Group Blog All Blog
|
โฉมงามสองหน้า+บัญชาปราบโฉมงาม โม่เหยียน เขียน 15/5/2019 #แปลจีน #นิยายแปล #นิยายชายหญิง #โฉมงามสองหน้า #บัญชาปราบโฉมงาม #ข่าวลือในยุทธภพ #โม่เหยียน #แจ่มใส #รีวิวนิยาย #ออโอ โฉมงามสองหน้า ชุดข่าวลือในยุทธภพ โม่เหยียน เขียน พริกหอม แปล สำนักพิมพ์แจ่มใส แนวมากกว่ารัก 259 บาท 319 หน้า
หลังปก
‘กระโดดหน้าผามัจจุราชต่อหน้าศัตรู ถือโอกาสนี้แสร้งตาย หายตัวไปจากยุทธภพ’ นี่คือคำสั่งของอาจารย์ และนางได้ทำตามอย่างเคร่งครัด! แต่มีคนผู้หนึ่งที่ไม่ยอมให้มันเป็นเช่นนี้...ไม่ยอมให้นางหายตัวไปอย่างง่ายดาย สิงฟู่อวี่ ยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งราชสำนักผู้นั้น ไล่ล่านางราวกับเป็นศัตรูคู่แค้นกันมาเนิ่นนาน มิหนำซ้ำเขายังมีคนมาก ฉลาดเฉลียว และเก่งกาจยิ่ง ยังดีที่นางยามนี้ธาตุไฟเข้าแทรกจนติดอยู่ในร่างตนเองตอนอายุหกขวบ เขาจึงจำนางไม่ได้ อีกทั้งยังดูแลปรนนิบัตินางอย่างดีเลิศ เสียดายที่ยังไม่ทันได้พลังวัตรกลับคืนมาจากเขาก็ดันปรากฏร่างจริงให้เขาเห็นเสียก่อน เช่นนั้นนางคงได้แต่ต้องเอาข่าวลือในยุทธภพข่าวหนึ่งมาใช้ให้เกิดประโยชน์เสียแล้ว ข่าวลือที่ว่าประมุขหุบเขาหมื่นบุปผาแต่ละยุคล้วนรูปโฉมงดงามดุจมาร นางจะใช้รูปโฉมทั้งสองหน้านี้หลอกล่อลวงใจให้เขาต้องพ่ายให้นางเข้าสักวัน!
คุยกันหลังอ่าน
ชุดนี้มีสองเล่มค่ะ คือ โฉมงามสองหน้า กับ บัญชาปราบโฉมงาม ว่ากันตามลำดับเวลาแล้ว เรื่องราวในบัญชาปราบโฉมงามจะเป็นเรื่องของคู่พระนางที่เกิดขึ้นก่อน แต่ด้วยวิธีการเล่าเรื่อง โอแนะนำให้อ่านโฉมงามสองหน้าก่อน จึงจะได้อรรถรสที่สุด (ในบัญชาปราบโฉมงามจะพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโฉมงามสองหน้าด้วย โออ่านบัญชาโฉมงามก่อน ก็โดนสปอยล์ไปตามระเบียบ)
อูอีเสวี่ย เป็นประมุขหุบเขาหมื่นบุปผาที่คนนอกกล่าวกันว่าเป็นพรรคมาร อันที่จริงแล้ว ชาวหุบเขาหมื่นบุปผาแค่ทำอะไรอย่างอิสระเสรี ไม่ผูกมัด แต่ไม่เคยทำร้ายผู้บริสุทธิ์
อูอีเสวี่ยกระโดดหน้าผามัจจุราชตามคำสั่งอาจารย์ นางต้องแสร้งตาย ซึ่งเป็นทางรอดทางเดียวจากภัยคุกคามของยุทธภพและราชสำนัก แต่เรื่องที่ไม่คาดฝันก็คือ นางถูกสิงฟู่อวี่ ยอดฝีมือของราชสำนัก ดูดพลังวัตรก่อนร่วงตกเหวไป วิชาลับของนางเกิดธาตุไฟเข้าแทรกได้ง่าย เมื่อใดที่เกิด ร่างกายจะเกิดสวนทางย้อนกลับ อูอีเสวี่ยจึงมีสภาพกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
การเอาตัวรอดจากคนในยุทธภพในสภาพร่างเด็กนั้นไม่ง่าย ยิ่งนางแทบไม่มีพลังวัตรเหลืออยู่เลย จึงต้องอาศัยปฏิภาณไหวพริบเข้าช่วย จึงจะไปสมทบกับสี่ผู้คุมกฎตามเวลาและสถานที่ที่นัดหมายได้
ระหว่างทาง นางเจอกลุ่มโจรที่จับเด็กไปขาย จึงเข้าแทรกแซง แอบใช้เล่ห์ช่วยเหลือพวกเด็ก ๆ โชคไม่ดีที่ไปเจอกับสิงฟู่อวี่ที่ตามหาร่องรอยอูอีเสวี่ยอีกครั้ง ขณะที่นางหวาดหวั่นกลัวเขาจะจับพิรุธได้ นางกลับพบว่านอกจากเขาจะจำนางไม่ได้แล้ว ยังเอ็นดูนางในร่างเด็กหกขวบไม่น้อย
สิงฟูอวี่ที่ยามลงมือไม่เปลี่ยนสีหน้าคนนั้น ในเวลานี้กลับกระตุกยิ้มอย่างอ่อนโยนเพื่อหวังให้นางหวาดกลัวเขาน้อยลง
แม้จะรู้สึกเหลือเชื่อ แต่อูอีเสวี่ยมีหรือจะไม่ฉวยโอกาสที่หาได้ยากนี้ไป
+++
อูอีเสวี่ย นางเอก แม้จะเป็นประมุขพรรค ทว่าไม่ได้มีวิทยายุทธแกร่งกล้าอะไร เพราะพรรคหุบเขาหมื่นบุปผาคัดเลือกประมุขจากหน้าตา (และเหตุผลที่พอพอฟังขึ้นบ้าง เช่น คนเก่งมีเยอะแล้ว แต่คนที่จิตใจสะอาดหายากกว่า แต่ส่วนตัวโอเชื่อว่าประมุขรุ่นก่อน ๆ น่าจะคลั่งคนงาม...)
อูอีเสวี่ยขึ้นเป็นประมุขพรรคตอนอายุสิบหก ไม่นานหลังจากรับตำแหน่งก็ถูกคนจากพรรคอื่นในยุทธภพรุมกวาดล้างหุบเขาหมื่นบุปผา นางยังอ่อนด้อยไม่ว่าอายุหรือประสบการณ์ แม้ลึก ๆ แล้ววาดหวั่น แต่ก็ทำตามคำสั่งสอนของอาจารย์ และอาศัยไหวพริบพยายามเอาตัวรอด บุคลิกของนางเอก จะใส ๆ มองโลกในแง่ดี ไม่คิดร้ายกับใคร โอว่านางเข้าใจโลก เข้าใจมนุษย์พอดูเลย แต่ไม่เอาความทุกข์ ความมืดหม่นมาแบกไหว เป็นคนที่แทบจะไม่มีอารมณ์ด้านลบเข้ามาเลย
โอชอบตอนนางผจญภัย หนีคนนู้น เจอะคนนี้ หนีเสือปะจระเข้ ชอบไหวพริบนาง คิดว่าตัวเองคิดดีแล้ว ฉลาดแล้ว ที่ไหนได้ เจอคนอื่นฉลาดกว่า รอบจัดกว่า โอชอบที่เขาถ่ายทอดออกมาว่านางเอกแม้จะไม่ได้โง่นะ นางเก่งเอาการอยู่ แต่คนอื่นอยู่ในยุทธภพมานาน เจอคนมาหลายรูปแบบ พูดง่าย ๆ คือเขี้ยวลากดินมาทั้งนั้น นางเอกของเราเจออย่างนี้ไปจะให้รอดแบบหมดจดนี่บอกเลย ยาก
ชอบสำเนียงในการเล่าด้วย ผู้เขียนเขาจะเล่าด้วยน้ำเสียงเอ็นดูนางเอก เห็นว่านางเป็นเด็ก อาจารย์นางเรียกนางว่า นางหนูเสวี่ย พระเอกก็เรียกนางว่า นางหนูเสวี่ย นางเอกเลยเป็นนางหนูน้อยของคนอ่านด้วย
พูดถึงพระเอกบ้าง สิงฟู่อวี่ สุดหล่อสุดโหด ไม่น่าเชื่อว่าจะรักเด็ก (เหมือนจะเอ็นดูนางเอกแค่คนเดียวด้วย ก็นางหนูเสวี่ยของเราเป็นเด็กหน้าตาดีนี่นะ ตาโลลิ!) พอเรื่องปูมาอย่างนี้โอแอบกลัว ๆ ว่าพาร์ทตอนนางเอกเด็กมันจะเกินเลยไปไหม มันก็แอบหมิ่นเหม่อยู่นะถ้าเขียนไม่ดี แต่โอเคเลย พระเอกแค่ตามใจนางเอกในร่างเด็กเฉย ๆ พอรู้ว่านางเอกคือเด็กคนที่ตนเอ็นดู ความรู้สึกมันเลยพัฒนาต่อยอดไปได้ เป็นพระเอกที่น่ารักเลยค่ะ ตามใจนางเอก เป็นฝ่ายสนับสนุนช่วยเหลือ รักและให้เกียรติก็แสดงชัด เขาจะไม่เกินเลยถ้านางเอกไม่ยินยอม แฮชแท็กคนหน้ามึนแสนน่ารักได้เลย มีบางคำพูดของเขาที่อ่านแล้วปิ๊งพอสมควร แม้พี่จะแอบมีบทไม่มากเทียบกับความยาวเรื่อง แต่ความน่ารักนี่มีผลต่อใจเป็นตัวคูณเลย
ขำมุกที่ทุกคนคิดว่านางเอกเป็นประมุขพรรค (มาร) ต้องเก่งหรือโหดแน่ ๆ พอเจอตัวจริง ประมือเข้าจริง ๆ ถึงรู้ว่านางฝีมืออ่อนด้อย
เรื่องนี้จะไม่ดราม่า อ่านสบาย ๆ มีตลกบ้างเป็นระยะ มีช่วงอืดช่วงกลางถึงปลายนิดหน่อย แต่ภาพรวมถือว่าโอเคเลยค่ะ สนุก
3.5 ดาว . . . นางเคยถามอาจารย์ด้วยความสงสัย ในหุบเขาคนที่มีพรสวรรค์กว่านางมีอยู่ไม่น้อย เพราะเหตุใดอาจารย์จึงพึงพอใจนางเพียงคนเดียว
คำตอบของอาจารย์คือ...
‘ใครกำหนดว่าต้องมีวรยุทธ์สูงส่งจึงจะเป็นประมุขหุบเขาได้ ในยุทธภพมีพยัคฆ์มังกรที่ซ่อนแฝงกาย ยังจะขาดยอดฝีมืออีกหรือ ทุกสำนักล้วนเลือกคนที่มีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุดมาเป็นเจ้าสำนัก หากข้าอูมู่ฉินต้องการเลือกคนที่รูปโฉมงดงามล่มบ้านล่มเมืองมาเป็นประมุขหุบเขา ยังจะมีอะไรแปลกประหลาด’
ตอนนั้นอูอีเสวี่ยฟังแล้วปากอ้าตาค้าง มองอาจารย์ที่มีท่าทีปีติยินดีภาคภูมิใจอย่างงงงัน
อูมู่ฉินบีบแก้มนวลเนียนของนาง ยิ้มแล้วว่า ‘นางหนูเสวี่ย เจ้าต้องรู้ไว้ ความงามก็เป็นอาวุธอย่างหนึ่ง แม้พื้นฐานวรยุทธ์เจ้าจะไม่ดี แต่กลับมีนิสัยใจคอบริสุทธิ์ดีงาม ไม่ถูกประเพณีนิยมทั่วไปกลืนกลายได้ง่าย พึงรู้ว่าเส้นทางบนโลกนี้น่าหวาดกลัวและอันตราย ทุกแห่งล้วนเป็นอ่างย้อมสี คนที่สามารถออกจากดินเลนมาได้โดยไม่แปดเปื้อนจึงจะเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง ที่อาจารย์พึงพอใจคือความบริสุทธิ์ดีงามของเจ้า ความงามเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น’
ได้รับคำชมจากอาจารย์ย่อมดีใจ อูอีเสวี่ยจึงเผยรอยยิ้มสดใส
อูมู่ฉินกล่าวต่อไป ‘ในโลกนี้หญิงงามมีมากมายนับไม่ถ้วน แต่หญิงงามที่มีสติปัญญากลับมีน้อยมาก ลำพังเรื่องนี้เจ้าก็เหนือกว่าหญิงงามทุกคนในโลกนี้แล้ว เพราะความงามสามารถดึงดูดได้เพียงบุคคลชั้นรอง ทั้งไม่ยาวนาน แต่สติปัญญากลับสามารถดึงดูดบุคคลชั้นหนึ่ง ต้นน้ำลึกย่อมไหลไปได้ยาวไกล นี่จะเป็นอาวุธสำคัญของเจ้าที่จะใช้รับมือกับยุทธภพที่น่าหวาดกลัวและเต็มไปด้วยอันตราย จำไว้ จะต้องรักษาความบริสุทธิ์ดีงามนี้ไว้ตลอดไป อย่าลืมเจตนาเดิม’
คำพูดของอาจารย์ยังก้องอยู่ในหู ตอนนี้อูอีเสวี่ยลอบภาวนาอยู่ในใจ หวังว่าคนเหล่านี้จะเห็นแก่ความงามของนาง ไม่โหดเหี้ยมกับนางจนเกินไป เพิ่งคิดเช่นนี้ พลันได้ยินคนผู้หนึ่งตวาดเสียงดัง...
“นางมารร้ายตัวดี! มีใบหน้างดงามชวนให้ผู้คนหลงใหลอย่างแท้จริง ทุกคนอย่าได้ถูกนางทำให้ลุ่มหลงมัวเมา นี่เป็นแผนสกปรกของนาง!”
หน้า 19-20 บทที่ 1
บัญชาปราบโฉมงาม ชุดข่าวลือในยุทธภพ โม่เหยียน เขียน พริกหอม แปล สำนักพิมพ์แจ่มใส แนวมากกว่ารัก 269 บาท 329 หน้า
หลังปก
หุบเขาหมื่นบุปผาขึ้นชื่อว่าเป็นที่อยู่ของพรรคมาร แล้วสตรีที่อยู่ในที่นั้นจะมิใช่ ‘นางมาร’ ได้อย่างไร เช่นนั้น ความรักระหว่างผู้สูงศักดิ์ในวังหลวงกับนางมารจะเป็นไปได้หรือ! หาก ‘รัก’ อูมู่ฉินก็ต้องปล่อยมือจากเขา ทว่าเขามิเคยยินยอมที่จะปล่อยมือจากนางเลย นี่ไม่เพียงสร้างข่าวลือลวง บุกเข้าไปยึดครองหุบเขาของนาง ยังมีพระบัญชาติดประกาศตามจับนาง มิหนำซ้ำยังจับบุตรสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของนางมาอีก เห็นทีครานี้นางคงมิอาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไปแล้ว หากเขายังไม่ยอมตัดใจคงจะได้เห็นดีกันเสียที!
คุยกันหลังอ่าน
ลักษณะการเล่าของเรื่องนี้จะเป็นการเล่าย้อนค่ะ ตัวเรื่องหลักจะเกิดหลังโฉมงามสองหน้าจบ (แบบไม่ค่อยแนบสนิทนัก) เมื่อฮ่องเต้มีคำสั่งให้จับอูอีเสวี่ย และจับนางได้แล้ว ฮ่องเต้จึงเล่าเหตุผลและเรื่องราวให้อูอีเสวี่ยฟัง ซึ่งเป็นเรื่องราวในอดีตของอูอีเสวี่ย อูมู่ฉิน อาจารย์ของอูอีเสวี่ย และตัวฮ่องเต้ ไป่หลี่ซี เอง
สมัยฮ่องเต้ไป่หลี่ซียังเป็นรัชทายาท เขาปลอมตัวเป็นชาวบ้าน ไว้หนวดเคราปกปิดตัวตน อาศัยอยู่ที่กระท่อมข้างสุสาน ตัดไม้ ล่าสัตว์ ผ่าฟืน ไม่สุงสิงกับคนอื่นในหมู่บ้าน กลายเป็นหม่าเฉวียนผู้แข็งกระด้างผิวเกรียมแดดสมบูรณ์แบบ ครั้งนั้น เขาได้พบกับเด็กสาวตัวมอมแมมที่เข้ามานอนหลับในบ้าน
แรกเริ่มเขาระแวงนาง จึงปฏิเสธที่จะดื่มกินอาหารฝีมือนาง ครั้นเด็กสาวขอบคุณเขาที่ให้ที่พักพิงก็จากไป แต่แล้วนางก็กลับมาอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง จากไปอย่างหมดจด แต่กลับมาแบบสกปรกเนื้อตัวเหม็นหึ่ง
เด็กสาวคนนั้นก็คืออูมู่ฉิน ความจริงนางกำลังหนีการตามล่าของตันไหวชิง และอยู่ระหว่างการพยายามฝ่าค่ายกลของคนผู้นั้น ด้วยต้องหลบซ่อนการตามล่าจากยอดฝีมือ จึงมีสภาพไม่น่าดูเท่าใดนัก
อูมู่ฉินรู้สึกว่าหม่าเฉวียนคนนี้นิสัยไม่เลว ไม่ไล่หรือว่ากล่าวที่นางแอบมาพักพิงในบ้านของเขา แล้วยังเอื้อเฟื้ออาหารและเสื้อผ้าให้ นางจึงทำอาหารตอบแทนทุกครั้ง
ไป่หลี่ซีอยู่ระหว่างทำภารกิจสำคัญ จึงไม่สะดวกที่จะให้ผู้อื่นอยู่ใกล้ ในที่สุดเขาก็กล่าวอ้อม ๆ อูมู่ฉินเข้าใจและไม่ว่าอะไร นางรับปากจากไปอย่างง่ายดาย
แต่พออูมู่ฉินไม่อยู่ ไป่หลี่ซีกลับพบว่าตนห่วงพะวงหานาง เมื่อได้พบนางอีกครั้ง ความสัมพันธ์จึงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาตกลงเป็นสามีภรรยากัน คำนับฟ้าดิน ให้ตะวันจันทราเป็นพยาน
พวกเขาแต่งงานกันโดยไม่รู้ชื่อ ไม่รู้โฉมหน้าที่แท้จริงของอีกฝ่าย ทั้งสองให้คำมั่น บอกรักกัน และคิดไปเองว่าจะบอกความจริงกับอีกฝ่ายเมื่อถึงเวลา ต่างเข้าข้างตัวเองว่าจะไม่เป็นไร
แต่มันเป็น และผลของมันก็กินเวลายาวนาน และสร้างความขื่นขมทิ้งไว้มากมาย
+++
แนวดราม่าค่ะ โทนแตกต่างจากเรื่องแรกค่อนข้างมาก
แต่ถึงจะบอกดราม่า แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบเศร้าน้ำตาท่วม เพียงแต่มีเรื่องราวมากมายที่ไม่เป็นไปอย่างใจหวัง
ทั้งพระนางรู้จักและรักกันอย่างรวดเร็ว แต่เป็นรักที่ต่างฝ่ายต่างมีเรื่องปิดบัง พระเอกไม่ได้บอกว่าตัวเองไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา แต่เป็นรัชทายาทที่ต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในอนาคต นางเอกก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นถึงประมุขหุบเขาหมื่นบุปผา ซึ่งเป็นนางมารในสายตาคนทั่วไป ราชสำนักกับยุทธภพก็ว่าแย่แล้ว ยิ่งเป็นฮ่องเต้กับประมุขพรรคมารอีก ทางเดินของคนทั้งคู่ยากจะบรรจบกัน
เรื่องที่ทั้งสองฝ่ายมีต่างปิดบังอีกฝ่าย โอว่าฟังขึ้นทั้งคู่ เพราะเวลาและภารกิจที่บีบคั้น พระเอกเองนอกจากต้องวุ่นวายกับการแผนการล้มอำนาจฮองเฮา ตัวเองก็ต้องระวังการลอบสังหารอีก ส่วนนางเอก การที่อยู่ ๆ จะไปบอกว่าตัวเองอยู่พรรคมารตามสายตาคนทั้งโลกมันก็ยาก ทั้งคู่คิดว่าเรื่องของพวกเขาต้องให้เวลาอีกฝ่ายทำความเข้าใจ แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขามันรุดหน้าเร็วเกินไป
โอไม่ชอบพระเอกเรื่องนี้ ไป่หลี่ซี แม้จะเก่ง จะหล่อเหลา จะรักนางเอก แต่ก็เป็นอย่างที่คนมีอำนาจล้นมือมักเป็น คือเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป ทะเยอทะยานมากเกินไป มีเรื่องต้องทำมากเกินไป จนขาดความละเอียดอ่อนกับเรื่องที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนอย่างที่สุด เขาคิดเพียงว่า เมื่อตนจัดการอุปสรรคได้ สามารถขึ้นเป็นฮ่องเต้ จะกลับมารับนางเอกเข้าวังเป็นหนึ่งในสนม วิธีคิดของเขาไม่แตกต่างกับคนอื่นอีกมาก เขายังไม่สามารถแยกตัดขาดระหว่างเรื่องรักกับภาระหน้าที่ได้ เขาตั้งใจจะเป็นฮ่องเต้ที่มีความสามารถ และฮ่องเต้ที่มีความสามารถจะขาดผู้สนับสนุนที่ดีไปไม่ได้ นางเอกไม่ใช่ผู้ที่จะสามารถสนับสนุนฮ่องเต้ได้ดี และนางเอกเมื่อรู้ความจริงก็เข้าใจถึงจุดจุดนี้ จึงตัดสินใจถอยจากพระเอก แม้พระเอกจะทำทุกทางตามล่า นางเอกหนีไปกี่ครั้ง พระเอกก็ตามหาทุกครั้ง เรื่องราวการงัดข้อชิงไหวชิงพริบ หนีตาม หนีตาม เกิดขึ้นไม่รู้เบื่อ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรก็ไม่ลืมนางเอก
ถึงโอจะไม่ชอบพระเอก แต่โอว่าผู้เขียนเขียนพระเอกออกมาได้ดีมาก เขามีมิติ มีด้านดี ด้านไม่เหมาะสม ด้านดึงดัน
ส่วนนางเอก คล้ายคลึงกับนางเอกเรื่องแรก นางเอกเป็นคนจิตใจดี มีความใสซื่อ แตกต่างจากนางเอกเรื่องแรก นางเข้มแข็งกว่า ทรหดกว่า มีความสามารถมากกว่า
เรื่องรักของคู่นี้ก็แตกต่างจากคู่แรกมากมาย คู่แรกเป็นรักใส ๆ เหมือนน้ำไหลรินชุ่มฉ่ำใจ คู่นี้เหมือนรักดั่งไฟ อยู่ด้วยกันแล้วสปาร์กเผาไหม้ รุนแรง และแผดเผา
โอชอบที่เขาวางความรักของคู่นี้ให้รวดเร็ว แต่อานุภาพของมันนั้นยาวนาน ในเมื่อหนทางของแต่ละคนแตกต่างกันมากเกินไป หนทางที่ดีที่สุดคือ ต้องมีคนยอมเสียสละ แต่ใครจะเป็นฝ่ายยอมสละ แล้วจะสละอย่างไร
แนวคิดของเรื่องดีและชัดเจนกว่าเรื่องแรก วิธีการนำเสนอดีกว่า หมดจดกว่า มีการแทรกมุมมองเข้ามาพอสมควร ค่อนข้างทำให้โอประหลาดใจเลย เพราะนี่เป็นแนวทางที่แตกต่างจากงานโม่เหยียนอย่างที่เคยเป็น โทนหม่น ไม่ฮา ดราม่า มีความลึกของความคิดและมิติเรื่องมากขึ้น แต่ก็ยังมีความเป็นโม่เหยียนคือไม่ได้ซับซ้อนเกินไป พระนางยังโดดเด่น มีความก้ำกึ่งระหว่างเรื่องที่ปูทุกอย่างมาเข้าทางพระนาง กับการที่ไม่ยอมให้พระนางสมหวังง่ายดายเกินไป
พระรองเรื่องนี้เป็นคนที่โอโปรดปราน โอเชียร์เขาทั้งที่รู้ว่าความหวังนั้นริบหรี่เต็มที เขามีความคิดและการกระทำในแบบที่โอชอบ อันที่จริง คนที่อยู่รอบตัวนางเอกก็ชอบ ตัวนางเอกเองก็รู้ว่าเขานั้นเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ในเมื่อนางรักพระเอกไปแล้ว ก็เท่ากับตัดสินใจไปแล้ว จะไม่ให้ความหวังเขาลม ๆ แล้ง ๆ ท้ายสุดความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นสิ่งที่โอชื่นชม
สนุกค่ะ แม้จะไม่ถูกใจโอทุกอย่าง รูปแบบความรักในเรื่องไม่ใช่สิ่งที่โอถูกใจ พระเอกก็ไม่ใช่คนที่ชอบ แต่โอชอบแนวคิดในการนำเสนอ มุมมองการนำเสนอ จากตอนแรกโอเฉย ๆ ความรู้สึกชอบมันกลับเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ จากสามขึ้นเป็นสามจุดห้า ขึ้นเป็นสี่ 4 ดาว
สามารถแยกอ่านได้นะคะ ถ้าโฉมงามสองหน้าเล่มเดียวจะรู้สึกไม่ค้างคาใจอะไร แต่ถ้าอ่านบัญชาปราบโฉมงามเล่มเดียว จะรู้สึกขาดหายอยู่บ้าง อ่านทั้งสองเรื่องเลย ดีที่สุดคือเรียงอย่างที่โอว่าไป . . . โชคชะตาเล่นตลกกับคน นึกไม่ถึงว่าชายคนแรกที่นางรักถึงกับเป็นว่าที่ฮ่องเต้ ไม่ใช่คนซื่อที่อยู่ในใจของนาง ต่อให้นางมีนิสัยเปิดกว้างเพียงใด ก็ไม่อาจทนแบกรับความเจ็บปวดในใจได้ไหว ที่แท้ความรักเมื่อไม่สมหวังก็เจ็บปวดถึงเพียงนี้ มิน่าปฐมาจารย์จึงต้องกล่าวเตือนชนรุ่นหลังด้วยความจริงใจ
นางไม่แค้นไป่หลี่ซี ทั้งไม่ตำหนิเขา เพราะนางเองก็หลอกเขา เพียงแต่นางเชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป เข้าใจว่าสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้ แก้ไขปัญหาได้ สวรรค์จึงล้อเล่นกับนางครั้งใหญ่
ถ้านี่เป็นมหันตภัยด้านความรักของนาง นางก็ต้องคิดหาหนทางข้ามผ่านไป ต้องระบายเอาความอาลัยอาวรณ์ภายในใจและความเจ็บปวดที่ต้องแยกจากกันออกมา คิดเสียว่า...เป็นความฝันที่งดงามครั้งหนึ่ง
หลังตื่นจากความฝันนางก็จะยอมรับความเป็นจริงในเรื่องนี้ เพราะนางคือประมุขของหุบเขาหมื่นบุปผา หัวใจของนางไม่อาจเผยความอ่อนแอออกมา เช่นนี้จึงจะไม่ผิดต่อภาระหน้าที่ที่อาจารย์และผู้อาวุโสทั้งหลายฝากฝังไว้กับนาง
หน้า 169 บทที่ 8 . . .
หน้า 307-308 บทที่ 15
.
บัญชาปราบโฉมงาม
ของสำนักพิมพ์นี้ ปกสวยทั้งนั้นเลยเนอะ
โดย: fevestival (สมาชิกหมายเลข 6023213 ) วันที่: 26 ตุลาคม 2563 เวลา:0:32:46 น.
คุณ fevestival โอชอบหลายเรื่องเลยค่ะ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ
ขอบคุณคุณเริงฤดีนะ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse สำหรับโหวตด้วยค่ะ โดย: ออโอ วันที่: 28 ตุลาคม 2563 เวลา:11:19:04 น.
|
โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
Friends Blog |