เมื่อลูกชายไม่ยอมกินยา
จั่วหัวให้รู้ว่าอิช้านกำลังเจอเรื่องหนักใจอีกครั้งของชีวิต (แค่ลูกไม่กินยามันขนาดนั้นเลยเรอะ) อ่านะ..ลูกอะ ถ้าไม่กินข้าว กินนม ขนมอะไรไปพออยู่ท้องได้โตกะเขาเหมือนกัน แต่คุณชายอาเดียวของอิช้านป่วย เมื่อคืนตัวร้อนจัด วัดไข้อยู่ที 38 ถือว่าไข้เช็ดตัวเท่าไหร่ไม่ยอมลด นั่นเพราะอารยะขัดขืน การปฏิเสธของเด็ก ไข้ไม่ยอมลด เช็ดตัวเมื่อไหร่ร้องไห้ตลอดต้องรอให้หลับค่อย ๆ เช็ด หลับไปก็ตื่นมาร้องไห้งอแงอีก นั่นยังไม่เท่ากับที่ลูกไม่ยอมกินยา
ไปรอหมอจนเบื่อ
การปฏิเสธยาของลูกก็คือ (ต่อให้มันหวานหรืออร่อยขนาดไหนก็ตามไม่มีรายการชิมอีกแล้ว) แค่เห็นช้อน ก็ชกไม่ชกก็ถีบ ทำให้ยาหกเลอะเถอะ และทำให้ช้านถูกดุ เรื่องไม่มีความสามารถในการป้อนยาลูก แม้ว่ายาเข้าไปอยู่ในปากแล้ว ลูกก็สามารถบุ๋ยออกมาได้ พ่นได้ คายได้ บีบจมูกก็ดูว่ามันจะเป็นการป้อนยาที่เครียดมากเกินไป และจะทำให้เด็ก เครียดหนักและเกลียดการกินยาไปด้วย
“คุณเป็นแม่นะคะ ต้องทำยังไงก็ได้เพื่อให้ลูกกินยาแม่ต้องหาวิธีคะ” คุณหมอแสนน่ารักที่ห้องจ่ายยาบอก เมื่ออิช้านแจ้งปัญหาลูกพ่นยาทิ้ง
เพราะยังไงลูกก็ต้องกินยา ตัวก็ไม่ยอมให้เช็ดไม่กินยาอีกก็มีหวัง ...
ให้ดูหน้าผาก เช็ดจนหัวแวว เลขน่าจะขึ้นถ้าดูดี ๆ
รอจนสลบ ได้เอาผ้าเช็ดตัวแปะก็คราวนี้
อาการของอาเดียววันนี้คือ ไข้และมีอาหารท้องเสียเป็นมูกผสมด้วย คออักเสบ และอาเจียนร่วมด้วย
เออ..เด๋วนี้เขาสำรวจอะไรกันเยอะแยะ ให้ต้องนั่งตอบคำถาม ว่าลูกไปกินอะไรมาย้อนหลังไปอีกสามวัน วันก่อนป่วยกินอะไรเข้าไปเช้าเที่ยงเย็น วันป่วยวันนี้ ถึงแม้จะเป็นคนทำอาหารให้ลูกกิน แต่ด้วยความที่กังวลและลูกตัวร้อนอยากจะพาลูกกลับบ้านไปกินข้าวกินยา เช็ดตัว ตอนนั้นก็ จะสี่โมงเช้าอยู่แล้ว ช้านไปนั่งรอหมอตั้งแต่ 6 โมง วันนี้วันอาทิตย์ด้วยแหละ พยาบาลน้อย เจ้าหน้าที่น้อย หมอคนเดียว ตรวจคนไข้ในก่อนแล้วค่อยมา คนไข้นอก
อาเดียวเป็นคนป่วยคนแรกของคุณหมอในวันนี้ละ
เราตอบคำถามเหล่านั้นของคนที่สำรวจไม่ได้ซึ่งน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรพ. คิดไม่ออกจริง ๆ และเราก็ไม่ได้อยู่กับลูกตลอดเวลา เราต้องทำงานด้วย แถมพี่สาวยังพาลูกเราไปอีก ดังนั้นอิช้านจึงได้คำตำหนิมาอย่างนี้ “คุณเป็นแม่ที่ใช้ไม่ได้เลย ไม่ได้เรื่องเลย” ถูกตำหนิแบบตรงไปตรงมา “ลูกคุณกินอะไรคุณก็ตอบไม่ได้ ไปไหนไปกินอะไรมาก็ตอบไม่ได้ คุณเป็นแม่ประสาอะไรกัน” สะอึกกึกกกก
น่าสงสารเนอะปากแด้งแดง
ผิดที่เราไม่ได้บอกเขาไปว่าไม่ได้เลี้ยงลูก ตลอดเวลาเพราะต้องทำงานหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เขาน่าจะใจกว้างกะเราบ้าง
เราอุ้มลูกอยู่กว่าสามชั่วโมง ท้องไม่ดีด้วยพาเข้าห้องน้ำบ่อยอีก ลูกก็ตัวร้อนใจแม่มันก็ไม่ดี จะให้รีบพากลับก็ไม่ได้ ออกจากห้องหมอ จะเข้าไปซื้อของกินซะหน่อย ก็เรียกมาสัมภาษณ์ ครึ่งชั่วโมง ที่สำคัญช้านไหว้วานชาวบ้านเขาให้พาลูกไปหาหมอตั้งแต่เช้า
ไม่สงสารเด็กที่งอแงอยู่บนแขนกันเลยแม้แต่นิดเดียว
รู้สึกแย่มากมาก แต่เขาก็คงจะแย่กับเราเหมือนกันแหละ ..คนไรฟะเลี้ยงลูกแต่บอกไม่ได้ว่าให้ลูกกินไรไปบ้าง..
อะ บ่นจบแร้ว ทีนี้มาดูยาของอาเดียวกัน ไม่เท่าไหร่ร้อก แค่ 4 ขวด และผงเกลือแร่อีก 1 หอบใหญ่ ปากดีของยาแก้ดื้อมาได้อีกซอง
ทั้งหมดนี่เป็นสวัสดิการบัตรทองนะคะ
ไม่ต้องไปหลอกมันแล้วนะว่ามันคือขนมหรือน้ำหวาน เด็กมันแยกออกแล้วอันไหนน้ำหวาน อันไหนยา และอันไหน คือเกลือแร่รสส้ม นี่ก็ไม่กิน เพราะรู้ว่าอยู่ในจำพวกเดียวกะยา
เอากันเข้าไป
ทีนี้วิธีแก้ปัญหาของแม่ตัวเล็กกัน
ไม่อยากขัดขืนป้อนยา จนลูกรู้สึกแย่กับการกินยาที่อาจจะเป็นปัญหาในอนาคตได้ เพราะมันจะทำให้เครียดกันไปเปล่า ๆ
อิช้านใช้ ..
ทายสิไรเอ่ย
ม่ายช่ายวิตามินซีหรือยาแก้ดื้อเพราะใช้แล้วไม่ได้ผล
เอาวิตามินซี ใส่ในช้อนยา มันก็ไม่กิน เลือกกินแต่วิตามินซีที่เหลือคายทิ้ง
ฉลาดเนอะ..
มันคือ .. เฮลบลูบอยค้า
ึคนละขวดกะที่ตกใส่ตรีนนนจนนิ้วหลุดแน่นอนเพราะขวดนั้น กินหมดไปนานแล้ว
ยาอาจจะละลายได้ดีกับน้ำ ธรรมดา แต่วันนี้จำเป็นอะ เพราะเทยาทิ้งมารอบหนึ่งแล้ว
น้ำหวาน 2 ช้อนชา ผสมน้ำต้มสุกครึ่งแก้ว ผสม วิตามินซี ครึ่งซอง ยาพาราน้ำ 1 ช้อน ยาฆ่าเชื้อ 1 ช้อน ยา แก้อาเจียนอีก 1 ช้อน
ฮ่่า... เด็กนั่งซดน้ำหวานไปอย่างมีความสุข ขอแถมด้วย แม่พลอยหายเครียดไปด้วยเรย ..
น้ำหวานก็ยังพอมีประโยชน์ ช่วยทำให้มีแรงและสดชื่นขึ้นด้วย เพราะเด็กอ่อนแรง จากการขับถ่ายและอาจปวดท้องแต่บอกเราไม่ได้
โฆษณาให้ฟรีไม่คิดตังค์นะนี่ ..
พรุ่งนี้เราสองคนแม่ลูกจะเจออะไรอีกหนอ
Create Date : 08 พฤษภาคม 2554 |
|
19 comments |
Last Update : 8 พฤษภาคม 2554 16:11:00 น. |
Counter : 4449 Pageviews. |
|
|
|
ไม่ยอมกินยาเดี๋ยวไม่หายน๊าาา
เมื่อกี้ชาลีถามแม่ว่าเด็กไม่ยอมกินยาจะทำยังไง
วิธีที่แม่ชาลีบอกมาเป็นวิธีเดียวกับที่แม่อาเดียวทำเลยอ่ะค่ะ
ผสมน้ำหวานให้กินซะเลย ฮ่าๆๆ
หายไวๆ นะครับ