แอบเห็นนักท่องเที่ยวเกาหลีมีไม้เซลฟี่ใส่ Gopro มาด้วย ตอนแรกก็เออวะทำไมไม่เอาไม้มาวะตรูจะได้ถ่ายง่ายๆ มือก็สั้นดำน้ำก็ไม่เป็นไม้เชฟฟี่จึงเป็นตัวช่วยที่ดีมาก แต่เชื่อไหมว่าพอเห็นพฤติกรรมของตาหนุ่มเกาหลีคนนี้ (แม่งหน้าหล่อด้วย) นิสัยเสียมากคือเอาไม้เซฟฟี่ยื่นกล้องเข้าไปใกล้มากใกล้ชนิดที่ทุกคนต้องมาห้ามเลย เพราะเค้าเอาไม้ยืนไปกลางกอปลานีโมเลย
พอเห็นเฮ้ยคือไรวะทำไมเป็นคนแบบนี้ถ้าเอาไปทิ่มในกอเนี่ยมันจะกลัวแล้วหาที่อยู่ใหม่ ไหวนะเป็นนักท่องเที่ยวแม่งต้องคิดมั้งนะว่ามันจะไปทำลายหรือเปล่า คิดดูทุกคนต้องเข้ามาห้ามตาคนนี้เพราะพฤติกรรมแย่มาก จึงทำให้ความคิดแรกของ จขบ.ตกไป โอ้ยยไม่ไหวนะไม่ควรให้เอาไม้เชฟฟี่ลงมานะ ตายๆ เกิดมีแบบอีตานี่หลายๆ คนพังหมดกันพอดี เพราะโอกาสที่ไม้มันจะไปเกี่ยวหรือชนกับปะการังมีสูงมากเหอะ
ที่อ่าวบอนจะเห็นปะการังสวยๆ เยอะ ที่นี่จะเน้นปะการังแบบแข็งไม่ค่อยมีแบบอ่อนให้เห็นเหมือนหลีเป๊ะ
จุดต่อไปเจ้าหน้าที่พาพวกเราไป "อ่าวเต่า"
โปรดสังเกตุสีของท้องฟ้าเป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยอยากเจอเลย มืดครื้มเหมือนฝนจะตกอีกต่างหาก
แล้วเรือก็จอดคลื่นนี่ใหญ่มากเรือโคล้งเคล้งไปมาเห็นได้ชัดว่าน้ำแรงจริงๆ
เจ้าหน้าที่หันมาถามพวกเราว่า "ไหวไหมพวกพี่กล้าลงกันหรือเปล่า ผมนะไม่เป็นไรถ้าพี่ลงก็ลงได้" ทุกคนมองหน้ากันสถานการณ์เช่นนี้เราเซฟไว้ก่อนดีกว่าม๊ะ เลยตกลงกันว่าไม่ไหวแน่นอนคลื่นแรงมากกลัวจะเป็นอันตรายเรืองี้โคลงเคลงยังกะน้ำจะเข้าเรือ สุดท้ายเจ้าหน้าที่เลยเปลี่ยนที่มาเป็นที่หาดช่องเขาขาดแต่เป็นอีกโซนหนึ่งน้ำจะลึกกว่าแต่ปลาจะเยอะมาก
ด้วยความที่กล้องดำน้ำเป็นเลนส์วายดังนั้นจึงเห็นปลาอยู่ไกลๆ และระหว่างที่ดำน้ำอยู่นั้นก็เห็นนักท่องเที่ยวชาวจีน
สองคนยืนบนปะการังเลยเจ้าหน้าที่ก็มาบอกว่า "ยืนไม่ได้นะ" ต้องไล่กันเลยทีเดียว
แต่ไม่ทันแล้วล่ะปะการังหักเสียแล้วที่สำคัญมันกลิ้งมาตรงหน้าอิช้านเลยจ้า หมดกันมันตายแน่ๆ "กว่าปะการังจะโตได้อย่างที่เห็นมันใช้เวลานานมาก แต่คนทำลายทำแป๊บเดียวเอง" ถ้าปล่อยไว้แบบนี้คาดว่าในภายภาคหน้าปะการังคงไม่รอด เพราะนักท่องเที่ยวขาดวินัยฝ่าฝืนกฏ
ดำน้ำอยู่ก็เห็นเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณให้ดูปลาบู่ทรายตัวใหญ่มาก ในรูปมันเล็กหน่อยนะเพราะถ่ายในระยะไกล
ดำลงไปก็ดำไม่เป็นเลยรู้เลยว่าดำครั้งหน้าให้กล้องเค้าไปถ่ายเหอะเห็นชัดดี
ข้อดีของการซื้อทัวร์มาคือมีคนพาเราดำไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องออกแรงเลยทีเดียวแค่เกาะเท่านั้น การดำน้ำแต่ละจุดใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง เชื่อไหมว่าเป็นหนึ่งชั่วโมงที่คุ้มค่ามาตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด จขบ.นี่โครตกลัวน้ำเลยแต่พอได้ดำน้ำแล้วต้องยอมรับว่าโลกใต้ทะเลมันสวยจริงต้องมาดูด้วยตัวเองค่ะ ถ่ายมามันไม่เหมือนกันได้มาเห็นเองจริงๆ
หลังจากจบทริปเจ้าหน้าที่จะมีผลไม้ปอกให้เราได้กินกัน แตงโมเวลากินตอนหลังดำน้ำเสร็จเนี่ยมันฟินมาก
จากนั้นเรือก็แล่นไปส่งพวกเรายังหาดช่องเขาขาดไหนก็ว่างแระพวกเราเลยไปดำน้ำหน้าหาดกัน
หน้าหาดอุทยานเนี่ยมีอะไรให้ดูเพียบเลยมีปะการังฝูงปลา ฯลฯ ไม่ควรพลาดนะมาแล้วต้องดำให้คุ้มน้ำใสมาก มาที่นี่เหมือนหลุดโลกเลยอ่ะ ไม่ต้องทำงานไม่ต้องคิดอะไรดำน้ำสนุกไปวันๆ เป็นการพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ นี่แหละชีวิตสโลไลฟ์!! เชื่อม๊ะคิดเรื่องเดียววันนี้จะกินอะไรดีหว่า
อาหารตามสั่งคือไม่รู้จะสั่งอะไรจริงๆ แต่ละมื้อจัดหนักกันสุดๆ เพราะหากพลาดอาหารแต่ละมื้อไปนั่นหมายถึง
เจอกันใหม่เช้าเลยนะเพราะสองทุ่มเค้าก็ไม่ทำอะไรแระ ดังนั้นใครที่หิวบ่อยๆ ควรเตรียวเสบียงมาตุนไว้นะ
พอเราทานอาหารเสร็จก็ต้องนำมาเก็บให้เรียบร้อยแยกเศษอาหารกับจานออกจากกัน ที่นี่ค่อนข้างมีระเบียบเหมือนอยู่กรมทหารแต่ก็ดีที่ทำให้มันเรียบร้อยกฏแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ จึงไม่แปลกที่จะเห็นฝรั่งมาเที่ยวที่นี่เยอะมาก จขบ.มาวันธรรมดาแทบจะเป็นคนไทยกลุ่มเดียวเลยก็ว่าได้ ฝรั่งเค้าค่อนข้างมีวินัยจึงใช้ชีวิตอยู่ที่นี่สบายๆ
มีคุณป้าฝรั่งคนหนึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าแกมาอยู่ที่นี่เป็นเดือนมาทุกปี แอบสังเกตุป้าแกโครตมีความสุขเลยอ่ะอายุเยอะแล้วด้วยนะ อยากมีชีวิตแก่ในบั้นปลายอย่างมีความสุขแบบนี้บ้างอ่ะเรียกว่าอยากเที่ยวยันแก่ เป็นแรงบันดาลใจมากต้องหาเงินเก็บไว้ตอนมีแรงเนี่ยแหละ แก่ไปจะได้ชิลล
พอทานอาหารเสร็จก็เข้าห้องพักกันคือว่างมากไม่มีไรทำ ไฟก็ไม่มีทำอะไรก็ไม่ได้นอกจากพักผ่อน จขบ.ไม่เคยได้นอนสี่ทุ่มมานานมากแล้ว ทำงานนี้ตีสองทุกคืนนั่งเขียนบล็อกไก่กาไปเรื่อยๆ มันเป็นความสุขหลังเลิกงานเลยบันทึกไว้ว่าเคยไปที่ไหนมาบ้าง เอาล่ะตอนหน้าจะมาเล่าให้ฟังต่อนะค๊า
Photo and Story By
Patthanid C.
ใต้ท้องทะเลดูสงบ ปะการังสวยงาม อยากไปชมมั่งจังค่ะ
หมู่เกาะแถบนั้นทะเลยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่มากเลยนะคะ