MY LIFE, MY OPINIONS
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
22 พฤษภาคม 2553

ภัควดี ไม่มีนามสกุล : ปริศนาสิ่งมีชีวิตที่ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

หมายเหตุ: เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างสีที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้เขียนถูกทวงนามสกุลคืน ดังนั้น นับแต่นี้ผู้เขียนไม่สามารถใช้นามสกุลที่เคยใช้ในการเขียนหนังสืออีก จึงเรียนผู้อ่านมาเพื่อทราบ ณ ที่นี้ด้วย


โดยปรกติผู้เขียนไม่ใช่คนที่ใส่ใจในตัวบุคคลนัก จึงไม่นิยมวิพากษ์วิจารณ์ตัวบุคคลคนไหนในฐานะ “ตัวกระทำหลัก” ทางประวัติศาสตร์ แต่ก็มีคนบางคนที่ประหลาดพิสดารเพียงพอที่จะทำให้ผู้เขียนรู้สึกฉงนฉงาย จนอดไม่ได้ที่จะพูดถึง ในแง่นี้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จัดอยู่ในสถานะประหลาด เพราะในสายตาของผู้เขียน เขาไม่ได้มีฐานะเป็น “บุคคล” ชั้นแต่จะจัดให้เป็น “โมฆะบุรุษ” ก็ยังไม่ได้ แต่ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลมหายใจชีวิตหนึ่ง ที่ดูเหมือนจะมีบทบาทสำคัญในฉากพระเพลิงที่โหมกระหน่ำประเทศสยาม แต่ดูอีกทีก็เหมือนหุ่นชักเชิดตายซากที่มีนายโรงคอยกำกับอยู่เบื้องหลัง ผู้เขียนก็ไม่รู้ว่า ความคิดอันไหนที่ถูกต้องกันแน่ และคงเป็นปริศนาคาใจผู้เขียนไปอีกนาน

อันที่จริง ปริศนาของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช่ว่าจะเพิ่งเกิดในใจผู้เขียน ผู้เขียนรับทราบข่าวคราวทั่ว ๆ ไปของเขามาตั้งแต่เขาเริ่มย่างก้าวเข้าสู่การเมือง มีเรื่องแปลกประหลาดที่ไม่น่าเป็นไปได้ของคนคนนี้อยู่เสมอ อาทิ เขาจบเศรษฐศาสตร์ระดับเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดและเคยเป็นอาจารย์ในคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ผู้เขียนไม่เคยเห็นผลงานเชิงวิชาการเป็นชิ้นเป็นอันจากคนที่ได้ชื่อว่า “เรียนเก่ง” มากคนนี้ ซึ่งค่อนข้างผิดวิสัย เรื่องนี้อาจอธิบายได้ว่า เขาเป็นอาจารย์เพียงชั่วระยะเวลาสั้นมาก จนไม่มีเวลาพอที่จะเขียนงานวิชาการ แต่ผู้เขียนก็เคยเห็นนักวิชาการจำนวนไม่น้อยที่สามารถผลิตงานออกมาได้มาก ๆ ในระยะเวลาสั้น ๆ ขอเพียงนักวิชาการคนนั้นมีประเด็นความคิดที่จะบอกต่อสังคมหรือวงการวิชาการ

เรื่องต่อมาที่ผู้เขียนรู้สึกฉงนมานมนานก็คือ ถึงแม้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจะจบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ (เกียรตินิยมด้วย โปรดอย่าลืม) แต่ผู้เขียนไม่เคยเห็นคนคนนี้แสดงความคิดเห็นหรือวิสัยทัศน์ในเชิงเศรษฐกิจใด ๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียว หากการศึกษาที่ประสบผลสำเร็จคือการทำให้ผู้ได้รับการศึกษามีความรู้ความเข้าใจในศาสตร์นั้น ๆ และนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ได้ ผู้เขียนก็คิดว่ามหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดน่าจะประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของตนใหม่ เพราะขนาดนักศึกษาเกียรตินิยมยังไม่มีความคิดอะไรเลยในเชิงเศรษฐกิจขนาดนี้ แล้วพวกนักศึกษาที่จบมาอย่างร่อแร่มิยิ่งแย่ไปใหญ่หรือ? หรือเราควรประเมินชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดเสียใหม่? หรือไม่เราก็คงต้องยอมรับว่า เกียรติประวัติทางการศึกษากับการมีความคิดอ่านเป็นคนละเรื่องกัน

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เปิดตัวต่อสื่อได้อย่างสวยหรูใน พ.ศ. 2534 หลังจากเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร ร.ส.ช. โดยเขาแสดงตนเป็นนักวิชาการที่คัดค้านการรัฐประหารและแสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่บิดาของเขา น.พ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้าร่วมเป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลทหาร ช่างดูดีมีความยึดมั่นในหลักการของระบอบประชาธิปไตย แต่ความยึดมั่นในหลักการที่ว่าก็ดูเหมือนจะสลายกลายเป็นหมอกควันซีดจาง เมื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหันมาสนับสนุนกระบวนการนอกระบบ ทั้งการขอนายกพระราชทานจนได้รับฉายา “มาร์ค ม.7” ทั้งการแสดงท่าทีสนับสนุนการรัฐประหารของ คมช. มิหนำซ้ำ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะยังก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยกระบวนการที่พอจะเทียบเคียงได้กับการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกสุจินดา คราประยูร ทั้งยังเป็นผู้ที่อยู่ในฐานะต้องรับผิดชอบต่อการสังหารหมู่ประชาชนในเดือนพฤษภาคมเดือนเดียวกันเสียด้วย จึงนับว่าอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและพลเอกสุจินดา คราประยูรมีดวงสมพงศ์กันอยู่หลายประการ

แต่การละทิ้งความยึดมั่นในหลักการหรืออุดมการณ์ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก ดังคำพังเพยที่มีคนกล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณอยู่ในช่วงวัยยี่สิบแล้วไม่เป็นฝ่ายซ้าย คุณก็ไม่มีหัวใจ แต่ถ้าคุณอยู่ในช่วงวัยสี่สิบแล้วยังเป็นฝ่ายซ้าย คุณก็ไม่มีสมอง” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะย่อมเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสมองก้อนใหญ่ เรื่องนี้เป็นข้อที่แน่ใจได้ เพียงแต่ประจุไฟฟ้าในสมองก้อนนี้ทำงานอย่างไร ยังคงเป็นเรื่องน่ากังขาอยู่

เหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่ตอนนั้นทำให้ผู้เขียนประหลาดใจในตัวอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นอย่างยิ่งก็คือ เมื่อตอนที่ชวน หลีกภัยเป็นนายกรัฐมนตรีและอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นโฆษกรัฐบาล พรรคความหวังใหม่ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนั้นถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลด้วยเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่งก็จำไม่ได้แล้ว ชวน หลีกภัย ตัดสินใจดึงพรรคชาติพัฒนาเข้ามาเสียบแทน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะถึงกับวิพากษ์วิจารณ์ชวน หลีกภัยออกมาตรง ๆ ว่า การทำเช่นนี้เป็นการเล่นการเมืองเท่านั้น แต่จะไม่ทำให้ชวน หลีกภัยได้เป็นรัฐบุรุษ ชวน หลีกภัยจึงตอบโต้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะว่า ให้กลับบ้านไปถามคุณแม่ ตอนนั้นผู้เขียนนึกว่าผู้ดีอังกฤษอย่างอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่น่าจะทนได้ แต่เขาก็แสดงว่ามีความทนทานต่อเรื่องนี้อย่างสูง ไม่ทราบว่าเขาได้กลับไปถามคุณแม่ตามคำแนะนำของไอดอลทางการเมืองของตนหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เมื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะยอมจับมือกับเนวิน ชิดชอบ เพื่อให้ตัวเองได้เป็นนายกรัฐมนตรี ผู้เขียนก็เข้าใจแล้วว่า หากอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจะเคยมีความใฝ่ฝันอยากเป็นรัฐบุรุษอยู่บ้าง ความใฝ่ฝันนั้นก็คงสลายกลายเป็นหมอกควันซีดจางไปนานแล้วพอ ๆ กับหลักการประชาธิปไตยของเขา รวมทั้งศักดิ์ศรีของการเป็นลูกผู้ชายที่ไม่พึงให้ใครมาพาดพิงถึงมารดาตนเองด้วย

ดังนั้น คราวนี้ผู้เขียนจึงไม่ประหลาดใจเท่าไร เมื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเคยพูดในสมัยที่สมชาย วงศ์สวัสดิ์เป็นนายกรัฐมนตรีว่า ถ้าเป็นเขาแล้ว ต่อให้ประชาชนประท้วงเพียงหนึ่งเสียง เขาก็จะยุบสภาทันที แต่ต่อมาปรากฏว่าประชาชนพากันมาประท้วงเป็นหมื่นเป็นแสนคน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะกลับทำราวกับการยุบสภาเป็นเรื่องลำบากแสนเข็ญ ทั้ง ๆ ที่ไอดอลทางการเมืองของเขาก็เคยยุบสภาหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่อง สปก. 4-01 อย่างง่าย ๆ ถึงแม้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจะเลียนแบบชวน หลีกภัยในทุก ๆ เรื่อง แม้แต่เรื่องวิธีการพูด (นี่ก็เป็นปริศนาอีกประการที่ผู้เขียนขบไม่แตกว่าทำไม) แต่ดูเหมือนอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจะปลงใจแล้วว่า เขาจะไม่เลียนแบบชวน หลีกภัยในเรื่องนี้ และยินดีเลียนแบบพลเอกสุจินดา คราประยูรมากกว่า (โดยปรับปรุงเป็นเวอร์ชั่นที่ป๊อบปูลาร์กว่า) การยึดมั่นในคำพูดหรือสัจจะวาจาของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจึงสลายกลายเป็นหมอกควันซีดจางไปอย่างง่ายดายเฉกเช่นเดียวกับสาระเรื่องอื่น ๆ ในตัวเขา

ในเมื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะไม่มีทั้งความคิดอ่านเป็นของตัวเอง ไม่มีหลักการ ไม่มีอุดมการณ์ ไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีสัจจะวาจา แล้วเขามีอะไร? เขาไม่น่าจะมีความฉลาดหรือลูกล่อลูกชนทางการเมืองมากนัก เพราะไม่เช่นนั้น เขาคงไม่ปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินไปจนอนาคตทางการเมืองของตนริบหรี่ขนาดนี้ จริงอยู่ เขาอาจดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง แต่ผู้เขียนก็นึกไม่ออกว่า เขาจะเดินทางไปไหนมาไหนในประเทศนี้อย่างปรกติสุขได้อย่างไร ไม่เพียงตัวเขาเท่านั้น แต่แม้กระทั่งความปรกติสุขของครอบครัวและตระกูลของเขาก็ดูเหมือนคลอนแคลนไปด้วย แล้วอนาคตทางการเมืองของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปข้างหน้า? พรรคประชาธิปัตย์จะถีบหัวส่งหรือไม่เมื่อหมดประโยชน์? เขาไม่มีความกล้าบ้าบิ่นแบบนักเลงการเมืองอย่างสมัคร สุนทรเวช ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมแต้มคูอย่างบรรหาร ศิลปอาชา ไม่มีอะไรสักอย่าง (นอกจากพูดภาษาอังกฤษคล่อง อันเป็นคุณสมบัติสุดยอดปรารถนาสำหรับคนเป็นนายกรัฐมนตรีในสายตาของชาวกรุง)

เมื่อมองดูอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้เขียนนึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมา จริง ๆ แล้วเรียกว่า “คน” ก็ไม่ใช่ แต่เป็นตัวละครสมมติที่ไม่มีตัวมีตนต่างหาก นั่นคือ ตัวละครที่เป็นนางเอกในหนังเรื่อง ทไวไลท์ และ นิวมูน นางเอกคนนี้เป็นปรากฏการณ์ที่มีคนวิเคราะห์ถึงมากมาย เพราะเธอเป็นตัวละครที่ไม่มีแก่นสารอย่างแท้จริง ไม่มีความสนใจ ไม่มีเป้าหมายชีวิต สาระในตัวเธอนั้นกลวงโบ๋เบ๋ ไม่มีอะไรทั้งสิ้นนอกจาก “ผู้ชาย” ในลมหายใจ ตอนที่แวมไพร์ตนหนึ่งบอกว่า เขาอ่านใจเธอไม่ได้ ก็แน่สิ เพราะใจเธอนั้นไม่มีอะไรให้อ่าน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะก็เช่นกัน เขาไม่มีสาระอะไร นอกจากคำว่า “นายกรัฐมนตรี” ในลมหายใจ

แต่การที่หนังซึ่งมีตัวละครเอกกลวงโบ๋เช่นนั้น กลับได้รับความนิยมมากมาย ก็คงเป็นปริศนาเช่นเดียวกับความนิยมที่คนกรุงเทพฯ จำนวนมากมีต่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ปริศนาอีกประการหนึ่งที่ผู้เขียนยังสงสัยอยู่ก็คือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะมีบทบาทแค่ไหนในเหตุการณ์พฤษภาอำมหิตครั้งนี้ เพราะในช่วงเวลา 2-3 วันที่เหตุการณ์วิกฤตสุดขีด หากมีมนุษย์ต่างดาวมาจอดยานในประเทศไทย มนุษย์ต่างดาวนั้นคงคิดว่า ผู้พันไก่อูเป็นนายกรัฐมนตรีเมืองไทยเป็นแน่ สำหรับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะที่เพียงแค่จะแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังทำไม่ได้ เขาจะสั่งกองทัพปฏิบัติการได้อย่างไร และหากเขาเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกคนนี้เชิดมาทางนี้ทีไปทางโน้นที ชะตากรรมของเขาก็ยิ่งน่าสมเพชระคนน่าหัวร่อ

หากอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นแค่หุ่นเชิดตัวหนึ่ง เขาก็เป็นหุ่นเชิดที่สุดยอดชนิดหาไม่ได้อีกแล้วในสามภพ เพราะเปลือกนอกนั้นสร้างจากวัสดุชั้นเลิศ หรูหราวิจิตรบรรจง ส่วนแกนในนั้นกลวงเปล่าเบาหวิว เหมาะอย่างยิ่งที่นายโรงจะเชิดชักตามอำเภอใจ เพราะไม่มีสารัตถะอันใดจะมาถ่วงหน่วงสายชักให้ฝืด บางทีแล้ว ปริศนาของสิ่งมีชีวิตที่ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อาจไม่ใช่ปริศนาอะไรเลย แต่เป็นเช่นความกลวงเปล่าในตัวเขาที่พร้อมจะสลายกลายเป็นหมอกควันซีดจางเมื่อลมพัดมา


ที่มา : //www.prachatai1.info/journal/2010/05/29677




Create Date : 22 พฤษภาคม 2553
Last Update : 22 พฤษภาคม 2553 10:19:22 น. 22 comments
Counter : 732 Pageviews.  

 
เข้ามาอ่านค่ะ


โดย: Moon OF JulY วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:13:50 น.  

 
อ่านแล้ว คิดตามแล้วก็เห็นพ้อง ด้วยค่ะ


โดย: xxx IP: 58.8.65.238 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:37:07 น.  

 
O_O'
บทความเจ๋งมากครับ


โดย: SkyWalKeR-TH วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:10:22 น.  

 
คุณคือ red shirt 555


โดย: a IP: 58.9.165.222 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:36:12 น.  

 
สุดยอด ค่ะ ถูกใจใช่เลย มีแต่เรื่องน่าพิศวงงงงวย อยากเปิดอกคุยกับนายกท่านนี้จัง เรื่องมันเป็นไงมายังไงถึงได้เผากันได้ขนาดนี้


โดย: หนึ่ง ต. ต่อต้านความรุนแรง IP: 125.25.48.193 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:47:53 น.  

 
ลืมค่ะ ข้ออนุญาตเก็บบทความค่ะ


โดย: หนึ่ง ต. ต่อต้านความรุนแรง IP: 125.25.48.193 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:50:06 น.  

 
เวปที่มามันคุ้นๆ...


... หลงเข้ามาอ่ะ


โดย: ตูว่าแล้ว IP: 125.27.253.146 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:08:52 น.  

 


โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:14:13 น.  

 
นักการเมืองประเทศไทย คล้ายนักสร้างภาพครับ

อะไรที่พูดแล้วดูดี พูดไปก่อนหล่ะ ทำได้ไมไ่ด้อีกเรื่องนึง
เพราะประเทศเรามันต้องหาเสียงตลอดเวลา
เพราะไม่รู้ ทหารจะสั่งยุบสภา หรือ ปฎิวัติเมื่อไหร่



โดย: นายแมมมอส วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:43:13 น.  

 
เห็นด้วยทุกประการ



โดย: addsiripun วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:21:30 น.  

 
เราเป็นคนหนี่ง.....ที่ไม่เคยเห็นอะไร....ในตัวนายกคนนี้เลย.......


โดย: มติชน IP: 183.89.145.10 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:34:36 น.  

 
คนเขียนรู้สึกอย่างไรที่ชาวบ้านหลายคนถูกหลอกและใช้เงินซื้อมาชุมนุม ญาติเราก็ไปได้ตังค์มาตั้งเยอะ และมีการผลิตอาวุธ ระเบิดเพลิง ระเบิดแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน และอื่นๆ และการเผาบ้านเมืองอย่างที่เห็น และที่ณัฐวุฒิสั่งเผาเมือง ไอ้กี้ขู่ว่าจะทำร้ายคนโน้นคนนี้จะเผาเมือง แล้วผู้เขียนมีอะไรที่เป็นคุณแก่ประเทศชาติบ้าง ทำไมไม่เอาเวลาคิดแก้ไขปัญหา สร้างความปรองดอง สร้างประเทศชาติขึ้นมาใหม่ นอกจากยุแยงตะแคงรั่วไปวันๆ เอาเวลามาสร้างสรรค์ผลงานที่ช่วยประเทศชาติไม่ดีกว่าหรือ


โดย: B IP: 180.183.168.103 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:16:08 น.  

 
ผู้เขียบทความทำประหนึ่งเป็นผู้เยี่ยมยุทธทางประวัติศาสตร์ทางการเมือง


โดย: chew IP: 58.11.37.218 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:29:53 น.  

 
ผมเห็นด้วยกับบทวิเคราะห์ในบล๊อกนี้ และเห็นว่าคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย ไม่จำเป็นต้องหล่อ พูดภาษาอังกฤษเก่งราวกับเป็นภาษาเกิดของตัวเอง หรือเป็นนักโฆษณาชวนเชื่อ หรือเล่นการเมืองเพื่อทำลายคู่แข่งขันเป็นงานหลัก ผมขอถามว่าท่านเป็นห่วงสถาณการณ์ด้านเศรษฐกิจ สังคม พลังงานของชาติบ้างหรือไม่ ไม่เคยเห็นท่านแสดงนโยบายออกมาเลย ยกตัวอย่างวิกฤตด้านพลังงานไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นเมื่อก๊าซธรรมชาติจะหมดไปในอีกไม่ถึง 20 ปี เราจะเอาเชื้อเพลิงจากไหนมาผลิตไฟฟ้า อย่าคิดว่ายังมีเวลาเอาไว้ให้รัฐบาลหน้ามาแก้ไข เพราะว่าถ้าจะแก้ต้องเริ่มจากรัฐบาลของท่าน ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะทันการณ์หรือไม่ เนื่องจากท่านไม่มีแผนในเรื่องดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย


โดย: คนห่วงไทย IP: 125.25.14.204 วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:28:59 น.  

 
เราไม่ชอบทั้งแดงทั้งเหลือง ไม่ชอบการชุมนุมแบบผิดต่อกม. ไม่ต้องอ้างสิทธิเสรีภาพอะไร ตอนพันธมิตรปิดสนามบินก็ไม่ชอบ แต่ตอนนี้ที่แดงทำลายประเทศหนักยิ่งกว่า สั่งการทั้งในและนอกประเทศ ถ้าเราไม่ได้ก็เผาแม่งทั้งประเทศเลย มันกะเผาทำลายโบราณสถานและสถานที่สำคัญของชาติและเศรษฐกิจ ดูคลิปต่างๆที่เค้าประกาศได้ นักการเมืองไม่มีใครดี100%ไม่ว่าใคร คนไม่โกงไม่ได้หมายความว่ามันดี แต่บางทีเพราะมันยังไม่มีโอกาส ทักษิณไม่ใช่ไม่ดี มันฉลาดและทำคุณให้ไทยเยอะ แต่ความเลวและความโลภมันมากเกินไปจนทำให้เราเกือบลืมความดีของมัน มันไม่ควรทำลายชาติ ก้าวก่ายเบื้องสูง มันต้องสำนึกว่าประเทศชาติมีบุญคุณต่อมันขนาดไหน คนไทยรักและเทิดทูนในหลวงเพียงใด ถ้ามันโลภน้อยกว่านี้มันจะมีอำนาจอีกนานแสนนาน แต่เวลานี้คนไทยควรหันหน้าเข้าหากัน ช่วยประเทศชาติให้พ้นวิกฤตนี้ให้ได้ ไทยเคยเสียกรุงให้พม่าเพราะหนอนบ่อนไส้ เวลานี้เราจะซ้ำรอยประวัติศาสตร์อีกเหรอ


โดย: เริ่มต้นใหม่ เพื่อในหลวงและประเทศ IP: 180.183.160.37 วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:01:45 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

อ่านแล้วน้ำตาไหล (ยืมคุณเอื้องผึ้งจันทร์ผามา)

จากแพทย์ผู้ที่ได้รับใช้ใกล้ชิด เล่าให้ฟังว่า
ภาพที่พ่อนั่งเหม่อลอยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
เป็นเวลานานเหมือนจะร้องไห้นั้น
ณ ที่ตรงนั้นกับเวลาที่ยาวนาน
พ่อพูดออกมาประโยคเดียวว่า

" เราไปทำอะไรให้เขาเจ็บช้ำ
หรือ คนไทยเหล่านั้นถึงได้
โกรธ เกลียดเราขนาดนี้ "

ผู้อยู่ใกล้ชิดพ่อน้ำตาไหลพราก
เพราะสงสารพ่อที่ทำทุกอย่าง ทั้งชีวิตพ่อ
เพื่อ คนไทยมาตลอด
พ่อไม่เคยคิดทำร้ายคนไทยเลยแม้แต่น้อย
แต่สิ่งที่พ่อได้รับจากคนไทยกลุ่มนั้น
คือ???


โดย: โบว์กี้ (นู๋ตุ่ม..ใจร้อน ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:53:35 น.  

 
เป็นหุ่นเชิด กับ เชิดหุ่น อันไหนเจ๋งกว่ากัน


โดย: โบว์กี้ (นู๋ตุ่ม..ใจร้อน ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:54:23 น.  

 
คนเขียนอคติมาก ไม่ชอบคุณอภิสิทธิ์เพราะอะไร ต้องทำใจให้เป็นกลางก่อนนะคะ แต่ดิฉันก็เสือกเหมือนกันเข้ามาอ่าน blog ของคุณทำไม่ไม่รู้
คุณอภิสิทธิ์ไม่มีผลงานทางวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ไม่ถือว่าผิดหรอกค่ะ คนที่ทำงานของดิฉันมีผลงานด้านนี้มากมาย มีหน้ามีตาในประเทศมาก แต่เป็นตัว Key หลักที่ทำให้ประเทศไทยพังพินาศในช่วง Crisis เพราะความเป็นนักวิชาการอย่างเดียวเนี่ยแหละ วิชาการซะจริง (คงจะเหมือนพวกคุณคนเขียนนะคะ)
คุณอภิสิทธิ์ได้เกียรตินิยมมาจริงก็ไม่จำเป็นต้องมาต่อว่าเรื่องอื่นหรอกคะ ควรให้เกียรติมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดเค้าด้วยนะคะ
ถามว่าให้คุณอภิสิทธ์ลาออก หรือยุบสภาเพื่ออะไร เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่งั้นหรือ เราจะทำอย่างนั้นเพื่ออะไร ในเมือคนที่มีเรียกร้องมีสิ่งที่ต้องการแฝงอยู่เบื้องหลัง นอกจากนี้แล้วคนที่มาเรียกร้องมีการกระทำที่เลวหลายประการ มีการพูด กระทำในเว็บต่าง ๆ ที่ให้ร้ายต่อองคมนตรี (สูงกว่า) ถ้านายกลาออกประเทศไทยเราต้องล่มสลาย คุณคงต้องการอย่างนั้นใช่ไหม ตอนนี้เผาทำลายสถานที่ต่าง ๆ คุณยังจะเห็นเป็นอย่างไร ขอให้ใคร่ครวญดูแล้วมาหาทางแก้ไขกันดีกว่านะคะ


โดย: กลุ้มใจ IP: 202.90.6.36 วันที่: 26 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:15:33 น.  

 
เห็นด้วยกับคุณกลุ่มใจค่ะ

แล้วเรื่องหุ่นเชิด ใครได้มาเป็นนายก ก็ต้องมีคนว่ามีคนเชิดตลอด มีหรือไม่มีก็ไม่รู้ รู้แต่ถ้าไม่ใช่ข้างคุณ ต้องไม่ดี ต้องไม่ได้เรื่องตลอด

ดิฉันได้ยินชาวต่างจังหวัดไกลๆ (ที่เป็นเสื้อแดง) พูดว่า ปุ๋ยแพงก็เพราะอภิสิทธิ์ เพลี้ยลงก็เพราะอภิสิทธิ์ คุณอภิสิทธิ์เขาเอาเพลี้ยไปปล่อยเหรอคะ

เรารัก และเคารพในหลวงกันหรือเปล่า ทำไมไม่เชื่อท่าน เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่เพราะการปลูกไร่นาสวนผสม มันใช้ได้กับคนทุกคน
คุณเป็นชาวพุทธกันหรือเปล่า คำว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ลืมมันไปแล้วเหรอคะ
ถ้าคุณต้องการให้ประเทศชาติพัฒนา และตนเรา คนในชาติพัฒนาตัวเองเพื่อชาติหรือยังคะ


โดย: เหนื่อยใจ IP: 210.253.198.241 วันที่: 26 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:22:29 น.  

 
คดีมีมูล


โดย: สายคณะราษฏร IP: 125.24.108.250 วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:23:51:05 น.  

 
ขอบคุณบทความนี้มาก มีความสงสัยในตัวนายกคนนี้เหมือนกัน แต่แปลคลื่นความคิดออกมาไม่ได้ จนมาได้อ่านบทความของคุณ อื้ม...ใช่เลย อภิสิทธิ์ เซลชีวิตพันธุ์ใหม่พร้อมรับใช้ทุกอำนาจ.....ระวังเซลนี้กำลังเป็นพาหะนำประเทศเข้าสู่หายนะ และตอนนี้เซลนี้กำลังทำให้ภูมิคุ้มกันประเทศเสียหายจนไม่สามารถที่จะฟื้นคืนมาได้อีก มันเป็นยิ่งกว่าไวรัสเอดส์ มันไม่ใช่ไวรัสแต่มันเป็นเซลคุด ที่ไม่สามารถเจริญต่อไปได้.....


โดย: me too (emma64 ) วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:10:58:26 น.  

 
ใครดีไม่ดี อย่าไปเชื่อที่คำพูดฝ่ายตรงข้าม อาศัยเวลาเหตุการณ์หน่อย ไม่ช้าก็เร็วจะเปิดเผย อย่าด่วนตัดสินจากคำใส่ร้ายปัจจุบัน พิจารณาคนจากสิ่งที่เขาทำเป็นรูปธรรมออกมา อย่าพิจารณาจากคำแฉใส่ร้ายให้การ ที่สำคัญคนที่พูดแล้วทำไม่ได้ หรือไม่มีสัจจะ หรือเคยว่าให้คนอื่นแต่วันนี้กลับทำซะเอง ไม่ใช่พฤติกรรมของคนดีแน่นอน เพราะไม่รู้สึกหนักใจกับการโกหกหรือทำความชั่ว เอาวาจาแก้ตัวให้ดูดีไปวันๆ


โดย: tkk IP: 49.229.202.107 วันที่: 13 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:51:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

popcorn2519
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หวัดดีครับ สำหรับ คนที่หลงเข้ามาใน blog นี้ ^^ ตอนนี้ผมได้ทำการ แบ่ง blog ออกเป็น 3 กลุ่มนะครับ

กลุ่มแรก คือ My Blog ก็จะเป็นเรื่องต่างๆ ที่อยากจะเขียน ทั้งหนังที่ชอบ เรื่องที่อ่านมาแล้วโดน หรือ อาจจะสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวัน ที่อยากจะระบาย

กลุ่มที่ 2 คือ 2,900 ไมล์ ไกลบ้าน เป็นบล็อคที่สร้างมาเพื่อเขียนเรื่องราวช่วงหนึ่งของชีวิตที่จะต้องไปใช้ชีวิตในต่างแดนครับ ซึ่งสิ่งที่ผมประสบมาและถ่ายถอดอาจจะไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ก็ได้ อันนี้อาจเกิดได้จากความอ่อนแอทางภาษาซึ่งอาจจะทำให้เกิดผมเกิดความเข้าใจผิดได้ หรือเหตุการณ์และช่วงเวลาที่ตัวเองได้สัมผัส หรือสังคมที่ผมได้เข้าไปคลุกคลีด้วย แต่ข้อมูลทั้งหมดที่เขียนก็คือสิ่งที่ผมเข้าใจอย่างนั้นจริงๆครับ

และกลุ่มที่ 3 สังคม-การเมือง-การปกครอง ซึ่งเป็นกลุ่มใหม่เนื่องจากช่วงหลัง มีการนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการเมือง สังคม การปกครอง มาใส่เยอะ ก็เลยคิดว่าน่าจะแยกกลุ่มไปจากเรื่องส่วนตัวดีกว่า

ข้อความทุกข้อความทั้งที่นำมาจากที่อื่น และที่เขียนเอง ทั้งหมดเป็นความคิด ความรู้สึกส่วนตัว และความชอบของผมเองนะครับ ไม่ได้แปลว่าต้องถูกต้องเสมอไป ฉะนั้นกรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านล่ะกัน ทุกคนสามารถโต้แย้งได้ครับ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชม และคอมเมนต์ ครับ
POP
New Comments
[Add popcorn2519's blog to your web]