สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


<<
พฤศจิกายน 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
1 พฤศจิกายน 2560
 

สูงวัยไปด้วยกัน ตอนที่ 7 เมื่อคนป่วยส่งสัญญาณสละสายอาหาร



จากตอนที่แล้วเล่าถึง "การสละท่อเหล็ก" ของเตี่ยสำเร็จไปด้วยดี เป้าหมายแรกของพวกเราผ่านไปด้วยดีได้เวลาเอาเครื่องซักชั่นที่ยืมโรงพยาบาลและเครื่องอ็อกซิเจนที่ยืมเพื่อนบอลมาไปคืนแล้ว จริงๆ เคสของเตี่ยไม่ต้องใช้เครื่องอ็อกซิเจนหรอก แต่ยืมเพื่อนมาเผื่อฉุกเฉินเท่านั้นเอง ซึ่งเครื่องอ็อกซิเจนนอกจากจะทำหน้าที่ให้อ็อกซิเจนแล้ว มันยังทำหน้าที่เป็นเครื่องพ่นยาได้อีกด้วย สำหรับในรายผู้ป่วยเคสหนักควรมีติดบ้านไว้เพื่อความอุ่นใจ 

มาถึงตอนนี้เตี่ยก็ดูแลง่ายขึ้นแล้ว เป้าหมายที่สองของพวกเราคือท่อสายอาหาร ความที่เตี่ยเจาะคอเลยทานอาหารปกติไม่ได้ต้องทานเป็นอาหารปั่นเท่านั้น ซึ่งต้องใช้หยอดลงทางสายอาหารที่ผ่านจมูกเนี่ยแหละ ซึ่งอาหารปั่นวุ่นวายมากต้องไปซื้อที่โรงพยาบาลทุกเช้า (เช้ามาก) ด้วยความที่ต้องทำงานก็ตื่นไม่ไหวเลยต้องจ้างคนไปรับอาหารปั่นทุกวัน มารู้ทีหลังว่ากินนมแอนชัวร์ดีกว่าอีก เตี่ยนี่กินนมแอนชัวร์จนจะเอากระป๋องมาทำกำแพงบ้านได้ซีกหนึ่งแระ 



พวกเราดูแลเตี่ยเป็นอย่างดีแทบจะทุ่มเวลาที่มีให้กับการรักษาเตี่ยเลยล่ะ ความที่โดนเจาะคอมาเลยทำให้เตี่ยไม่สามารถพูดได้ เราใช้การสื่อสารด้วยการดูจากการกระพริบตาเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่พวกเรามาทราบทีหลังและพลาดไปคือ "การหัดให้นั่งและเดิน" ตอนที่ยังเจาะคออยู่ตลอดเวลา 4 เดือนไม่เคยให้เตี่ยได้นั่งและหัดเดินเลย นอนอย่างเดียวความที่กลัวสารพัดเลยไม่กล้าที่จะทำอะไร ฟันก็ไม่ได้แปรงด้วยเหอะ 

พอเหลือแต่สายอาหารก็เริ่มทำอะไรได้มากขึ้น พาเตี่ยไปทำกายภาพที่โรงพยาบาล จ้างคนมานวด ฯลฯ ซึ่งสำหรับใครที่เจอเคสผู้ป่วยติดเตียงยังไงก็ต้องทำกายภาพนะคะ ไม่งั้นต่อไปมือกับเท้าเส้นเอ็นจะยึดแล้วจะไม่สามารถยกแขนขาได้เลย จะงออย่างเดียวอันนี้สำคัญมากนะ 



ด้วยความที่มาทำกายภาพที่โรงพยาบาลบ่อยๆ ก็ได้เจอกับคนไข้ที่พูดต่อๆ กันว่า "ให้ไปโรงพยาบาลดอนตูมสิที่นั้นเค้าเป็นศูนย์รักษาแบบครบวงจรเลย" ด้วยความที่คนไข้หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไปที่นี่แล้วดีขึ้น พวกเราก็ไม่รอช้าไปดูโรงพยาบาลแล้วก็ติดต่อจนเตี่ยได้ไปเป็นผู้ป่วยใน มีโปรแแกรมการรักษาเช้ากายภาพ บ่ายฝั่งเข็ม เย็นนวด สลับวนไปทุกวัน ค่าใช้จ่ายเดือนละ 9,000 บาท เป็นค่าห้อง ส่วนค่ายาและการรักษาเตี่ยเป็นข้าราชการเลยใช้สิทธิ์เบิกตรงได้ 

พอติดต่อเรื่องห้องพักเสร็จก็ย้ายเตี่ยมาเข้าโปรแกรมการรักษาที่โรงพยาบาลทันที และก็ไปขอประวัติเพื่อทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลจากราชบุรีมาดอนตูม เป็นที่น่าเสียดายที่เราไม่มีฟิลม์หลังผ่าสมองเพราะโรงพยาบาลราชบุรีไม่มีทำสแกนหลังผ่า ทำให้ท่าน ผอ.โรงพยาบาลดอนตูมเลยไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าส่วนที่ผ่าออกไปเป็นส่วนไหน?



ตลอดเวลาสองเดือนเตี่ยก็เข้าโปรแกรมการรักษาครบ แต่ก็ไม่ดีขึ้นเลยจนแม่ถอดใจและแม่เองก็ไม่อยากใช้ชีวิตอยู่โรงพยาบาลอีกแล้ว ประกอบกับ ผอ.บอกว่าเตี่ยได้แค่นี้แหละ พวกเราเลยตัดสินใจพาเตี่ยกลับมารักษาต่อที่บ้าน สำหรับเคสที่ผ่าตัดสมองแบบที่เป็นใหม่ๆ แนะนำให้ไปโรงพยาบาลดอนตูมเลย เพราะจากที่เห็นๆ หลายๆ เคสดีขึ้นมาก ด้วยความที่อยู่ภายใต้การดูแลของหมอและนักกายภาพ แต่ต้องรีบมาตั้งแต่แรกๆ 



หลังจากกลับมาอยู่บ้านพวกเราก็พาเตี่ยไปทำกายภาพที่โรงบาลดอนตูมสม่ำเสมอทุกอาทิตย์ และยังคงมีสายจมูกห้อยมาด้วยทุกครั้งเวลาเดินทางก็จะกินได้แต่น้ำ เตี่ยชอบกินโกโก้ก็จะแวะซื้อให้กินหลังจากมาหาหมอทุกครั้ง แอบสังเกตุเค้าชอบออกมาโรงพยาบาลเพราะเค้าจะได้เจอคน เวลาขับรถพาไปไหนมาไหนเค้าก็ชอบมองซ้ายมองขวา เตี่ยพูดไม่ได้ตั้งแต่เข้ารับการผ่าตัด 



ซึ่งปกติเตี่ยเป็นคนพูดมากถึงมากที่สุด แต่พอผ่าตัดกลับไม่พูดเลยไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเจาะคอด้วยหรือเปล่า เวลาอยู่บ้านพวกเราก็จับเตี่ยให้หัดนั่งก็นั่งไม่ได้เท่าไหร่ ล้มเป็นตุ๊กตาล้มลุกเลยทีเดียว บางทีก็แอบถอดใจบ้างเป็นบ้างเวลา เวลาเตี่ยเค้านั่งดูทีวีสิ่งที่เค้าชอบทำประจำคือ "ดึงสายจมูกออก" จนต้องสแปรสายนี้ไว้เยอะพอสมควร เพราะสายมีเบอร์ด้วยหาซื้อยากตามร้านขายยาตามตำบล 

เวลาเตี่ยดึงสายจมูกทีไรแม่ก็จะโมโหทุกที เพราะต้องไปตามหมอมาใส่ตลอด หมอมาบ้านเราเป็นประจำบางวันดึงสองรอบสนุกสนานกันเลยทีเดียว จนกระทั่งมีอยุ่วันหนึ่งเตี่ยดึงสายตอนกลางคืนชนิดที่ว่าดึงออกมาทั้งเส้นเลยจ๊ะ ที่นี่ด้วยความดึกมากแล้วหมอก็ไม่อยู่ จึงรอจนเช้าพาเตี่ยไปโรงพยาบาลให้หมอดูอาการ หมอบอกว่าไม่ต้องใส่แระให้ไปซื้อโจ๊กมาลองป้อนดูว่าคนไข้กลืนได้ไหม

ปรากฏว่าเตี่ยกลืนได้เป็นปกติเลย โว้.. ไอ้เราก็ตั้งตาตั้งตาจะใส่สายกันทุกรอบไม่ได้สังเกตุเลยว่า ที่เตี่ยเค้าดึงออกเพราะเค้าอยากกินเองเปล่าหว่า?? สรุปเตี่ยก็ได้ถอด "สายจมูก" ออก ที่นี่สบายแล้วล่ะกินอาหารได้แล้ว ไม่ต้องไปซื้ออาหารปั่นอีกแระ พอเค้ากินได้นี่เคี้ยวข้าวใหญ่เลยจ๊ะ มันต้องฉลองสิจ๊ะ พาไปกิน MK เลย






Photo and Story 
By Patthanid C.
www.atourthai.com



Create Date : 01 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2560 1:17:24 น. 0 comments
Counter : 1094 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com