MY LIFE, MY OPINIONS
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
19 เมษายน 2553

คนไทยโชคดีที่ได้ 'อภิสิทธิ์' เป็น 'นายก'

และแล้ว "ประชาธิปไตย" ก็เข้าสู่ห้วง "รัตติกาล" จริงๆ

เสียงปืนและชีวิตของ "คนเสื้อแดง" และ "ทหาร" ในคืนวันที่ 10 เมษายน ทำให้ "ประชาธิปไตย" ของไทยก้าวเข้าสู่ความมืดมิดอีกครั้งหนึ่ง

บทเรียน 14 ตุลาคม 2516, 6 ตุลาคม 2519 และ 17-19 พฤษภาคม 2535 ไม่ได้ทำให้คนไทยก้าวข้าม "ความรุนแรง" ไปได้

การตัดสินใจสลาย "ม็อบเสื้อแดง" ที่สะพานผ่านฟ้าฯ ของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 24 ศพ และผู้บาดเจ็บอีก 800 กว่าคน

ในบรรดาผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีช่างภาพรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่นเสียชีวิต 1 ราย ทหาร 5 นาย และคนเสื้อแดง 18 ศพ

"อภิสิทธิ์" กลายเป็น "นายกฯ มือเปื้อนเลือด" ไปในพริบตา

การสลายการชุมนุมภายใต้วาทกรรมการเมืองที่สละสลวย "ขอคืนพื้นที่" เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 10 เมษายน

มีเป้าหมายว่าจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเวลา 18.00 น.

แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ

การปะทะกันของ "คนเสื้อแดง" กับ "ทหาร" ตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นมา แม้จะมีคนบาดเจ็บบ้างแต่ก็เล็กน้อย

ที่สำคัญคือ ไม่มี "ผู้เสียชีวิต"

แต่การตัดสินใจนำพาสถานการณ์ไปสู่ความสุ่มเสี่ยงในยามค่ำคืน เพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงได้ก่อให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่

"อภิสิทธิ์" ตัดสินใจ "ไฟเขียว" ให้สลายการชุมนุมต่อไป ทั้งที่รู้กันว่าการสลายการชุมนุมหลังพระอาทิตย์ตกดินนั้นสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่ง

ที่สำคัญเขารู้อยู่แล้วว่ามี "มือที่สาม" รอคอยอยู่

ถ้าไม่เคยมีการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ด้วยอาวุธสงคราม ไม่ว่าจะเป็นการยิง ขว้างระเบิด หรือยิงเอ็ม 79 จาก "มือลึกลับ" ถล่มใส่สถานที่สำคัญต่างๆ หลายครั้งในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

"อภิสิทธิ์" สามารถอ้างได้ว่าไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมี "มือที่สาม" ฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ในการสลายการชุมนุม

นอกจากนั้น ยังมีบทเรียนเรื่อง "มือที่สาม" จากประวัติศาสตร์การเมืองตั้งแต่ 14 ตุลาคม 2516 และพฤษภาคม 2535 มาแล้ว

แต่ "อภิสิทธิ์" ก็ยังเดินรอยตาม

เพียงเพราะความรู้สึกที่ต้องการ "ชัยชนะ"

และไม่ต้องการ "เสียหน้า" เท่านั้นเอง

ความรู้สึกนี้เห็นได้อย่างชัดเจนในการแถลงข่าวเมื่อคืนวันที่ 9 เมษายนหลังจาก "คนเสื้อแดง" ฝ่าด่านทหารเข้าไปบุกยึดสถานีดาวเทียมไทยคมที่ลาดหลุมแก้วและต่อเชื่อมสัญญาณสถานีโทรทัศน์พีทีวีได้สำเร็จ

"อภิสิทธิ์" ไม่พอใจอย่างมาก

ใบหน้าที่เคร่งเครียดและน้ำเสียงของเขาในการแถลงข่าวบ่งบอกความรู้สึกในใจ

"เป็นความเจ็บปวด เป็นความรู้สึกที่ต้องการเห็นความถูกต้องได้รับชัยชนะ ต้องการเห็นกฎหมายศักดิ์สิทธิ์"

"ต้องเดินหน้าทำให้บ้านเมืองปกครองด้วยกฎหมาย นี่คือ ภารกิจเดียวที่เราต้องทำ ส่วนปัญหาการเมืองหรืออื่นใดนั้นต้องแก้ไขกันทีหลัง"

"เช้านี้เราอาจผิดหวังแต่เหตุการณ์ยังไม่จบ เชื่อมั่นว่าเราดำรงในความถูกต้องปกป้องกฎหมาย ในที่สุดเราจะได้ชัยชนะ"

ทันทีที่แถลงข่าวจบรถบรรทุกทหาร รถหุ้มเกราะ รถดับเพลิง รถพยาบาล ร่วม 100 คันก็ออกจากราบ 11

ปฏิบัติการ "ขอพื้นที่คืน" เริ่มต้นขึ้น

"อภิสิทธิ์" นั้นถูกตั้งฉายาว่า "เด็กดื้อ" เพราะเป็นคนที่เชื่อมั่นในตนเอง และไม่ยอมเสียหน้า

กรณีการตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร.คนใหม่ ที่ค้างคามานาน คือตัวอย่างที่ดียิ่งที่บ่งบอกถึงบุคลิกของ "อภิสิทธิ์"

ดังนั้น เมื่อแพ้มาแล้วครั้งหนึ่งจากที่ "เสื้อแดง" ยึดสถานีดาวเทียมไทยคมได้สำเร็จ

ครั้งนี้ต้องไม่แพ้อีก

ทั้งที่ "อภิสิทธิ์" เคยแถลงข่าวยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีความคิดจะสลายการชุมนุม

และแถลงข่าวอีกครั้งว่าจะขอพื้นที่คืนที่สี่แยกราชประสงค์ ให้ผู้ชุมนุมไปอยู่ที่สะพานผ่านฟ้าฯ เพียงที่เดียว

แต่เมื่อถึงเวลาจะ "เอาชนะ" เขาก็ตัดสินใจสลายการชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าฯ ด้วยเหตุผลว่ามีจำนวนคนน้อยกว่า

เช่นเดียวกับเมื่อถึงเวลา 6 โมงเย็นภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น

ระหว่างการตัดสินใจ "หยุด" กับ "เดินหน้าต่อ"

"อภิสิทธิ์" กลับเลือก "เดินหน้าต่อ"

อาจเป็นเพราะถ้าเขาตัดสินใจ "หยุด" สื่อก็จะประโคมข่าวในวันรุ่งขึ้นว่ารัฐบาลสลายม็อบไม่สำเร็จ

หรือ "รัฐบาลแพ้"

วินาทีที่ต้องตัดสินใจเช่นนั้นถือเป็นห้วงเวลาที่จะพิสูจน์ความเป็น "ผู้นำ" ของคน

เขาจะเลือกสิ่งใด

ระหว่าง "กฎหมาย" กับ "ชีวิตคน"

ระหว่าง "เหตุผล" กับ "อารมณ์"


และในที่สุด "อภิสิทธิ์" ก็ตัดสินใจ...


จนถึงวันนี้ไม่แน่ชัดว่าวาทกรรมที่ว่า "ขอพื้นที่คืน" ของ "อภิสิทธิ์" นั้น

เขาหมายถึง "พื้นที่ถนน"

หรือ "พื้นที่ใบหน้า"

เพราะการสูญเสียชีวิตของ "คนเสื้อแดง" และ "ทหาร" จากการสลายม็อบครั้งนี้ ส่งผลสะเทือนอย่างแรงทางการเมือง และสังคมไทย

ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายอย่างใหญ่หลวง

พร้อมกับสร้างรอยแผลลึกในใจของคนไทยมากมาย

"อภิสิทธิ์" คือ บุคคลสำคัญที่ต้องรับผิดชอบ

เพราะเขาเป็นคนกดปุ่ม "สลายม็อบ"

หลายคนนึกถึงวาทะประวัติศาสตร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2551

วันนั้น "อภิสิทธิ์" พาคณะรัฐมนตรีอวยพรปีใหม่ "ป๋าเปรม"

เป็นครั้งแรกที่ "ประธานองคมนตรี" ที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแสดงท่าทีสนับสนุน "อภิสิทธิ์" อย่างเปิดเผย

"บ้านเมืองเราโชคดีที่ได้ท่านมาเป็นนายกฯ"

และ "ดีใจที่ได้นายกฯ ชื่ออภิสิทธิ์ และคิดว่าคนไทยก็ดีใจ"

จากวันนั้นถึงวันนี้

ในเดือนเมษาเลือดของปี 2553

ไม่รู้ว่า "คนไทย" จะคิดเหมือน พล.อ.เปรม หรือไม่

การที่ได้ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เป็นนายกรัฐมนตรี

เป็น "โชคดี" หรือ "โชคร้าย" ของคนไทยกันแน่



ที่มา : ในประเทศ มติชน สุดสัปดาห์ ประจำวันที่ 16-22 เมษายน 2553


Create Date : 19 เมษายน 2553
Last Update : 19 เมษายน 2553 23:21:46 น. 14 comments
Counter : 785 Pageviews.  

 
โชคดีที่ไดอภิสิทธิ์ เพราะจะได้รู้ว่ามันเลว


โดย: ccc IP: 115.87.58.240 วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:23:38:51 น.  

 
ความดีและถูกต้องไม่มีวันตายค่ะ
ความคิดและความเชื่อจะผันแปรไปตามวาทกรรม
เอวังด้วยประการฉะนี้



โดย: gluhp วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:0:03:42 น.  

 
การที่มติชัวร์ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ เป็นสื่อ แต่นำตัวเองเข้าตลาดหุ้นซึ่งต้องทำกำไรเพื่อผู้ถือหุ้น ดังนั้นเป้าหมายจากเดิมที่ต้องทำหน้าที่สื่อ ก็กลายเป็นทำข่าวเพื่อกำไรสูงสุด ดังนั้นการบิดเบือนของข่าวหรือความเอนเอียงของข่าว ย่อมไม่เหมือนเดิม คนเสพสื่อต้องดูด้วยว่าแต่เดิมเขาเที่ยงตรงปัจจุบันอาจจะเป็นบ่ายก็ได้ ต้องเสพด้วยความระมัดระวัง


โดย: lsldl IP: 125.26.144.209 วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:5:50:01 น.  

 
ถ้าความยุติธรรมมีจริง พธม.บุกยึดสนามบินคงโดนดำเนินคดีไปแล้ว



โดย: .......... IP: 167.67.140.96, 203.146.20.17 วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:5:52:08 น.  

 
การที่ได้ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เป็นนายกรัฐมนตรี

เป็น "โชคดี" หรือ "โชคร้าย" ของคนไทยกันแน่


แย่กว่าคุณชวน แต่ดีกว่าอ้ายแม้ว


โดย: tora IP: 212.227.34.105 วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:8:17:51 น.  

 
การที่มติชัวร์ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ เป็นสื่อ แต่นำตัวเองเข้าตลาดหุ้นซึ่งต้องทำกำไรเพื่อผู้ถือหุ้น ดังนั้นเป้าหมายจากเดิมที่ต้องทำหน้าที่สื่อ ก็กลายเป็นทำข่าวเพื่อกำไรสูงสุด ดังนั้นการบิดเบือนของข่าวหรือความเอนเอียงของข่าว ย่อมไม่เหมือนเดิม คนเสพสื่อต้องดูด้วยว่าแต่เดิมเขาเที่ยงตรงปัจจุบันอาจจะเป็นบ่ายก็ได้ ต้องเสพด้วยความระมัดระวัง

......จากเนื้อข่าวผมว่าเค้าก็แค่เขียนไปตามเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริง แล้วให้คนอ่านทำความเข้าใจและตีความกันเอง และจากเนื้อข่าวที่คุณอ่านผมเดาว่าในใจลึกๆคุณก็คงเห็นด้วยว่าคุณอภิสิทธิ์ทำผิด แต่ตัวคุณไม่ยอมรับความจริงก็เลยออกมาพิมพ์ว่าเค้าไป เพราะมันขัดกับสิ่งที่คุณอยากให้เป็น .....นี้ละครับที่เข้าบอกคนไทยกลัวความจริง ไม่กล้ายอมรับความจริง โลกมันเปลี่ยนไปเราต้องตามให้ทัน เราจะหยุดอยู่ตรงนี้ หรือเราอยากจะก้าวช้าๆหรือก้าวให้เร็วเพื่อให้ทันโลก มันต้องเริ่มที่ตัวเองก่อนครับเปิดใจ ศึกษาค้นคว้า หาข้อมูล ไตร่ตรองก่อนจะเชื่ออะไรแล้วคุณจะเข้าใจ เรื่องราวทั้งหมด


โดย: โดโด้ IP: 124.120.26.136 วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:14:09:28 น.  

 
นักวิจารณ์ก็วิจารณ์กันหลังเกิดเหตุการณ์ ยิ่งเหตุการณ์สดๆร้อนๆก็มันกูละ ขอเพียงแค่เสียงปืนดังขึ้นมึงเสร็จกูละ นั่นแหละตัดสินคนไปแล้ว ตีกินอย่างเดียว วันๆนั่งคิดโน่นคิดนี่ เอาความรู้ดีกรีดอกเตอร์ โปรเฟสเซอร์ คิดว่ากูจะเขียนไร พูดไรที่มันแหวกแนว อ่านแล้วไม่เข้าใจลึกซึ้งเพราะเขาความคิดลึกซึ้งเกินมนุษย์ธรรมดาจะเข้าใจ คนพวกนี้มีปมด้อย มีอุดมการณ์ มีความฝัน จิตใจก็อาจมีคุณธรรม คือ เป็นคนดีก็ได้ แต่มีปมด้อย คือกลัว ขี้ขลาด วันๆ วิจารณ์ ตีกินอย่างเดียวดีกว่า ใช่รึป่าวพวกนักวิจารณ์ ฝันไปเถอะว่าประเทศไทยจะเจอคนอย่าง จิตร ภูมิศักดิ์ อีกเพราะมันกลายพันธุ์หมดแล้ว เพราะยีนขี้ขลาดมันกลืนไปหมดแล้ว นะ นิธิ เอี่ยว


โดย: แจ๊กกี้ IP: 222.123.126.131 วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:21:20:11 น.  

 
เป็นนายกกิตติมศักดิ์มาก ขนาดมีคนตายในช่วงที่ตนเองดำรงตำแหน่ง ก็ยังมีคนเชียร์ พี่มาร์คสู้ๆ นี่ถ้าสุเทพนายกเป็นจะมีคนเชียร์เยอะไม๊เอ่ย


โดย: นุช IP: 114.128.25.29 วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:22:48:41 น.  

 
โชดดีของคนไทยนะ ขนาดมือเปื้อนเลือดยังมีคนชอบ มนุษยธรรมอยู่ซอกไหนของสมอง


โดย: อาร์ตหน้าผี IP: 58.9.57.21 วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:8:55:01 น.  

 
ผมเชื่อว่าหัวใจเขาบริสุทธิ์ เขาไม่ได้ต้องการให้มีคนตายแต่คนที่ชุมนุมต่างต้องการให้มีคนตายเพื่อให้เกิดความวุ่นวายและตัวเองมีึความชอบธรรมที่จะสู้เพื่อทักษิณ เพราะมันรู้ว่าเดี๋ยวจะมีแนวร่วม(นักวิชาการ นักวิเคราะห์ คอรัมนิส)พวกนี้รออยู่จะได้มีงานทำ เป็นนักฉวยโอกาสชอบพูดในสิ่งที่มีแต่ถูก ตีกินเข้าตัว ผมว่าไอ้คนพวกี้ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับสังคมมากนัก


โดย: แจ๊กกี้ IP: 112.142.142.133 วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:20:01:57 น.  

 
อย่าโทษกันเลยครับว่า ใครดี ใครเลว ดูที่ตัวคุณเองดีกว่าครับ คิดให้ลึก ๆ นะครับ ต้นเหตุแห่งการแตกแยกและการชุมนุมครั้งนี้คือใคร และใครได้รับผลประโยชน์
ใครที่พูดจาทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และพวกเขาต้องประชาธิปไตย จริง ๆ หรือมีอะไรแอบแฝง คนไทยเคยอยู่อย่างสงบสุขตามอัตตภาพ และที่ร้องด่ากันปล่าว ๆ ทุกวันนี้ เพราะอะไร มองให้ลึก ๆ นะครับ ใครด่าใคร กรรมนั้นตกที่ตัวเอง วจีกรรมครับ งานไม่ทำ ปากเอาแต่ด่า มือรับสินบน ไอ้พวกที่เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น เขาเรียกว่าอะไรครับ ใครเขาอยากให้มีคนตายละครับ เป็นสุดวิสัยนี่ครับ ความสุขสันติต้องร่วมมือกันครับ ผมเบื่อแกนนำเสื้อแดงมาก ๆ เลยครับฟังทีไรด่าคนอื่นทุกที ทำไมไม่ด่าตัวเองบ้างละครับว่าทำอะไรไว้ ระวังนรกถามหานะครับ


โดย: แสงเทียน IP: 119.42.79.68 วันที่: 5 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:58:42 น.  

 
บอกอย่าโทษกันว่าใครดีใครเลว ให้ดูตัวเองก่อน

แล้วคุณดูตัวเองหรือยังครับ ถามใจตัวเองหรือยัง

หรือเชื่อว่าสิ่งที่ข้ารู้ข้าเห็นถูกเสมอ


โดย: popcorn2519 วันที่: 15 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:11:40 น.  

 
ศอฉ.เป็นองค์กรที่ ตอแหล่และสร้างภาพที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาครับ
ตอนนี้ นายยก 'อภิสิทธิ์' คนดีของใครหลายๆคน อยู่อันดับ 1เรียบร้อยแล้วครับ มีผู้เสียชีวิตรวม 66 คนมากสุดในประวัติศาสตร์ เมื่อวานนะครับ วันนี้ ไม่ใช้ 66 คนแล้ว เหอะๆและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย (หน้าด้านหน้าทนจริงๆ) ไม่เคยออกมากล่าวขอโทษ ไม่เคยออกมารับผิดชอบ ดีแต่ให้ ไอ้พวก ศอษ . ออกมาตอแหล่ไปวันๆ

(ประเทศไทยโชคดีที่มีนายยกชื่ออภิสิทธิ์) โชคดีมากๆ เหอะๆ คิดเอาเอง
คำพูดของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์


โดย: รักในหลวง IP: 114.128.111.17 วันที่: 19 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:30:51 น.  

 
กลุ่มเพื่อน 5.63 โรงเรียนอุตรดิตถ์ ขอเชิญชวนให้ทุกท่านไปเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 3 ก.ค. 2554 และ ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า วันที่ 26 มิถุนายน 2554 เวลา 08.00-15.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ


โดย: กลุ่มเพื่อน 5.63 อ.ต. IP: 210.246.186.4 วันที่: 14 มิถุนายน 2554 เวลา:22:10:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

popcorn2519
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หวัดดีครับ สำหรับ คนที่หลงเข้ามาใน blog นี้ ^^ ตอนนี้ผมได้ทำการ แบ่ง blog ออกเป็น 3 กลุ่มนะครับ

กลุ่มแรก คือ My Blog ก็จะเป็นเรื่องต่างๆ ที่อยากจะเขียน ทั้งหนังที่ชอบ เรื่องที่อ่านมาแล้วโดน หรือ อาจจะสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวัน ที่อยากจะระบาย

กลุ่มที่ 2 คือ 2,900 ไมล์ ไกลบ้าน เป็นบล็อคที่สร้างมาเพื่อเขียนเรื่องราวช่วงหนึ่งของชีวิตที่จะต้องไปใช้ชีวิตในต่างแดนครับ ซึ่งสิ่งที่ผมประสบมาและถ่ายถอดอาจจะไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ก็ได้ อันนี้อาจเกิดได้จากความอ่อนแอทางภาษาซึ่งอาจจะทำให้เกิดผมเกิดความเข้าใจผิดได้ หรือเหตุการณ์และช่วงเวลาที่ตัวเองได้สัมผัส หรือสังคมที่ผมได้เข้าไปคลุกคลีด้วย แต่ข้อมูลทั้งหมดที่เขียนก็คือสิ่งที่ผมเข้าใจอย่างนั้นจริงๆครับ

และกลุ่มที่ 3 สังคม-การเมือง-การปกครอง ซึ่งเป็นกลุ่มใหม่เนื่องจากช่วงหลัง มีการนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการเมือง สังคม การปกครอง มาใส่เยอะ ก็เลยคิดว่าน่าจะแยกกลุ่มไปจากเรื่องส่วนตัวดีกว่า

ข้อความทุกข้อความทั้งที่นำมาจากที่อื่น และที่เขียนเอง ทั้งหมดเป็นความคิด ความรู้สึกส่วนตัว และความชอบของผมเองนะครับ ไม่ได้แปลว่าต้องถูกต้องเสมอไป ฉะนั้นกรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านล่ะกัน ทุกคนสามารถโต้แย้งได้ครับ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชม และคอมเมนต์ ครับ
POP
New Comments
[Add popcorn2519's blog to your web]