม่เปลี่ยนใจหรอกนะ ไม่ต้องพยายามจีบฉันด้วย ไม่ได้ผลหรอก ปล่อยมือสิ ฉันเหม็นเบื่อหน้าคุณจะแย่แล้ว”

เธอไม่อยากถูกปรมัตถ์ลากไปโน่นมานี่ตามอำเภอใจ เดี๋ยวเขาจะคิดว่าเธอเต็มใจแต่งงานด้วย

“เหม็นเบื่อ? นี่คุณเริ่มแพ้ท้องแล้วเหรอ” หนุ่มตี๋ตีหน้าตายและไม่ยอมปล่อยมือด้วย

ปานไพลินหน้าแดงแปร๊ด มือที่ว่างทุบอกเขาไปสองทีก่อนจะถูกรวบไว้ทั้งตัว เธอดิ้นรนฮึดฮัด แต่เขายิ่งกอดแน่นแถมยังหัวเราะใส่หูเธออย่างอารมณ์ดีอีกด้วย หญิงสาวอยากจะร้องกรี๊ดแต่กลัวใครผ่านมาได้ยินเข้าเลยได้แต่เข่นเขี้ยวขู่

“ปล่อยนะ ฉันไม่อนุญาตให้คุณกอด”

“นี่ไม่เรียกว่ากอดนะ ถ้ากอดต้องแบบนี้” เขากระซิบพลางรวบเอวบางเข้ามาชิดอก ยกร่างอรชรสูงขึ้นจนปลายเท้าเกือบลอยจากพื้น ไม่สามารถทรงตัวเองได้ ต้องอาศัยหน้าอกหนั่นแน่นของเขาเป็นหลักยึด

“คุณปรมัตถ์ เกินไปแล้วนะ คนฉวยโอกาส!”

เขาหัวเราะเบาๆ ยืดอกรับอย่างภาคภูมิใจ “จะว่างั้นก็ได้ ก็ผมกำลังจีบคุณอยู่นี่”

ฟังแล้วทั้งฉุนทั้งเขิน เธอได้แต่กัดริมฝีปากให้เจ็บ ไม่อยากยอมรับว่าเขากำลังทำให้เธอหวั่นไหว ตั้งแต่เลิกรากับอดีตสามีก็มีผู้ชายแวะเวียนมาขายขนมจีบอยู่ไม่ขาด ด้วยเป็นม่ายอายุยังน้อย หน้าตาสะสวย แถมพ่อยังรวยและมีอิทธิพลอีก ใครได้แต่งกับเธอก็ไม่ต่างจากหนูตกถังข้าวสาร ดังนั้นหนุ่มๆ ที่มาจีบเธอส่วนใหญ่บอกได้เลยว่าอยากเกี่ยวดองกับพ่อมากกว่าจะรักเธอจริงๆ

ปรมัตถ์อาจเป็นผู้ชายคนเดียวที่สนใจเธอโดยไม่ได้หวังผลพลอยได้จากการเป็นเขยเสี่ยยิ่งยศ...

“ผมไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คุณคิดนะป่าน ลองเปิดใจสิ แล้วคุณจะเห็น” ชายหนุ่มก้มลงกระซิบข้างหูเธออย่างแผ่วเบา

อ้อมกอดของเขารัดรึงแต่ไม่ทำให้อึดอัด เธออดจะเงยหน้าขึ้นสบตาคนพูดไม่ได้ ใบหน้าคมคายนั้นแต้มรอยยิ้มอุ่นอ่อน ไม่ใช่ยิ้มอย่างหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่เคยเห็นจนคุ้นตา แต่เป็นรอยยิ้มที่คล้ายจะละลายความหวาดกลัวของเธอได้

เขาไม่เห็นแววต่อต้านในดวงตาคู่งาม นี่อาจเป็นจังหวะที่ลงตัวในการเริ่มต้น ใบหน้าคมโน้มต่ำ

ปานไพลินรู้สึกแปลกๆ พอริมฝีปากของเขาเคลื่อนใกล้เข้ามาจวนเจียนจะสัมผัสกับริมฝีปากของเธอ หญิงสาวก็เบิกตากว้าง ยกมือขึ้นปิดปากไม่ทัน อาหารมื้อเที่ยงที่ยังย่อยไม่เสร็จถูกขย้อนกลับออกมาทางเดิมจนหมดไส้หมดพุง

ปรมัตถ์ตัวแข็ง ก่อนจะค่อยๆ ยืดตัวขึ้นและคลายแขนที่โอบรัดร่างบางลง

เธอเหลือบตาขึ้นมองเขานิด ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากเช็ดริมฝีปากที่เลอะอ้วกของตัวเอง

ชายหนุ่มฉีกยิ้ม กึ่งเซ็งกึ่งขำ “คราวนี้คุณคงต้องยอมไปเยี่ยมบ้านผมแล้วละ”

หญิงสาวมองเสื้อเขาและชุดของตัวเอง

ไม่ใช่แค่เลอะนิดหน่อย ล้างออกก็จบ แต่ควรเปลี่ยนชุดใหม่ไปเลยดีกว่า!



____________________________________________________



พี่หมูน้อย >> ยังไม่ได้ตั้งชื่อเลยค่ะ กำลังคิดอยู่ 5555








Create Date : 11 กรกฎาคม 2559
Last Update : 11 กรกฎาคม 2559 11:53:19 น. 2 comments
Counter : 960 Pageviews.

 
รู้ละ ชื่อปวกเปียก (เหมือนชื่อหมาเลย)

กำลังเสียใจโปรตุเกสชนะ คือ ใครชนะก็ได้ยกเว้นทีมนี้


โดย: พี่หมูน้อย IP: 202.28.246.8 วันที่: 11 กรกฎาคม 2559 เวลา:14:33:22 น.  

 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:13:35:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ระตา
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




รู้สึกอยู่เสมอว่าการได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้คือความมหัศจรรย์...และการอ่านออกเขียนได้คือรางวัลของชีวิต...
Friends' blogs
[Add ระตา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.