ชื่อหนังสือ : เทวทูตคนสุดท้าย The Savage Grace

(TheDark Divine Series, Book3)

ผู้เขียน : Bree Despain ผู้แปล : เจนจิรา เสรีโยธิน

พิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม ๒๕๕๕ โดย แพรวสำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์ฯ

ราคาหน้าปก ๒๗๙ บาท ISBN : ๙๗๘-๙๗๔-๒๔๗-๕๓๘-๓

ปกหลัง

บทสรุปอันตรงใจของ “สาปเทวทูต” และ “เทวทูตที่หลงทาง”

จู๊ด ดีไวน์ กลับมาแล้วแต่เกรซไม่กล้าแม้แต่จะมองเข้าไปในตาของพี่ชาย แดเนียล คาลบียังอยู่ในร่างหมาป่าสีขาว เกรซหมดทางที่จะช่วยเขา ศิลาจันทราถูกทำลายมันคือของสำคัญที่สุด เซอร์ฮานกำลังจะตาย พิธีท้าประลองจะเกิดขึ้นในคืนพระจันทร์สีเลือด

เรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในชีวิตของ เกรซ ดีไวน์คนในครอบครัวต่างเจอปัญหาหนักหนา พ่อกับแม่ป่วยหนักเกรซเองเมื่อพยายามรักษาก็ไม่อาจทำได้ ซ้ำจะยิ่งทำให้แย่ลงไปอีก

คนที่เธอไว้ใจที่สุด ซึ่งก็คือแดเนียล ก็ติดอยู่ในร่างหมาป่าเกรซค้นแล้วค้นอีก ก็ไม่อาจหาทางช่วยเขาได้ เรียกได้ว่าตอนนี้เธออับจนหนทางจริง ๆ

แต่สิ่งที่เธอต้องกังวลจริง ๆ คือเรื่องพิธีท้าประลอง เมื่อเซอร์ฮานอัลฟาคนเดิมของฝูงตายลง ทุกคนที่ต้องการครอบครองฝูงจะมารวมกันเพื่อต่อสู้รวมทั้งคาเลบแห่งแชโดว์คิงส์ที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและกลโกง คนสุดท้ายที่รอดอยู่จะเป็นผู้ชนะแต่เกรซเองไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงนาทีนั้นด้วยซ้ำ 

เนื้อเรื่องย่อ(เอง)

หลังจากที่เรื่องราวในโกดังร้างจบลง จู๊ด กลับบ้านอีกครั้งแต่เกรซไม่อาจจะไว้วางใจในตัวเขาได้เลยแม่ที่ดูเหมือนจะยอมรับไม่ได้กับเหตุที่เกิดกับเธอและพี่ชายจนต้องอยู่ในความดูแลของจิตแพทย์และไหนจะการที่แดเนียลติดอยู่ในร่างหมาป่าสีขาว ปัญหาทุกอย่างดูเหมือนประดังเข้ามาเกรซต้องคอยพยายามสกัดกั้นหมาป่าในหัวไม่ให้มีอำนาจเหนือเธอ เธอต้องการพลังใจที่เข้มแข็งเพียงพอที่จะผ่านเรื่องราวทุกอย่างไปให้ได้แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะยิ่งเลวร้ายมากขึ้นไปอีกพ่อของเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการออกตามหาศิลาจันทราที่บ้านเก่ารังของคาเลบ

ศิลาจันทราทางออกเดียวที่เธอพอจะนึกได้ที่จะช่วยให้แดเนียลกลับคืนมาหาเธออีกครั้งและศิลาจันทราก็ช่วยให้เขากลับมาจากเธอได้จริง ๆแต่ปัญหาที่ตามมากลับเป็นการปรากฏตัวของเซอร์ฮานอัลฟาของฝูงที่กำลังจะสิ้นอายุขัยเพราะความชรา และหากเซอร์ฮานสิ้นลมในเมืองหมายถึงพิธีประลองเพื่อคัดเลือกอัลฟาคนใหม่จะเกิดขึ้นในเมืองของเธอ เหล่านักล่าจากทั่วทุกสารทิศจะแห่แหนเข้ามาเพื่อแย่งชิงตำแหน่งแดเนียลยอมร่วมประลองในฐานะหลานชายเพียงคนเดียวของเซอร์ฮานภายใต้ความหวาดวิตกของเธอและทุกคนเมื่อการประลองได้ถูกจัดขึ้นในคืนพระจันทร์สีเลือดคืนที่อสูรในร่างของเหล่าหมาป่าจะมีอำนาจรุนแรงและร้ายกาจที่สุด และศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดคงจะเป็นคาเลบและเหล่าแชโดว์คิงส์ที่ชั่วร้ายที่จ้องจะใช้กลโกงทุกอย่างเพื่อคิดจะกำจัดแดเนียลและครอบครองฝูงหมาป่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก 

เมาท์มอยด์กัน(นะ)

เล่มที่สามแล้วจ้า ซึ่งก็ไม่จบจริง ๆ สินะ แต่ก็โอเคหน่อยตรงที่ตอนท้ายของเรื่องไม่ได้ค้างจนรับไม่ได้ถือว่าเคลียร์ในระดับหนึ่งค่ะ ส่วนถ้าจะมีเล่มต่อ ๆ ไปก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นภาคสองซะมากกว่า อันนี้ Pd ให้อภัยค่ะ

จากที่เมาท์จากรีวิวก่อนหน้าว่าเล่มนี้จะเป็นเรื่องเกียวกับศึกชิงตำแหน่งอัลฟาคนใหม่เล่มนี้ก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ ค่ะ และก็ไม่ต้องเดาให้เมื่อยเพราะอย่างไรพระเอกก็ชนะอยู่ดีเป็นอัลฟาคนใหม่ในที่สุด แต่ที่ประทับใจและน่าสนใจเห็นจะเป็นมิตรภาพและความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่อง ซึ่งไม่ใช่แค่คู่พระ-นางแต่เป็นความผูกพันของครอบครัว เพื่อน และมิตรภาพเรื่องราวระหว่างทางที่มันดำเนินไปถึงจุดจบต่างหากที่ Pd ว่ามันสนุกโอเคตอนสุดท้ายฉากที่ต่อสู้กันมันก็มันจริง ๆ นั่นแหละ มันมากด้วย เหอ ๆบอกแล้วชอบหมากัดกัน แต่ที่ชอบจริง ๆ เห็นจะเป็น เกรซ (เรื่องนี้ชั้นปลื้มนางเอกจริงจัง บอกแล้วนางไม่เวิ่น ชั้นชอบ) เกรซยังคงยึดมั่นในความดีเสมอต้นเสมอปลาย ใช้ความรักและการให้อภัยช่วยรักษาและดึงตัวละครหลายๆ ตัวที่เลวร้ายให้กลับมาและรู้คุณค่าในตัวเอง (บางตัวก็ไม่สำเร็จนะ แต่เราจะไม่พูดถึงเดี๋ยวจะสปอยด์) เห็นไดชัดคือ “สเล็ด” เสล็ดเป็นหนึ่งในอูรบัตที่เปลี่ยนใจมาร่วมฝูงและยอมรับแดเนียลเป็นอัลฟาของตนแต่ครั้งแรกมันไม่ได้เกิดจากการภักดีหรือเชื่อใจแต่มันเกิดจากความกลัวในพลังของแดเนียลมากกว่า ตามประสาสัญชาตญาณของบรรดาหมาๆ เขาอะนะแต่เกรซก็ทำให้เสล็ดเชื่อใจและยอมรับเธอและแดเนียลได้ในที่สุดเธอให้ความรักแก่เขาเหมือนเขาเป็นหนึ่งในครอบครัวตรงนี้เกรซเลยสามารถซื้อใจใครหลายๆ คนได้เยอะเลย แต่ก็อย่างว่า มีบางคนหลุดไปได้ เอาน่ะ เอาไว้เขียนภาคสอง ๕๕๕๕

สรุป ชุดนี้ สนุกค่ะ Pd ให้ ๘/๑๐ คะแนน คือไม่เต็ม ๑๐รู้สึกดีที่ได้อ่านแต่พอได้อ่านแล้วมันไม่สุดเพราะคาดหวังมากกว่านี้เลยยังรู้สึกว่าไม่ถึงกับมาตรฐานที่หวังแอบเปรียบเทียบกับชุดหมาป่าของ Mirin เหอ เหอ ชุดนั้น ทะลุโลกมาก(ราคาก็ทะลุโลกด้วยเช่นกันนะเธอ.....แต่ก็บ้าซื้อมาแล้ว)

Prophet Doll

๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๗