PHANGNGA :: กินตัวแตกแดกสนุก ตอน ของอร่อยพังงา
หลังจากตอนที่แล้วพาเพื่อนๆ ไปเที่ยว "เกาะปันหยี" กันมาแล้ว มาตอนนี้พวกเราก็เดินทางกลับเข้าไปยังตัวเมืองพังงา เส้นทางสองข้างทางที่กลับนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ จขบ.ชอบเมืองในหุบเขานี่จัง ได้เห็นสีเขียวรู้สึกสบายตามากๆ
หากสังเกตุทุกรูปที่ จขบ.ถ่ายมามองไปมุมไหนก็เจอแต่เขาสมชื่อเมืองในหุบเขาจริงๆ ถนนสี่เลนส์วิ่งสบายมาก หากท่านมาเที่ยวเมืองใต้ไม่ต้องกลัวเรื่องถนนหนทางเลย ถนนดีมากขับรถสบาย
มาถึงถิ่นเจ้าบ้านแนะนำให้มาทานขนมจีนป้าศลหน้าศาลเจ้า จุดสังเกตุเค้าก็บอกแล้วว่าหน้าศาลเจ้าตรงนี้มีศาลเจ้าสีเหลืองเห็นเด่นชัดมากก็เลี้ยวเข้าฝั่งตรงข้ามศาลเจ้าเลย
สนนราคาขนมจีนก็จานละ 30 บาท การทานขนมจีนใต้ไฮไลท์มันอยู่ที่ผักเครื่องเคียง จขบ.ว่าร้านป้าเนี่ยสุดติ่งแระผักเยอะมากคิดดูมีป้าจิ้งจังกับสตอสดและสตอดองด้วย ใบเหลียง ใบมะม่วงหิมพานต์ ฯลฯ
เชื่อไหมว่าทำเอา จขบ.ที่ชอบทานผักแอบตกตะลึงเล็กน้อยคือจะกินกะอันไหนดีล่ะเนี่ย แต่ก่อนอื่นไปซื้อขนมจีนก่อนค่ะ ที่นี่เป็นเซลส์เซอร์วิสจ่ายตังค์แล้วก็เลือกตักน้ำยาตามใจชอบเลย อยากผสมอันไหน ก็เอาที่สบายใจมีน้ำพริก แกงไตปลา แกงป่า ตักเสร็จก็จ่ายตังค์เลือกโต๊ะนั่งได้เลย
น้ำยาที่นี่ก็เด็ดดวงพวงมาลัยหร่อยแรงนิ (อร่อยมาก) น้ำพริกก็เผ็ดหน่อย หากใครไม่ถนัดรสชาติจัด ก็ต้องตัดด้วยน้ำยาหวานค่ะ ตักผสมกันมาเลยรับรองถูกปากแน่นอน
จขบ.แอบเห็นคนเข้ามากันเรื่อยๆ ประหนึ่งร้านดังประจำเมืองเลยทีเดียว คนใต้ใจดีดูผักสิค่ะกินเข้าไปสิกินได้กินไปไม่หวงนะ
เครื่องดื่มก็มีให้เลือกน้ำกระเจี๊ยบ ชาเย็น กาแฟ อันนี้เค้ามาเสริฟ์ให้ไม่ต้องลุกไปบริการตัวเอง ทานเสร็จก็ขอถ่ายรูปกันเบาๆ มีกำแพงศาลเจ้าเนี่ยแหละเป็นพร็อปสีแจ่ม
ถ้ำพุงช้าง (Phung Cheang Cave)
จากนั้นพวกเราก็เดินทางต่อไปยังถ้ำพุงช้างสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอีกจุดหนึ่งของตัวเมืองพังงา ว่ากันว่าเป็นถ้ำขนาดใหญ่ปากถ้ำมีสองทาง ด้านหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกและด้านหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาช้างซึ่งอยู่ในวัดถ้ำพุงช้าง (วัดประพาสประจิมเขต) ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยรูปทรงต่างๆ งดงามมาก ผนังถ้ำบางแก่งมีผลึกแคลไซต์ส่องเป็นประกายวาวเมื่อสะท้อนแสงไฟ พื้นถ้ำมีธารน้ำไหลผ่านตลอดปี บางช่วงมีน้ำลึกการเข้าชมภายในถ้ำจึงต้องมีแสงสว่างและคนนำทาง จากปากถ้ำจรดปากถ้ำอีกด้านมีระยะทาง 1,200 เมตร
ถ้ำแห่งนี้มีตำนานว่า สมัยก่อนมีชายคนหนึ่งชื่อ "ตายมดึง" เป็นผู้เร่ร่อนพเนจรขออาศัยอยู่กับ "ตาโจงโดง" ผู้มีลูกสาวสวย ตายมดึงขยันช่วยทำงานบ้านทุกอย่าง ต่อมาตาโจงโดงจึงยกลูกสาวให้ สองสามภรรยาจึงออกมาตั้งครอบครัวสร้างเนื้อสร้างตัวโดยการทำสวนทำไร่ ในขณะที่ไร่นาออกผลงอกงามใกล้วันเก็บเกี่ยว กลับมีช้างป่าโขลงหนึ่งมาเหยียบย่ำทำลายหมด ตายมดึงเสียใจและโกรธมาก จึงคว้าหอกตามล่าช้างโขลงนั้น แต่กลับไปพบช้างของตางุ้ม ตายมดึงคิดว่าเป็นช้างป่าจึงฆ่าช้างนั้นตายด้วยความโกรธแค้นโดยใช้หอกแทงที่ท้อง นับตำไตไส้พุงมาทำอาหารกินแลัวตัดงาออกมาด้วย โดยหารู้ไม่ว่าช้างเชือกนั้นไร้ซึ่งความผิด เมื่อตายแล้วจึงกลายเป็น "เขาช้าง" ส่วนแผลที่หอกทะลวงแทงท้องก็กลายเป็น "ถ้ำพุงช้าง"
น่าเสียดายที่พวกเรามาเย็นแล้วจึงไม่ได้เข้าไปชมภายในถ้ำเนื่องจากต้องมีคนนำทางและต้องใช้เรือพายเข้าไป จขบ.แอบไปส่งทางเข้าถ้ำแล้วมืดมากเลยต้องกลับกันดีกว่า แอบถ่ายเจ้าเหมียวตัวหนึ่งมาด้วย มันน่ารักมากเหมือนไกด์นำเที่ยวเลยเดินตามพวกเรามาตลอด
เนื่องจากตอนนี้ก็เย็นแล้วพวกเราเลยขับรถไปดูพระอาทิตย์ตกดินกันที่หาดนาใต้ (Natai Beach) ที่นี่เป็นชายหาดที่ลงเล่นน้ำได้ทะเลก็เงียบสงบ
พวกเราเดินเล่นรอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า มองไปไกลสุดลูกหูลูกตาเงียบสงบดีจัง เมื่อพระอาทิตย์ไปพวกเราก็กลับสิค่ะ อาหารฝีมือเจ๊ดีรอพวกเราอยู่
ปลาอินทรีทอด .. ปลาสดมากทานกับน้ำจิ้มอย่างเด็ด
แกงส้มใต้ .. รสชาติชวนอ้วนมากไม่รู้ใครเป็นเหมือน จขบ.ไหมอาหารใต้เนี่ยต้องทานข้าวเยอะ ตักไปตักมาเพลินสิคะ
หอยชักตีนนึ่ง .. เป็นหอยอีกประเภทที่อร่อยไม่แพ้หอยหวานทานกับน้ำจิ้มเนี่ยอย่างอร่อย
ปูนึ่ง .. มาเมืองทะเลก็ต้องจัดปูทะเลสิตัวใหญ่ไซส์กำลังอร่อยเลย
ปลาหมึกผัดต้นหอม .. ด้วยความที่ปลาหมึกสดฝีมือเจ๊ดีก็สุดพลังจนต้องขอเคล็ดลับ
ต้มยำรวมมิตร .. ถึงเครื่องขนาดนี้อร่อยเลิศค๊า
ห่อหมกนางงาม .. มาเที่ยวโคกกลอยลองถามเค้าดูห่อหมกนางงามบริการถึงที่รสชาติดีอีกต่างหาก ออกหวานนิดๆ ไม่เผ็ดมาก
นอกจากห่อหมกจะอร่อยแล้วยังจิตใจดีมีปอเปี๊ยะเจ้าเด็ดมาฝากอีกด้วยดันลืมถามที่มาซะงั้น
ตบท้ายด้วยของอร่อยโคกกลอยขนมหวาน เจ๊ดีบอกว่า "กินเข้าไปค่ะอย่าได้อ่อนแอ" อร่อยทุกอย่างเลย เจ๊ดีเนี่ยแกขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ในโคกกลอย พอได้มาลองชิมอาหารเนี่ยอยากจะบอกเจ๊ดีว่าเปิดร้านอาหารด้วยเหอะคนเยอะแน่นอน มื้อนี้ก็ต้องขอบพระคุณเจ๊ดีและหนูน้องมากๆ เจ้าบ้านเลี้ยงดูปูเสื่อดีมากเชื่อเปล่าว่ากลับจากทริปนี้น้ำหนักขึ้นกันถ้วนหน้าตามสโลแกนทริปนี้ "กินตัวแตกแดกสนุก" ติดตามต่อตอนหน้าจะพาไปเที่ยวเมืองตะกั่วป่ากันค่ะ
Create Date : 04 ตุลาคม 2559 |
|
4 comments |
Last Update : 4 ตุลาคม 2559 10:11:25 น. |
Counter : 2447 Pageviews. |
|
|
|