Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
24 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 

โรงพยาบาล แม่แก่ๆ และ ปอยอลิน

เมื่อวาน วันที่ 23/11/50 ปอยอลินป่วย
จริงๆมันเป็นมานานแระ หลายวันจัด ปวดในเพดานปาก ปวดฟัน ปวดกราม ปวดหัว
เอาเป็นว่า ร้าวไปทั้งกะโหลก นี่ตรูเปงอารายฟร๊ะ เคี้ยวข้าวก็ไม่ได้ กลืนก็ไม่ลงปวดคอ
ทนทรมานมา 2 วันติดๆ ไม่ไหวแล้วโว๊ยยย...ไปพบแพทย์ดีกว่า
....
หมอรู้ หมอเรียนมา เราอย่าสะเออะมารู้ดีกว่าหมอ
ออกจากบ้านตั้งแต่ 7 โมงเช้า เพื่อจะพาตัวเองไปให้ถึงมือหมอโดยด่วน
เพราะท่าทาง ปอยจะแย่แน่แล้วคราวนี้ ไม่สามารถเอาหัวตั้งไว้บนบ่าดีดีได้ มันร้าวเหมือนกรามจะแตก
....
ระหว่างที่กำลังเดินทางอย่างเร่งรีบอยู่นั้น พลันสายตาก็พร่ามัว
โรงพยาบาลมันอยู่หนายยยยยยยยยย...เวชธานีๆๆๆ มันไม่มีในโลกเรอะ
ปอยอลินเสร่อสุดๆ เลยเถิดไปจนถึงเดอะมอลล์บางกะปิ ไม่ใช่ละม๊างงง
....
ลง ลง ลง ข้ามสะพานลอย กรูต้องไปโรงพยาบาลให้ได้ .... แต่พระเจ้าก็เล่นตลก
มีคุณป้าคนหนึ่ง เดินมาสะกิด หนูจ๋าหนู โรงพยาบาลเวชธานีอยู่ตรงไหนจ๊ะ....แหง่วววววว
....
โธ่ป้า หนูยังนั่งรถเลยโรงพยาบาลเลยป้า

"เอ่อ มันอยู่ตรงนู้นนน ค่ะป้า มาไปด้วยกันเดี๋ยวหนูพาไป"
(นึกในใจ ตรูมีคนหลงเป็นเพื่อนแย้ววว)

หน้าตาป้าแกดีใจมาก ชมปอยใหญ่ว่าใจดีจัง แหะๆ
"ป่าวหรอกค่ะป้า หนูก็กำลังจะไปพอดี"
"งั้นเราหารตังค์กันมั๊ย นั่งแท๊กซี่ไปดีกว่า เอามั๊ยหนู"ปอยใจง่ายอยู่แล้ว ตกลงรับคำท้าป้าอย่างเร็วไว

นั่งรถมาปื้ดเดียว ตดยังไม่ทันหายเหม็น โธ่เอ๊ย...กทม.น่าจะมาตัดต้นไม้หน้าโรงพยาบาลหน่อยนะ ปอยจะได้มองเห็น
"ป้าจะไปเยี่ยมไข้ หรือว่าป้าเป็นไข้คะ"
"ป้าจะมาหาหมอน่ะ ประกันสังคม"

ปอยมองป้า สังเกตุป้า แกแก่แล้วนะ อายุคงราวๆ 50กว่าๆ แก่กว่าแม่เราแน่นอน ทำไมแกมาโรงพยาบาลคนเดียวล่ะ
แกมีสามีมั๊ย มีลุกมีหลานรึเปล่า ถ้ามี คนเหล่านั้นหายไปไหน ???? ทำไมปล่อยให้ป้า มาคนเดียว

"งั้นป้าไปกะหนูเนอะ ป้าเคยมาที่นี่รึยัง ประกันสังคมเค้าอยู่ตึกหลังสุด หนูก็จะไปเหมือนกัน"
ป้าแกยิ้มๆ พยักหน้า แล้วก็ยื่นมือให้ปอยจับ (แหมป้าไม่กลัวปอยรูดทรัพย์เลยแฮะ)

แม่เจ้า.... ประกันสังคม โรงพยาบาลเวชธานี คนเยอะมาก ระบบการจัดการต่างๆ ก็เปลี่ยนไป

เราต้องไปรับบัตรคิว เพื่อรับใบคัดกรองคนไข้ จากนั้นนำไปวางในตะกร้าสีชมพู เพื่อรอเรียกชื่อ
ตรวจความดัน วัดไข้ ช่างน้ำหนัก รับบัตรคิว รอเรียกเพื่อพบแพทย์ ....
....
ปอยทำตัวเป็นประหนึ่ง ญาติของป้า เพราะแกเพิ่งเคยมาครั้งแรก ทำทุกอย่างให้ป้า ตามขั้นตอน
ป้าแกก็กระไร เกาะปอยแจไม่ปล่อย ปอยไปไหน ป้าไปที่นั่น .... อืม..เอาๆ ไหนๆก็ไหนๆแระ

โรงพยาบาลเปิดแอร์เหมือนตู้แช่ไก่ นี่เมิงจะฆ่าคนไข้รึไงเนี่ย เวง...หนาวชิหาย
เสียงคอมพิวเตอร์เรียกเบอร์ของคุณป้าก่อนปอย ป้าว่าเดี๋ยวเจอกันนะหนู

เราต่างคนต่างตรวจจนเสร็จ ทีนี้ป้าต้องรอปอย เพราะปอยต้องฉีดยา 1 เข็ม อั๊วเปงทอมซิลอักเสบอ่ะ มิน่าป๊วดปวด

ตรวจเสร็จ ป้าชวนปอยกินกาแฟก่อนกลับบ้าน ปอยใจง่ายอีกตามเคย กินค่ะป้า กิน กิน กิน
ปอยได้โอกาส สัมภาษณ์ป้า ทันควัน
"ป้าขา ป้าอยู่บ้านกะใคร ทำไมมาคนเดียวคะ"
"อยู่กับลูกสาว-ลูกเขย เค้าไม่ค่อยว่าง งานเค้าเยอะ ป้าไม่อยากกวนเค้า เวลาเค้าเป็นเงินเป็นทอง"
(เหมือนๆว่าป้า จะน้อยใจแฮะ)

ป้าว่า แกแค่มาหาหมอ แกยังไม่ตาย ไว้ตายก่อนค่อยให้เค้ามางานศพแกก็ได้...แป่วววว

ถ้าปอยเป็นลูก ปอยคงสะอึก ปอยคุยกะแกอยู่นานพอควร จนได้ความว่า

ป้าแก ไม่ใช่คนมีอันจะกินสักเท่าไหร่ แกเรียนน้อย ขายข้าวแกงอยู่หน้าบ้าน ที่ลาดพร้าวซอย 1
เลี้ยงลูกคนนี้มา ก็ด้วยข้าวแกงนี่แหละ ลูกแกเรียนเก่งนะ จบ ป.โทแน่ะ

มีสามีเป็นทนายความ เก่งทั้งคู่ ไม่ค่อยมีเวลาอยู่บ้านหรอก สามีป้าแกเสียไปแล้ว ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์
ป้าไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน เพราะต้องอยู่เฝ้าบ้านให้ลูกสาว

เลี้ยงหลาน กวาดบ้าน ซักผ้า จิปาถะ
"เดี๋ยวป้าต้องรีบกลับแล้วนะหนู ลูกสาวป้า เค้าไม่ชอบบ้านรกๆ ป้ารีบมาหาหมอ ยังไม่ได้เก็บกวาดอะไรเลย"

ปอยสวัสดีป้า แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน ด้วยความหดหู่ เศร้าชิหายเลยกรู วันนี้

ครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว ปอยเคยเจอคุณป้าคนหนึ่ง ที่ป้ายรถเมล์แถวซอยลาดพร้าว 62
เรานั้งสาย 137 ออกไปเส้นรัชดา เพื่อไปต่อสาย 206
ปอยจะไปทำงานที่ซอยทองหล่อ ป้าจะไปโรงพยาบาลเพชรเวช

ป้าขึ้นรถได้ บอกกระเป๋าว่า เพชรเวชถึงแล้วบอกด้วยนะ แต่ป้าพูดลิ้นพันกัน ฟังไม่ชัด
กระเป๋าหูตึง แถมดุด้วย

ไปไหนนะ
เพชรเวช...ห๊าๆๆๆ...คนไทยรึเปล่าเนี่ย พูดไม่รู้เรื่องเลย

พี่คะ ป้าแกจะไปโรงพยาบาลเพชรเวช ถ้าพี่หยุดพูดแล้วตั้งใจฟังแกดีดี พี่จะได้ยินค่ะ
ป้าคะ เดี๋ยวหนูพาไป (เจือกอีกกรู..งานการไม่ต้องปงต้องไปกัน)

ปอยพาป้าไปส่งที่โรงพยาบาล แกบอกว่าประกันสังคมนี่แย่ แกขอโรงพยาบาลที่ใก้ลๆบ้าน มั๊นก็มาจัดให้แกอยู่ซะไกล
ไกลมากๆ ลูกเค้าก็ไม่ค่อยอยากพามา เค้าว่าเสียเวลาเค้าอีก ป้าเลยต้องมาเองเลย แย่จัง ขอบใจมากนะหนูที่มาส่ง

ปอยว่า ลูกป้านั้นแหละที่แย่....
....
....
....
....
อีกครั้ง ที่โรงพยาบาล นพรัตนฯ ครั้งนั้น ปอยไปเฝ้าไข้คุณชวดที่โรงพยาบาล
4 เดือน กินๆ นอนๆ อยู่ที่นั่น จนสนิทกับพนักงานทั้งตึก อายุรกรรม

เวลาคุณชวดหลับ กรนสบาย ปอยจะชอบเดินไปห้องข้างๆ ซึ่งเป็นห้องพิเศษรวม 6 เตียง (ของเราพิเศษเดี่ยว)
ในนั้น มีคุณแม่อยู่เตียงหนึ่ง แกเป็นเบาหวาน อาทิตย์หนึ่ง จะมีลูกมาเยี่ยมสักที
อาทิตย์นี้ คุณแม่ดูหน้าตาสดใสขึ้นมาก ฉี่ก็ไม่ค่อยเป็นสีเหลืองเข้ม ยิ้มแย้ม ไม่หงุดหงิด ด่าพยาบาลอีก

พยาบาลตึกนี้ก็มีน้อย บางครั้งปอยก็เที่ยวได้ไปยกก้น คุณแม่ คุณป้า คุณยาย เหล่านั้น นั่งโถสำหรับฉี่บนเตียงบ่อยๆ

คุณแม่คนนี้บอกว่า เอาเลยลูก ตัดสินใจดูจิ๋มแม่เลย...ตลกมาก ปอยยังจำได้
ไม่ให้ดูได้ยังไง ไม่ดูก็จิ้มผิด จิ้มถูกสิ คุณแม่ก็

ปอยจะไปช่วยพยาบาล เช็ดก้น ป้อนข้าว เช็ดตัว พอทุก 2 ชั่วโมง ก็รีบกลับห้องตัวเอง เพื่อมาพลิกตัวคุณชวด
เพราะเดี๋ยวจะเป็นแผลกดทับ (คุณชวดปอย ท่านไม่รู้สึกตัวแล้วค่ะ นอนนิ่งๆ)

และแล้ว เช้าวันหนึ่ง ปอยก็เห็นพี่ๆพยาบาล วิ่งกันให้วุ่น ที่ห้องพิเศษรวม เสียงร้องบอก คนไข้ อะเลิทๆๆ (แปลว่ากะลังจะตาย)
คุณแม่คนนั้น แกโบกมือบ๋ายบาย ลาโลกไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ทั้งๆที่เมื่อวาน...

ปอยยังจับแกนั้งรถเข็น ไปแอบกินขนม ที่ชั้นล่างของตึกอยู่แหมบๆ

บ่ายๆ ก็มีบรรดาลูกๆ มายืนล้อมรอบเตียง ร้องห่มร้องไห้ ปานฟ้าถล่ม

ปอยเสียใจที่แกจากไป แต่ในขณะเดียวกันก็ดีใจที่แก ตายๆไปซะ
เพราะแกอยู่ไป ก็ไม่มีความสุข กรูป่วยอยู่ทุกวันไม่มีใครมา พอกรูตายปุ๊ป มากันเชีย

และ อยากจะไล่กระโดดถีบลูกๆของแกแบบเรียงตัว....ร้องไห้ให้อายผีทำไมกัน

ให้ตาย ปอยก็ไม่เคยเข้าใจ พวกลูกๆที่ทอดทิ้ง ไม่ดูแลพ่อ-แม่ตัวเอง ปล่อยให้งกๆเงิ่นๆ
มาเจอนังปอยอลินนี่อยู่ได้ ทุกบ่อยๆ
บางคนอ้างว่างานเยอะ บางคนบอกว่าเค้ามีครอบครัวของเค้าที่ต้องดูแล...แล้วพ่อ-แม่ นี่เรียกว่าอะไร

ปอยเป็นคนที่ไม่เคยอยู่กันแม่ มาตั้งแต่เกิด จับพลับจับพลู ได้มาเจอกัน อยู่ด้วยกันชั่วระยะเวลาหนึ่ง
แล้วต่างคน ต่างก็ใช้ชีวิตของตัวเอง ตามความเคยชินดั้งเดิม เรารู้ว่าเราคิดถึงกัน และรักกันแค่ไหน
ครอบครัวปอยอาจจะไม่เหมือนครอบครัวอื่นๆ ที่เค้าอยู่กันพร้อมหน้า พร้อมตา พ่อ-แม่-ลูก

แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่ปอยเชื่อมั่นมาตลอด ถึงสายใยความสัมพันธ์ จากแม่สู่ลูก จากพ่อถึงลูก
มองตาครั้งเดียว เราก็รู้แล้ว ว่าท่านรักเราแค่ไหน บางครั้งความจำเป็นมันบังคับ ให้ท่านต้องทิ้งเราไป

ไม่ต้องเลี้ยงดู ขอแค่เป็นผู้ให้กำเนิด ให้ชีวิต...เราปฏิเสธได้เหรอ ว่าบุญคุณอันนี้ ไม่ต้องทดแทน
.....
ยามไม่มีเค้า เราโหยหา เราเรียกร้อง
ยามมีเค้า เราเมินเฉย เราดูดาย เราบอกเดี๋ยว
....
คงไม่มีลูกคนไหนตามไปทดแทนบุญคุณท่านได้ทัน... ถึงในปรโลก
ทำซะแต่วันนี้นะคะ ก่อนที่จะไม่มีวันได้ทำ....










 

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2550
2 comments
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2550 15:10:09 น.
Counter : 632 Pageviews.

 

อ่านจนจบด้วยความรู้สึกหลายอย่างค่ะ
คนเราเดี๋ยวนี้ ตัวใครตัวมันจริง ๆ โดยเฉพาะบรรดาคุณลูกบังเกิดเกล้าทั้งหลาย
มีพ่อแม่อยู่ก็ไม่รู้คุณค่า..(แกเกิดมาได้ไงฟะ)

แต่อารมณ์นึงที่ทำให้ต้องมานั่งเขียน comment อยู่นี่ คือ คุณปอยน่ารักจัง
เล่าเรื่องได้สนุกซะด้วยซีคะ

 

โดย: ชิงดวง 26 พฤศจิกายน 2550 18:38:38 น.  

 

ความจริงของสังคมปัจจุบัน....รักกันไว้เถิด

 

โดย: เด็กดี IP: 58.8.75.22 28 กุมภาพันธ์ 2551 16:22:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ลูกคนเล็กของแม่ละเอียด
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ระหว่างโซ่ กับ อากาศ
โซ่ ... คล้องคอ พันธนาการ และ เป็น ภาระ
อากาศ...มองไม่เห็น เย็นสบาย และ เอาไว้ หายใจ
ระหว่าง โซ่ กับ อากาศ คุณอยากเป็นอะไร
....
ฉัน เป็นอากาศ

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add ลูกคนเล็กของแม่ละเอียด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.