MY LIFE, MY OPINIONS
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
1 พฤษภาคม 2553

เกษียร เตชะพีระ : "หน้าที่ทางการเมืองของแผนผังเครือข่ายล้มเจ้า"

ผมคิดว่าที่เรากำลังประสบอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบันคือกระแสคลื่นการปฏิเสธอำนาจรัฐ (widespread dissent from state power)

แสดงออกไม่เพียงในรูปการชุมนุมยืดเยื้อฝ่าฝืนประกาศภาวะฉุกเฉินร้ายแรง บุกค้นโรงพยาบาล วางยางรถยนต์ขวางชานชาลาและเส้นทางรถไฟฟ้ากลางกรุงเทพฯ หากแผ่กระจายกว้างออกไปหลายท้องที่ทั้งภาคเหนือ-อีสาน-กลาง ในรูปกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งด่าน ปิดถนน ตรวจค้น คุมตัวทหาร-ตำรวจ ฯลฯ

แก่นแท้ของมันคือการที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยในสังคมไม่ยอมรับอำนาจรัฐ ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐอีกต่อไป อย่างน้อยก็ในทางการเมือง

นี่เป็นการฟาดตรงหัวใจของอำนาจรัฐ เพราะโดยเนื้อแท้แล้วอำนาจรัฐจะทำงานได้ต้องตั้งอยู่บนการยินยอม-ยอมรับ (consent) ของผู้คน ไม่ใช่การใช้กำลังข่มขู่บังคับ (coercion)

ไม่มีรัฐที่ไหนกุมปืนจ่อหัวผู้คนพลเมืองทุกคนทั่วประเทศให้ทำตามคำสั่งได้ ส่วนใหญ่ที่สุดรัฐดำเนินงานต่อไปได้ก็เพราะคนส่วนข้างมากยอมรับอำนาจรัฐและยินยอมทำตามคำสั่งของรัฐเอง

รัฐที่อำนาจเข้มแข็งคือรัฐที่ผู้คนพลเมือง (รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐเอง) ให้การยอมรับสูงและยินยอมทำตามคำสั่งรัฐโดยดุษณีไม่มีข้อแม้หรือกระทั่งทำตามอย่างแข็งขันโดยรัฐมิพักต้องใช้กำลังข่มขู่บังคับหรือใช้ก็เพียงเล็กน้อย

ในทางตรงข้าม รัฐที่อำนาจอ่อนแอคือรัฐที่ถูกผู้คนพลเมือง (รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ) ปฏิเสธ ไม่ยอมนับถือว่าเป็นรัฐของตัว และดิ้นรนขัดขืนเฉื่อยเนือยเกียร์ว่างต่อคำสั่งของรัฐทุกวิถีทาง

ตามความหมายนี้ ในช่วงเดือนกว่าที่ผ่านมา อำนาจรัฐกำลังอ่อนแอลงอย่างรวดเร็วและถูกท้าทายหนักขึ้นทุกที

รัฐบาลอภิสิทธิ์สูญเสียการยินยอม-ยอมรับของสังคมไปอย่างมากหลังเกิดเหตุเมษาฯวิปโยคเมื่อคืนวันที่ 10 เมษายนศกนี้

ก่อนหน้านั้น รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ถูกตั้งคำถามท้าทายเรื่องความชอบธรรมของที่มาแห่งอำนาจอยู่บ้างเพราะถึงแม้มันจะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกระบวนการรัฐสภา แต่ก็ดูไม่ชอบมาพากลที่บรรดาตัวแทนพรรคร่วมไปประชุมก่อตั้งรัฐบาลกันขึ้นในค่ายทหารและอาศัยกลุ่มการเมืองที่แปรพักตร์เป็นฐานพลิกคะแนนเสียงในสภา

แต่จุดด่างพร้อยนี้เทียบไม่ได้เลยกับความผิดพลาดสาหัสร้ายแรงที่เกิดขึ้นในการตัดสินใจสั่งการใช้กำลังทหารเข้า "ขอยึดพื้นที่คืน" จากที่ชุมนุมของ นปช. บนถนนราชดำเนินในเวลากลางคืน จนส่งผลให้มีประชาชนผู้ชุมนุมและทหารรวมทั้งผู้สื่อข่าวต่างประเทศเสียชีวิตรวม 25 คน และบาดเจ็บกว่า 800 คน โดยที่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัสนับร้อยและหลายคนอาจต้องพิการหรือทุพพลภาพไปตลอดชีวิต

ขณะที่การสอบสวนสืบหาผู้ใช้อาวุธสังหารในคืนนั้นต้องดำเนินต่อไปเพื่อหาคนผิดมารับโทษตามกฎหมาย รัฐบาลเองจักต้องรับผิดชอบทางการเมืองต่อการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตนอย่างเต็มที่ไม่ว่าใครเป็นคนยิงก็ตาม-ไม่วันนี้ก็วันใดวันหนึ่งข้างหน้าอย่างแน่นอน

ถ้าก่อนหน้านั้นความชอบธรรมของรัฐบาลอภิสิทธิ์ดูคลุมเครือไม่ชัดเจน หลังคืนนองเลือดวันที่ 10 เมษายน มันก็พังพินาศแหลกลาญไม่มีชิ้นดีต่อหน้าต่อตาคนทั้งประเทศและทั่วโลก

สำหรับผู้ชุมนุมเรือนพันเรือนหมื่นและญาติมิตรครอบครัว จะให้พวกเขายอมรับรัฐบาลอภิสิทธิ์ว่าเป็นรัฐบาลของพวกเขา และยอมทำตามคำสั่งของรัฐบาลได้อย่างไร ในเมื่อพวกเขาอดรู้สึกไม่ได้ว่ากลางดึกชุ่มเลือดคืนนั้นรัฐบาลดูจะมุ่งเอาชีวิตของเขาและคนที่เขารัก และก็ได้เอาชีวิตของผู้ร่วมชุมนุมกับเขาไปนับสิบๆ คน?

หลังเมษาฯวิปโยค รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้สูญเสียสิทธิอำนาจทางศีลธรรมหรือสิทธิธรรมที่จะปกครอง (the moral authority to rule) ไปแล้ว

สำหรับรัฐๆ หนึ่ง นี่เป็นวิกฤตอย่างยิ่งและยากมากที่จะธำรงรักษาการยอมรับ-ยินยอมของผู้คนพลเมือง รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐเองไว้ต่อไป

นี่คือที่มาสำคัญที่สุดของกระแสคลื่นการปฏิเสธอำนาจรัฐปัจจุบัน

ทางออกก็คือต้องหาทางประกอบสร้างสิทธิอำนาจทางศีลธรรมหรือสิทธิธรรมที่จะปกครองขึ้นมาใหม่ (reconstitution of the moral authority to rule) เพื่อให้ผู้คนพลเมืองกลับมายอมรับใหม่ว่านี่เป็นรัฐบาลของพวกเขา และยอมทำตามคำสั่งของรัฐบาลอีกครั้ง

เพื่อการนี้ ที่ผ่านมา หนทางที่การเมืองไทยเลือกเดินคือนายกรัฐมนตรีกับรัฐบาลทั้งชุดลาออก ฟอร์มรัฐบาลใหม่ ดังหลังกรณี 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 และพฤษภาคม พ.ศ.2535

จากนั้นสิทธิธรรมในการปกครองจึงค่อยๆ ได้รับการรื้อฟื้นขึ้นมาโดยรัฐบาลใหม่ของนายกฯสัญญา ธรรมศักดิ์ และ อานันท์ ปันยารชุน (2)

แต่นายกฯอภิสิทธิ์กลับไม่ยอมสละอำนาจอย่างที่นายกฯจอมพลถนอม กิตติขจร และพลเอกสุจินดา คราประยูร ได้ยอมเสียสละมาแล้วในสถานการณ์คล้ายๆ กัน

ตรงกันข้าม ดูเหมือนรัฐบาลอภิสิทธิ์จะเลือกวิธีการอื่นในการซ่อมแซมค้ำยันสิทธิธรรมในการปกครองของรัฐบาลไว้

หากดูจากคำกล่าวของนายกฯอภิสิทธิ์ในรายการทีวีเอ็นบีที "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" เมื่อวันที่ 25 เมษายนศกนี้ ที่ว่า "ชื่อต่างๆ ที่ปรากฏออกมา ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ต่างคนต่างทำ ทั้งเสธ.แดง (พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก) พล.อ.ชวลิต (ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ) หรือแกนนำผู้ชุมนุม" ตามมาด้วยคำแถลงของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. ประกอบแผนผังเครือข่ายขบวนการล้มเจ้า วันถัดมา ก็พอเห็นได้ว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์เลือกวิธีการใดในการพยายามฟื้นฟูสิทธิธรรมในการปกครองที่ย่อยยับลงไปขึ้นมาใหม่

ชื่อบุคคล-กลุ่ม-องค์กรที่ปรากฏในแผนผังดังกล่าว มีทั้งผู้ที่ถูกศาลพิพากษาลงโทษว่ามีความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ หรือทุจริตไปแล้ว, ผู้ที่ถูกตำรวจกล่าวหาหรือกำลังถูกดำเนินการในกระบวนการยุติธรรม, ผู้ที่ยังไม่ถูกตั้งข้อหาใดๆ แต่ถูกประณามโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองว่าไม่จงรักภักดี ฯลฯ

ทรรศนะที่ปรากฏต่อสาธารณะของบุคคลหรือองค์กรเหล่านี้มีหลากหลายคละกัน ทั้งต่อต้านสถาบันกษัตริย์, คัดค้านการใช้สถาบันกษัตริย์เป็นเครื่องมือทำลายป้ายสีกันทางการเมือง, ต่อต้านรัฐประหาร, ต้องการปฏิรูประบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้ปลอดพ้นการแทรกแซงทางการเมืองโดยอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ ฯลฯ

เท่าที่ปรากฏ สิ่งที่เชื่อมโยงพวกเขาทั้งหมดทุกคนเข้าด้วยกันก็คือลูกศรและคำบรรยายในแผนผังของ ศอฉ.กับรัฐบาลเอง

โดยอาศัยคำกล่าวหาและแผนผังที่ร่างเอง-โยงเอง-อ้างเองเช่นนี้ ผู้สังเกตการณ์ต่างประเทศจึงตั้งคำถามโดยสามัญสำนึกถึงรองนายกฯสุเทพ เทือกสุบรรณ ในเรื่องนี้ว่า : -

"คำถามเรื่องหลักฐานเป็นประเด็นหลักในกรณีนี้ เหมือนที่บ่อยครั้งมันมักเป็นในกรณีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯต่างๆ ในช่วงหลายปีหลัง หลักฐานชนิดไหนที่คุณสุเทพจะถือว่าเพียงพอแก่การออกหมายจับ? แล้วจะหาหลักฐานที่ว่านี้มาอย่างไร? จะเปิดเผยมันต่อสาธารณะไหม? หรือจะเก็บงำมันไว้ลับหูลับตาผู้คนที่อาจตั้งคำถามถึงความจริงแท้ของมัน?"
(Elizabeth Fitzgerald, 27 April 2010, เว็บไซต์ New Mandala)


แต่ไม่ว่าเครือข่ายดังกล่าวมีจริงหรือไม่? หรือแผนผังดังกล่าวเป็นจริงหรือเท็จ? มันล้วนเป็นประเด็นต่างหากออกไปจากหน้าที่ทางการเมืองที่แท้จริงของแผนผังเครือข่ายล้มเจ้า นั่นคือการส่งสารถึงคนไทยว่า : -

หากท่านไม่ยอมรับรัฐบาลอภิสิทธิ์ว่าเป็นของท่านและไม่ยอมทำตามคำสั่งของรัฐบาล

เพราะท่านเห็นว่ารัฐบาลนี้ฟอร์มขึ้นในค่ายทหารร่วมกับกลุ่มการเมืองยี้ก็ดี

หรือเพราะรัฐบาลนี้ปราบม็อบผิดพลาดจนทำคนตายกว่ายี่สิบ และบาดเจ็บหลายร้อยก็ดี

ไม่เป็นไร เอาอย่างงี้ก็แล้วกัน ขอให้ท่านหันมายอมรับรัฐบาลนี้เป็นของท่าน และทำตามคำสั่งของรัฐบาลเสียใหม่ ในฐานะที่รัฐบาลนี้เป็นผู้ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้จากเครือข่ายล้มเจ้าตามแผนผังของรัฐบาลที่ยังรอหลักฐานการพิสูจน์เทอญ!

และแล้วต้นทุนการเมืองวัฒนธรรมก้อนสุดท้ายของรัฐชาติไทยก็ถูกล้วงหยิบฉวยใช้มาชะลอความเสื่อมทรุดผิดพลาดเฉพาะหน้าของรัฐบาลอย่างนั้นเอง...


ที่มา : //www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1272609367&grpid=&catid=02




 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2553
3 comments
Last Update : 1 พฤษภาคม 2553 8:02:47 น.
Counter : 651 Pageviews.

 

อ่านแล้วครับ
มาชวนไปเยี่ยมเรื่องเบา ๆ บ้าง
ยินดีที่ได้เจอกัน..

 

โดย: ไกลเกินใจสายเกินแก้ 1 พฤษภาคม 2553 9:19:30 น.  

 

ยอมรับการใช้ความรุนแรง เพื่อปกป้องสถาบันเหรอ คนเขียนนี่ก็ช่างคิด

 

โดย: Scorchio 1 พฤษภาคม 2553 11:35:01 น.  

 

ถึงคุณ Scorchio อาจารย์เค้าหมายถึงว่า รัฐบาลใช้แผนผังเครือข่ายล้มเจ้า เพื่อเอามาเป็นเครื่องมือ บอกประชาชนว่า ให้ยอมรับ และ ปฏิบัติตามรัฐบาล เพราะรัฐบาล จะปกป้องสถาบัน จาก พวกล้มเจ้า ที่รัฐบาลกล่าวอ้าง โดยไม่ได้มีการตรวจสอบใดๆ ครับ

 

โดย: popcorn2519 1 พฤษภาคม 2553 13:57:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


popcorn2519
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หวัดดีครับ สำหรับ คนที่หลงเข้ามาใน blog นี้ ^^ ตอนนี้ผมได้ทำการ แบ่ง blog ออกเป็น 3 กลุ่มนะครับ

กลุ่มแรก คือ My Blog ก็จะเป็นเรื่องต่างๆ ที่อยากจะเขียน ทั้งหนังที่ชอบ เรื่องที่อ่านมาแล้วโดน หรือ อาจจะสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวัน ที่อยากจะระบาย

กลุ่มที่ 2 คือ 2,900 ไมล์ ไกลบ้าน เป็นบล็อคที่สร้างมาเพื่อเขียนเรื่องราวช่วงหนึ่งของชีวิตที่จะต้องไปใช้ชีวิตในต่างแดนครับ ซึ่งสิ่งที่ผมประสบมาและถ่ายถอดอาจจะไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ก็ได้ อันนี้อาจเกิดได้จากความอ่อนแอทางภาษาซึ่งอาจจะทำให้เกิดผมเกิดความเข้าใจผิดได้ หรือเหตุการณ์และช่วงเวลาที่ตัวเองได้สัมผัส หรือสังคมที่ผมได้เข้าไปคลุกคลีด้วย แต่ข้อมูลทั้งหมดที่เขียนก็คือสิ่งที่ผมเข้าใจอย่างนั้นจริงๆครับ

และกลุ่มที่ 3 สังคม-การเมือง-การปกครอง ซึ่งเป็นกลุ่มใหม่เนื่องจากช่วงหลัง มีการนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการเมือง สังคม การปกครอง มาใส่เยอะ ก็เลยคิดว่าน่าจะแยกกลุ่มไปจากเรื่องส่วนตัวดีกว่า

ข้อความทุกข้อความทั้งที่นำมาจากที่อื่น และที่เขียนเอง ทั้งหมดเป็นความคิด ความรู้สึกส่วนตัว และความชอบของผมเองนะครับ ไม่ได้แปลว่าต้องถูกต้องเสมอไป ฉะนั้นกรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านล่ะกัน ทุกคนสามารถโต้แย้งได้ครับ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชม และคอมเมนต์ ครับ
POP
New Comments
[Add popcorn2519's blog to your web]