Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
25 พฤษภาคม 2558
 
All Blogs
 
หวานนักรักไม่ปรารถนา -3- กำจัดคู่แข่ง




3
กำจัดคู่แข่ง

“แน่ใจเหรอคุณธรว่ามิถุนาจะทำสำเร็จ” น้ำเสียงติดแววกังวลของสตรีวัยกลางคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานไม้มะฮอกกานีตัวงามเอ่ยถาม ใบหน้าเรียวเสลาราวรูปแกะสลักแลดูเคร่งขรึมแต่เปี่ยมด้วยสง่าราศีอย่างนางหงส์ไม่เสื่อมคลาย แม้วัยจะล่วงเลยมาถึงสี่สิบเก้าปีเต็ม

“ผมไม่เชื่อมั่นในตัวบุคคลแต่เชื่อมั่นในสัญญาครับ” ธราธรตอบพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ แววตาหลักแหลมอย่างคนที่เป็นทนายแก่สนาม แต่ดูนุ่มนวลเสมอยามจ้องมองสตรีที่อยู่เบื้องหน้า

เขมิกาพยักหน้าขรึมๆ “ฉันหวังว่าคราวนี้จะสำเร็จซะที ไม่งั้นโรงพยาบาลนี่ต้องตกเป็นของคนอื่นแน่”

“มันไม่มีทางเป็นอย่างนั้นไปได้หรอกครับ อะไรที่เป็นของคุณ ผมสัญญาว่าจะรักษามันไว้ด้วยชีวิต” ที่ปรึกษาคนเก่งให้คำมั่นอย่างจริงจัง

เธอยิ้ม “ขอบคุณคุณมากจริงๆ นะคุณธร ที่ต่อสู้เคียงข้างฉันมาตลอดสิบปีนี้ เป็นการต่อสู้ที่ยาวนานเหลือเกิน”

“ด้วยความยินดีครับ และขอให้คุณจงวางใจ อีกไม่นานชัยชนะต้องเป็นของคุณแน่”

เขายิ้มให้เธออย่างชายผู้ภักดีต่อสตรีเจ้าชีวิต เขมิกาเป็นผู้หญิงที่เขาทุ่มเททั้งกายใจให้มาตั้งแต่วันแรกที่ได้พบ เธอช่างสวย สง่างาม สูงค่า แม้จะเป็นของคนอื่นแต่ใจเขาเป็นของเธอนับแต่วินาทีนั้น ทุกวันนี้เขาอยู่ก็เพื่อทำให้ความปรารถนาของเธอเป็นจริง

“แล้วมิถุนาล่ะ จะเป็นปัญหาทีหลังรึเปล่า?” เขมิกาหันเหความกังวลมาที่หญิงสาวผู้ถูกว่าจ้าง อดีตนางเอกดาวรุ่งเจ้าของใบหน้าสวยคมผู้นั้นน่าหวั่นระแวงมิใช่น้อย

ผู้หญิงถังแตก เหลือแต่ตัว ไร้อนาคต มีหรือจะไม่สนทางเลือกใหม่สู่ความสะดวกสบายอย่างเขมินทร์!

“ผมไม่คิดว่าจะเป็นปัญหานะครับ อดีตของเธอเป็นข้ออ้างที่สมเหตุสมผล ไม่แปลกเลยที่ ‘แม่’ ทุกคนจะปฏิเสธลูกสะใภ้แบบนี้ ถึงคุณไม่ยอมรับเธอ หมอเขื่อนก็ไม่มีเหตุผลจะมาค้านได้ อีกอย่าง ถึงตอนที่เขาเป็นเจ้าของโรงพยาบาลทัศไนยแล้วเขาจะต้องคิดถึงเรื่องอื่นมากกว่าผู้หญิงแน่นอนครับ”

เขมิกายิ้มอย่างพึงใจ “ก็จริงของคุณนะ”



มิถุนาให้เวลาสำหรับความชอกช้ำใจอยู่ห้านาทีเต็ม ก่อนจะตั้งสติและเริ่มวางแผนสองในหัว ก่อนอื่นเธอคิดว่าจะเสนอเงินสิบล้านให้เขมินทร์พิจารณา หากเขายังไม่เอาอีกก็มาต่อที่แผนสอง เมื่อเงินไม่มีความหมายก็ต้องเปลี่ยนมาใช้จิตวิญญาณที่เมตตาต่อคนไข้ของคนเป็นหมอ ซึ่งเธอไม่ค่อยแน่ใจว่าเขาจะมี

หญิงสาวกลอกตาและถอนใจเฮือกใหญ่ ความขุ่นเคืองกลับมากวนใจอีกครั้ง ทำไมชาวบ้านถึงคิดว่าเขมินทร์เป็นหมอใจดีทั้งที่เขาทารุณกับข้อต่อหัวเข่าเธอขนาดนี้ ความโกรธไต่ระดับสูงขึ้นเมื่อก้มมองเข่าซ้ายที่ยังรู้สึกเจ็บและต้องเดินอย่างระมัดระวังจนกว่ามันจะหายดี นั่นยังไม่รวมข้อเท้าที่เคล็ดด้วย เขาน่าจะเตือนก่อนที่เธอจะโดนไอ้ม้าบ้านั่นถีบเอา แต่ก่อนที่เธอจะกลายร่างเป็นนางมารร้าย มิถุนาก็ระลึกได้ว่ามีหนี้ก้อนใหญ่มากๆ รอกลืนกินชีวิตที่เหลือของเธออยู่หากทำงานนี้ไม่สำเร็จ

“ฉันจะปล่อยให้ความโกรธทำลายตัวเองไม่ได้ ตั้งสติไว้มิถุนา เธอจะต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ!”

หญิงสาวพูดดังๆ เพื่อให้ประโยคนั้นซึมเข้าไปในสมอง จากนั้นมิถุนาก็ร่างบทคร่าวๆ ในหัวเพื่อทำให้เขมินทร์เปลี่ยนใจ เธอรู้สึกพึงพอใจและแอบคิดว่าถ้างานแสดงไม่รุ่งเหมือนแต่ก่อนก็อาจจะผันตัวเองไปเป็นคนเขียนบทได้เหมือนกัน



ห้าโมงเศษๆ มิถุนาได้ยินเสียงรถแล่นมาจอดหน้าบ้านก็คิดว่านายหมอเถื่อนกลับมาแล้ว เธอรีบทำสมาธิ ปรับสีหน้าและอารมณ์ให้พร้อมสำหรับการแสดงบทนางเอกเจ้าน้ำตา ได้ยินเสียงเปิดและปิดประตูรถ ตามด้วยเสียงฝีเท้าแผ่วเบาเดินขึ้นบันไดหน้าบ้าน หยุดอยู่กับที่ ก่อนจะเดินออกมาทางเฉลียง

หญิงสาวอมยิ้ม นับถอยหลัง ห้า...สี่...สาม...สอง...หนึ่ง...แอคชั่น!

ก๊อกน้ำตาถูกเปิดให้ไหลร่วงก่อนจะหันกลับไปทำหน้าเศร้า กระพือขนตาทำท่าแบ๊วชวนสงสาร ทว่าคนที่ยืนตะลึงหน้าซีดอยู่ตรงนั้นกลับไม่ใช่เป้าหมายของเธอ

“คะ...คุณ...เอ่อ...คุณเป็นใคร ทำไมถึงมาอยู่ที่บ้านหมอเขื่อนล่ะคะ?” บัวชมพูถามตะกุกตะกักด้วยความประหม่า หัวใจดวงน้อยไหววูบ มือที่ถือปิ่นโตมาด้วยเริ่มสั่น วางตัวไม่ถูกเมื่อได้พบสาวสวยนั่งน้ำตานองอยู่บนเฉลียงบ้านพักของหมอเขื่อน

มิถุนากะพริบตาปริบๆ ก๊อกน้ำตาหยุดไหลโดยอัตโนมัติ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเหลือคราบน้ำตาติดแก้ม หญิงสาวกระแอม ใช้ปลายนิ้วปาดมันทิ้งและส่งยิ้มให้ผู้หญิงที่กำลังติดอ่างอย่างเป็นมิตร

“สวัสดีค่ะ ฉันเป็น ‘แขกคนพิเศษ’ ของหมอเขื่อน คุณคงพอจะคุ้นหน้าฉันอยู่บ้าง แล้วคุณล่ะคะเป็นใคร?” เธอรีบแนะนำตัวด้วยฐานะที่เกินจริงและถามกลับทันที

นี่ออกจะเสียมารยาทไปสักหน่อย แต่เธอจำเป็นต้องรู้ว่าแม่สาวแว่นหนา ผมเปีย สวมเดรสสีชมพูหวานทั้งตัวผู้นี้เป็นใคร และเป็นอะไรกับนายหมอเถื่อน เท่าที่รู้ ธราธรบอกว่านายแพทย์เขมินทร์ยังโสด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยังไม่มีคนรัก และนี่ก็เป็นประเด็นที่สำคัญมาก หาก ‘ผู้หญิง’ ทำให้เขาไม่ยอมกลับไปทำงาน เธอจะได้เรียกร้องค่าจ้างเพิ่ม ติดอะไรก็ไม่เท่าติดหญิง เรื่องนี้แก้ยากสุด ค่าแรงก็ต้องแพงสุดด้วย เพราะนอกจากจะต้องหาหนทางพาเขากลับกรุงเทพฯ ให้ได้แล้ว เธอยังต้องพยายามกีดกันผู้หญิงทุกคนออกจากชีวิตของเขาด้วย

ถ้าผู้หญิงคืออุปสรรค นี่จะเป็นการสวมบท ‘นางร้าย’ ครั้งแรกของเธอ!

“บัว...เอ่อ...ฉันเอาปิ่นโตมาส่งคุณหมอน่ะค่ะ คุณเคยมาที่นี่เหรอคะ ฉันไม่คุ้นหน้าคุณเลย” บัวชมพูตอบพลางหลบตาคู่สนทนา ก่อนจะเดินเลี่ยงเอาปิ่นโตไปวางในครัว หากไม่มีสาวสวยแปลกหน้าผู้นี้อยู่ด้วย เธอก็คงจะแอบช่วยทำความสะอาดครัวให้ชายหนุ่มเหมือนทุกที แต่วันนี้ ‘แขกพิเศษ’ ของเขาปรากฏตัว ผู้หญิงจืดๆ เชยๆ อย่างเธอก็หมดสิทธิ์หวัง

มิถุนามุ่นคิ้ว พึมพำอย่างคนหลงตัวเอง “ไม่รู้จักฉันเนี่ยนะ ฉันออกจะดัง”

ว่าแล้วก็ปรับสีหน้าใหม่ เดินกะเผลกตามไปอีกฝ่ายไปและไม่รีรอที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติม แถมยังตีเนียนเรียกชื่อสาวเจ้าอย่างสนิทสนมด้วย

“ไม่เคยมาหรอกค่ะ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ว่าแต่นาย...เอ๊ย...คุณหมอเขื่อนน่ะค่ะ เขาสั่งปิ่นโตกับคุณบัวประจำเลยเหรอคะ”

“จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูกนักหรอกค่ะ คุณอย่าเข้าใจคุณหมอผิดนะคะ” ตอบแล้วก็หลบตาคนถามอย่างละอายใจ เธอไม่อยากทำให้ ‘คนรัก’ ของหมอเขื่อนเข้าใจผิด แม้ว่านั่นจะทำให้ตัวเองต้องเสียใจก็ตาม

มิถุนาเลิกคิ้ว ยังไม่ทันถามต่อ อีกฝ่ายก็รีบบอกในสิ่งที่เธออยากรู้ออกมาจนหมดเปลือก

“ที่จริงบัวยืนกรานจะทำแบบนี้เอง คุณหมอไม่ได้สั่งปิ่นโตประจำกับบัวหรอกค่ะ แต่บัวก็เอาปิ่นโตมาส่งให้เขาทุกเย็นเป็นการตอบแทนที่คุณหมอเคยช่วยชีวิตบัวเอาไว้ตอนถูกงูกัด ถ้าไม่ได้เขา ป่านนี้บัวคงตายไปแล้ว”

ฝ่ายนั้นอธิบายด้วยสีหน้าเป็นเดือดร้อนจนมิถุนารู้สึกได้ สงสัยแม่สาวคนนี้จะเชื่อจริงจังว่าเธอเป็นแขกคนพิเศษของนายหมอเถื่อน

‘น่าสงสารจัง แต่ขอโทษด้วยนะคะคุณบัว มี่สงสารตัวเองมากกว่าที่ต้องแบกหนี้สองล้านไว้บนบ่า พอภารกิจนี้สำเร็จ มี่จะมาขอโทษและสารภาพบาปกับคุณทีหลังก็แล้วกันนะ’

มิถุนายิ้มหวาน “หมอใจดีกับทุกคนเสมอแหละค่ะ เขาเป็นแบบนี้มานานแล้ว ขอบคุณคุณบัวมากนะคะที่ช่วยดูแลหมอเขื่อนในระหว่างที่มี่ไม่อยู่ จริงสิ ลืมแนะนำตัวไปเลย มิถุนาค่ะ แต่เรียกมี่ดีกว่า ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ต่อไปเราคงได้เจอกันบ่อยๆ เพราะมี่จะอยู่ที่นี่ซักพักเลยละค่ะ”

“บัวชมพูค่ะ ชื่อเล่นคุณมี่คงรู้จักแล้ว บัวช่วยพ่อดูแลร้านอาหารเรือนปทุมที่อยู่ติดกับรีสอร์ตชิดตะวันนี่เอง ว่างๆ ก็แวะไปชิมได้นะคะ บัวยินดีต้อนรับเสมอค่ะ”

ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่สีหน้าของบัวชมพูก็เจือรอยเศร้าอย่างปิดไม่มิด มิถุนาเลิกเป็นสาวช่างฝันตั้งแต่เกิดเรื่องอื้อฉาวกับเธอ หญิงสาวจึงไว้ใจคนอื่นน้อยลง เชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น และอ่านคนได้เก่งขึ้น ปฏิกิริยาพื้นฐานของหญิงสาวที่ผิดหวังจากชายหนุ่มที่ตนแอบรักแอบเล็งไว้เป็นเช่นไรทำไมเธอจะดูไม่ออก

หญิงสาวเอื้อมมือไปจับมือเล็กบางของอีกฝ่ายและบีบกระชับเบาๆ ก็อยากจะให้ความหวังกับบัวชมพูอยู่หรอก แต่เธอทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ

“ไว้ว่างๆ มี่จะชวนหมอเขื่อนไปด้วยนะคะ”



คล้อยหลังลูกสาวเจ้าของร้านอาหารเรือนปทุมไปแล้วมิถุนาก็กลับมานั่งปรับอารมณ์ที่เฉลียงอีกครั้ง แต่เธอไม่รีบร้อนที่จะเปิดก๊อกน้ำตาให้สูญเสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์เมื่อได้ยินเสียงซอยเท้าขึ้นบันไดบ้านมาในครั้งที่สอง คราวนี้ไม่มีเสียงรถยนต์นำร่อง เดาได้ว่าผู้มาเยือนเดินเท้ามาหรือไม่ก็อาจจะปั่นจักรยาน

“พี่สาวฮะ”

เสียงตะโกนที่ดังมาก่อนตัวทำให้หญิงสาวรู้ว่าไม่ใช่เป้าหมายของเธอ แต่เป็นเด็กหนุ่มชื่อป้อมที่ช่วยปั่นจักรยานมาส่งเธอเมื่อตอนบ่ายแก่ๆ นั่นเอง

มิถุนาหันไปส่งยิ้มทักทายหนุ่มน้อย “ว่าไงป้อม มีอะไรเหรอ”

“หมอเขื่อนให้ผมมาดูว่า...” เขาหยุดเหมือนยังเลือกใช้คำที่เหมาะไม่ได้ สีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด

หญิงสาวเลิกคิ้ว “ว่า?”

“เอ่อ...หมอเขื่อนให้ผมมาดูว่าพี่สาวต้องการอะไรเพิ่มเติมรึเปล่าฮะ” เด็กหนุ่มหาทางเลี่ยงได้ในที่สุด

เธอหรี่ตาจับผิดป้อมครู่หนึ่ง เขารีบหลบตา แค่นี้ก็เข้าใจแล้วว่าป้อมย้อนกลับมาทำไม

หมอนั่นน่ะหรือจะมาห่วงใยอาการของเธอ เด็กนี่โกหกไม่เก่งเอาซะเลย!

“บอกตรงๆ ว่าเชื่อไม่ลง นายหมอเถื่อนนั่นให้ป้อมมาดูว่าพี่ไปแล้วรึยังใช่มะ กลับไปบอกเขาเลยนะว่าพี่ยังไม่หมดธุระ และจะรอเขาอยู่นี่ ไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ”

ป้อมหน้าเจื่อนลงนิด ก่อนจะเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามหญิงสาว ถามด้วยเสียงอ่อยสนิทว่า “ตกลงคนที่พี่สาวมาตามหาคือหมอเขื่อนจริงๆ เหรอฮะ”

เธอพยักหน้า “ถูก”

“พี่สาวมาตามหาหมอเขื่อนทำไมฮะ เขาทำอะไรไว้รึเปล่า ผมหมายถึง...เรื่องไม่ดี”

หญิงสาวกะพริบตานิด กำลังเรียบเรียงคำตอบในหัว ต้องเป็นคำตอบที่จะทำให้งานของเธอง่ายขึ้นด้วย ครู่หนึ่งก็บอกว่า “ก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไรหรอก แต่ก็...ค่อนข้างเป็นความลับ ป้อมอยากรู้รึเปล่าล่ะ?”

“พี่สาวจะบอกผมเหรอฮะ?”

แววตาสนใจใคร่รู้ของเด็กหนุ่มเรียกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของมิถุนา เธอพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะยื่นข้อเสนอ

“แต่ป้อมต้องช่วยอะไรพี่ก่อนนะ ป้อมต้องแจกแจงมาให้หมดเลยว่าอยู่ที่นี่นายหมอเขื่อนทำอะไรบ้าง แล้วมีใครมายุ่งเกี่ยวกับเขาบ้าง โดยเฉพาะสาวๆ”

“พี่สาวนี่สนใจเรื่องของหมอเขื่อนมากจริงๆ เลยนะฮะ”

สีหน้าผิดหวังของป้อมทำให้หญิงสาวนึกสงสัย แต่มันยังไม่รบกวนจิตใจเธอเท่าเรื่องของนายหมอเถื่อน เธอจึงไม่ได้ใส่ใจจะหาคำตอบ แค่บอกปัดไปเท่าที่จะอธิบายได้

“พี่จำเป็นน่ะ รับปากใครบางคนเอาไว้ ไหนเล่ามาซิ นายหมอเถื่อนมาทำอะไรอยู่ที่นี่ นานแค่ไหนแล้ว แล้วมีใครมายุ่งเกี่ยวกับเขาบ้าง”

“ผมก็ไม่รู้อะไรมากหรอกฮะพี่สาว รู้ตามคำบอกเล่าของผู้ใหญ่ว่าหมอเขื่อนมาอยู่ที่นี่ในฐานะครูสอนขี่ม้าของคุณปอ ผมหมายถึงคุณปรมัตถ์ เจ้าของรีสอร์ตชิดตะวันน่ะฮะ แล้วเขาก็ช่วยดูแลม้าทุกตัวอย่างดี ซักครึ่งปีก่อนหมอเขื่อนตามเจ้าสีนิลเข้าไปในเขตป่าของเสี่ยยิ่งยศ ผู้มีอิทธิพลประจำถิ่นฮะ สีนิลเพิ่งถูกนำมาส่งที่คอก มันยังตื่นสถานที่ พอได้ยินเสียงประทัดก็ตกใจวิ่งหนีเข้าป่าไปเลย หมอเขื่อนไปตามหาสีนิลก็เจอลุงหมายบาดเจ็บอยู่ ข่าวลือนะฮะ คนเขาว่าแกถูกยิงเลยไม่กล้าไปโรงพยาบาล ถ้าไม่ได้หมอเขื่อนช่วยไว้ ป่านนี้แกคงตายเป็นผีเฝ้าป่าไปแล้ว ดูเหมือนนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ใครต่อใครเรียกเขาว่าหมอเขื่อนนะฮะ”

แผลถูกยิง เสี่ยยิ่งยศ ตายแล้ว! นี่นายหมอเถื่อนเข้าไปพัวพันกับผู้มีอิทธิพลด้วยใช่ไหม?

ป้อมอมยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของสาวสวย ก่อนจะปลอบว่า “อย่ากังวลไปเลยฮะพี่สาว ถึงเสี่ยยิ่งยศจะเป็นผู้มีอิทธิพลแถวนี้แต่เขาก็รักลูกสาวคนเดียวมาก หมอเขื่อนปลอดภัยแน่ครับ ตราบใดที่คุณป่านยังแวะมาเรียนขี่ม้ากับหมอเขื่อนทุกอาทิตย์”

มิถุนาเลิกคิ้ว มองป้อมอย่างระแวง “ขอร้องนะป้อม อย่าบอกพี่ว่า...”

เด็กหนุ่มยิ้มกริ่ม พยักหน้าและสำทับว่า “ใช่ฮะ เห็นอย่างนั้นแต่หมอเขื่อนเสน่ห์แรงมากๆ ถ้าพี่สาวคิดจะลงสนามแข่งด้วย ผมบอกเลยนะฮะว่าคุณป่านคะแนนนำโด่งไปแล้ว แม่ม่ายเนื้อหอมประจำจังหวัดเชียวละ”

หญิงสาวมองคนพูดอึ้งๆ “นายหมอเถื่อนนี่นะเสน่ห์แรง มองหาความน่าจะเป็นไม่เจอเลยซักนิด”

ป้อมหัวเราะขำแต่แววตายืนยันว่าสิ่งที่พูดเป็นเรื่องจริง

เธอย่นจมูก สักพักก็กลอกตาเซ็ง ทั้งลูกสาวเจ้าของร้านอาหาร ลูกสาวผู้ทรงอิทธิพลประจำท้องถิ่น สาวๆ แถวนี้เป็นอะไรกันนะ สงสัยจะสายตาสั้นกันหมด มิน่า คุณบัวถึงใส่แว่น!

“แล้วคุณปอมีลูกสาวกับเขาด้วยรึเปล่าล่ะ จะได้เพิ่มลูกสาวเจ้านายอีกซักคน”

หญิงสาวประชดอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ป้อมกลับหัวเราะลั่นจนเธอต้องเขม้นตามองให้รู้ตัว

เด็กหนุ่มหุบยิ้ม ก่อนจะบอกว่า “คุณปอยังไม่แต่งงานเลยฮะ จะมีลูกสาวได้ยังไง อีกอย่างเขายังหนุ่ม หล่อ แล้วก็ยังโสดด้วยนะฮะ แต่พี่สาวไม่ต้องไปสนใจคุณสมบัติทั้งหมดที่ผมว่ามาหรอก คุณปอน่ะเจ้าชู้ตัวพ่อ ทำสาวๆ อกหักมาทั่วจังหวัดแล้วมั้ง”

มิถุนาทำตาโต รู้สึกขำมากกว่าจะสนใจในตัวเจ้าของรีสอร์ตผู้เปี่ยมด้วยคุณสมบัติน่าควงแขน แค่มีคำว่า ‘เจ้าชู้’ ปิดท้าย ไม่ว่าคุณสมบัติจะเลิศเลอเพอร์เฟกต์สักแค่ไหน เธอก็เมินอยู่ดี

“เอาละ งั้นก็รู้แล้วว่ามีผู้หญิงเกี่ยวข้องกับเขาอยู่สองคนเน้นๆ แล้วนอกจากคุณบัวกับคุณป่านยังมีผู้หญิงคนไหนหน้ามืดตามัวหลงผิดคิดสั้นชอบนายหมอเถื่อนอีกบ้าง”

“พี่สาวเจอคุณบัวแล้วสินะฮะ” ป้อมถามยิ้มๆ

เธอพยักหน้า “อือฮึ เจอแล้วพร้อมปิ่นโตเถาใหญ่”

“คุณบัวน่ารักดีนะฮะ แต่พอเทียบกับคุณป่านแล้วจืดสนิทเลย เรียบร้อยออกอย่างนั้นจะไปสู้กระดังงาลนไฟได้ยังไง น่าสงสารเหมือนกัน”

“นี่ป้อม วิจารณ์สุภาพสตรีแบบนี้หยาบคายมากนะ พี่ไม่ชอบฟัง” หญิงสาวทำเสียงเข้ม แววตาเอาเรื่อง บอกให้รู้ว่าไม่ชอบจริงจังและไม่ขำด้วย

เด็กหนุ่มหน้าจ๋อยลงนิด “ขอโทษฮะ ผมแค่พูดไปตามที่ผู้ใหญ่เขาว่ากัน”

“เอาเถอะ ใครจะสวยใครจะจืดก็ช่าง ตกลงยังมีอีกมั้ย ผู้หญิงสายตาสั้นแถวๆ นี้น่ะ” มิถุนาไม่ถือสาคนที่รู้จักขอโทษเมื่อทำผิด เธอชวนเขากลับมาคุยเรื่องเดิมด้วยท่าทางเป็นกันเอง

ป้อมอดยิ้มไม่ได้กับคำเปรียบเปรยของพี่สาวคนสวย ถ้าทุกคนที่ชอบหมอเขื่อนต้องกลายเป็นคนสายตาสั้น ชาวบ้านแถวนี้ก็สายตาสั้นกันหมดแหละ

“เคยมีเยอะฮะ ก่อนที่หมอเขื่อนจะไว้หนวดไว้เคราจนรกครึ้มแบบนี้ อีกอย่าง ไม่ค่อยมีใครอยากมีเรื่องกับคุณป่านหรอกฮะ”

หญิงสาวถอนใจอย่างโล่งอก “ค่อยยังชั่ว ถ้าต้องไฟท์กับสาวๆ ทั้งหมู่บ้านพี่คงตายก่อนจะหมดหนี้”

ป้อมได้ยินไม่ถนัดเลยถามซ้ำ “พี่สาวว่าอะไรนะฮะ?”

มิถุนารีบส่ายหน้าหวือ “เปล๊า...ไม่ได้บ่นอะไรเลย แค่บอกว่าบ้านพักหลังนี้บรรยากาศดี๊ดีเนอะ”

“บ้านพักหลังนี้เป็นของคุณปอ แต่คุณปอยกให้หมอเขื่อนอยู่ตั้งแต่เริ่มทำงานที่นี่แล้วละฮะ”

“เหรอ คุณปอนี่ใจดีจังเลยเนอะ ถ้ามีลูกสาวก็คงยกให้นายหมอเถื่อนด้วยแน่ๆ โชคดีจังที่เขายังไม่มีลูก”

ป้อมหัวเราะขำหญิงสาวที่ช่างสรรหาคำพูดมาเหน็บแนมคุณหมอหนุ่มในทุกครั้งที่มีโอกาส แต่อย่างน้อยเขาก็วางใจได้ว่าพี่สาวคนสวยไม่ได้ชื่นชอบหมอเขื่อนอย่างที่คุณป่านกับคุณบัวปลื้มอยู่แน่ๆ นั่นแปลว่าเขายังมีโอกาส

มิถุนาซักถามเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเขมินทร์ต่ออีกเล็กน้อยค่อยยอมเผยความลับให้ป้อมรู้แบบรวบรัดที่สุด

“คุณหมอเขื่อนของชาวบ้านแถวนี้เขาเคยเป็นหมอผ่าตัดสมองที่มีฝีมือมาก ทางโรงพยาบาลอยากจะได้ตัวเขากลับไปทำงานด้วย นี่คือเหตุผลที่พี่มาตามหาเขา”

ป้อมมีสีหน้าตกใจมากกว่าจะประหลาดใจ “แปลว่าพี่สาวจะพาหมอเขื่อนไปจากพวกเราเหรอฮะ?”

“ก็...” เธอพูดไม่ออกเมื่อเห็นแววตาผิดหวังของเด็กหนุ่มที่จ้องมองมา ป้อมมองเหมือนกับว่าเธอเป็นนังตัวร้ายที่กำลังจะพรากของรักของหวง...ไม่ใช่แค่ของป้อม แต่เป็นของรักของหวงของคนทั้งหมู่บ้านไป

หญิงสาวยักไหล่ ก่อนจะบอกว่า “มันจำเป็นน่ะป้อม มีผู้ป่วยเนื้องอกในสมองคนหนึ่งกำลังรอคอยให้เขากลับไปผ่าตัดให้ เธอจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยเร็วและมีแต่เขาเท่านั้นจะทำได้ เหตุผลแค่นี้พอมั้ยที่พี่จะพาตัวนายหมอเถื่อนกลับกรุงเทพฯ”

“ก็พอฟังได้นะฮะ แต่ผมไม่คิดว่าคนแถวนี้จะชอบความคิดของพี่สาว ทางที่ดีพี่อย่าไปบอกใครแบบนี้อีกจะดีกว่า หมอเขื่อนน่ะเป็นที่รักของคนแถวนี้ คนที่จะมาพาตัวเขาไปนั่นแหละจะลำบาก” ป้อมเตือนด้วยความหวังดี

มิถุนาหน้าจ๋อยลงนิดและแอบปาดเหงื่อเบาๆ โชคดีนะเนี่ยที่คุยกับป้อมก่อน ขืนไปบอกใครสุ่มสี่สุ่มห้ามีหวังโดนคนแถวนี้เกลียดเอาแน่ๆ แถมภารกิจนี้อาจต้องกลายเป็น Mission Impossible ฉบับสมบูรณ์อีกด้วย แต่ก็เอาเถอะ การที่นายหมอเถื่อนเป็นที่รักของชาวบ้านก็มีประโยชน์สำหรับงานของเธอเหมือนกัน หากแผนสิบล้านไม่ได้ผล แผนเรียกความสงสารไม่อยู่ในความสนใจของเขา ตอนนี้เธอก็มีแผนสามไว้สำรอง คราวนี้เรียบร้อยโรงเรียนมิถุนาแน่ หึๆ!



ปานไพลินควบม้ากลับมาหาครูฝึกด้วยท่วงท่าสง่างามอย่างนางพญาบนหลังอาชา ใบหน้าสวยหวานกระจ่างด้วยรอยยิ้มสดใสและเปิดเผย “เป็นไงบ้างคะหมอเขื่อน นักเรียนคนนี้พอไปไหวรึเปล่า?”

เขมินทร์ยิ้มบางๆ ขณะเอื้อมมือไปลูบคอเจ้าหมอกฟ้าเป็นรางวัลที่มันเป็นเด็กดีในวันนี้ ก่อนจะเหลือบตาขึ้นมองนักเรียนสาวสวยของเขา “คุณป่านมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว ตอนนี้ก็คล่องมากด้วย ต่อไปคงไม่จำเป็นต้องมาเรียนกับผมอีกแล้วนะครับ”

หญิงสาวหน้าจ๋อยลงอย่างเสแสร้ง ทำเสียงกระเง้ากระงอด “หมอเขื่อนไม่อยากสอนป่านแล้วเหรอคะ?”

“ไม่ใช่แบบนั้นครับ แต่ตอนนี้คุณป่านเป็นจ๊อกกี้ได้เลย แล้วจะให้ผมสอนอะไรอีกล่ะ”

“แหม หมอเขื่อนก็ชมเกินไป ถ้าไม่มาเรียนขี่ม้าที่นี่ป่านก็ไม่รู้จะไปขี่ม้าได้ที่ไหน งั้นคราวหน้าป่านแวะมาขี่ม้ากับครูฝึกได้ใช่มั้ยคะ แบบไม่ต้องขี่ตามชั่วโมงสอนอะไรอย่างงี้น่ะ” เธอเอียงคอยิ้มอย่างน่ารัก แววตาเว้าวอนแบบที่ผู้ชายทุกคนต้องมองออกว่าตนกำลังถูกอ้อนอยู่

เขมินทร์อมยิ้มน้อยๆ อย่างรักษาน้ำใจของหญิงสาว มองออกนานแล้วว่าปานไพลินต้องการอะไรจากเขา ไม่เกี่ยวว่าเธอเคยแต่งงานมาก่อนหรือไม่ เพียงแต่ตอนนี้เขายังไม่พร้อมจะเปิดรับใครเข้ามาในชีวิตจริงๆ

“ถ้าผมไม่ติดงานก็ไม่มีปัญหาครับ”

แม่ม่ายยังสาวหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจ คำตอบเป็นแบบที่เธอเดาไว้ไม่มีผิด แต่คนอย่างปานไพลินไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ โดยเฉพาะเรื่องหัวใจ

“ป่านจะถือว่านี่ไม่ใช่การปฏิเสธนะคะ ไหนๆ วันนี้ป่านก็ถูกคุณครูไล่ออกจากโรงเรียนแล้ว งั้นคุณครูจะเลี้ยงข้าวปลอบใจนักเรียนคนนี้ซักมื้อได้มั้ยเอ่ย?”

เขมินทร์ยังไม่ได้เรียบเรียงคำพูดเพื่อปฏิเสธ ป้อมก็ปั่นจักรยานกลับมาสมทบเสียก่อน ท่าทางเหมือนมีอะไรอยากบอกทำให้ชายหนุ่มต้องขอตัวกับแม่ม่ายคนสวยสักครู่

“ว่าไงป้อม” เขาตบไหล่เด็กหนุ่มและถามเบาๆ

“พี่สาวคนสวยฝากผมมาบอกหมอเขื่อนว่าเธอยังไม่หมดธุระกับหมอฮะ แล้วเธอยังบอกอีกว่าจะรออยู่ที่บ้าน ไม่ไปไหนทั้งนั้น” ป้อมตอบเสียงเบาพอกัน ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้แม่ม่ายคนงาม

ปานไพลินโบกมือตอบอย่างสาวชอบโปรยเสน่ห์ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่เธอชอบให้ทุกคนหลงรักเธอมากกว่าจะเกลียดชัง พอเด็กหนุ่มโบกมือตอบด้วยรอยยิ้มเขินๆ เธอก็ขยิบตาให้อย่างน่ารัก

เขมินทร์มองตามสายตาป้อม นิ่งคิดสักพักก็บอกหญิงสาวว่า “ถ้าคุณป่านไม่รังเกียจบ้านพักหลังเล็กๆ กับอาหารง่ายๆ ผมขอเชิญที่บ้านดีกว่าครับ”





_______________________


กลับมาแล้วค่ะ หลังจากหายหัวไปพักใหญ่ๆ ไปรีไรท์จัดหน้านิยายที่จะหมดสัญญาในเดือนนี้มาค่ะ หมดสัญญาปุ๊บ เดือนหน้าขายอีบุ๊กปั๊บเลย 555

กลับมาที่นางสาวมิถุนา ตอนนี้เปิดตัวละครใหม่มาอีก 3 มีแต่สาวๆ ทั้งนั้น นางเอกเรื่องนี้เจอศึกหนักจริงๆ ค่ะ ทั้งคุณแม่ แม่ม่าย สาวเรียบร้อย ไหนจะนายหมอเถื่อนของเราด้วย นางต้องไฟท์กับทุกคนเลย แต่น่าสงสารแค่เบาๆ เพราะสาเหตุหลักนางทำตัวให้ตกอยู่ในสภาพนี้เองก็รับกรรมไปเนอะ 555

พอเขียนมาถึงตอนนี้เริ่มกังวลแล้วค่ะ มันจะสั้นจริงมั้ยน้อ ทำไมเขียนไปเขียนมาตัวละครชักเยอะ ปาดเหงื่อเบาๆ ค่ะ ลุ้นกันต่อไป! - -“









Create Date : 25 พฤษภาคม 2558
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2558 20:06:58 น. 2 comments
Counter : 902 Pageviews.

 
สวัสดียามค่ำครับ



โดย: ก้อนเงิน วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:20:00:41 น.  

 
ได้ข่าวว่า 18 ตอนจบ

เดี๋ยวออกมาได้ 80 ตอนจบ อิอิ


โดย: พี่หมูน้อย วันที่: 26 พฤษภาคม 2558 เวลา:13:00:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ระตา
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




รู้สึกอยู่เสมอว่าการได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้คือความมหัศจรรย์...และการอ่านออกเขียนได้คือรางวัลของชีวิต...
Friends' blogs
[Add ระตา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.