เมษายน 2559

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
All Blog
บุปผาสีชาด 1-3 (ภาคแรก) ปิงหลันซา เขียน
















ยังมีภาคจบอีกหนึ่งเล่ม ออกประมาณสิงหาคมค่ะ



บุปผาสีชาด 1-3 (ภาคแรก)
ปิงหลันซา เขียน  Honey Toast แปล
สำนักพิมพ์แจ่มใส  แนวมากกว่ารัก
927 บาท  1,501 หน้า

หลังปก

นางถูกหย่า ถูกบังคับให้กินยาขับเลือดจนต้องสูญเสียลูกในครรภ์ไป
ซ้ำร้ายบิดามารดาพี่ชาย และคนในสกุลยังถูกใส่ร้ายจนต้องโทษประหารชีวิตทั้งสกุล
และผู้ตัดสินคือสามีของนาง ‘กู้ชิงหง’!
เคยมีคนผู้หนึ่งกล่าวว่า
‘เจ้าต้องรู้ไว้ว่ารูปโฉมของเจ้าคืออาวุธ พิฆาตคนได้โดยไม่ต้องใช้ดาบ’
เนี่ยอู๋ซวงรู้เหตุผลข้อนี้ดี และนางจะใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อล้างหนี้เลือดให้สกุล
แม้ต้องเดินไปบนเส้นทางที่ไม่อาจหันหลังกลับ
โดยการถวายตัวเป็นสนมชายาของฮ่องเต้รัฐอื่น
นางก็หาได้เสียใจไม่!
เส้นทางสู่อำนาจทอดยาวอยู่เบื้องหน้า
แต่ระหว่างทางคือสนมชายานับร้อยพัน
แล้วเพื่อสิ่งที่ปรารถนา
เนี่ยอู๋ซวงจะต้องฝ่าฟันและข้ามผ่านเล่ห์เหลี่ยมกลลวงทั้งหลายในตำหนักในมากมายเท่าใดกันเล่า


คุยกันหลังอ่าน

เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกสามีหักหลัง ทำให้ครอบครัวนางต้องจบชีวิต ต้องซมซานหนีออกจากรัฐบ้านเกิดไปถิ่นศัตรูเพื่อหาทางล้างแค้น

มีทั้งส่วนที่ชอบ และส่วนที่ไม่ชอบ

ส่วนที่ไม่ชอบ

1. เปิดมาว่านางเอกฉลาดมาก ทำให้คาดหวังว่าจะมีเนื้อหาที่ต้องการชิงไหวชิงพริบ มีการใช้เล่ห์หลอกคนอ่าน ถามว่าในหนังสือนางเอกฉลาดไหม ตอบว่ามีไหวพริบพอสมควร แต่ไม่ถึงกับที่ปูมาตอนต้น โอค่อนข้างคาดหวังความลุ่มลึกและชั้นเชิงของเนี่ยอู๋ซวง แต่ในเรื่องนี้ความเก่งของนางจะเป็นลักษณะฟัดกันซึ่งหน้า ถ้าสู้ไม่ได้ก็ใช้ไม้โหดเลยมากกว่า ค่อนข้างขาดชั้นเชิง การไตร่ตรอง และวิเคราะห์สถานการณ์รอบด้าน โอผิดหวังกับตัวละครนี้พอสมควร

ยกตัวอย่างเหตุการณ์ในเล่ม เปิดเผยเนื้อหานะคะ ยังไม่อ่านข้ามย่อหน้าถัดไปเลย

เช่น ตอนพาทหารบุกไปรับฮ่องเต้ โองงเลย นางเอกไม่ได้มีวรยุทธ์อะไร จะไปเป็นภาระทำไม ออกคำสั่งอยู่เฉยๆ ก็ได้ ฉากนี้โผล่มาเพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างนางเอกกับสนมคนอื่นเฉยๆ แต่ไม่ได้สร้างความเชื่อว่าฉลาดให้นางเลย (แถมทหารทรยศมีตั้งเยอะ ควรสงสัยพวกนางเอก แล้วตามนางเอกได้ตั้งแต่ฉากนั้นแล้ว คนฝ่ายนั้นก็ตั้งมาก, ฉากบุกตำหนักฮองเฮาเพื่อหาตัวคนผิด โอตั้งตารอการหาวิเคราะห์หาคนผิดของนาง แต่พอเข้าจริงก็แค่สั่งโบย ใครแปลกประหลาดต้องสงสัยแค่นั้น ฉากนี้ก็ไม่มีความจำเป็นอีกนั่นแหละ (เพราะนางก็รู้คนผิดตั้งแต่ทีแรกแล้ว) นอกจากต้องการให้คนทั้งวังเกรงอำนาจ และเห็นการไขปัญหาของนาง, ฉากบุกวังอ๋องห้าเพื่อขอความช่วยเหลือ อยู่ๆ วิ่งไปกอดท่านอ๋อง ทั้งๆ ที่มีคนเต็มไปหมด แปลกและดูไร้สติพอควรเลย, ฉากเจอฮ่องเต้ยังมีสติดีก็เกือบหลุดปากเรียก, ฉากยั่วยุไทเฮา ซึ่งไม่เกิดประโยชน์นอกจากทำให้ตัวเองถูกโบย แถมยังมองฮ่องเต้บ่อยๆ ต้องการให้เขาหลุดหรือ (นึกถึงความจริง ยิ่งไม่ต้องการให้เขาขาดสติ ยิ่งไม่ควรหันไปมอง ให้เห็นว่าเขาทนได้ การหันไปมองยิ่งให้เขาเห็นแววตาความเจ็บปวดของตนไม่ใช่หรือ)

ฉากจำพวกนี้เป็นอะไรที่อ่านไป รู้สึกแปลก ติดขัดไป


เพราะฉะนั้นการบอกตรงๆ ผ่านหนังสือหรือตัวละครมาให้คนอ่านว่าตัวเอกฉลาดนั้นเป็นดาบสองคม ทำได้ถึง เนื้อเรื่องจะติดตรึงใจคนอ่านเลย แต่ถ้าทำได้ไม่ถึง คนอ่านจะมีข้อกังขาตลอด

ถ้าเรื่องนี้ไม่บอกตอนต้นหรือบอกผ่านตัวละครอื่นเป็นระยะว่านางเอกฉลาด แต่ค่อยๆ แสดงความสามารถนางเอกออกมาให้คนอ่านสัมผัส โอจะรู้สึกดีมากกว่านี้

2. ยังไม่มีอิทธิพลในด้านการเร้าความรู้สึก เร้าอารมณ์คนอ่านมากพอ อ่านแล้วยังเกิดความกังขา เอ๊ะ?! ทำไมถึงเป็นอย่างนี้? อยู่เป็นระยะ

3. คนเขียนยึดติดรูปแบบมากเกินไป ทำให้เนื้อหาไม่หลากหลาย การแสดงอารมณ์ของตัวละครไม่เป็นธรรมชาติ

เช่น

- ฮ่องเต้มาหานางเอก นางเอกต้อง "ตะลึง" ทุกครั้ง (การแปลกใจมีหลายแบบ มีหลายระดับ เพราะฉะนั้นการติดอากัปกิริยาหนึ่งๆ มากเกินไปทำให้เฝือ)

- การเล่าถึงข้ารับใช้หรือตัวประกอบ ใช้คำว่า "ดาษดื่น" ทุกหน ไม่ว่า หน้าตาดาษดื่น ดวงตาดาษดื่น (ดาษดื่นก็คือธรรมดา คนเขียนต้องการสื่อว่าข้ารับใช้หน้าตาธรรมดา คนนี้คนนั้นเป็นคนหน้าตาธรรมดามากเกินไป (การยิ่งย้ำ เท่ากับแสดงว่าเขาไม่ธรรมดา ยิ่งธรรมดา ยิ่งไม่ควรเอ่ยถึง หรือสามารถไขว้คำ เปลี่ยนความ ได้อีกหลากหลายรูปแบบ เช่น หน้าตาธรรมดา หน้าเรียบๆ ก้มหน้าเงียบไม่ต่อความ นั่งเงียบรับคำสั่ง เสมือนไม่มีตัวตน ฯลฯ)

-  นางสนมโกรธ ก็ใช้คำว่า "ทรวงอกกลมกระเพื่อมขึ้นลง" ติดๆ กันทุกคน พวกความซ้ำซากจำเจเหล่านี้ทำให้อ่านสะดุด

- ตัวร้าย จุดบอดอีกจุดใหญ่ที่ทำให้เนื้อเรื่องไม่เป็นธรรมชาติ โอไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้ตัวร้ายมาบรรยายความผิดตัวเอง แล้วจบด้วยการหัวเราะ สื่อถึงความบ้าระห่ำ ซึ่งไม่จำเป็นอีกนั่นแหละ การร้ายก็มีหลายระดับอีก การเล่าความผิดยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดให้คนอ่านฟัง (ไม่ว่าให้ตัวร้ายเล่าความผิด หรือตัวดีบอกความผิดตัวร้าย) อาจใช้การบอกเป็นปริศนา การเล่าผ่านหน้ากระดาษด้วยสำนวนเรียบๆ ฯลฯ

4. การแจกแจงบทยังไม่สมดุล บางช่วงบางตัวละครหายเงียบไปเลย หรือตัวละครประกอบก็ยังไม่มีตัวตนมากเพียงพอ

5. ความต่อเนื่องลื่นไหลของอารมณ์ เช่น นาทีหนึ่งโกรธ อีกนาทีร้องไห้ ซึ่งถามว่าเป็นไปได้ไหม ตอบว่าเป็นไปได้ แต่ ต้องมีเหตุผล มีการเพิ่มระดับหรือลดหรี่อารมณ์ตามเหตุการณ์

ส่วนที่โอไม่ชอบ โดยรวมเป็นเรื่องของการขาดความเป็นธรรมชาติ และการดึงให้คนอ่านเชื่อตามในหลายๆ จุด


ส่วนที่ชอบ

1. ผู้ชายสามคน กู้ชิงหง สามีเก่า เซียวเฟิ่งชิง รุ่ยอ๋อง และเซียวเฟิ่งหลิง ฮ่องเต้ สามคนนี้มีปม มีอดีต มีที่มา มีบุคลิกชัดเจน และมีส่วนสำคัญในการพยุงให้เนื้อหาไม่ลอย

เซียวเฟิ่งชิงเป็นตัวละครที่โอชอบมาก เขาร้ายจริง แต่มักโผล่มาในเวลาที่นางเอกต้องการ เป็นที่พึ่งได้ (แบบร้ายๆ) เป็นคนที่นางเอกเปิดเผยธาตุแท้ และเป็นคนที่นางเอกก็เห็นไส้เห็นพุง

ส่วนเซียวเฟิ่งหลิง นิสัยดี ไม่ยึดอดีต ไม่ใช่คนเชื่อคำยุแยง หนักแน่น แต่เข้าถึงยาก ระหว่างเซียวเฟิ่งหลิงและเนี่ยอู๋ซวงเหมือนมีกำแพงที่มองไม่เห็นกั้นอยู่ ต่างคนต่างยังไม่เข้าใจอีกฝ่ายอย่างแท้จริง

กู้ชิงหง เป็นตัวละครที่หลายคนแค้น หลายคนสงสาร 

2. จุดบางจุด ท่อนบางท่อน โอค่อนข้างประทับใจ 



ส่วนที่น่าจะทำให้คนอ่านหลายคนชื่นชอบ

1. มีเนื้อหาแต่เข้าใจไม่ยาก ไม่ซับซ้อนวุ่นวาย มีตัวละครหลักน้อย ตัวประกอบไม่สำคัญ เข้าถึงผู้อ่านได้ง่าย จดจำได้ง่าย

2. อารมณ์เรื่องคล้ายคนอ่านไทยคุ้นเคยกันดี ผ่านละครหรือนิยายไทยหลายเรื่อง (ฉากตบหน้า ฉากตัวร้ายเผยตัวนี่โขกละครมาเลย)

3. เลือกรูทได้ จะจีบหนุ่มคนไหน ...แค่กๆ ไม่ใช่ ตัวละครชายทั้งสามตัว ทั้งเก่ง หล่อ และร้ายได้คนละแบบ สามคนหล่อเก่งเลว แต่รักนางเอกทั้งหมด

4. นางเอกสวย สวยสุดในสามรัฐแล้วมั้ง ใครเห็นก็ต้องตะลึง แถม (เรื่องยังปูว่า) ฉลาดอีก

5. เนื้อหาไม่หนัก ถึงจะดราม่าช่วงต้น แต่โดยรวมเนื้อหาค่อนข้างผ่อนคลายนะ

6. มีจุดให้สงสาร คนไทยขี้สงสาร และใจอ่อนง่าย (ยิ่งกับหนุ่มหล่อๆ ด้วยแล้ว ...แค่กๆ)



(4+3.5+3.5)/3 = 3.67




ต่อไปจะเล่าเนื้อหาเล่มหนึ่งถึงสามรวมทั้งความรู้สึกนะคะ อยากลุ้นตอนอ่านจบเท่านี้ได้เลย


เล่ม 1

ผู้หญิงใช้ผู้ชายเป็นบันไดอำนาจ ผู้ชายก็ใช้ผู้หญิงเป็นเครื่องมือสู่ผลสำเร็จ ต่างคนต่างใช้อีกฝ่ายแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเอง

อ่านเล่มแรกจบแล้ว ช่วงแรกให้ความรู้สึกแปลกๆ ดี คืออ่านเรื่องอื่น เราจะรู้สึกว่านางเอกถึงจะตกระกำยอมกัดฟันทน แต่ก็ไม่ยอมเสียศักดิ์ มีออร่านางเอกระยิบระยับ มีดาวนำโชคในยามคับขัน แต่นางเอกเรื่องนี้นอกจากมีออร่านางร้าย (ประเภทที่มีชะตาชีวิตน่าสงสาร) ยอมเสียศักดิ์ศรีแบบไม่ห่วงหน้าบ่อยๆ แล้ว ยังดวงกุด ไม่มีนางฟ้าประจำใจอีก ผู้ชายหล่อล่ำฝีมือดีที่ผ่านมาสามคนมีใครไว้ใจสามารถฝากชีวิตให้ไว้ได้บ้าง ? นี่ไม่รู้นะว่าอนาคตจะเป็นยังไงอีก เอาเป็นว่าสู้ๆ นะ เนี่ยอู๋ซวง

4


ต่อจากนี้โอจะเล่าเนื้อหาในเล่มหนึ่งนะ เปิดเผยเนื้อหาสำคัญทั้งหมดจ้า อยากลุ้นตอนอ่านหยุดแค่นี้พอค่ะ
.
.
.
*** เปิดเผยเนื้อหาสำคัญในเล่ม 1 ***
.
.
.
.
.
.
.

มีรัฐอยู่สามรัฐ ฉี อิ้ง และฉิน เป็นทั้งมิตรและศัตรูกัน

เนี่ยอู๋ซวง นางเอก ลูกสาวสมุหนายกแห่งรัฐฉีแต่งงานกับผู้ชายแสนดีแต่ยากไร้คนหนึ่ง ชื่อกู้ชิงหง แม้ครอบครัวไม่เห็นด้วย ก็กัดฟันฟันฝ่าอุปสรรคมาด้วยกัน จนฝ่ายชายได้เป็นถึงอัครเสนาบดีแห่งรัฐฉี ในที่สุดนางก็ท้อง ทันใดนั้นฝ่ายชายก็เปลี่ยนไป เขายื่นหนังสือหย่าและสั่งให้คนกรอกยาให้นางแท้งลูก

ระหว่างที่เนี่ยอู๋ซวงตกอยู่ในสภาวะกึ่งสับสนกึ่งแค้น นางก็ได้รู้ข่าวว่าสกุลเนี่ยถูกริบทรัพย์และสั่งประหารทั้งตระกูล โดยหัวหอกผู้ควบคุมคดีก็คืออดีตสามีนางเอง
เนี่ยอู๋ซวงหนีออกมาได้ และได้พบกับเซียวเฟิ่งชิง นางเดาถูกว่าเขาเป็นถึงรุ่ยอ๋อง น้องชายของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันแห่งรัฐอิ้ง นางจึงไปขอให้อีกฝ่ายช่วยนางแก้แค้น เซียวเฟิ่งชิงให้นางทำตามคำสั่งแลกเปลี่ยน ชิงแผนที่ทหารของรัฐฉีมา เนี่ยอู๋ซวงใช้วิธีจดจำแทนการขโมยแผนที่ด้วยกลัวตัวเองถูกฆ่าทิ้งเมื่อหมดประโยชน์
นางจึงไม่ได้ถูกฆ่า แต่ถูกส่งตัวไปรัฐอิ้งแทน เมื่อถึงจุดหมายไม่นาน เซียวเฟิ่งชิงแต่งตั้งเนี่ยอู๋ซวงเป็นชายารองของตนเอง เพื่อแลกอำนาจในมืออีกฝ่าย นางไม่อาจขัดขืน

เซียวเฟิ่งชิงพบเนี่ยหมิงหู พี่ชายคนโตที่หนีรอดพ้นจากการฆ่ายกสกุล และลี้ภัยไปรัฐฉิน จึงให้เนี่ยอู๋ซวงเขียนจดหมายหาพี่ชาย พี่น้องได้เจอหน้ากัน แต่เนี่ยหมิงหูก็ถูกพิษร้ายแรงระหว่างการหลบหนีเข้าแล้ว ตัวยารักษาสำคัญอยู่ในมือไทเฮา บังเอิญองค์หญิงหญิงอวิ๋นเล่อ ลูกสาวคนเดียวของไทเฮา พบเนี่ยหมิงหูและถูกใจเข้า จึงทูลขอตัวยามารักษาเขาได้ เนี่ยหมิงหูจึงได้เข้าวังมาเป็นองครักษ์ประจำพระองค์ของฮ่องเต้

อุปนิสัยเซียวเฟิ่งชิงคาดเดาไม่ได้ เขาเจ้าเล่ห์ มากเพทุบาย ภายนอกวางตัวเป็นอ๋องเจ้าสำราญ ภายในวางกลอุบาย ใช้คนต่างหมากในกระดานของตัวเอง

เขาให้นางเข้าวัง แลกตัวเพื่อที่จะได้อำนาจจากคนที่มีมากที่สุด ซึ่งก็คือฮ่องเต้แห่งรัฐอิ้ง เซียวเฟิ่งหมิง

เนี่ยอู๋ซวงใช้ทั้งแผนหญิงงามและผู้ตกทุกข์ได้ยากเรียกความสงสารเห็นใจจากฮ่องเต้ ในที่สุดก็ได้เข้าไปเป็นสนมนางกำนัล ลำดับชั้นต่ำสุด คือไฉหนี่ว์

นางเข้าวังมาแบบไม่ปกติ อีกทั้งทุกคนยังรู้ว่านางเป็นหญิงที่ถูกหย่าร้างจากรัฐฉี เสียงคัดค้านต่างมาทั่วทุกทิศรวมทั้งไทเฮา แต่ฮ่องเต้ไม่สนใจ

เนี่ยอู๋ซวงถูกเมินและเยาะหยันจากนางสนมคนอื่นๆ แม้กระทั่งบ่าวรับใช้ก็ไม่ให้ความเคารพ

ต่อมาได้รับเลื่อนขั้นเป็นกุ้ยเหริน และเมื่อถวายงานฮ่องเต้ครั้งแรก ก็ได้เลื่อนขั้นอีกครั้งเป็นเหม่ยเหริน มีตำหนักของตัวเอง ทุกคนจึงเปลี่ยนท่าทีและเห็นความสำคัญที่ฮ่องเต้มีต่อนาง

ในฝ่ายใน เนี่ยอู๋ซวงแม้จะมีเซียวเฟิ่งชิงรุ่ยอ๋องสนับสนุนลับๆ แต่นางไม่มีครอบครัวเครือญาติ เส้นสายกลในในรัฐอิ้งแม้แต่น้อย ก้าวแรกนางจึงต้องเดิมพัน แสวงหามิตรในหมู่ศัตรูให้ได้ ท่าทีอ่อนน้อม เป็นมิตร เรียบง่าย ฝักใฝ่พระธรรม จึงเป็นภาพลักษณ์แรกที่คนเห็น

เวลาเดินผ่านอย่างรวดเร็ว รัฐฉีส่งองค์หญิงมาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างแคว้น โดยมีกู้ชิงหง อัครเสนาบดี อดีตสามีของเนี่ยอู๋ซวงเป็นคนนำคณะทูตมา

องค์หญิงหลงรักกู้ชิงหง ไม่อยากมารัฐอิ้ง แต่ฝ่ายชายปฏิเสธ

กู้ชิงหงแสดงอาการหวั่นไหวหลายครั้งเมื่อได้พบเนี่ยอู๋ซวง แต่นางแสดงท่าทีเป็นปรปักษ์ชัดเจน

คณะทูตเดินทางกลับ องค์หญิงจากรัฐฉีได้รับการแต่งตั้งเป็นเต๋อเฟย

การล้างบางเพื่อคานอำนาจสกุลเกาของไทเฮาครั้งสำคัญเริ่มขึ้น แผนการถูกวางไว้เป็นเพื่อกำจัดอีกฝ่าย มีการเปลี่ยนแปลงขุนนางและขั้วอำนาจ ฮ่องเต้เซียวเฟิ่งหมิงแสดงท่าทีต่อต้านไทเฮาชัดเจน

อวิ๋นเฟย สนมคนโปรดของเซียวเฟิ่งหมิงตั้งครรภ์

--- จบเล่ม 1 ---


เล่ม 2

เล่มนี้โอว่าเนือยกว่าเล่มแรก อาจเพราะเป็นช่วงกลางๆ นางเอกอยู่ในวังหลวง ไม่มีเหตุการณ์สำคัญนอกจากคลื่นใต้น้ำ ส่วนนอกวังมีสงครามระหว่างรัฐ

แนวของเรื่องถึงเกริ่นมาว่าเป็นการแก้แค้น แต่โดยรวมเน้นไปในเนื้อหาวังหลวง ฮ่องเต้ นางใน ฯลฯ มากกว่า

ค่อนข้างผิดหวังเพราะเกริ่นมาเล่มแรกบอกนางเอกฉลาดมาก แต่เรื่องไม่ค่อยมีการแสดงความฉลาดของตัวละครตัวนี้นัก โอว่าขันทีประจำตัวตัวนางเอกยังฉลาดกว่าอีก คนเขียนยังไม่สามารถชักนำให้โอเชื่อตามที่เขียนได้

การเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของตัวละครยังไม่ลื่นไหล (เช่น ดีใจ สลับโกรธ สลับร้องไห้ อารมณ์จำพวกนี้ต้องมีเหตุการณ์และระยะเวลาที่เหมาะสมถึงจะสามารถแสดงอำนาจชักจูงคนอ่านได้)

การใช้ประโยชน์จากตัวละครก็ยังไม่ค่อยดี มีตัวละครเยอะแต่บทบาทน้อย เลยทำให้สีสันน้อยตาม

3.5

*** เปิดเผยเนื้อหาสำคัญในเล่ม 2 ***
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

แผนที่ทหารที่เนี่ยอู๋ซวงขโมยมา เป็นเหตุให้เกิดศึกระหว่างรัฐ รัฐฉินบุกรัฐฉี รัฐฉีเจอศึกหนัก ขณะที่รัฐอิ้งทำตัวเป็นตาอยู่ ให้ตาอินตานาแย่งปลากัน รอเป็นผู้คว้าประโยชน์สูงสุดตอนท้าย

รัฐฉีทนไม่ไหว ส่งทูตมาเจรจาขอกำลังทหารจากฮ่องเต้รัฐอิ้งตามสัญญาสัมพันธไมตรีที่ส่งองค์หญิงมาแต่งงาน ฮ่องเต้รัฐอิ้งเซียวเฟิ่งหมิงประวิงเวลาจนได้ที่ ค่อยส่งพี่ชายเนี่ยอู๋ซวงไปเป็นแม่ทัพ โดยมีรุ่ยอ๋องเซียวเฟิ่งชิงเป็นผู้นำทัพ
ความสัมพันธ์ระหว่างเนี่ยอู๋ซวงและรุ่ยอ๋องเซียวเฟิ่งชิงนั้นเป็นแบบหลบซ่อน เพราะต่างฝ่ายต่างช่วยกันอำนวยผลประโยชน์ให้อีกฝ่าย เซียวเฟิ่งชิงแสดงทีท่าว่ามีใจให้เนี่ยอู๋ซวง คอยแวะมาหาสาวงาม มายั่วแหย่ให้โกรธ ส่วนเนี่ยอู๋ซวงทั้งระแวงทั้งสงสารเซียวเฟิ่งชิงที่ตนต้องหลอกใช้ความรักของเขา

ในตำหนักใน คนที่ค่อยๆ ถูกลิดรอนอำนาจคือไทเฮา ยังทรงอิทธิพลคือฮองเฮา, ซูเฟย และจิ้งเฟย ส่วนอวิ๋นเฟยที่เคยเรืองอำนาจ แสดงท่าทางดูหมิ่นคนอื่นเป็นนิจ โดนอำนาจที่มีย้อนกลับ ถูกลดขั้นไปเป็นสนมตำแหน่งไม่สูงนัก แม้จะตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม

หยาเจี๋ยอวี๋ สนมที่สนิทกับอวี้เฟยตั้งครรภ์เพราะได้เนี่ยอู๋ซวงสนับสนุน ไม่นานอวี้เฟยก็จากไปเพราะตรอมตรมและวางทิฐิไม่ได้ ก่อนตายอวี้เฟยขอร้องเนี่ยอู๋ซวงสองข้อ คือ ฝากดูแลหยาเจี๋ยอวี๋ และอย่าหลงรักฮ่องเต้ ถึงจะไม่มีวันพ่ายแพ้และสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในวังหลวง

เนี่ยอู๋ซวงรับปาก จึงค่อยๆ ตระหนักว่าตนหลงรักฮ่องเต้เข้าแล้ว
ฮ่องเต้เซียวเฟิ่งหมิงโปรดปรานเนี่ยอู๋ซวง พระราชทานราชทินนาม "เหลียน" (ดอกบัว) ให้

เนี่ยหมิงหู พี่ชายเนี่ยอู๋ซวง ไม่สามารถครองรักกับองค์หญิงอวิ๋นเล่อพระธิดาคนเดียวของไทเฮาได้ เพราะเนี่ยอู๋ซวงต้องเลือกข้างที่เอื้อผลประโยชน์ให้ตนและสกุลเนี่ย ซึ่งไม่ใช่ฝ่ายไทเฮา

หยาเจี๋ยอวี๋คลอดก่อนกำหนด ได้พระโอรส ซูเฟยขอเป็นผู้เลี้ยงดู ฮ่องเต้อนุญาต เนี่ยอู๋ซวงไม่สามารถทำตามที่รับปากว่าตนจะเป็นผู้เลี้ยงดูลูกของหยาเจี๋ยอวี๋ได้ก็คับแค้นใจที่ตนไม่มีอำนาจพอ

ไม่นานอวิ๋นชงย่วน (อดีตอวิ๋นเฟย) ครรภ์ผิดปกติ ต้องเร่งคลอด อวิ๋นชงย่วนสิ้นใจ แต่พระโอรส (องค์ชายสาม) รอด เนี่ยอู๋ซวงได้เป็นผู้เลี้ยงดู

ถึงจะได้ชื่อเป็นผู้เลี้ยงดู แต่ความเป็นจริงเนี่ยอู๋ซวงให้หยาชงหรง (อดีตหยาเจี๋ยอวี๋) เป็นผู้ดูแล แทนการไถ่โทษว่าตนไม่สามารถนำบุตรชายหยาชงหรงมาคืนตอนนี้ได้ พร้อมสัญญาว่าในอนาคตจะต้องนำลูกแท้ๆ ของหยาชงหรงมาคืนให้ได้
องค์ชายสามสุขภาพอ่อนแอ เป็นโรคหัวใจเหมือนผู้เป็นแม่ ฮ่องเต้จึงพระราชทานนามให้เร็วเป็นพิเศษว่าอี๋เฟิง ต่อมาหมอหลวงหยางแนะนำวิธีรักษาแบบชาวบ้านให้เนี่ยอู๋ซวง องค์ชายจึงมีอาการดีขึ้น

สถานการณ์องค์ชายองค์หญิงในวัง มีดังนี้ 
องค์หญิงใหญ่ (ลูกจิ้งเฟย), องค์ชายใหญ่ (ลูกฮองเฮา), องค์ชายรอง (ลูกหยาชงหรง ซูเฟยเป็นผู้เลี้ยงดู) และองค์ชายสาม (ลูกอวิ๋นชงย่วน เนี่ยอู๋ซวงเป็นผู้เลี้ยงดู)

ชายารุ่ยอ๋องคลอดบุตรชายเช่นกัน รุ่ยอ๋องเซียวเฟิ่งชิงให้เนี่ยอู๋ซวงตั้งชื่อให้ นางตั้งชื่อให้ว่า หลัน (เซียวอี้หลัน)

เพื่ออยู่รอดและมีอำนาจ เนี่ยอู๋ซวงจำต้องเลือกข้างฮองเฮา ฮองเฮาต้องการให้เนี่ยหมิงหูแต่งงานกับญาติฝ่ายตน เนี่ยอู๋ซวงเลือกญาติฝ่ายที่ห่างจากฮองเฮาให้พี่ชายตามคำแนะนำของขันทีประจำตัว ไม่ให้ใกล้ชิดฮองเฮาเกินไป และไม่ใช่ผลักไส

ฮองเฮาและซูเฟยเป็นปรปักษ์กันชัดเจน ฮ่องเต้พระราชทานนามให้องค์ชายรองว่า เซียวอี๋ฮั่น

ฮองเฮาป่วยหนัก

เทศกาลคัดเลือกหญิงงามเข้ามาเป็นสนมนางในทุกๆ สามปีใกล้จะเริ่มขึ้น
เนี่ยอู๋ซวงค่อยๆ ไต่เต้า จากสนมขั้นต่ำ ขึ้นไปเป็นเสียนเฟย หนึ่งในสี่ราชชายาได้ในที่สุด

--- จบเล่ม 2 ---


เล่ม 3

*** เปิดเผยเนื้อหาสำคัญในเล่ม 3 ***

ฮองเฮาโดนพิษ เนี่ยอู๋ซวงสามารถหาตัวคนวางยาได้ พบว่าเบื้องหลังคือซูเฟย และไทเฮา ฮองเฮาฟื้นเป็นปกติก็เชื่อใจเนี่ยอู๋ซวงอย่างยิ่ง

สนมนางในรุ่นใหม่ได้รับคัดเลือกเข้าวัง คนที่เด่น มี เกาอวี้จี ซึ่งเป็นหลานแท้ๆ ของไทเฮา และหลินหวั่นเหยา ผู้ได้รับตำแหน่งสูงสุดในรุ่น คือเจี๋ยอวี๋ และได้รับราชทินนามว่า เหมย (เรียก เหมยเจี๋ยอวี๋) ส่วนเกาอวี้จีนั้นกลับได้ตำแหน่งแค่กุ้ยเหริน

หลินหวั่นเหยาพยายามขอให้เนี่ยอู๋ซวงเป็นที่พึ่ง แต่เนี่ยอู๋ซวงไม่ตกลง ส่วนเกาอวี้จีนั้นยั่วยวนฮ่องเต้ไม่สำเร็จ ฮ่องเต้ไม่โปรดนางสนมรุ่นที่คัดเลือกมาใหม่ ไม่เรียกใครปรนนิบัติ คนที่ยังโดดเด่นเสมอ คือเนี่ยอู๋ซวง

สถานการณ์การรบระหว่างสามรัฐ จริงๆ รัฐอิ้งเป็นฝ่ายชนะ เพราะทั้งรัฐฉีและรัฐฉินได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ฮ่องเต้เซียวเฟิ่งหลิงแห่งรัฐอิ้งต้องการทำสัญญาสงบศึก รัฐฉินส่งทูตมา ส่วนรัฐฉี กู้ชิงหงมาเป็นตัวแทน สุดท้ายการทำสัญญาล้มเหลวไม่เป็นท่า เมื่อรัฐฉินตลบหลัง ลอบทำร้ายฮ่องเต้เซียวเฟิ่งหลิง เป็นชนวนให้เกิดการทำศึกใหญ่ขึ้นทั้งสามรัฐ เซียวเฟิ่งชิงช่วยชีวิตเซียวเฟิ่งหลิงจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ

ไทเฮาวางแผนให้เกาอวี้จีใช้กลิ่นหอมที่สามารถควบคุมฮ่องเต้ได้ ฮ่องเต้ตกอยู่ในกำมือของไทเฮา แต่สุดท้ายผู้เป็นฝ่ายกำชัยชนะก็คือเซียวเฟิ่งหลิง ไทเฮาและเกาอวี้จีตายจากการปะทะกันของกำลังสองฝ่าย

ซูเฟยคุกเข่ากล่าวหาฮองเฮาว่ามีความผิดต่อหน้าศาลบรรพชน สุดท้ายฮองเฮาถูกปลด ซูเฟยมีความผิดล่วงเกินบรรพกษัตริย์ถูกกักไว้ในตรอกหย่งเซี่ยง เนี่ยอู๋ซวงได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮาแทน

สามปีตั้งแต่เข้าวัง จากนางกำนัลขั้นต่ำสุด สตรีที่ถูกหย่า คนที่ทุกคนดูถูก ก้าวขึ้นมาถึงจุดสูงสุดคือฮองเฮา

แต่เนี่ยอู๋ซวงก็ไม่มีความสุข เพราะนางยังมีความแค้นในใจ และรุ่ยอ๋องเซียวเฟิ่งชิงก็ยังไม่เลิกคิดการเป็นใหญ่ 

--- จบเล่ม 3 ---


จบแบบค้างๆ คิดว่าเล่มต่อไปน่าจะเข้มข้น มีประเด็นเรื่องศึกระหว่างรัฐทั้งสาม ศึกห้ำหั่นของพี่น้องเซียวเฟิ่งหลิง เซียวเฟิ่งชิง ความแค้นจะได้รับการชำระหรือไม่ ใครจะได้ครอบครองสาวงามเนี่ยอู๋ซวง โปรดติดตามตอนต่อไป




สำนวนแปล โอมีจุดที่สะดุดหลายจุดเหมือนกัน

ใช้คำผิดความหมาย

**** พาน = ทำท่าว่า *** ท่องไว้ๆ แต่ก่อนโอก็สับสนเหมือนกัน


เช่น พานจะร้องไห้ หมายถึง ทำท่าว่าจะร้องไห้, พานจะโกรธ หมายถึง ทำท่าว่าจะโกรธ

ต้องสามารถนำ "ทำท่าว่า" ลงไปแทนใน "พาน" แล้วลงตัว ความหมายไม่ผิดเพี้ยน

แต่ในเล่มใช้ พาน ในความหมาย ทำ, พานให้ ใช้แทน ทำให้ ซึ่งผิดความหมายที่แท้จริงเกือบทุกที่ (และใช้บ่อยครั้งด้วย) 

โอเข้าใจว่าเพี้ยนมาจากคำว่า "พาให้" ซึ่ง พา มีความหมายว่า นำไป หรือ นำมา พาให้จึงมีความหมายว่า นำมาให้,นำไปให้ หรือ นำไปสู่

สรุป รูปแบบที่จะใช้ "พาน" ได้

พาน (+ จะ) + กริยา

=

ทำท่าว่า (จะ) ...

เช่น พานจะโกรธ พานจะร้องไห้ พานจะเป็นลม  พานจะตาย

ไม่ใช่ พานให้ หรือพานยิ่ง เพราะผิดความหมาย 

เล่ม 1

ตัวอย่างที่ใช้ "พาน" ผิดนะคะ ในเล่มจริงๆ มีอีกมาก

หน้า 21 เมื่อเห็นนางไม่ปริปากสักคำก็อดกระอักกระอ่วนใจไม่ได้ พานยิ่งทำให้คร่ำครวญหนักขึ้นไปอีก

เอาคำว่า พานยิ่ง ออกไปเลยก็ได้ค่ะ รกและผิดความหมาย

เมื่อเห็นนางไม่ปริปากสักคำก็อดกระอักกระอ่วนใจไม่ได้ ทำให้คร่ำครวญหนักขึ้นไปอีก

หน้า 295 เนี่ยอู๋ซวงไม่เคยเห็นพระองค์มีสีหน้าจนปัญญาระคนสงสารเช่นนี้มาก่อนพานให้บังเกิดความสนใจในตัวอวี้ผินที่ป่วนกระเสาะกระแสะ...

พานให้ ไม่มีนะ เปลี่ยนเป็น ทำให้เกิด ก็ได้ค่ะ บังเกิดก็ดูรกไป


หน้า 369 เซียวเฟิ่งหมิงพานางเดินขึ้นบันไดหิน ไม่ถึงชั่วครู่ก็มาถึงเจดีย์หินสูงชะลูดแห่งหนึ่ง ลมภูเขายมดึกที่หนาวเหน็บพัดมาดังฟิ้วๆ พระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นกลางฟ้า อยู่เหนือผืนป่าเขาลำเนาไพรกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา

ลมพัดดังฟิ้วๆ Smiley

(เล่ม 2 หน้า 303 ก็เหมือนกัน)

คือไม่รู้คนอื่นเป็นไหมนะ แต่โอสะดุดกึกเลย ประโยคแวดลอมบรรยายธรรมชาติ โอ้โหเห็นภูเขา เห็นจันทร์ เห็นป่า แต่ลมฟิ้วๆ ที่สวยๆ มาตอนต้น กลายเป็นเสียงในการ์ตูนละ

ถ้าต้นฉบับไม่ได้เป็นเสียงจำพวกเลียนเสียงธรรมชาติ ลมพัดก็สามารถพัดได้หลายแบบ เช่น ลมพัดซู่ ลมหวิววู่ เสียงลมพัดใบไม้แกรกกราก ลมพัดระรวย ลมพัดผะแผ่ว ลมพัดโชย ลมพักกระโชก (แรงหน่อย) 

ในเล่ม 1 ของโอหมึกจางหลายหน้าเลย สังเกตว่าหนังสือที่ออกช่วงงานสัปดาห์หนังสือจะไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร



เล่ม 2 

"พระราชทานที่นั่ง"

ในเล่มให้คนตำแหน่งสูงกว่ากล่าวเมื่อต้องการให้จัดที่นั่งให้คนตำแหน่งต่ำกว่า

ซึ่งอ่านแล้วแปลก เราจะไม่พูดคำราชาศัพท์กับคนที่ตำแหน่งต่ำกว่าไม่ใช่หรือคะ

น่าจะเป็น "จัดที่นั่ง" อะไรประมาณนี้มากกว่า แต่ถ้าถามว่าเก้าอี้ตัวนั้นเป็นเก้าอี้พระราชทานไหม ตอบใช่ค่ะ

(ซึ่งถ้าจะบอกว่าพูดกับนางกำนัลรับใช้ ใช้แทนนางกำนัล ก็ไม่น่าใช่ เพราะคนที่มอบเก้าอี้ให้ไม่ใช่นางกำนัล)

คนละกรณีกับในคำบรรยายนะคะ

เช่น ฮองเฮาพระราชทานที่นั่งให้เนี่ยอู๋ซวง 

อย่างนี้ใช้ได้ แต่ไม่น่าจะใช่คำพูดของฮองเฮา ฮ่องเต้ (ผู้มีตำแหน่งสูงกว่า)


เล่ม 3

หน้า 229 ในตำหนักในมีเพียงฝ่าบาทไม่โปรดนางสนมคนใด ไหนเลยนางสนมจะสามารถปฏิเสธฝ่าบาทได้

อ่านแล้วงงค่ะ ต้องอ่านหลายๆ รอบ โอว่าตัดคำว่าคนใดออกจะเข้าใจได้ง่ายขึ้น

ในตำหนักในมีเพียงฝ่าบาทไม่โปรดนางสนม ไหนเลยนางสนมจะสามารถปฏิเสธฝ่าบาทได้

หน้า 409 พานให้น้ำตาไหลพรากลงมาอย่างกลั้นไม่อยู่

พานให้ ผิดเนอะ

เปลี่ยนเป็น น้ำตาพานจะไหลพรากลงมาอย่างกลั้นไม่อยู่










สำหรับใครที่ยังลังเลบุปผาสีชาด โอพาหนุ่มคนแรกมาแนะนำ ชายหนุ่มทรงเสน่ห์ เจ้าเล่ห์เหลือร้าย อ๋องห้าแห่งรัฐอิ้ง รุ่ยอ๋องเซียวเฟิ่งชิงค่า

.
.
.

เขากับเนี่ยอู๋ซวงจ้องตากัน ในดวงตาคู่งามของนางมองเห็นถึงแววขุ่นเคืองเจ็บใจ เขาบีบปลายคางเรียวพลางยิ้มหยัน "เนี่ยอู๋ซวง ถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังไม่กระจ่างแจ้งอีกหรือไร หากต้องการแก้แค้นก็ต้องเอาความสงสารเห็นใจและความรู้สึกผิดโยนทิ้งไปให้หมด ซากศพเกลื่อนกลาดแล้วมีอันใด สามรัฐสู้รบกันแล้วมีอันใด มีเพียงยามบ้านเมืองเกิดความไม่สงบเท่านั้นข้าถึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการ ส่วนเจ้าก็จะได้ในสิ่งที่ต้องการเช่นกัน"

หญิงสาวรู้สึกเจ็บปลายคาง จึงคิดจะดิ้นให้หลุด ทว่าเขากลับโอบตัวนางเข้าไปในอ้อมอกแล้วกดจูบอย่างเผด็จการจนลมหายใจของเขาเล็ดลอดผ่านเข้าไปในปากนาง

เนี่ยอู๋ซวงส่งเสียงอู้อี้หมายจะผลักชายหนุ่มออก แต่เขารัดวงแขนแนบสนิทยิ่งกว่าเก่า พร้อมกับแทรกปลายลิ้นผ่านริมฝีปากนางเข้าไปซอกซอนตักตวงความหอมหวานในโพรงปาก

ความอัปยศอดสูพลุ่งขึ้นกลางอก นางเอาเรี่ยวแรงจากที่ใดก็สุดรู้ผลักเขาออกแล้วตบหน้าฉาดหนึ่งอย่างหนักหน่วง

เสียงเพียะดังขึ้น ทั้งสองล้วนตะลึงงันไป

เซียวเฟิ่งชิงมองนางอยู่เนิ่นนานถึงลูบข้างแก้มตัวเอง เขาหัวเราะลั่น "ดี ถึงใจนัก เนี่ยอู๋ซวง! เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าชมชอบอะไรในตัวเจ้ามากที่สุด"

เขาขยับเข้ามาประชิดตัวอย่างกะทันหัน นัยน์ตาสีประหลาดทอประกายเย็นเยียบ

"ชมชอบที่เจ้าโง่เขลาแล้วยังไม่สำนึกในความหวังดีของคนอื่นอย่างไรเล่า คืนนี้ถึงกับตบหน้าข้า เจ้าแน่มาก! ต่อไปนี้เจ้าไปตามทางของเจ้า ข้าไปตามทางของข้า!"

เขามองตานางพร้อมกับหัวเราะเบาๆ "หวังว่าเจ้าจะไม่นึกเสียใจในภายหลัง"
กล่าวจบเขาก็หมุนกายจากไปในความมืด


หน้า 117- 118 บทที่ 52 กรีธาทัพกลับ
เล่ม 3



ต่อแถวมาด้วยหนุ่มคนที่สอง ชายหนุ่มสุขุม อ่านยาก และยิ่งใหญ่ที่สุดของรัฐอิ้ง ฮ่องเต้เซียวเฟิ่งหมิงค่า

.
.
.

เซียวเฟิ่งหมิงกุมมือนางลงจากหลังม้าแล้วออกเดิน "ในที่สุดก็มีเวลาว่างสักที ไม่อย่างนั้นก็มีงานการต้องสะสางมากมายจนเราไม่มีแม้แต่เวลาจะหยุดพักหายใจเลย"

เนี่ยอู๋ซวงหันมากล่าวยิ้มๆ "ฝ่าบาททรงเห็นความสำคัญของงานบ้านงานเมืองเช่นนี้ เป็นบุญวาสนาของไพร่ฟ้าเพคะ"

เซียวเฟิ่งหมิงมองมาด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก พาให้นางบังเกิดความกระวนกระวายใจรางๆ แต่ยังคงฝืนยิ้มเอ่ยขึ้น "ฝ่าบาททอดพระเนตรหม่อมฉันทำไมเพคะ บนหน้าหม่อมฉันมีอะไรติดอยู่หรือ"

พระองค์กระตุกยิ้มแล้วพูดเนิบๆ "มิใช่ เราอยากมองให้ทะลุถึงใจเจ้า"

สายตาสงบนิ่งของพระองค์ทำให้หัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำของนางดิ่งวูบลงเรื่อยๆ ข้างหูพลันมีเสียงขององค์หญิงอวิ๋นเล่อดังขึ้น '...คราวก่อน...คราวก่อนในงานเลี้ยงฉลองชัยชนะ มีคนเห็นเจ้ากับพี่ห้า...'

นางใจคอไม่ดีขึ้นมากะทันหัน ดวงตาไหวระริกวูบหนึ่ง ก่อนจะหลุบเปลือกตาลง "ฝ่าบาททรงอยากจะตรัสบอกอะไรหรือเพคะ"

เซียวเฟิ่งหมิงถอนใจเบาๆ ก่อนเชยคางนางขึ้น ใบหน้าขาวผ่องงามสะคราญของนางสะท้อนอยู่ในดวงตาลุ่มลึกคู่นั้น "เราอยากรู้ว่าหัวใจเจ้าอยู่ที่เราหรือไม่"

นางนิ่งมองพระองค์อยู่ครู่หนึ่งแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ ในทันใด "ฝ่าบาททรงรู้สึกว่าหัวใจหม่อมฉันอยู่ที่ใดหรือเพคะ"

หญิงสาวค่อยๆ พิงซบอกเซียวเฟิ่งหมิงเพื่อหลบสายตา "หรือว่าฝ่าบาททรงไม่เชื่อใจหม่อมฉันเพคะ" นางอิงแอบอยู่บนแผงอกอบอุ่น ฟันเสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะหนักแน่น คล้ายว่าทำเช่นนี้ก็จะสามารถทำให้ตนสงบจิตใจลงได้ทั้งๆ ที่กลางอกว่างเปล่าถึงปานนั้น

เซียวเฟิ่งหมิงก็หาได้ลังเลใจอยู่นานไม่ พระองค์แย้มยิ้มพลางกระชับกอดนางแน่นๆ "เราเชื่อใจเจ้า"


หน้า 148-149 บทที่ 54 ดวลฝีมือ : ธนูเดียวครองแผ่นดิน (แรก)
เล่ม 3




.
.
.

"ท่านอ๋อง" นางกุมมือเขาพลางเรียกเบาๆ แววตาไหววูบไปตามอารมณ์ที่สับสนว้าวุ่น จวบจนวันนี้ นับวันนางยิ่งไม่รู้ว่าสมควรจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไรดี นางและเขาเป็นพรรคพวกฝ่ายเดียวกัน หรือว่าเป็นหญิงแพศยากับชายชู้ที่น่าอัปยศ บางทีนางอาจโน้มน้าวใจคนอื่นได้ว่าระหว่างนางกับเขาก็แค่สมรู้ร่วมคิดและหลอกใช้กันและกัน ซึ่งเป็นเรื่องแสนจะธรรมดาเสียเหลือเกินในราชสำนักที่สกปรกโสมมแห่งนี้ กระนั้นคนคนเดียวที่นางไม่อาจโน้มน้าวใจได้ก็คือตัวเอง

สิ่งที่เขาทำให้นางมากมายกว่าสิ่งที่นางกระทำให้เขาเหลือเกิน

นางเกลียดชังการบีบบังคับของเขา แต่กลับไม่อาจไม่พึ่งพาอาศัยเขาทุกอย่าง

หน้า 292  บทที่ 60 มอบใจ
เล่ม 3

.
.
.


สองชายบวกหนึ่งและความแค้นของหญิงงาม


อ่านภาคสอง ที่นี่



Create Date : 19 เมษายน 2559
Last Update : 19 กันยายน 2559 1:28:41 น.
Counter : 16314 Pageviews.

17 comments
  
อ่านรีวิวแล้ว
ไม่อยากอ่านเลยค่ะ
โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 19 เมษายน 2559 เวลา:17:56:00 น.
  
555 เรื่องนี้ขอเห็นต่างหน่อยค่ะ เรื่องความฉลาดนางเอก พี่ว่านางฉลาดค่ะ อาจจะมองเห็นมุมต่างกันค่ะ
โดย: Sab Zab' วันที่: 19 เมษายน 2559 เวลา:19:35:15 น.
  
คุณเหมือนพระจันทร์ งะ ไหงงั้นล่ะคะ คนชอบเยอะนะ โอว่าโอเป็นส่วนน้อย

พี่ Sab Zab' (ขออนุญาตเรียกพี่เลยนะคะ ใครเรียกโอน้อง โอเนียนขอเป็นน้องทุกคน ) เป็นความคาดหวังบวกกับมีบางอย่างที่ขัดกับความรู้สึกโอด้วยค่ะ
โดย: ออโอ วันที่: 19 เมษายน 2559 เวลา:21:21:06 น.
  
เรื่องนี้เห็นต่างค่ะ

ส่วนตัวชอบมาก คือเห็นความเรียลในตัวละคร รู้สึกได้ว่าถ้าเป็นคนจริงๆ มันก็พลาดได้แบบนี้แหละ

ออกจะแปลกใจนิดๆที่คนเชียร์ให้อ่านก่อนผลาญ กลายเป็นว่าพอไปอ่านผลาญ ก็อ่านผลาญไม่จบซะงั้น
โดย: สมาชิกหมายเลข 1425820 วันที่: 20 เมษายน 2559 เวลา:22:40:51 น.
  
คุณ สมาชิกหมายเลข 1425820 ยินดีค่ะ มาแชร์ความเห็นได้เลย โอกับคนที่มาอ่านจะได้อ่านหลายความเห็นหลากมุมมอง หลายครั้งโอก็ได้ได้ความเห็นใหม่ๆ จากผู้มาเยือน

ส่วนตัวโอชอบเรื่องความไม่สมบูรณ์แบบของตัวละครมากๆ ยิ่งมีข้อบกพร่องยิ่งชอบเลยค่ะ แต่อย่างที่เขียนไปข้างต้น ตัวเนื้อเรื่องที่ปูมากับสิ่งที่แสดงในเรื่องมันมีความขัดแย้งกันเองอยู่ และถึงตัวละครจะมีพลาดพลั้ง แต่การกระทำที่บรรยายออกมาสำหรับโอยังไม่ธรรมชาตินักค่ะ

ส่วนเรื่องผลาญ โอยังไม่ได้อ่านเลยบอกไม่ได้ว่าจะรู้สึกอย่างไร แต่พอทราบมาหลายๆ กระแสเหมือนกันค่ะ
โดย: ออโอ วันที่: 20 เมษายน 2559 เวลา:22:53:32 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
ออโอ Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

****************************

4 เล่มจบรึคะ คุณโอรีวิวได้ละเอียดจัง

แต่เอนเอียงไปทางคุณเหมือนพระจันทร์ ยอมถอยดีกว่า

ในมือยังดองผลาญ,ลิขิตรักเหนือเขนย,ตำนานรักเหนือภพ

ปฐพีไร้พ่าย และยังจอมนางคู่บัลลังก์

แถมยังอยากสอยสามคราวิวาห์รักมาเพิ่มกองดองอีกด้วย

พอก่อนดีกว่า



โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 21 เมษายน 2559 เวลา:7:32:24 น.
  
แอลแย่งซีน น่าร้ากกก >>>>> ขอบคุณค่ะ ของน้องสาว แอบไปถ่ายรูปมา

ตัวสีน้ำเงินคืออะไรเหรอคะ>>>>> แค่เน้นเพราะอยู่ในเครื่องหมายคำพูดค่ะ
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 21 เมษายน 2559 เวลา:7:33:36 น.
  
แวะเข้ามาอ่านรีวิว เรื่องนี้ขอผ่านไม่ใช่แนวที่อ่านค่ะ แต่แอบขำตอนเห็นปก ไม่รู้สินะตลกดีคือมันไม่สื่อให้รู้สึกว่าเป็นปกนิยายค่ะ ถ้าเป็นปกเกี่ยวกับรูปวาดดอกไม้นี่พอว่านะ อิอิ
โดย: หอมกลิ่นบรรพกาล วันที่: 21 เมษายน 2559 เวลา:12:34:26 น.
  
กึ่งๆ ระหว่างน่าอ่านกับไม่น่าอ่านนะ 555

เหมือนเห็นแว้บๆ ว่าใครพูดถึงอยู่นา


อ่านแล้วแสดงว่าคนเขียนมีคลังคำน้อยนะ พี่ว่า



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สมาชิกหมายเลข 2367729 Klaibann Blog ดู Blog
Max Bulliboo Klaibann Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
ออโอ Book Blog ดู Blog
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 21 เมษายน 2559 เวลา:14:38:53 น.
  
คุณเรียวรุ้ง สะสมไว้หลายเล่มเลย ค่อยๆ ทยอยอ่านนะคะ เดี๋ยวมีเรื่องใหม่ก็อดใจไม่ไหวอีก
ขอบคุณที่มาโหวตและไขข้อข้องใจโอค่ะ

คุณหอมกลิ่นบรรพกาล ปกดอกไม้นี่โอเห็นหลายเรื่องเลยค่ะ เกือบจะเป็นปกแก้ขัดด้วยซ้ำ นึกอะไรไม่ออก ดอกไม้นี่แหละดี

ส่วนดอกบัวบนหน้าปกเกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องค่ะ เป็นราชทินนามของนางเอก และมีฉากที่ทำให้ดอกบัวเป็นดอกไม้พิเศษด้วย

โอว่าปกไม่ขี้เหร่นะ แต่ธรรมดาไปหน่อย สามเล่มคล้ายคลึงกันหมด

พี่สาวไกด์ฯ อาจจะเป็นอย่างนั้นค่ะ คนชอบเรื่องนี้เยอะนะ อาจเห็นหลายคนเชียร์อยู่


ขอบคุณที่โหวตให้ค่า
โดย: ออโอ วันที่: 21 เมษายน 2559 เวลา:23:27:14 น.
  
อ่านรีวิว ข้าม ๆ ก่อนนะ เพราะยังไม่ได้สอย
ไม่รู้สนพ. จะกั๊กอีกเล่มไว้ทำไม ไม่ยอมออกมาพร้อม ๆ กัน
โดย: Serverlus วันที่: 22 เมษายน 2559 เวลา:9:12:02 น.
  
ยังดองอยู่ คาดว่าคิวอ่านคงเอาไว้ท้ายๆเลย จะจัดการหลายๆเรื่องของห้องสมุดก่อน
โดย: kunaom วันที่: 23 เมษายน 2559 เวลา:13:30:36 น.
  
คุณเอ้ คิดเหมือนกันค่ะ ถ้าเป็นลักษณะเล่มต่อควรออกต่อเนื่องกัน ไม่ควรทิ้งระยะนานเกินไป อารมณ์จะได้ไม่สะดุด

คุณอ้อม รอเล่มจบก่อนเนอะ
โดย: ออโอ วันที่: 23 เมษายน 2559 เวลา:22:30:26 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
ออโอ Book Blog ดู Blog
โดย: newyorknurse วันที่: 26 เมษายน 2559 เวลา:0:48:44 น.
  
คุณ newyorknurse ขอบคุณค่ะ
โดย: ออโอ วันที่: 27 เมษายน 2559 เวลา:15:10:07 น.
  
อันนั้นจากเข้าบล็อกมาเพราะเจอในกุเกิลเกี่ยวกับหงส์ขังรักเลยตามมา อ่านแล้วชอบการีวิวของคุณโอล่ะค่ะ มาแนวภาษาไทย อิอิ จะตามาอ่านในตอนที่เราอ่านนิยายจบแล้วนะคะ เรื่องไหนอ่านแล้วฟินมากจะเข้ามาร่วมคุยคะ
โดย: มิโดริ (momoka ) วันที่: 18 กันยายน 2559 เวลา:20:48:54 น.
  
คุณมิโดริ (momoka) ยินดีเลยค่ะ มาร่วมคุยได้เสมอ
โดย: ออโอ วันที่: 19 กันยายน 2559 เวลา:1:46:58 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ออโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 49 คน [?]



โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
New Comments