PHANGNGA :: กินตัวแตกแดกสนุก ตอน เที่ยวเมืองตะกั่วป่า
ตอนที่แล้วพาไปเที่ยว "ท้ายเหมืองเมืองพังงา" กันมาแล้วมาตอนนี้พวกเราเดินทางจากท้ายเหมืองเข้าสู่เขตตะกั่วป่าตลอดเส้นทางทุลักทุเลพอสมควรเพราะมีฝนตกหนักเป็นระยะๆ จะเข้าไปเที่ยวน้ำตกก็เข้าไปไม่ได้เพราะฝนตกหนัก สุดท้ายเลยมาจบที่อาหารการกินค่ะ "อย่าได้อ่อนแอ" ไหนฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแวะกินมันก่อนแล้วกัน "ร้านบุ๊คทรี"
ที่นี่เป็นร้านกาแฟแต่มีอาหารขายด้วยเน้นอาหารจานเดียวทานกรุปกริบ ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นเฟอร์นิเจอร์เป็นไม้มีสไตล์ จัดสวนให้ดูร่มรื่นถัดไปหน่อยเป็นร้านหนังสือน่าจะเป็นที่มาของชื่อร้าน
ทุกเมนูก็อร่อยใช้ได้นะอาหารทานเล่นเนี่ยใช้ได้เลย หากติดฝนก็แวะมาหลบฝนกันดูนะ สนนราคาทานได้สบายๆ นี่ขนาดกินกันจะหมดร้านแล้วฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ไม่ได้การแล้วหากไม่เที่ยววันนี้หมดโอกาสแระ อย่าได้ยอมลุยฝนเที่ยวกันเลยจ้า
เริ่มจากตลาดเก่าตะกั่วป่าที่นี่เหมือนภูเก็ตเพราะมีถนนที่อนุรักษ์เป็นบ้านเก่าสไตล์โคโรเนียล นี่ถ้าฝนไม่ตกแดดดีๆ ที่นี่ถ่ายรูปสวยเลยนะ เหมือนถนนที่เล่าเรื่องหลายๆ จุดมีภาพวาดให้ได้ถ่ายรูปกัน
เนื่องจากวันนี้เป็นวันธรรมดาผู้คนก็ไม่คึกคักประกอบกับฝนตกที่นี่เลยดูเงียบเหงาไปเลย แต่ จขบ.ชอบโมเม้นท์แบบนี้นะไม่วุ่นวายเดินเรื่อยๆ
จุดต่อมาที่พวกเราไปแวะคือสะพานเหล็กตอนแรกก็มีความสงสัยทำไมจึงชื่อสะพานเหล็ก หากนึกถึงสะพานเหล็กตามที่เราอยู่ในเขตตะวันตกสะพานเหล็กที่เรารู้จักก็อารมณ์สะพานข้ามแม่น้ำแควประมาณนั้น
พอมาเจอสะพานเหล็กตะกั่วป่าทำเอาช็อกไปเล็กน้อย เนี่ยนะ "สะพานเหล็ก" ก็เลยค้นประวัติความเป็นมาของสะพานแห่งนี้ สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 2511 (ยังไม่เกิดเลยเหอะ) โดยใช้เหล็กจากเรือขุดที่หยุดกิจการสร้างเพื่อความสะดวกให้แก่คนงานของบริษัทและประชาชนทั่วไปได้สัญจรทางลัดไปยังตลาดเก่า ซึ่งสะพานแห่งนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากทิวทัศน์สวยงามเป็นสัญลักษณ์ของตะกั่วป่า เคยใช้เป็นฉากในภาพยนตร์หลายเรื่องด้วยเป็นสะพานที่ใช้ข้ามแม่น้ำด้วย แต่เห็นว่าพังชำรุดไปในปี 2552 ไม่แน่ใจว่ามีการซ่อมหรือยังเพราะ จขบ.เดินถ่ายรูปแค่แป๊บเดียวไม่ได้เดินไปสุดทาง
ไหนๆ มาตะกั่วป่าแล้วไม่ได้มาเช็คอินโรตีภูเขาไฟเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงมาแล้วต้องแวะ ร้านนี้มีชื่อว่า "ไอซ์แตชาชัก&ชาระบำ"
ชื่อร้านก็บอกว่าชาระบำสงสัยเลยสิมันคืออะไรทำไมจึงชื่อว่าชาระบำ สั่งมาสิคะจะรออะไร?? แล้วพวกเราก็ถึงบางอ้อเมื่อชาที่มาเสริฟ์มันพริ้วไหวตรงส่วนที่เป็นชาเหมือนใช้แรงอัดเขย่าสักพักเลยล่ะมันถึงจะนิ่ง ก็แปลกดีรสชาตดีด้วยนะมาแล้วต้องลองค่ะค่าไอเดียเค้าเข้าใจคิดดี
และเมนูยอดฮิตเช็คอินก็ประจำก็คือ "โรตีภูเขาไฟ" อย่างที่เห็นในรูปมาเสริฟ์อันใหญ่ยังกะภูเขา เค้าโรยหน้าด้วยโอวันตินด้านในจุดไฟมาด้วยเลยทำให้ดูเหมือนภูเขาไฟไอเดียวบรรเจิดมาก ขั้นตอนการทำก็ไม่ง่ายนะต้องใจเย็นๆ คนทำเนี่ยปราณีตมากดังนั้นมาก็ต้องรอจ้า จขบ.แอบเห็นเค้าสั่งเมนูส้มตำกันทุกโต๊ะเลยแลดูแซ่บเว่อร์วัง เสียดายไม่ได้ลองคือท้องจะแตกแล้ววันนี้กินหลายอย่างจนแน่นแล้วอ่ะ
จากตะกั่วป่าพวกเราก็เดินทางกลับยังโคกกลอยใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ นี่ถ้าฝนไม่ตกนะ ได้ไปดูอนุสรณ์สึนามิแล้วล่ะอย่างที่บอกพังงาเนี่ยจริงๆ ไม่อยู่ในแผนเราแต่ไปๆ มาๆ กลับเที่ยวพังงาเยอะกว่าภูเก็ตเสียอีก
พอกลับถึงโคกกลอยภารกิจแรกของพวกเราก็คือกินต่อค่ะ นิ่งเป็นหลับขยับเป็นแดกกันเลยทีเดียวหลับกันมาตลอดทางตื่นมาหิวเลย เจ้ดีพามากินร้านส้มตำสุดแซ่บในโคกกลอยอร่อยทุกอย่างเสียดายแบตหมดเลยถ่ายมาได้แค่สองรูป เพื่อนที่ตามมาใหม่อาจจะเข้าใจผิดว่า จขบ.รีวิวผิดหมวดหรือเปล่าเค้าเรียกว่าเป็นสไตล์ค่ะเที่ยวไปกินไปแต่ทริปนี้กินหนักมาก ไว้มาติดตามต่อตอนต่อไปนะคะ
Photo and Story By Patthanid C.
Create Date : 11 ตุลาคม 2559 |
Last Update : 11 ตุลาคม 2559 9:14:08 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2314 Pageviews. |
|
|
|
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Mitsubachi Food Blog ดู Blog
patthanid Food Blog ดู Blog
หิวตามเลยจ๊ะโหวตอาหารให้เลยจ้า