สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


<<
กุมภาพันธ์ 2561
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
20 กุมภาพันธ์ 2561
 

สูงวัยไปด้วยกัน ตอนที่ 8 เมื่อผลทำให้เราไม่ได้ไปต่อ แต่ก็ไม่ท้อที่จะพยายามต่อไป



ห่างหายจากการอัพบล็อกไปเสียนานงานเยอะจริงๆ ช่วงนี้ จากตอนที่แล้วเล่าถึง "การถอดสายอาหารของเตี่ย" มาตอนนี้จะเล่าโปรแกรมต่อไป จริงๆ การเลี้ยงดูผู้ป่วยติดเตียงไม่ยากเพียงแค่ต้องหมั่นสังเกตุอาหารและดูแลใกล้ชิด ใจเย็นที่จะรอคอยและให้เวลา เพราะทุกอย่างมันจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับการดูแลของคนใกล้ชิด อย่างที่เคยบอกทุกครั้งอย่าให้คนป่วยรู้สึกหดหู่พยายามให้กำลังใจเค้าตลอด เดี๋ยวก็หายนะพยายามยกแขนยกขานะ ฯลฯ ที่จะส่งสารให้เค้าได้รับรู้ถึงความรักที่เรามีต่อเค้า แล้วเค้าจะค่อยๆ ดีขึ้นเองตามกำลังใจที่มี 

อย่าปล่อยให้เค้ารู้สึกโดดเดี่ยวและหมดกำลังใจ หากยังปิดท่อที่คอไม่ได้ขอให้ตั้งใจทำทุกอย่างตามคำแนะนำของหมอที่ให้เราฝึกตอนอยู่โรงพยาบาล เพราะช่วงนี้เป็นช่วงเปราะบางมากโอกาสติดเชื้อมีสูงที่สุด พยายามทำทุกอย่างให้สะอาดที่สุด ล้างท่อและอุปกรณ์ด้วยน้ำร้อนทุกครั้ง ใจเย็นๆ ค่อยๆ ทำไม่ต้องรีบให้นึกถึงวันที่เค้าเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เด็กๆ ใส่ใจเค้าให้เหมือนที่เค้าใส่ใจเรา ถ้าผ่านขั้นนี้ไปได้ทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง 

เป็นไปได้ในระยะนี้อย่ากลัวให้ฝึกนั่งได้ อันนี้เป็นสิ่งที่เราพลาดไปเพราะความกลัวนั่นแหละ ทำให้เตี่ยนั่งทรงตัวไม่ได้เลยมารู้อีกทีก็สายไปเสียแล้ว ประกอบกับเตี่ยสูญเสียสมองส่วนการควบคุมเลยทำให้ควบคุมร่างกายไม่ได้เหมือนเดิม ดังนั้นถ้ายังอยู่ในช่วงแรกๆ พอกลับมาพักฟื้นที่บ้านก็หัดนั่งนะคะ คนป่วยจะได้ฝึกทรงตัวเอง

หลังจากที่พวกเราผ่านการปิดคอมาได้อย่างปลอดภัยสบายมาก ทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นยังคงพาเตี่ยไปทำกายภาพและฝังเข็มที่โรงพยาบาลดอนตูมทุกอาทิตย์ เพราะที่นั่นมีเครื่องยืนถึงแม้ตอนนี้จะไม่มีหวังเรื่องยืนได้ ก็อยากลองให้สุดกำลังก่อนให้มันถึงที่สุดจริงๆ ว่าไม่ได้แล้วก็จบการรักษา 







เตี่ยผู้ที่ไม่ชอบการนั่งรอหมอเป็นที่สุด พอเวลาไปโรงพยาบาลเจอรอหมอนานไม่รอแระกลับบ้านไปคลีนิคซื้อยากลับมากินเอง พอมาฝั่งเข็มต้องรอคิวหมอหน้าบูดอย่างที่เห็น ทำให้พวกเรารู้ว่าเค้าเริ่มส่งสัญญาณตอบโต้ทางสีหน้าได้แล้ว ตอนนี้ก็ต้องสังเกตุจากสีหน้าอย่างเดียว ผลพวงจากการเจาะคอทำให้เตี่ยพูดไม่ได้แม้จะถอดเหล็กคอออกแล้วก็ตาม

พวกเราพาเตี่ยไปฝังเข็มและยืนอยู่นานหลายเดือน จนผลสรุปก็ออกมาว่า "เตี่ยคงได้แค่นี้แหละไม่สามารถพัฒนาไปมากกว่านี้ได้" การรักษาจึงยุติลงจากที่ต้องไปทำกายภาพทุกอาทิตย์เปลี่ยนเป็นไปตรวจร่างกายตามหมอนัดแทน เพราะเตี่ยถือว่าเป็นเคสหนักการสูญเสียสมองส่วนควบคุมเนื่องจากผ่าสมองซีกขวา ทำให้กลับมาดังเดิมลำบากมากกว่าปกติ 

ในเมื่อการรักษายุติลงพวกเราก็ทำได้แค่เพียงดูแลกันไปตามอาการที่เป็นเปลี่ยนมาทำกายภาพเองเพื่อกันเส้นติด อันนี้สำคัญมากกายภาพถ้าไม่ทำที่โรงพยาบาลก็ทำที่บ้านได้เองให้สม่ำเสมอ เพราะถ้าไม่ทำเลยเอ็นตามข้อจะยึดติดแล้วจะงอหมดไม่สามารถยืดแขนขาได้

พอการรักษาทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ยุติลง งานไสยศาสตร์ก็มามีคนมาเล่าให้แม่ฟังว่าต้องให้หลวงพ่อมาทำพิธี ในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียก็เลยลองให้แม่เค้าสบายใจว่าไงก็ว่าตามกัน ก็ถือซะว่าทำบุญสังฆทานแระกัน



คนที่มาทักประมาณว่าเตี่ยยังอยู่ที่เดิมหรือเปล่าไม่ได้เชิญกลับมาบ้านอะไรประมาณนี้ ก็ทำพิธีเลยจ๊ะไปจุดเกิดเหตุกันเลย ตอนที่รถชนรถเตี่ยสไลด์มาหยุดตรงแผ่นปูนนี่แหละ หัวฟาดแผ่นปูนนี้เต็มๆ เนื่องจากไม่ได้ใส่หมวกกันน็อค จากนั้นหลวงพ่อก็อันเชิญกลับบ้านไปทำพิธีกันที่บ้านต่อ



ถ้ามองในแง่ดีก็เหมือนทำบุญให้เตี่ยแล้วกัน ท้ายที่สุดเตี่ยก็ยังไม่พูดเหมือนเดิมซะงั้น แล้วก็ชอบมองเพดานหรือไม่ก็ก้มหน้าเหมือนคนไม่มีอารมณ์ร่วมใดๆ ดูไม่สดใสเอาเสียเลยไม่ได้การแระปล่อยไว้แบบนี้เฉาแน่ๆ ปกติแม่จะเช็คตัวให้เตี่ยตลอดก็เลยคิดกันว่าจับเตี่ยอาบน้ำกันไหมจะได้สดชื่น





จัดการซื้อเก้าอี้สำหรับอาบน้ำแล้วเข็นเข้าไปอาบในห้องน้ำทุกวัน วิธีนี้ได้ผลแฮะรู้สึกเค้าเริ่มอารมณ์ดีขึ้นไม่ทำหน้าบูดแระ ก็ถือว่าพัฒนาไปในทิศทางดี การอาบน้ำสำคัญมากนะเพราะอาบน้ำไม่เหมือนเช็ดตัว ไม่อาบน้ำอุ่นนะอาบน้ำเย็นเลยเหอะจะได้สดชื่นสบายตัว ถ้าทำได้แนะนำให้อาบน้ำให้คนป่วยนะ เพราะจะได้ไม่หมักหมมจำได้เลยว่าอาบน้ำวันแรกนี่ฟอกสบู่กันหลายรอบมากเป็นการอาบน้ำที่นานเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว 



แม้เตี่ยจะไม่พูดเราก็พยายามพูดเหมือนคนพูดคนเดียวอ่ะ แต่เหมือนเค้าก็มองเรานะเหมือนฟังรู้เรื่องแต่ก็ไม่พูด ก็คุยกับเค้าทุกวันหยิกแก้มมั้งตอนนั้นอารมณ์เหมือนจะได้ขยับปากเตี่ยไรงี้ คิดเอาเองนะที่เค้าพูดไม่ได้เพราะกรามค้างป่ะว้าา ก็เลยนวดหน้ากันทุกวันให้กล้ามเนื้อมันไม่ตึง ในเมื่อหมอบอกว่าก็รักษาตามอาการเราก็สังเกตุกันไปลองผิดลองถูกกันไป 

เวลาที่มีเรียกว่าอยู่กับเตี่ยคุยกับเค้าทุกวัน เปิดดนตรีฟื้นฟูสมองให้ฟังทุกวัน แม่ก็ยังคงทำกายภาพให้สม่ำเสมอยกแขนยืดขา เตี่ยเห็นนอนๆ แบบนี้แรงเยอะมากเวลาดึงนี่มือเดียวทำล้มได้เลย ความที่เค้าเคยเป็นคนแข็งแรงดังนั้นแรงจึงเยอะมาก 




เวลาให้เค้าฟังเพลงเค้าก็นอนฟังนะ เหมือนเวลาให้ดูหนังผ่านมือถือเค้าก็มองดู จากในห้องที่ไม่มีทีวีเลยต้องติดทีวีให้เค้านอนดูโดยเปิดให้เป็นเวลา ดูทีวีสลับกับนอนไปเรื่อยๆ สังเกตุเค้าชอบดูละคร เวลาละครมานี่มองตาแป๋วเลยก็ถือว่าเป็นสัญญานดีขึ้นเรื่อยๆ นะ ที่สำคัญอย่าปล่อยให้เค้ารู้สึกโดดเดี่ยว ยิ่งเราดูแลเค้าดีมากเท่าไหร่เค้าจะรับรู้ว่าเราใส่ใจเค้า พยายามชวนคุยหรือเล่าอะไรให้ฟังสม่ำเสมอเป็นต้น ... วันนี้เตี่ยอายุครบ 70 ปีแระ อาการโดยรวมดีขึ้นมีพัฒนาการในทิศทางดี ดังนั้นเชื่อเถอะว่า "พยายามให้สุดอย่าหยุดที่จะท้อ" ไว้จะมาเล่าต่อตอนหน้านะค๊าา


Photo and Story 
By Patthanid C.
www.atourthai.com



Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2561
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2561 0:58:21 น. 3 comments
Counter : 1320 Pageviews.  
 
 
 
 
เตี่ย....ได้อาบน้ำ คงสดชื่น ได้ฟังเพลงที่เคยชอบ ดีแน่เลยครับ

ผมว่า การได้นวดสัผผัสด้วยมือ ตามใบหน้า ลำตัว เตี่ยคงรู้ว่า
มีคนเอาใจใส่ .. ดีแน่เลย

เอาใจช่วยครับ
 
 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:5:38:44 น.  

 
 
 
ดูสดใสขึ้นเลยค่ะ
 
 

โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:6:58:50 น.  

 
 
 
อ่านแล้วสัมผัสได้ถึงความรักความอบอุ่นในครอบครัว
ชื่นชมและเป็นกำลังใจให้นะคะ

 
 

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:16:10:13 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com